1.การที่ท่านไปอาศัยอยู่ที่อาศรมแต่เพียงลำพัง ไม่ทราบว่าท่านปลงอาบัติกับใครหรอครับ
2.สมมติถ้าเกิดท่านทำผิดอาบัติ ถึงขั้นปาราชิกขึ้นมา ไม่ทราบว่าจะมีพระอาวุโสท่านใด หรือเจ้าอาวาสท่านใดจะมีอำนาจสามารถลงโทษท่านได้
3.ท่าน เตชปัญโญ ภิกขุ อยู่ภายใต้การปกครองของคณะสงฆ์ด้วยหรือไม่ ยึดถือกฎเกณฑ์ใดในการเข้าสังคมกับหมู่สงฆ์ หรือแยกตัวเป็นเอกเทศไม่ข้องเกี่ยวกับใคร ปลีกวิเวก ใครลงโทษอะไรท่านไม่ได้ กฎเกณฑ์ใดๆใช้กับท่านไม่ได้
4.ข้อนี้ไม่ใช่คำถามแต่เป็นข้อคิดที่ผมจะให้ไว้ว่าพระก็เป็นมนุษย์เหมือนฆราวาส การแยกตัวไปอยู่โดดเดี่ยวนั้นมีเพียง 2 เหตุผลคือ
4.1 หาความสงบ ปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้น
4.2 เข้ากับคนอื่นไม่ได้
ก็เหมือนนักการเมืองอะครับ ที่ต้องถูกตรวจสอบ คนไหนที่ไม่อยากถูกตรวจสอบก็แสดงว่าไม่บริสุทธิ์ใจ
แล้วการที่ท่านมีโครงการเผยแพร่ธรรมะเป็นของตัวเอง ในขณะที่ตัวท่านเองไม่มีใครสอน ไม่มีใครชี้แนะ ไม่มีใครตักเตือนนั้น ระวังว่าหนักเข้าจะกลายเป็นการก่อตั้งลัทธิใหม่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวนะครับ เพียงแค่ท่านอยู่ในผ้าเหลืองเท่านั้นเอง
สงสัยเกี่ยวกับกิจวัตรของท่าน เตชปัญโญ ภิกขุ นะครับ
2.สมมติถ้าเกิดท่านทำผิดอาบัติ ถึงขั้นปาราชิกขึ้นมา ไม่ทราบว่าจะมีพระอาวุโสท่านใด หรือเจ้าอาวาสท่านใดจะมีอำนาจสามารถลงโทษท่านได้
3.ท่าน เตชปัญโญ ภิกขุ อยู่ภายใต้การปกครองของคณะสงฆ์ด้วยหรือไม่ ยึดถือกฎเกณฑ์ใดในการเข้าสังคมกับหมู่สงฆ์ หรือแยกตัวเป็นเอกเทศไม่ข้องเกี่ยวกับใคร ปลีกวิเวก ใครลงโทษอะไรท่านไม่ได้ กฎเกณฑ์ใดๆใช้กับท่านไม่ได้
4.ข้อนี้ไม่ใช่คำถามแต่เป็นข้อคิดที่ผมจะให้ไว้ว่าพระก็เป็นมนุษย์เหมือนฆราวาส การแยกตัวไปอยู่โดดเดี่ยวนั้นมีเพียง 2 เหตุผลคือ
4.1 หาความสงบ ปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้น
4.2 เข้ากับคนอื่นไม่ได้
ก็เหมือนนักการเมืองอะครับ ที่ต้องถูกตรวจสอบ คนไหนที่ไม่อยากถูกตรวจสอบก็แสดงว่าไม่บริสุทธิ์ใจ
แล้วการที่ท่านมีโครงการเผยแพร่ธรรมะเป็นของตัวเอง ในขณะที่ตัวท่านเองไม่มีใครสอน ไม่มีใครชี้แนะ ไม่มีใครตักเตือนนั้น ระวังว่าหนักเข้าจะกลายเป็นการก่อตั้งลัทธิใหม่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวนะครับ เพียงแค่ท่านอยู่ในผ้าเหลืองเท่านั้นเอง