เริ่ม(บ่น)เลยละกันนะ^^ เราเป็นทอมนะ คบกับแฟนเราอย่างเปิดเผยได้เกือบ4ปีละ ครอบครัวของทั้ง2ฝ่ายโอเค และไม่ได้กีดกันอะไร ทุกอย่างดูเหมือนโอเคทั้งหน้าที่การงานรวมถึงเรื่องอื่นๆ จนเริ่มมีเรื่องดราม่าในครอบครัวแฟนเราตั้งแต่ที่แฟนเราได้โอกาสดีเลื่อนเป็น ceo ของบ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพ สักพักแฟนเราเลยดึงเรามาทำงานที่เดียวกันในตำแหน่งเลขา ส่วนตั๊วส่วนตัวววว(จะพูดว่าเด็กเส้นก็ได้นะแห่ๆ) ทำงานแทนแฟนทั้งเอกสาร ติดต่องาน ทำแทบทุกอย่าง แถมยังต้องกวาดบ้าน ซักผ้า ถูบ้าน ทำกับข้าว บลาๆ555พุดง่ายๆคือพ่วงตำแหน่งคนใช้นั่นเอง
จนกระทั่งวันนึง พ่อแม่แฟนก็มาเที่ยวหาตาปกติเหมือนทุกๆปี แต่ปีนี้ไม่ปกติ เพราะพ่วงน้องชายที่กำลังตกงานมาด้วย1คน ขี้เกียจเล่าน้ำๆเอาเนื้อเน้นๆไปเลยละกันนะจ้า เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า พ่อแม่แฟนจู่ๆก็พาน้องชายของแฟนมา เพื่อให้แฟนรับเข้าทำงานที่นี่ และอยู่ด้วยกันกับเราและแฟนเรา แต่แฟนปฏิเสธเพราะ บ.รับคนจบป.ตรีหรือโท เข้าทำงาน ซึ่งน้องชายแฟนจบแค่ม.6 เลยทำให้เกิดการดราม่ากันในครอบครัว แล้วก็พาดพิงมาถึงเราจนได้ กับคำพูดที่ว่า "ทีแฟนยังเอาเข้ามาทำงานได้ นี่กับคนในครอบครัว น้องตัวเองแท้ๆ ทำไมไม่รับ" แต่แฟนเราก็ได้พูดขึ้นว่า ที่ให้เราทำงานที่นี่เพราะเราจบโทแล้ว
ทำอะไรแทนแฟนได้ ส่วนกับคนในครอบครัวมันสั่งกันยาก อีกอย่างน้องชายเรียนจบแค่ม.6 อะไรก็ทำไม่เป็น ถ้ารับเข้ามาคนในบ.จะว่าให้ได้.... แต่แล้วววพ่อแม่ก็ไม่ยอมฟังที่แฟนเราอธิบายนะ คือตัวเราเข้าใจนะว่าเชื้อสายจีนเขาเน้นครอบครัว เน้นสายเลือดมาก่อน แต่นี่มันไม่ใช่ไง คือมันเรื่องงานนะ ...จนพ่อกับแม่แฟนพูดขึ้นมาประโยคนึงว่าถ้าไม่รับน้องเข้าทำงาน ก็ไม่ต้องกลับมาบ้าน แฟนเราถึงกับร้องไห้ไม่หยุด เราก็ทำไรไม่ถูกนะ จะเถียง เขาก็เป็นพ่อแม่แฟน ก็ได้แต่ปลอบแฟนกันทั้งคืน
เวลาผ่านไปเดือนกว่า เราและแฟนก็ทนฟังพ่อแม่แฟนบ่นๆ จิกๆ ออกแนวบังคับแบบนี้ทั้งเดือนจนพ่อแม่กลับไป แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าแฟนจะรับน้องชายตัวเองเข้าทำงาน ในระหว่างนั้นเราก็ช่วยหางานให้นะ แต่ก็ไปทำได้วันเดียวแล้วก็ไม่ทำ มาบอกเราทีหลังว่าถนัดทำงานกลางคืน เราก็หาให้นะ แต่ไปได้ไม่ถึงคืน ก็โทให้เรากะแฟนไปรับ คือเราก็ไม่รุจะไปหาไหนให้แล้วง่ะ จนเราอดที่จะถามไม่ได้ เลยถามแฟนไปว่าสรุปรับน้องเข้าทำงานป่าว...แฟนก็เงียบไปพักนึง แล้วตอบเราว่า เคยโทรขอบอสแล้ว(บอสอยู่ต่างประเทศ) บอสบอกแล่วแต่ แต่ดูเหมือนเขาไม่อยากรับ แต่ไม่รู้จะปฏิเสธเรายังไงมากว่า เราก็เลยบอกแฟนให้รับไปเถอะ จะได้ไม่โดนกดดันจากทางบ้านเยอะ สงสาร ทำหน้าเครียดตลอด เดี๋ยวไม่สวยนะ พร้อมทำหน้าแบ๊วสุดชีวิตแล้วชู2นิ้วๆ สู้ๆสู้ตายวี๊ดบึ๊มๆๆ
พอถึงวันแรกของการทำงานของน้องชายแฟน จำได้ว่าเป็นวันจันทร์ที่สดใส แต่ความจริงแล้วมันไม่สดใสเลย เราก็พาเข้าออฟฟิตแนะนำไรเสร็จก็ให้เขาหาที่นั่งเอาเลยชอบมุมไหนจัดไป แล้วเราก็ออกไปทำธุระให้แฟนข้างนอก พอบ่ายๆเข้าออฟฟิตเท่านั้นแหล่ะ ด้วยความที่พนักงานออฟฟิตขี้เม้าท์บวกกับแม่บ้านชอบจับผิด แต่ละคนกรูกันมาฟ้องใหญ่เลย ว่าน้องแฟนมานั่งออฟฟิตชั่วโมงเดียว ละก็ไปแล้ว คนนึงก็บอกทำไรไม่เป็น เราก็ได้แต่บอกว่าใจเยนๆเด็กมันใหม่ ค่อยๆสอน ซึ่งณ ตอนนั้นก็ไม่รู้นะว่าจะให้น้องชายแฟนทำแผนกไรงานไรดี เอกสารก็บอกทำไม่ได้ ให้ไปพบลูกค้าจะสอนงานให้ก็บอกทำไม่เป็น จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าต่อมิอะไรก็บอกไม่รู้ที่ไม่รู้ทาง ซึ่งอันนี้เข้าใจนะ จนวันต่อๆมาเลยให้ ผจก จัดการกันเอาเอง ให้เวลาสัก3เดือน จนครบ3เดือน ผจก มาบอกว่า ขอให้ไม่ผ่านนะ ทำไรไม่เป็นเลย สอนแล้ว อะไรก็แล้ว เวิร์ดง่ายๆ พิมพ์ง่ายๆก็ไม่ได้ เอ๊กเซลล์นี่อย่าได้ถามถึง ให้ขี่มอไซไปส่งไปรษณีย์ใกล้ๆก็ไม่ไป บอกร้อน คือเราฟังละเราเงิบอ่ะ คือไม่รู้จะเงิบยังไง ก็เลยโทรหาแฟนว่าพรุ่งนี้ให้เข้าออฟฟิต เดี๋ยว ผจก เขามีเรื่องจะรายงาน พอถึงวันที่ ผจก รายงานทุกอย่างหมดว่าจะรับหรือไม่รับใครเข้าทำงานเท่านั้นแหล่ะ สรุปคือน้องชายของแฟนได้ออกไง คือทุกคนส่ายหัวอะพูดง่ายๆ แฟนเราก็หน้าเสียนะ
หลังจากนั้นวันสองวัน แฟนก็โทรไปบอกพ่อแม่ ว่าน้องชายฝึกงานไม่ผ่าน เท่านั้นแหล่ะ พรุ่งนี้เช้าพากันมาทั้งครอบครัวเลยทีนี้ ต่อว่าแฟนด้วยคำพูดแรงๆจนเราอดคิดไม่ได้นะว่า คนในครอบครัวเค้าพูดกันขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมลูกชายสบ๊าย สบาย ลูกสาวนี่ทำเยี่ยงทาส อะไรก็ต้องได้ ขอไรต้องให้ ไปเที่ยว กินข้าว แฟนเราต้องจ่าย เราก็งงนะ ทั้งๆที่พี่น้องก็มีตั้งหลายคน ทำไมไม่หารกันจ่าย คือทุกคนมารุมแฟนเราอยู่คนเดียว ทั้งเรื่องเงิน เรื่องานเรื่องอะไรต่อมิอะไร
ผลสุดท้ายแฟนเราทนแรงกดดันของครอบครัวไม่ไหวนะ ต้องใช้น้องชายหัวแก้วหัวแหวนทำงานที่นี่ต่อ พร้อมกับต้องเจียกเงินเดือนของตัวเองจ้างน้องตัวเองทำงาน เท่ากับป.ตรี แต่เรื่องนี้รู้กันแค่แฟนเรากับเรานะ ส่วนน้องชายแฟนน่ะหรอ นั่งออฟฟิตดูหนังเล่นเกมส์ไปวันๆอ่ะ เป็นอะไรที่คนในออฟฟิตพากันนินทา แต่ก็ทำไรไม่ได้อะนะ ซึ่งเราก็ปวดตับปวดม้ามเลยล่ะ วันไหนที่แฟนเราไม่เข้าออฟฟิต น้องชายแฟนก็นอนแผ่หลาโซฟาเลยคร่าา แบบไม่เกรงใจคนอื่นอ่ะ ซึ่งเรากะแฟนก็ทำไรไม่ได้ เพราะพ่อแม่เข้าข้างน้องชายแฟน มีวันนึงน่าจะเป็นพ่อแม่เขาโทรมาหาน้องชายแฟน เห็นโม้ใหญ่เลย บอกทำงานหนัก ต้องต้อนรับลูกค้า พาลูกค้าไปนู่นนี่ ทำเอกสาร ไม่ได้พัก คือแบบเอาหน้าที่ของแต่ละคนในออฟฟิตมาเป็นงานของตัวเองอ่ะ จนทุกคนในออฟฟิตตอนนั้นนั่ง งง มองหน้ากันไปมา รวมถึงเราด้วย แต่ก็ไม่ได้เล่าให้แฟนฟังนะ คือแค่นี้แฟนก็เครียดพอแล้ว ไม่อยากให้รับรู้อะไรแย่ๆไปกว่านี้
บ่นเรื่องเกี่ยวกะทำงานเสร็จ ขอบ่นเรื่องใช้ชีวิตประจำวันบ้างนะ คือเรากะแฟนเป็นคนที่ชอบดูหนัง ไปดูหนังกันแทบทุกครั้งที่ว่าง ซึ่งก็ต้องพ่วงน้องชายสุดที่รักของแฟนไปด้วยทุกที่ ทั้งกิน ทั้งค่าตั๋วดูหนัง ปกติเราจะออกให้แฟน คือก็ต้องออกให้น้องแฟนอีก ย้ำว่าทุกครั้ง ในใจก็แอบคิดนะว่า อยู่กินก็ฟรี ทำไรก็ฟรี ค่าน้ำค่าไฟก็ฟรี ไม่ออกเองบ้างวะ คือบางทีก็ไม่ใช่ภาระเรานะ จนบ่อยเข้าๆ แฟนเราเป็นคนพูดเองว่าทุกอย่างหาร3 อยากกินอยากเที่ยวต้องออกเงินเอง ตอนนั้นที่ฟังนี่ดีใจมากอ่ะ คือไม่ได้งกนะ ออกให้ได้ แต่มันไม่ใช่ทุกครั้งแทบทุกอาทิตย์ป่ะแว๊ แล้วก็อยากหันไปจิกแฟนมากเลยว่า พึ่งคิดได้หราาา แต่ก็ไม่กล้า 55555 พอเริ่มหารกันได้สักครั้ง2ครั้ง จากนั้นน้องชายแฟนก็เริ่มไม่ไปไหนด้วย ชวนไปก็ไม่ไป พักหลังๆน้องชายแฟนก็เริ่มหาสาวควงรายวัน รายคืน จนเงินเดือนอันน้อยนิดหมดไม่ถึงอาทิตย์ (ด้วยความที่มันน่าตาดีอะนะ) ยืมแฟนเรายอดรวมแล้วจะ5หมื่นแล้วยังไม่มีวี่แววจะใช้คืน เราเลยบอกแฟนว่างดให้ ไม่มีก็ต้องรู้จักตัวเอง งดเที่ยว ถ้าอยากให้น้อง
ก็ให้ คือตอนนั้นก็รู้ตัวนะว่าพูดแรงไปนิด แต่เราก็ไม่อยากเห็นแฟนคิดมากอ่ะ จากที่น้องชายทำไรไม่ได้เรื่องเข้างานเกือบเที่ยง เลิกก่อน5โมง เที่ยวผญ ทุกคืน เช้ามาทำงานไม่ไหว คือเราต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้ตลอด บางทีก็บอกแฟนบ้าง บางทีก็ไม่บอกบ้าง เพราะมันเรื่องเดิมๆ ซึ่งแฟนก็รู้นะเพราะเขาดูกล้องตลอด เคยด่า เคยว่า แต่ก็ไม่มีไรเกิดขึ้น อีกอย่างพ่อแม่ก็ไม่ว่าน้องชายด้วยเนี่ยดิ พูดละก็เศร้า นี่ยังไม่รวมกินข้าวเราก็หาให้กินนะ บางทีทำกับข้าวให้ ยังต้องมาล้างให้ด้วย แต่ก้คิดในแง่ดีอ่ะว่าเราก็ทำให้แฟนปกติอยู่แล้ว ก่ช่างมันเถอะ อาจด้วยนิสัย ผช ด้วยมั้งแบบนี้ คือทำได้อย่างเดียวอะ ปลง
เรื่องต่อมาเข้าเรื่องพ่อแม่แฟน(อีกแล้ว) คือในความคิดเรานะ แฟนเราเป็น ผญ ตัวเล็กๆ ที่ต้องมาแบกรับภาระของครอบครัว มีพี่สาวก็ไม่ได้เรื่อง คือไม่มีงานมีการทำ รอแฟนส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนๆ( คือแต่งงานกะคนต่างชาติน่ะ ) น้องชายแต่ละคนก็ไม่ได้เรื่อง(หนึ่งในนั้นก็คนที่เล่าให้ฟัง) พ่อแม่ก็ให้แฟนเราส่งเงินให้คนเดียวทุกเดือนๆ แถมยังเคยบอกเราด้วยนะ ว่าต้องส่งให้พ่อแม่แฟนเดือนละหมื่นห้า โอ้วแม่เจ้าาาา แต่ก็ทำหูทวนลม 5555 (แอบคิดในใจว่า พ่อแม่ตูก็มีป๊ะ) เคยถามแฟนนะทำไมส่งให้เยอะจัง แฟนตอบว่า สงสารพ่อแม่ แต่ก่อนพ่อแม่ลำบาก โตมาอยากให้พ่อแม่สบาย (แต่เรากลับคิดต่างนะ ยิ่งให้ เหมือนเขายิ่งจะเอา วันไหนไม่มีให้ ก็ด่าว่าสารพัด แถมเคยบอกให้แฟนเราหาแฟนต่างชาติรวยๆอีกแหน่ะ) เคยถามแฟนว่า ทำไมพ่อแม่แฟนอะไรก้เงิน คำสองคำก็เงิน แล้วแฟนก้ให้คำตอบว่า แม่เอาไปเล่นไพ่ แม่ติดไพ่ เสียไพ่มั้ง เล่นไพ่ทีหลายหมื่น เราฟังละสะตั๊นไป3วิ + กับคิดในใจว่า บ้านเรานี่ถ้าลูกคนไหนเล่นไพ่ ถ้าแม่รู้นี่ฟาดมือหักง่ะ พูดละก้กลัว แล้วแฟนก็ดราม่าให้ฟังเบาๆว่าถ้าแต่ก่อนไม่มีพ่อบุญธรรมอีกคนส่งเรียน แฟนคงไม่มีโอกาสเหมือนวันนี้ เพราะพ่อแม่แท้ๆไม่ส่งเรียนแถมยังจะให้ไปทำงานที่ใต้หวันอีก เราก็ได้แต่ฟังนะ รับฟังอะ คือหดหูอ่ะ ก็เลยบอกแฟนว่าอะไรผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป ช่างมัน เริ่มใหม่
สุดท้ายยแฟนเรากับเราตัดสินใจฝากเงินให้แม่แฟน5แสน การันตีว่าเรา2คนคบกันถึงแม้ไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ก็ช่วยกันเก็บมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้มันจะไม่เยอะมาก แต่มันก็ไม่ได้เก็บกันง่ายๆใชปะล่ะ ( แต่แอบมีข้อแม้กับแม่แฟนว่าขอฝากประจำ5ปี ก๊ากๆ ) เรื่องดราม่าในครอบครัวแฟนก็เริ่มซาลง แต่น้องชายแฟนก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ซึ่งเรากะแฟนก็ปลงแล้ว พูดไปก็ไม่มีไรดีขึ้น สงสารก็แต่แฟนเรา เคยคิดอยากเลิกนะ เพราะเบื่อความเรื่องมากของครอบครัวแฟน แต่ใจนึงก็คิดว่าแฟนเราไม่ได้นิสัยแบบทุกคนในครอบครัว นางเป็นนางฟ้ามากกก ขี้สงสาร ขี้ใจอ่อน แต่ไม่โง่นะจ๊ะ 555 ถือว่าเป็นกรรมของเราละกันที่มาเจอเรื่องแบนี้
ใครเคยหนักใจกับครอบครัวของแฟนบ้าง
จนกระทั่งวันนึง พ่อแม่แฟนก็มาเที่ยวหาตาปกติเหมือนทุกๆปี แต่ปีนี้ไม่ปกติ เพราะพ่วงน้องชายที่กำลังตกงานมาด้วย1คน ขี้เกียจเล่าน้ำๆเอาเนื้อเน้นๆไปเลยละกันนะจ้า เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า พ่อแม่แฟนจู่ๆก็พาน้องชายของแฟนมา เพื่อให้แฟนรับเข้าทำงานที่นี่ และอยู่ด้วยกันกับเราและแฟนเรา แต่แฟนปฏิเสธเพราะ บ.รับคนจบป.ตรีหรือโท เข้าทำงาน ซึ่งน้องชายแฟนจบแค่ม.6 เลยทำให้เกิดการดราม่ากันในครอบครัว แล้วก็พาดพิงมาถึงเราจนได้ กับคำพูดที่ว่า "ทีแฟนยังเอาเข้ามาทำงานได้ นี่กับคนในครอบครัว น้องตัวเองแท้ๆ ทำไมไม่รับ" แต่แฟนเราก็ได้พูดขึ้นว่า ที่ให้เราทำงานที่นี่เพราะเราจบโทแล้ว
ทำอะไรแทนแฟนได้ ส่วนกับคนในครอบครัวมันสั่งกันยาก อีกอย่างน้องชายเรียนจบแค่ม.6 อะไรก็ทำไม่เป็น ถ้ารับเข้ามาคนในบ.จะว่าให้ได้.... แต่แล้วววพ่อแม่ก็ไม่ยอมฟังที่แฟนเราอธิบายนะ คือตัวเราเข้าใจนะว่าเชื้อสายจีนเขาเน้นครอบครัว เน้นสายเลือดมาก่อน แต่นี่มันไม่ใช่ไง คือมันเรื่องงานนะ ...จนพ่อกับแม่แฟนพูดขึ้นมาประโยคนึงว่าถ้าไม่รับน้องเข้าทำงาน ก็ไม่ต้องกลับมาบ้าน แฟนเราถึงกับร้องไห้ไม่หยุด เราก็ทำไรไม่ถูกนะ จะเถียง เขาก็เป็นพ่อแม่แฟน ก็ได้แต่ปลอบแฟนกันทั้งคืน
เวลาผ่านไปเดือนกว่า เราและแฟนก็ทนฟังพ่อแม่แฟนบ่นๆ จิกๆ ออกแนวบังคับแบบนี้ทั้งเดือนจนพ่อแม่กลับไป แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าแฟนจะรับน้องชายตัวเองเข้าทำงาน ในระหว่างนั้นเราก็ช่วยหางานให้นะ แต่ก็ไปทำได้วันเดียวแล้วก็ไม่ทำ มาบอกเราทีหลังว่าถนัดทำงานกลางคืน เราก็หาให้นะ แต่ไปได้ไม่ถึงคืน ก็โทให้เรากะแฟนไปรับ คือเราก็ไม่รุจะไปหาไหนให้แล้วง่ะ จนเราอดที่จะถามไม่ได้ เลยถามแฟนไปว่าสรุปรับน้องเข้าทำงานป่าว...แฟนก็เงียบไปพักนึง แล้วตอบเราว่า เคยโทรขอบอสแล้ว(บอสอยู่ต่างประเทศ) บอสบอกแล่วแต่ แต่ดูเหมือนเขาไม่อยากรับ แต่ไม่รู้จะปฏิเสธเรายังไงมากว่า เราก็เลยบอกแฟนให้รับไปเถอะ จะได้ไม่โดนกดดันจากทางบ้านเยอะ สงสาร ทำหน้าเครียดตลอด เดี๋ยวไม่สวยนะ พร้อมทำหน้าแบ๊วสุดชีวิตแล้วชู2นิ้วๆ สู้ๆสู้ตายวี๊ดบึ๊มๆๆ
พอถึงวันแรกของการทำงานของน้องชายแฟน จำได้ว่าเป็นวันจันทร์ที่สดใส แต่ความจริงแล้วมันไม่สดใสเลย เราก็พาเข้าออฟฟิตแนะนำไรเสร็จก็ให้เขาหาที่นั่งเอาเลยชอบมุมไหนจัดไป แล้วเราก็ออกไปทำธุระให้แฟนข้างนอก พอบ่ายๆเข้าออฟฟิตเท่านั้นแหล่ะ ด้วยความที่พนักงานออฟฟิตขี้เม้าท์บวกกับแม่บ้านชอบจับผิด แต่ละคนกรูกันมาฟ้องใหญ่เลย ว่าน้องแฟนมานั่งออฟฟิตชั่วโมงเดียว ละก็ไปแล้ว คนนึงก็บอกทำไรไม่เป็น เราก็ได้แต่บอกว่าใจเยนๆเด็กมันใหม่ ค่อยๆสอน ซึ่งณ ตอนนั้นก็ไม่รู้นะว่าจะให้น้องชายแฟนทำแผนกไรงานไรดี เอกสารก็บอกทำไม่ได้ ให้ไปพบลูกค้าจะสอนงานให้ก็บอกทำไม่เป็น จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าต่อมิอะไรก็บอกไม่รู้ที่ไม่รู้ทาง ซึ่งอันนี้เข้าใจนะ จนวันต่อๆมาเลยให้ ผจก จัดการกันเอาเอง ให้เวลาสัก3เดือน จนครบ3เดือน ผจก มาบอกว่า ขอให้ไม่ผ่านนะ ทำไรไม่เป็นเลย สอนแล้ว อะไรก็แล้ว เวิร์ดง่ายๆ พิมพ์ง่ายๆก็ไม่ได้ เอ๊กเซลล์นี่อย่าได้ถามถึง ให้ขี่มอไซไปส่งไปรษณีย์ใกล้ๆก็ไม่ไป บอกร้อน คือเราฟังละเราเงิบอ่ะ คือไม่รู้จะเงิบยังไง ก็เลยโทรหาแฟนว่าพรุ่งนี้ให้เข้าออฟฟิต เดี๋ยว ผจก เขามีเรื่องจะรายงาน พอถึงวันที่ ผจก รายงานทุกอย่างหมดว่าจะรับหรือไม่รับใครเข้าทำงานเท่านั้นแหล่ะ สรุปคือน้องชายของแฟนได้ออกไง คือทุกคนส่ายหัวอะพูดง่ายๆ แฟนเราก็หน้าเสียนะ
หลังจากนั้นวันสองวัน แฟนก็โทรไปบอกพ่อแม่ ว่าน้องชายฝึกงานไม่ผ่าน เท่านั้นแหล่ะ พรุ่งนี้เช้าพากันมาทั้งครอบครัวเลยทีนี้ ต่อว่าแฟนด้วยคำพูดแรงๆจนเราอดคิดไม่ได้นะว่า คนในครอบครัวเค้าพูดกันขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมลูกชายสบ๊าย สบาย ลูกสาวนี่ทำเยี่ยงทาส อะไรก็ต้องได้ ขอไรต้องให้ ไปเที่ยว กินข้าว แฟนเราต้องจ่าย เราก็งงนะ ทั้งๆที่พี่น้องก็มีตั้งหลายคน ทำไมไม่หารกันจ่าย คือทุกคนมารุมแฟนเราอยู่คนเดียว ทั้งเรื่องเงิน เรื่องานเรื่องอะไรต่อมิอะไร
ผลสุดท้ายแฟนเราทนแรงกดดันของครอบครัวไม่ไหวนะ ต้องใช้น้องชายหัวแก้วหัวแหวนทำงานที่นี่ต่อ พร้อมกับต้องเจียกเงินเดือนของตัวเองจ้างน้องตัวเองทำงาน เท่ากับป.ตรี แต่เรื่องนี้รู้กันแค่แฟนเรากับเรานะ ส่วนน้องชายแฟนน่ะหรอ นั่งออฟฟิตดูหนังเล่นเกมส์ไปวันๆอ่ะ เป็นอะไรที่คนในออฟฟิตพากันนินทา แต่ก็ทำไรไม่ได้อะนะ ซึ่งเราก็ปวดตับปวดม้ามเลยล่ะ วันไหนที่แฟนเราไม่เข้าออฟฟิต น้องชายแฟนก็นอนแผ่หลาโซฟาเลยคร่าา แบบไม่เกรงใจคนอื่นอ่ะ ซึ่งเรากะแฟนก็ทำไรไม่ได้ เพราะพ่อแม่เข้าข้างน้องชายแฟน มีวันนึงน่าจะเป็นพ่อแม่เขาโทรมาหาน้องชายแฟน เห็นโม้ใหญ่เลย บอกทำงานหนัก ต้องต้อนรับลูกค้า พาลูกค้าไปนู่นนี่ ทำเอกสาร ไม่ได้พัก คือแบบเอาหน้าที่ของแต่ละคนในออฟฟิตมาเป็นงานของตัวเองอ่ะ จนทุกคนในออฟฟิตตอนนั้นนั่ง งง มองหน้ากันไปมา รวมถึงเราด้วย แต่ก็ไม่ได้เล่าให้แฟนฟังนะ คือแค่นี้แฟนก็เครียดพอแล้ว ไม่อยากให้รับรู้อะไรแย่ๆไปกว่านี้
บ่นเรื่องเกี่ยวกะทำงานเสร็จ ขอบ่นเรื่องใช้ชีวิตประจำวันบ้างนะ คือเรากะแฟนเป็นคนที่ชอบดูหนัง ไปดูหนังกันแทบทุกครั้งที่ว่าง ซึ่งก็ต้องพ่วงน้องชายสุดที่รักของแฟนไปด้วยทุกที่ ทั้งกิน ทั้งค่าตั๋วดูหนัง ปกติเราจะออกให้แฟน คือก็ต้องออกให้น้องแฟนอีก ย้ำว่าทุกครั้ง ในใจก็แอบคิดนะว่า อยู่กินก็ฟรี ทำไรก็ฟรี ค่าน้ำค่าไฟก็ฟรี ไม่ออกเองบ้างวะ คือบางทีก็ไม่ใช่ภาระเรานะ จนบ่อยเข้าๆ แฟนเราเป็นคนพูดเองว่าทุกอย่างหาร3 อยากกินอยากเที่ยวต้องออกเงินเอง ตอนนั้นที่ฟังนี่ดีใจมากอ่ะ คือไม่ได้งกนะ ออกให้ได้ แต่มันไม่ใช่ทุกครั้งแทบทุกอาทิตย์ป่ะแว๊ แล้วก็อยากหันไปจิกแฟนมากเลยว่า พึ่งคิดได้หราาา แต่ก็ไม่กล้า 55555 พอเริ่มหารกันได้สักครั้ง2ครั้ง จากนั้นน้องชายแฟนก็เริ่มไม่ไปไหนด้วย ชวนไปก็ไม่ไป พักหลังๆน้องชายแฟนก็เริ่มหาสาวควงรายวัน รายคืน จนเงินเดือนอันน้อยนิดหมดไม่ถึงอาทิตย์ (ด้วยความที่มันน่าตาดีอะนะ) ยืมแฟนเรายอดรวมแล้วจะ5หมื่นแล้วยังไม่มีวี่แววจะใช้คืน เราเลยบอกแฟนว่างดให้ ไม่มีก็ต้องรู้จักตัวเอง งดเที่ยว ถ้าอยากให้น้องก็ให้ คือตอนนั้นก็รู้ตัวนะว่าพูดแรงไปนิด แต่เราก็ไม่อยากเห็นแฟนคิดมากอ่ะ จากที่น้องชายทำไรไม่ได้เรื่องเข้างานเกือบเที่ยง เลิกก่อน5โมง เที่ยวผญ ทุกคืน เช้ามาทำงานไม่ไหว คือเราต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้ตลอด บางทีก็บอกแฟนบ้าง บางทีก็ไม่บอกบ้าง เพราะมันเรื่องเดิมๆ ซึ่งแฟนก็รู้นะเพราะเขาดูกล้องตลอด เคยด่า เคยว่า แต่ก็ไม่มีไรเกิดขึ้น อีกอย่างพ่อแม่ก็ไม่ว่าน้องชายด้วยเนี่ยดิ พูดละก็เศร้า นี่ยังไม่รวมกินข้าวเราก็หาให้กินนะ บางทีทำกับข้าวให้ ยังต้องมาล้างให้ด้วย แต่ก้คิดในแง่ดีอ่ะว่าเราก็ทำให้แฟนปกติอยู่แล้ว ก่ช่างมันเถอะ อาจด้วยนิสัย ผช ด้วยมั้งแบบนี้ คือทำได้อย่างเดียวอะ ปลง
เรื่องต่อมาเข้าเรื่องพ่อแม่แฟน(อีกแล้ว) คือในความคิดเรานะ แฟนเราเป็น ผญ ตัวเล็กๆ ที่ต้องมาแบกรับภาระของครอบครัว มีพี่สาวก็ไม่ได้เรื่อง คือไม่มีงานมีการทำ รอแฟนส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนๆ( คือแต่งงานกะคนต่างชาติน่ะ ) น้องชายแต่ละคนก็ไม่ได้เรื่อง(หนึ่งในนั้นก็คนที่เล่าให้ฟัง) พ่อแม่ก็ให้แฟนเราส่งเงินให้คนเดียวทุกเดือนๆ แถมยังเคยบอกเราด้วยนะ ว่าต้องส่งให้พ่อแม่แฟนเดือนละหมื่นห้า โอ้วแม่เจ้าาาา แต่ก็ทำหูทวนลม 5555 (แอบคิดในใจว่า พ่อแม่ตูก็มีป๊ะ) เคยถามแฟนนะทำไมส่งให้เยอะจัง แฟนตอบว่า สงสารพ่อแม่ แต่ก่อนพ่อแม่ลำบาก โตมาอยากให้พ่อแม่สบาย (แต่เรากลับคิดต่างนะ ยิ่งให้ เหมือนเขายิ่งจะเอา วันไหนไม่มีให้ ก็ด่าว่าสารพัด แถมเคยบอกให้แฟนเราหาแฟนต่างชาติรวยๆอีกแหน่ะ) เคยถามแฟนว่า ทำไมพ่อแม่แฟนอะไรก้เงิน คำสองคำก็เงิน แล้วแฟนก้ให้คำตอบว่า แม่เอาไปเล่นไพ่ แม่ติดไพ่ เสียไพ่มั้ง เล่นไพ่ทีหลายหมื่น เราฟังละสะตั๊นไป3วิ + กับคิดในใจว่า บ้านเรานี่ถ้าลูกคนไหนเล่นไพ่ ถ้าแม่รู้นี่ฟาดมือหักง่ะ พูดละก้กลัว แล้วแฟนก็ดราม่าให้ฟังเบาๆว่าถ้าแต่ก่อนไม่มีพ่อบุญธรรมอีกคนส่งเรียน แฟนคงไม่มีโอกาสเหมือนวันนี้ เพราะพ่อแม่แท้ๆไม่ส่งเรียนแถมยังจะให้ไปทำงานที่ใต้หวันอีก เราก็ได้แต่ฟังนะ รับฟังอะ คือหดหูอ่ะ ก็เลยบอกแฟนว่าอะไรผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป ช่างมัน เริ่มใหม่
สุดท้ายยแฟนเรากับเราตัดสินใจฝากเงินให้แม่แฟน5แสน การันตีว่าเรา2คนคบกันถึงแม้ไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ก็ช่วยกันเก็บมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้มันจะไม่เยอะมาก แต่มันก็ไม่ได้เก็บกันง่ายๆใชปะล่ะ ( แต่แอบมีข้อแม้กับแม่แฟนว่าขอฝากประจำ5ปี ก๊ากๆ ) เรื่องดราม่าในครอบครัวแฟนก็เริ่มซาลง แต่น้องชายแฟนก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ซึ่งเรากะแฟนก็ปลงแล้ว พูดไปก็ไม่มีไรดีขึ้น สงสารก็แต่แฟนเรา เคยคิดอยากเลิกนะ เพราะเบื่อความเรื่องมากของครอบครัวแฟน แต่ใจนึงก็คิดว่าแฟนเราไม่ได้นิสัยแบบทุกคนในครอบครัว นางเป็นนางฟ้ามากกก ขี้สงสาร ขี้ใจอ่อน แต่ไม่โง่นะจ๊ะ 555 ถือว่าเป็นกรรมของเราละกันที่มาเจอเรื่องแบนี้