จากช่วงนี้ที่มีโครงการรณรงค์ลดการเกิดอุบัติเหตุ และดำเนินการกวดขันการสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์
ดีเดย์วันที่ 1 มีนาคม 2558 ในหลายพื้นที่ภาคส่วนของประเทศไทย
วัตถุประสงค์หลักของการจัดทำโครงการนี้คือการรณรงค์ และส่งเสริมให้ประชาชนขับขี่รถจักรยานยนต์โดยสวมหมวกนิรภัย 100%
ซึ่งหมายถึงทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย
ถามว่าโครงการนี้ดีไหม? มันก็ดี ดีมากๆ ด้วย
หลายภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มหาวิทยาลัยเอย โรงพยาบาลเอย สถานที่ราชการต่างๆ เอย รวมไปถึงเอกชนด้วย
แต่ผมมีคำถามคาใจอยู่อย่างนึง
เวลามีผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัย 100% ผ่านไปทางด่าน
ทำไมพี่ๆ จราจรทั้งหลายยังเรียกตรวจอยู่?
- ใบขับขี่มีไหม?
- ป้าย พรบ. ล่ะ?
- ที่พักเท้าทำไมไม่เอาขึ้น?
- ทำไมไม่ล้างรถ?
- แล้วข้อหาแปลกๆ ก็จะเริ่มตามมาให้เห็นตามที่มีคนโพสต์ลงใน Social
พี่ๆ จราจรรู้ไหมว่าการทำแบบนี้ เป็นการสร้างทัศนคติทางด้านลบต่อโครงการนี้ให้กับประชาชนโดยทั่วไปที่ขับขี่รถจักรยานยนต์
ทั้งๆ ที่ตัวโครงการมันดี
พี่ๆ อยากสร้างวินัยให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
ผมว่าพี่ๆ ต้องเริ่มต้นที่การสร้างทัศนคติที่ดีต่อประชาชนก่อนครับ
ทัศนคติดี ประชาชนก็จะให้ความร่วมมือ โครงการอื่นๆ ที่ทำขึ้นมาหลังจากนี้ ก็พลอยจะได้อานิสงส์ตามไปด้วย
ตอนนี้รณรงค์เรื่องหมวกนิรภัย 100% ก็เรียกตรวจเฉพาะคนที่ไม่สวมหมวกนิรภัยเถอะครับ เอาแค่เรื่องหมวกนิรภัย
นานๆ ไปประชาชนก็จะหามาใส่เองจนได้เกือบ 100% ล่ะครับ
(โดยส่วนตัวเชื่อว่าได้ไม่ถึง 100% หรอก)
โครงการแบบนี้ผมว่าคงไม่รณรงค์แค่ 1-2 เดือนแล้วประสบความสำเร็จหรอกครับ
ต้องระยะยาวครับถึงจะเห็นผล
หลังจากนั้นพี่ๆ จะทำโครงการใบขับขี่ 100% พรบ. 100%
มันก็จะประสบความสำเร็จตามมาล่ะครับ
อยากให้พี่ๆ จราจร focus เป็นอย่างๆ ไป
ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเหมือนกันตั้งด่านตรวจธรรมดาๆ ทั่วไป ที่พี่ๆ จราจรทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว
แบบนี้มันไม่สร้างสำนึกและทัศนคติที่ดีต่อประชาชนเลยครับ
แถมยังโดนบ่นลับหลังอีก
"หมวกก็มีแล้ว เรียกตรวจหาพ่_งเมิ_ไงฟะ?"
ด้วยความเคารพ...
ปล. ผมใช้สลับกันทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ รถจักรยานยนต์ผมสวมหมวกนิรภัย มีใบขับขี่ มีพรบ. ครบครับ
ถามพี่ๆ จราจรหน่อยครับ
ดีเดย์วันที่ 1 มีนาคม 2558 ในหลายพื้นที่ภาคส่วนของประเทศไทย
วัตถุประสงค์หลักของการจัดทำโครงการนี้คือการรณรงค์ และส่งเสริมให้ประชาชนขับขี่รถจักรยานยนต์โดยสวมหมวกนิรภัย 100%
ซึ่งหมายถึงทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย
ถามว่าโครงการนี้ดีไหม? มันก็ดี ดีมากๆ ด้วย
หลายภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มหาวิทยาลัยเอย โรงพยาบาลเอย สถานที่ราชการต่างๆ เอย รวมไปถึงเอกชนด้วย
แต่ผมมีคำถามคาใจอยู่อย่างนึง
เวลามีผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัย 100% ผ่านไปทางด่าน
ทำไมพี่ๆ จราจรทั้งหลายยังเรียกตรวจอยู่?
- ใบขับขี่มีไหม?
- ป้าย พรบ. ล่ะ?
- ที่พักเท้าทำไมไม่เอาขึ้น?
- ทำไมไม่ล้างรถ?
- แล้วข้อหาแปลกๆ ก็จะเริ่มตามมาให้เห็นตามที่มีคนโพสต์ลงใน Social
พี่ๆ จราจรรู้ไหมว่าการทำแบบนี้ เป็นการสร้างทัศนคติทางด้านลบต่อโครงการนี้ให้กับประชาชนโดยทั่วไปที่ขับขี่รถจักรยานยนต์
ทั้งๆ ที่ตัวโครงการมันดี
พี่ๆ อยากสร้างวินัยให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
ผมว่าพี่ๆ ต้องเริ่มต้นที่การสร้างทัศนคติที่ดีต่อประชาชนก่อนครับ
ทัศนคติดี ประชาชนก็จะให้ความร่วมมือ โครงการอื่นๆ ที่ทำขึ้นมาหลังจากนี้ ก็พลอยจะได้อานิสงส์ตามไปด้วย
ตอนนี้รณรงค์เรื่องหมวกนิรภัย 100% ก็เรียกตรวจเฉพาะคนที่ไม่สวมหมวกนิรภัยเถอะครับ เอาแค่เรื่องหมวกนิรภัย
นานๆ ไปประชาชนก็จะหามาใส่เองจนได้เกือบ 100% ล่ะครับ
(โดยส่วนตัวเชื่อว่าได้ไม่ถึง 100% หรอก)
โครงการแบบนี้ผมว่าคงไม่รณรงค์แค่ 1-2 เดือนแล้วประสบความสำเร็จหรอกครับ
ต้องระยะยาวครับถึงจะเห็นผล
หลังจากนั้นพี่ๆ จะทำโครงการใบขับขี่ 100% พรบ. 100%
มันก็จะประสบความสำเร็จตามมาล่ะครับ
อยากให้พี่ๆ จราจร focus เป็นอย่างๆ ไป
ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเหมือนกันตั้งด่านตรวจธรรมดาๆ ทั่วไป ที่พี่ๆ จราจรทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว
แบบนี้มันไม่สร้างสำนึกและทัศนคติที่ดีต่อประชาชนเลยครับ
แถมยังโดนบ่นลับหลังอีก
"หมวกก็มีแล้ว เรียกตรวจหาพ่_งเมิ_ไงฟะ?"
ด้วยความเคารพ...
ปล. ผมใช้สลับกันทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ รถจักรยานยนต์ผมสวมหมวกนิรภัย มีใบขับขี่ มีพรบ. ครบครับ