นี่เป็นความคิดที่ผมเชื่อฝังหัวมาตลอดว่า  ผู้ชายที่ชื่อ Sir Alex Ferguson คนนี้ จะไม่มีวันวางมือจากสโมสรManchester United อย่างแน่นอน
และผมเชื่อว่า ทุกคนก็คงคิดเหมือนกัน ไม่งั้นมันคงไม่มีวันนี้ วันที่พวกเราแฟนปีศาจแดงจะรู้สึกช็อคกันไปทั้งโลก แบบที่ไม่มีใครตั้งตัว
ผมไม่อยากปั้นคำพูดอะไรสวยหรูมากมายเหมือนเวลาเขียนบทความทั่วๆไป  เพราะถ้าให้ผมพูดออกมาจากปากจริงๆ
ผมพูดไม่ออก น้ำตามันจะไหล  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับ Sir Alex หรือ Man United  แม้กระทั่งประโยคที่ผมตั้งเป็นหัวกระทู้ว่า

ผมคิดว่า Sir Alex Ferguson จะคุมทีมจนตายคาเก้าอี้เลยด้วยซ้ำ

ถึงตอนนี้มันจุกแบบบอกไม่ถูก  โอเคใช่  ทุกๆครั้งที่ผ่านมาสำหรับสโมสรใดๆก็ตามที่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นนักเตะ เจ้าของทีม
เฮดโค้ช  ซึ่งไม่เว้นแม้แต่สโมสรของเรา   ใครจะจากไปจากมา   ผมก็อาจจะรู้สึกเศร้าๆ หรือใจหายประมาณนึง  ตั้งแต่ก็องโต้ ชไมเคิล
ลากมาจนถึงเฮียเบ็ค  รอยคีน  สโคลส์ที่กำลังจะไปอีกไม่นาน   ผมก็สามารถที่จะพูดประโยคเท่ๆที่ทุกๆคนคุ้นเคยได้ว่า
ไม่ว่าจะเป็นยังไง  ไม่มีใครใหญ่กว่าสโมสร  เราต้องเดินก้าวต่อไปข้างหน้า ..

แต่ครั้งนี้  ผมพูดแบบนั้นไม่ออกเลยครับ มันไม่เหมือนทุกๆครั้งที่เกิดขึ้น  นี่ผมเกิดมา นั่งเฝ้าดูแมนยูมาตั้งแต่ก็องโต้เข้ามา ตามมาจากลีดส์
และก็เชียร์เรื่อยมาก็ยี่สิบปีละ  จริงๆแล้วผมก็เป็นปีศาจแดงโดยสายเลือดอยู่แล้วเพราะเชียร์กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อผม DNA unitedข้นคลั่กสุดๆ
เราผ่านร้อนหนาว  ผ่านเรื่องดีเรื่องร้ายมานับไม่ถ้วน  แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเรื่องใดๆเลย เพราะตั้งแต่ผมเชียร์แมนยู Sir Alex ก็อยู่ข้างสนามมาตลอด
และทุกครั้งๆที่ได้ประตู  ที่มีจังหวะหวาดเสียว หรืออะไรก็ตาม  ภาพที่คุ้นเคยกับชีวิตเราๆท่านๆมากที่สุด  คือการที่ "กล้อง" จะต้องจับไปที่Sir Alex และนั่นก็คืออีกสิ่งหนึ่ง ที่แฟนแมนยูทั่วโลกต้องการจะดู เวลาที่เชียร์ทีมรักลงแข่ง

เราอยากเห็นว่า เซอร์อเล็กซ์  จะโวยวายกรรมการ หรือเดินไปใช้ไดร์เป่าผมกับผู้ตัดสินที่4 ยังไง  หรือแกจะออกมาตะโกนหน้าแดงด่าเปาในสนามยังไงเวลาโดนตัดสินไม่เป็นธรรม  
หรือท่าทางที่แกดีใจ เวลาที่แมนยูได้ประตู  อันนี้สำคัญมาก เป็นภาพคุ้นตาที่เราดูแล้วดูอีก แต่เชื่อเหอะว่าไม่มีแฟนผีคนไหนเบื่อช็อตนี้แน่นอน
อยากจะดูแล้วดูอีก  ทุกโมเมนต์ ทุกการกระทำของป๋า  แม้แกจะไม่ออกแอคชั่นมากเหมือนพวกหนุ่มๆอย่างมูรินโญ่  ดิคานิโอ้ พวกนั้น
แต่เพียงแค่ขยับตัว หรือยิ้ม  กระโดดชูมือดีใจเป็นเด็กๆ   การกระทำธรรมดาๆเหล่านี้ของป๋า ก็ทำให้พวกเรามีความสุขกันได้
ไม่ต้องนับถึงโมเมนต์พิเศษอย่าง ล่าสุดที่RVPวิ่งมาราธอนมากอดป๋า .. พูดแล้วน้ำตาก็จะไหล  ทุกๆอย่างมันคือ คาแรคเตอร์ของสโมสร ของที่แห่งนี้

มันไม่เหมือนเหตุการณ์ใดๆที่เคยเกิดขึ้นมาเลย  และคิดว่า  ต่อจากนี้ไปอีกสามสิบสี่สิบปี สโมสรที่ผมเชียร์จะมีใครสามารถทำสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้ได้อีก  ตั้งแต่ผมดูฟุตบอลมา วันนี้คือวันที่ช็อคมากที่สุด และเสียใจมากที่สุดในชีวิต
และคำพูดที่ว่า "ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่าสโมสร"  จริงๆแล้ว คำนี้มันถูกต้อง และสำคัญมากที่สุด  เป็นสัจธรรมของวงการฟุตบอล และของโลกนี้เลย
..มันใช้กับเซอร์อเล็กซ์ไม่ได้ครับ  เพราะคำนี้ มันหมายถึง บุคคลที่เป็นฟันเฟืองทุกๆท่านที่ทำให้สโมสรแห่งนี้ก้าวเดินไป

แต่สำหรับผมแล้ว  Sir Alex Ferguson ก็คือ Manchester United นั่นแหละ

ทุกสิ่งที่ United ทุกวันนี้เป็นอยู่  ไม่ว่าจะเป็นคาแรคเตอร์  สปิริต  ทรงฟุตบอล  การดำเนินไปของนโยบายสโมสร
และรวมถึง "บารมี" ที่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถมีและสร้างขึ้นมาได้   ทุกอย่างที่เป็นอยู่  คือสิ่งที่ชายคนนี้สร้างขึ้นมา
โอเคว่า แม้เฟอร์กี้จะไม่ได้ใหญ่ไปกว่าสโมสร  เพราะ "ประวัติศาสตร์"  รุ่นเก่าๆก็สำคัญเช่นกัน บัสบี้เบ๊บ โศกนาฏกรรมที่มิวนิค  แชมป์ยุโรปครั้งแรก
จอร์จเบสต์ ชาร์ลตัน ลอว์  ดันแคนเอ็ดเวิร์ด ฯลฯ   พวกนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเฟอร์กี้หรอก
แต่สำหรับผมแล้ว   แมนยูไนเต็ด ในยุคนี้ ก็คือ เฟอร์กี้นี่แหละ  และเฟอร์กี้  ก็คือ แมนยูไนเต็ด ปัจจุบันนี้นั่นเอง
ยังไงซะ ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก ตื่นมาวันนี้ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นเลย ไม่มีอยู่ในหัวด้วยซ้ำ
อย่างที่บอก  ผมยังคิดว่า ไฟในตัวป๋ายังลุกโชนเหมือนเด็กหนุ่มที่เข้ามาคุมทีมอยู่เสมอๆ  ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นปีนี้
ไม่เคยคิดว่าจะเป็นอีกแค่ 2-3 ปีข้างหน้า   แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่า ผู้ชายที่เป็น "จิตวิญญาณของแมนยูไนเต็ด" เป็นวิญญาณปีศาจแดงของจริงคนนี้ จะยังไม่สละเก้าอี้ หรือล้มเลิกความคิดที่จะกระชากแชมป์หนีอันดับสองอย่างลิเวอร์พูลไปไกลๆ หรือตามล่าถ้วยยุโรปอีกสองครั้งเพื่อให้ตามเร้ดแมชชีนทัน  บางทีแกอาจจะอยู่จนกว่าจะเดินไม่ไหว นั่งวีลแชร์มาคุมข้างสนามเลยด้วยซ้ำ
เพราะจิตวิญญาณของป๋า  มันบอกกับผมแบบนั้นอยู่เสมอ และมันทำให้นักเตะ รวมถึงกองเชียร์อย่างเราๆท่านๆ มีความหวังอยู่เสมอ
ในทุกๆการแข่งขันจนกว่าจะถูกเป่านกหวีดหมดเวลาว่า   เฮ้ย  พวกเรายังกลับมาได้  1-0 เราต้องตามทัน  
ผมคิดแบบนี้จริงๆ  ดังนั้น  การที่แกวางมือจากเฮดโค้ชแบบนี้ในวันนี้   ถือเป็นเรื่องที่ช็อคซีนีม่าพอสมควร
ถึงแม้ถ้าพูดกันตามจริง โดยสังขารแล้ว  มันเป็นเวลาที่เหมาะสมเพราะป๋าก็อายุมากแล้ว  โอเคใช่ถ้าเป็นคนอื่น อย่างปู่บ็อบ มันก็ใช่อยู่
อายุเยอะก็ต้องพักผ่อน  ตามสังขาร  .. แต่กับป๋า  ผมไม่คิดเลยแม้สักเสี้ยวว่า แกจะไปทั้งๆที่ยังเดินไหวแบบนี้

ยังเชื่ออยู่เสมอว่า Sir Alex จะคุมทีมจนตายคาเก้าอี้ของแก เป็น Soul of Manchester United อย่างแท้จริงเลยซะด้วยซ้ำ..
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพูดเหมือนๆคนอื่น และอยากจะบอกก็คือ  ป๋าแกทำทุกอย่าง ทุ่มเทจนทำให้สโมสรเราลืมตาอ้าปากได้ขนาดนี้
จากเบี้ยล่างทีมกลางตารางที่ไม่มีแชมป์อะไรเลยในมือ  กลายมาเป็นหนึ่งในห้าสโมสรชั้นน้ำของโลกได้มาสองทศวรรษแล้ว
พร้อมด้วยตำแหน่งทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนเกาะอังกฤษกับโทรฟี่ลีก20สมัย ..  

เราจะสามารถร้องขออะไรจากเซอร์อเล็กซ์ได้มากไปกว่านี้อีก..?

เราไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวเลย  แต่บอกตามตรงว่าเรายังทำใจไม่ได้จริงๆ
ถ้าแมนยูไนเต็ดเป็นทีมที่สร้างปาฏิหารย์ได้บ่อยๆ   ผมอยากขอปาฏิหารย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อีกครั้ง และครั้งเดียว
คือผมอยากให้พรุ่งนี้ หรือคืนนี้  มีปาฏิหารย์ว่า เซอร์อเล็กซ์กลับคำอีกครั้ง  แล้วก็จะกลับมาคุมทีมต่อไปอีกสิบปี หรือไม่มีกำหนด

ในหัวผมตอนนี้ ไม่มีทั้งมู ทั้งมอยส์ หรือจุ๊ป กิ๊ก โซลชา อะไรทั้งนั้น   ผมไม่อยากได้ใครเลย  ผมอยากได้เซอร์อเล็กซ์คนเดียวครับ
ไม่อยากยอมรับความจริงเลย  แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว แบบกะทันหัน และไม่มีอะไรมาเปลี่ยนได้อีกแล้ว  และคงต้องทำใจ
กับความไม่คุ้นชินในปีต่อๆไปที่จะเกิดขึ้น  กับmanagerคนอื่นๆที่จะเข้ามาสานต่อ  ผมจะให้กำลังใจเขา และผมจะเชียร์ทีมต่อไป
เพราะ Man United ยังคงอยู่  และSir Alex ก็ยังคงอยู่แม้จะขึ้นไปตำแหน่งที่สูงกว่านี้ก็ตาม  ถือเป็นเรื่องดีในข่าวร้ายได้พอสมควร
ตรงนี้ก็เป็นเรื่องดีที่ว่า  ถ้ายูไนเต็ดตกต่ำลงไป  ซึ่งมันอาจจะต้องมีอยู่แล้วในอนาคตเป็นสัจธรรมของโลก  จะได้รู้กันไปเลย
ว่าคนไหนรักจริง คนไหนมาเกาะทีมเก่งเชียร์ หรือเชียร์เพราะแชมป์เท่านั้น
ก็คงต้องดูกันต่อๆไป  เพียงแต่ว่าวันนี้มันยังรับไม่ไหว ก็เท่านั้นเอง  ยังไงขอตั้งกระทู้นี้สักครั้ง  เพื่อเป็นสิ่งที่ตัวผมเองอยากจะระบายให้ฟังว่า
Sir Alex มีความหมายกับการเชียร์ยูไนเต็ดของผมมากเท่าไร และคนอื่นๆก็คงไม่แพ้กัน ยิ่งถ้าเป็นคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ 93  94 อะไรแถวๆนั้น  คงผูกพันและมีความรู้สึกใจหายไม่ต่างจากผมเช่นกัน

อยากให้นี่คือความฝัน เพราะผมก็ยังเชื่อว่า ป๋าไม่ยอมแพ้และไม่หมดไฟอะไรง่ายๆ แม้สังขารจะไม่ให้แล้ว แต่แกจะต้องยังไปขับเคลื่อนแมนยูไนเต็ด อยู่เบื้องหลัง  เป็นฟันเฟืองแห่งจิตวิญญาณของสโมสรเราต่อไป แม้จะไม่ได้มาบริหารทีมด้านล่างโดยตรง  แต่เชื่อเหอะ เฟอร์กี้ยังไม่ยอมแค่นี้หรอก
ยังไง ผมขออนุญาตขอบคุณเซอร์อเล็กซ์เป็นภาษาไทยไว้ตรงนี้ว่า

"ผมขอบคุณนะป๋า สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ป๋าทำให้ที่นี่
ผมเชื่อว่าป๋ายังไม่หมดไฟหรอก แค่พลิกบทบาทไปลุยต่ออยู่หลังฉากเท่านั้นเอง  
และแมนยูไนเต็ดจะไม่มีวันตายหรือตกต่ำลงไปมากนัก ตราบใดที่สโมสรเรายังมีป๋าอยู่
1500นัด  26ปี 24ถ้วย  อาจจะเป็นตัวเลขที่ดูมหาศาล แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือ "สปิริตแมนยู" ที่ป๋าสร้างไว้ให้ที่แห่งนี้
ป๋าคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับการดูแมนยูของผม  ขอบคุณครับ"

และเดี๋ยวผมจะไปโพสต์ไอ้สิ่งนี้เป็นภาษาอังกฤษไปฝากไว้ที่แฟนเพจของunitedเอาไว้ภายหลัง
และที่สำคัญที่สุด หากจะมีเพื่อนๆคนใดเคยได้ยินเรื่องเล่านี้  ผู้จัดการทีมคนต่อๆไป  เฟอร์กี้คงจะเลือกไว้แล้วล่ะ (ตอนที่ผมเขียนนี่ ยังไม่รู้นะครับว่าใครจะมา)

และก็คงจะถามคำถามสำคัญกับคนที่จะเข้ามาสานต่องานไว้แล้วแน่นอนว่า

"เอ็งเกลียดลิเวอร์พูลรึเปล่าวะ?"