หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ แต่ในที่เกิดเหตุหญิงที่โดนรถกระบะชนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยพัทลุง เพื่อนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่ทางศูนย์นเรนทรโรงพยาบาลพัทลุง สั่งห้ามไม่ให้ออกเคสดังกล่าว โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่ได้รับการอบรม และได้ประสานให้ชุดกู้ชีพโรงพยาบาลเขาชัยสน ที่อยู่ใกล้ในที่เกิดเหตุเพียง 7 กิโลเมตร ออกรับคนเจ็บ


แต่คนเจ็บรอแล้ว รออีก พร้อมทั้งตำรวจ และร้อยเวร โทร.ถาม 1669 ว่ารถโรงพยาบาลเขาชัยสน ออกมารับคนเจ็บหรือยัง ทางศูนย์กู้ชีพนเรนโรงพยาบาลพัทลุง ระบุว่าออกมานานแล้ว แต่ญาติและเจ้าหน้าที่ตำรวจ รอนานกว่า 30 นาที ก็ยังเดินทางมาไม่ถึง

ญาติเลยโทร.ไปยังหมายเลข 1669 อีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ที่รับสายได้ต่อว่ากลับว่ามันอะไรกันนักหนา นิกับคนเจ็บแค่นี้ รอๆไป ก่อนแล้วก็วางสาย จนกระทั่งผ่านไปกว่า 45 นาที คนเจ็บที่ได้รับบาดเจ็บนอนแน่นิ่งและสลบไป พร้อมกับเลือดที่ไหลนองพื้นแห้งเพราะความร้อน กว่าเจ้าหน้าที่ รถพยาบาลโรงพยาบาลเขาชัยสน มาถึง และนำตัวส่งโรงพยาบาล


ขณะที่ชาวบ้านและไทยมุง ต่างรอต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพศูนย์นเรนทร ที่ได้สั่งการให้การช่วยเหลือคน แต่ใช้เวลาเดินทางมารับคนเจ็บจากโรงพยาบาลเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น และเส้นทางก็ไม่ใช่เส้นทางย่านชุมชุม น่าจะเดินทางไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงที่เกิดเหตุ

ขณะเดียวกันในโลกโซเซียลและสังคมเฟซบุ๊ก ได้มีการแชร์ภาพและแสดงความคิดเห็น รุมต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ ศูนย์นเรนทร โรงพยาบาลพัทลุง ที่ทำงานบนความเจ็บปวดของผู้ประสบอุบัติเหตุ


ซึ้งเส้นทางบนถนนสายเพชรเกษมทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่อง ช่วงเขตพื้นที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นรายวัน และหลายครั้งการรับส่งผู้ป่วยทำได้ล่าช้าเนื่องจากโรงพยาบาลเขาชัยสน มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ แต่ทางศูนย์นเรนทรโรงพยาบาลพัทลุง ยังยัดเยียดให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ทำให้การดำเนินการช่วยเหลือล่าช้า