ตาก – นานาทัศนะภาพนายกฯ ไม่สวมหมอกกันน็อกขณะขี่มอเตอร์ไซค์ นายตำรวจเผยกลุ่มเจ้าหน้าที่จราจรได้แต่อมยิ้ม พร้อมขอไม่ตอบคำถามเฉย ขณะที่คนหาเช้ากินค่ำรุมจวก ระบุเป็นการเลือกปฏิบัติ สาวใหญ่คนเมืองตากที่เพิ่งถูกจับเพราะไม่สวมหมวกนิรภัยมาหยกๆ ถล่มยับ ด้านสมาชิกแก๊งซิ่งบอกนายกฯอยากโชว์หน้าออกทีวี
จากกรณีที่สื่อมวลชน ได้นำเสนอภาพข่าว พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขับขี่รถจักรยานยนต์และไม่สวมหมวกกันน็อก ในการออกเยี่ยมราษฎรเพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนเป็นตัวอย่างแก่ส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด รวมถึงประชาชนทั่วประเทศ ที่อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งภาพดังกล่าวปรากฏตามสื่อทีวี ตั้งแต่เย็นวันที่ 17 มกราคม 2549 จนถึงรายการข่าวเช้าที่นำมาสนทนากัน และตามหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ในเช้านี้ (18 ม.ค.)
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตากว่า เมื่อภาพ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย บรรดาสิงห์มอเตอร์ไซค์ต่างแสดงทัศนะถึงการเป็นตัวอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งสวนทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รักษากฎหมายอย่างสิ้นเชิง
พ.ต.ท.ทรงพล สังข์เกษม สว.จร.สภ.อ.เมืองตาก จ.ตาก ได้เปิดเผยถึงมาตรการความปลอดภัยบนท้องถนนว่า ในส่วนของ สภ.อ.เมืองตาก จะเน้นในเรื่องของมาตรการ 3 ม 2 ข 1 ร ได้แก่ (ม) ที่ 1 คือ หมวกกันน็อก ที่บังคับทั้งคนขับขี่และคนซ้อนรถจักรยานยนต์ (ม) ที่ 2 คือ เมาไม่ขับ และเพิ่มเป็นดื่มก็ต้องไม่ขับรถด้วย (ม) ที่ 3 มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย ไม่แต่งซิ่ง เสียงดัง เป็นต้น ส่วน 2 ข ได้แก่ (ข) ที่ 1 คาดเข็มขัดนิรภัย (ข) ที่ 2 ใบขับขี่ และสุดท้าย คือ 1 ร นั่นคือ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลมุ่งเน้นให้เกิดสวัสดิภาพแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และในมาตรการของการรณรงค์สร้างความปลอดภัยบนท้องถนน จะทำเพียงช่วงเทศกาลไม่ได้ ซึ่งจะต้องมีการรณรงค์บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง เช่น เรื่องของการสวมหมวกนิรภัย หรือหมวกกันน็อก สำหรับผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ จะต้องบังคับใช้กฎหมายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนเกิดเป็นวินัยการจราจร
นอกจากนี้ ทางตำรวจ สภ.อ.เมืองตาก ได้จัดชุมชนสัมพันธ์เข้าไปพูดคุยกำชาวบ้านในแต่ละตำบล หมู่บ้าน และสถานศึกษาต่างๆ กว่า 10 โรงเรียน เพื่ออธิบายถึงความรู้ด้านกฎหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการปราบปราม หรือด้านการจราจร ที่จะมุ่งเน้นให้มีการป้องกันชีวิต และทรัพย์สิน
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่สวมใส่หมวกกันน็อก พ.ต.ท.ทรงพล สังข์เกษม สว.จร.สภ.เมืองตาก กล่าวพร้อมอมยิ้มว่า “ขอไม่แสดงความคิดเห็น สงวนคำตอบดีกว่า ...”
พร้อมกับกล่าวปิดท้ายว่า “ในส่วนของตำรวจจราจร สภ.อ.เมืองตาก ยินดีให้คำปรึกษาด้านการกฎหมายจราจรแก่ประชาชนทุกท่าน และยินดีรับใช้ประชาชนทุกคน ซึ่งหากใครมีเหตุขอความช่วยเหลือ เรามีบริการรถยก ให้บริการฟรี หากเกิดรถเสีย ในพื้นที่ สภ.อ.เมืองตาก” สว.จร.สภ.เมืองตาก กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ชาญ วินัน รอง สว.จร.สภ.อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่า ในการบังคับใช้กฎหมายจราจรของ สภ.อ.แม่สอด นั้น มีสถิติการจับกุมตามมาตรการ 3 ม 2 ข 1 ร ในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 800 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของใบขับขี่ และไม่สวมหมวกกันน็อก ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร นั่นเป็นเพราะว่าบางส่วนเป็นแรงงานพม่าที่ทำงานในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด กว่า 80% ถือว่าปฏิบัติการกฎหมายด้านการจราจร แต่ในส่วนของพื้นที่รอบนอกต้องบอกว่ายังขาดจิตสำนึกในการขับขี่อยู่บ้าง โดยเฉพาะการขับขี่ไปมาในหมู่บ้าน หรือระหว่างหมู่บ้าน หรือระหว่างตำบล ไม่ยอมใส่หมวกกันน็อก หรือนำมาวางไว้ในตะกร้าหน้ารถ พอขับใกล้ถึงจุดตรวจก็รีบนำมาสวมใส่ และไม่สำนึกถึงว่าระหว่างทางหากเกิดอุบัติเหตุจะได้รับอันตรายศีรษะกระแทกพื้นหรือไม่
ในส่วนของโครงการที่ทาง สภ.อ.แม่สอด ได้ทำและประสบความสำเร็จ มาตั้งแต่ปี 2548 คือ โครงการให้ยืมหมวกกันน็อก สำหรับผู้ที่ไม่มี หรือถูกจับ เมื่อเสียค่าปรับตามกฎหมายแล้วหากจะเดินทางต่อ ก็ต้องยืมหมวกกันน็อกไปใช้และนำมาคืนในภายหลัง ขณะนี้มีภาคเอกชนร่วมสนับสนุนหมวกกันน็อก จำนวน 150 ใบ
โครงการต่อไป คือ โครงการด้วยรักและห่วงใยใส่หมวกนิรภัยให้น้อง คือ โครงการจัดหาหมวกกันน็อกสำหรับเด็ก เพื่อให้ยืมใช้ คาดเป้าไว้ที่ 300 ใบ ซึ่งขณะนี้ได้ติดต่อไปยังบริษัทผู้แทนจำหน่ายที่กรุงเทพฯ เพราะว่ากฎหมายบังคับใช้กับทุกๆ คน และเด็กก็ถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่า ผู้ปกครองอาจจะมองข้ามความปลอดภัยในจุดนี้บ้าง
อย่างไรก็ตาม งานจราจร สภ.อ.แม่สอด จ.ตาก จะใช้ทั้งกฎหมายบังคับและมวลชนสัมพันธ์ เพื่อสร้างวินัยจราจร สร้างจิตสำนึก แก่ผู้ขับขี่รถจักรยายนต์อย่างแท้จริง
ในส่วนที่สื่อนำเสนอภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่สวมใส่หมวกกันน็อก ร.ต.อ.ชาญ วินัน รอง สว.จร.สภ.อ.แม่สอด กล่าวว่า ภารกิจที่นายกรัฐมนตรีลงไปทำนั้นเพื่อทำตัวอย่างในการแก้ปัญหาความยากจน และในการขี่รถจักรยานยนต์ของนายกรัฐมนตรี ก็มีรถตำรวจขับนำขบวน มีคนคุ้มกัน และก็ไม่ขับเร็ว ขับตรวจเยี่ยมชาวบ้านในหมู่บ้านเท่านั้น ต่างจากชาวบ้านที่ขับขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนนที่ขับเร็ว ซึ่งจะต้องสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ขณะที่ นายวิวัฒน์ แม้นปาน อายุ 27 ปี บอกว่า จริงๆ แล้วก็ไม่เคยสนใจเรื่องข่าวสารเท่าไร แต่ก็ไม่ค่อยเหมาะสมนักที่นายกรัฐมนตรี เป็นตัวอย่างของประชาชน และยังเคยเป็นตำรวจด้วย ซึ่งเป็นคนกำหนดระบบระเบียบมาบังคับประชาชน กลับทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี หากใครจะบอกว่าเขาทำเป็นเพียงตัวอย่างในการทำงานแก้จน แต่ภาพที่ออกมาทุกอย่างที่นายกฯ ต้องการให้เป็นข่าวตามสื่อ เป็นสิ่งที่ประชาชนจะยึดเอาเป็นแบบอย่างได้ แล้วทีนี้ถ้าตำรวจจราจรคนไหนจับหมวกกันน็อกล่ะก็ โชว์รูปนายกฯ ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วไม่สวมหมวกกันน็อก เป็นใบเบิกทางได้รึเปล่า
ด้าน นางสาวเกศินี เป็นพรม อายุ 38 ปี บอกว่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ตนเพิ่งโดนจับเรื่องไม่สวมหมวกกันน็อก ถูกปรับไป 200 บาท เมื่อเห็นภาพนายกฯ ทักษิณขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อก แถมยังมีรถตำรวจขับนำอีกด้วย อย่างนี้ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเปล่า
ส่วนนายตู๋ (ขอสงวนนามจริง) หนึ่งในสมาชิกแก๊งซิ่ง “มีโอ” บอกกว่า ตนและเพื่อนๆ นิยมที่จะแต่งรถจักรยานยนต์ของตนเพื่อให้เร็ว แรง เจ๋ง เด่นกว่า เพื่อความเท่ ส่วนเรื่องการสวมใส่หมวกกันน็อกนั้น เมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจ แต่ตอนหลังก็นิยมมาใส่แบบเต็มใบ ใส่กระจกช่องมองแบบปรอท ที่ข้างนอกมองไม่เห็นตาเรา มันเท่ดี แต่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยใส่หมวกกันน็อกอยู่ดี แบบว่ามันแล้วแต่อารมณ์ และที่แน่ๆ เวลาไปเจอตำรวจ โดนจับมันทุกข้อหา
ส่วนการที่นายกฯ ทักษิณขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ใส่หมวกกันน็อก สงสัยกลัวว่าใส่แล้วไม่เท่กล้องถ่ายแล้วออกทีวีไม่เห็นหน้าหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ในภาพทั้งคณะมีใส่หมวกกันน็อกคนเดียว คือ คนที่ใส่แว่นดำขี่โนวาตามหลังนายกฯ เท่านั้น
ที่มาจวก อิอิ
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9490000007136
ปล. ส่วนคนนี้ไม่ไม่ใส่ก็ไม่มีใครกล้าจวกดอกเพราะเขาใหญ่จริงๆ ชาวจังหวัดตากกล้าจวกเปล่า 5555
จราจรใบ้กิน นายกฯไม่สวมหมวกกันน็อก-คนหาเช้ากินค่ำรุมจวกเละ
จากกรณีที่สื่อมวลชน ได้นำเสนอภาพข่าว พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขับขี่รถจักรยานยนต์และไม่สวมหมวกกันน็อก ในการออกเยี่ยมราษฎรเพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนเป็นตัวอย่างแก่ส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด รวมถึงประชาชนทั่วประเทศ ที่อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งภาพดังกล่าวปรากฏตามสื่อทีวี ตั้งแต่เย็นวันที่ 17 มกราคม 2549 จนถึงรายการข่าวเช้าที่นำมาสนทนากัน และตามหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ในเช้านี้ (18 ม.ค.)
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตากว่า เมื่อภาพ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย บรรดาสิงห์มอเตอร์ไซค์ต่างแสดงทัศนะถึงการเป็นตัวอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งสวนทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รักษากฎหมายอย่างสิ้นเชิง
พ.ต.ท.ทรงพล สังข์เกษม สว.จร.สภ.อ.เมืองตาก จ.ตาก ได้เปิดเผยถึงมาตรการความปลอดภัยบนท้องถนนว่า ในส่วนของ สภ.อ.เมืองตาก จะเน้นในเรื่องของมาตรการ 3 ม 2 ข 1 ร ได้แก่ (ม) ที่ 1 คือ หมวกกันน็อก ที่บังคับทั้งคนขับขี่และคนซ้อนรถจักรยานยนต์ (ม) ที่ 2 คือ เมาไม่ขับ และเพิ่มเป็นดื่มก็ต้องไม่ขับรถด้วย (ม) ที่ 3 มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย ไม่แต่งซิ่ง เสียงดัง เป็นต้น ส่วน 2 ข ได้แก่ (ข) ที่ 1 คาดเข็มขัดนิรภัย (ข) ที่ 2 ใบขับขี่ และสุดท้าย คือ 1 ร นั่นคือ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลมุ่งเน้นให้เกิดสวัสดิภาพแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และในมาตรการของการรณรงค์สร้างความปลอดภัยบนท้องถนน จะทำเพียงช่วงเทศกาลไม่ได้ ซึ่งจะต้องมีการรณรงค์บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง เช่น เรื่องของการสวมหมวกนิรภัย หรือหมวกกันน็อก สำหรับผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ จะต้องบังคับใช้กฎหมายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนเกิดเป็นวินัยการจราจร
นอกจากนี้ ทางตำรวจ สภ.อ.เมืองตาก ได้จัดชุมชนสัมพันธ์เข้าไปพูดคุยกำชาวบ้านในแต่ละตำบล หมู่บ้าน และสถานศึกษาต่างๆ กว่า 10 โรงเรียน เพื่ออธิบายถึงความรู้ด้านกฎหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการปราบปราม หรือด้านการจราจร ที่จะมุ่งเน้นให้มีการป้องกันชีวิต และทรัพย์สิน
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่สวมใส่หมวกกันน็อก พ.ต.ท.ทรงพล สังข์เกษม สว.จร.สภ.เมืองตาก กล่าวพร้อมอมยิ้มว่า “ขอไม่แสดงความคิดเห็น สงวนคำตอบดีกว่า ...”
พร้อมกับกล่าวปิดท้ายว่า “ในส่วนของตำรวจจราจร สภ.อ.เมืองตาก ยินดีให้คำปรึกษาด้านการกฎหมายจราจรแก่ประชาชนทุกท่าน และยินดีรับใช้ประชาชนทุกคน ซึ่งหากใครมีเหตุขอความช่วยเหลือ เรามีบริการรถยก ให้บริการฟรี หากเกิดรถเสีย ในพื้นที่ สภ.อ.เมืองตาก” สว.จร.สภ.เมืองตาก กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ชาญ วินัน รอง สว.จร.สภ.อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่า ในการบังคับใช้กฎหมายจราจรของ สภ.อ.แม่สอด นั้น มีสถิติการจับกุมตามมาตรการ 3 ม 2 ข 1 ร ในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 800 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของใบขับขี่ และไม่สวมหมวกกันน็อก ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร นั่นเป็นเพราะว่าบางส่วนเป็นแรงงานพม่าที่ทำงานในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด กว่า 80% ถือว่าปฏิบัติการกฎหมายด้านการจราจร แต่ในส่วนของพื้นที่รอบนอกต้องบอกว่ายังขาดจิตสำนึกในการขับขี่อยู่บ้าง โดยเฉพาะการขับขี่ไปมาในหมู่บ้าน หรือระหว่างหมู่บ้าน หรือระหว่างตำบล ไม่ยอมใส่หมวกกันน็อก หรือนำมาวางไว้ในตะกร้าหน้ารถ พอขับใกล้ถึงจุดตรวจก็รีบนำมาสวมใส่ และไม่สำนึกถึงว่าระหว่างทางหากเกิดอุบัติเหตุจะได้รับอันตรายศีรษะกระแทกพื้นหรือไม่
ในส่วนของโครงการที่ทาง สภ.อ.แม่สอด ได้ทำและประสบความสำเร็จ มาตั้งแต่ปี 2548 คือ โครงการให้ยืมหมวกกันน็อก สำหรับผู้ที่ไม่มี หรือถูกจับ เมื่อเสียค่าปรับตามกฎหมายแล้วหากจะเดินทางต่อ ก็ต้องยืมหมวกกันน็อกไปใช้และนำมาคืนในภายหลัง ขณะนี้มีภาคเอกชนร่วมสนับสนุนหมวกกันน็อก จำนวน 150 ใบ
โครงการต่อไป คือ โครงการด้วยรักและห่วงใยใส่หมวกนิรภัยให้น้อง คือ โครงการจัดหาหมวกกันน็อกสำหรับเด็ก เพื่อให้ยืมใช้ คาดเป้าไว้ที่ 300 ใบ ซึ่งขณะนี้ได้ติดต่อไปยังบริษัทผู้แทนจำหน่ายที่กรุงเทพฯ เพราะว่ากฎหมายบังคับใช้กับทุกๆ คน และเด็กก็ถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่า ผู้ปกครองอาจจะมองข้ามความปลอดภัยในจุดนี้บ้าง
อย่างไรก็ตาม งานจราจร สภ.อ.แม่สอด จ.ตาก จะใช้ทั้งกฎหมายบังคับและมวลชนสัมพันธ์ เพื่อสร้างวินัยจราจร สร้างจิตสำนึก แก่ผู้ขับขี่รถจักรยายนต์อย่างแท้จริง
ในส่วนที่สื่อนำเสนอภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่สวมใส่หมวกกันน็อก ร.ต.อ.ชาญ วินัน รอง สว.จร.สภ.อ.แม่สอด กล่าวว่า ภารกิจที่นายกรัฐมนตรีลงไปทำนั้นเพื่อทำตัวอย่างในการแก้ปัญหาความยากจน และในการขี่รถจักรยานยนต์ของนายกรัฐมนตรี ก็มีรถตำรวจขับนำขบวน มีคนคุ้มกัน และก็ไม่ขับเร็ว ขับตรวจเยี่ยมชาวบ้านในหมู่บ้านเท่านั้น ต่างจากชาวบ้านที่ขับขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนนที่ขับเร็ว ซึ่งจะต้องสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ขณะที่ นายวิวัฒน์ แม้นปาน อายุ 27 ปี บอกว่า จริงๆ แล้วก็ไม่เคยสนใจเรื่องข่าวสารเท่าไร แต่ก็ไม่ค่อยเหมาะสมนักที่นายกรัฐมนตรี เป็นตัวอย่างของประชาชน และยังเคยเป็นตำรวจด้วย ซึ่งเป็นคนกำหนดระบบระเบียบมาบังคับประชาชน กลับทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี หากใครจะบอกว่าเขาทำเป็นเพียงตัวอย่างในการทำงานแก้จน แต่ภาพที่ออกมาทุกอย่างที่นายกฯ ต้องการให้เป็นข่าวตามสื่อ เป็นสิ่งที่ประชาชนจะยึดเอาเป็นแบบอย่างได้ แล้วทีนี้ถ้าตำรวจจราจรคนไหนจับหมวกกันน็อกล่ะก็ โชว์รูปนายกฯ ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วไม่สวมหมวกกันน็อก เป็นใบเบิกทางได้รึเปล่า
ด้าน นางสาวเกศินี เป็นพรม อายุ 38 ปี บอกว่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ตนเพิ่งโดนจับเรื่องไม่สวมหมวกกันน็อก ถูกปรับไป 200 บาท เมื่อเห็นภาพนายกฯ ทักษิณขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อก แถมยังมีรถตำรวจขับนำอีกด้วย อย่างนี้ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเปล่า
ส่วนนายตู๋ (ขอสงวนนามจริง) หนึ่งในสมาชิกแก๊งซิ่ง “มีโอ” บอกกว่า ตนและเพื่อนๆ นิยมที่จะแต่งรถจักรยานยนต์ของตนเพื่อให้เร็ว แรง เจ๋ง เด่นกว่า เพื่อความเท่ ส่วนเรื่องการสวมใส่หมวกกันน็อกนั้น เมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจ แต่ตอนหลังก็นิยมมาใส่แบบเต็มใบ ใส่กระจกช่องมองแบบปรอท ที่ข้างนอกมองไม่เห็นตาเรา มันเท่ดี แต่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยใส่หมวกกันน็อกอยู่ดี แบบว่ามันแล้วแต่อารมณ์ และที่แน่ๆ เวลาไปเจอตำรวจ โดนจับมันทุกข้อหา
ส่วนการที่นายกฯ ทักษิณขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ใส่หมวกกันน็อก สงสัยกลัวว่าใส่แล้วไม่เท่กล้องถ่ายแล้วออกทีวีไม่เห็นหน้าหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ในภาพทั้งคณะมีใส่หมวกกันน็อกคนเดียว คือ คนที่ใส่แว่นดำขี่โนวาตามหลังนายกฯ เท่านั้น
ที่มาจวก อิอิ http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9490000007136
ปล. ส่วนคนนี้ไม่ไม่ใส่ก็ไม่มีใครกล้าจวกดอกเพราะเขาใหญ่จริงๆ ชาวจังหวัดตากกล้าจวกเปล่า 5555