สาวๆหลายคน คนสงสัยว่า การใช้โทนเนอร์นั้น มีความจำเป็นต่อผิวจริงๆหรือไหม
แน่นอนว่า หลายๆคนต้องเคยได้ยินว่าการใช้โทนเนอร์เป็นการทำความสะอาดผิวครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะทำการบำรุงผิวหน้าของเรา หืมๆๆๆๆๆ แล้วถ้าหน้าของเราสะอาดอยู่แล้วละ ยังต้องใช้อีกไหมน้าาาาาาา??? และถ้าไม่ใช้คนที่แต่งหน้าเป็นประจำไม่ได้ทำอะไรกับหน้ามากนอกจากทากันแดด แล้วก็ออกจากบ้านเลย ไม่เคยทาแป้งหรือรองพื้นละ? จำเป็นไหมน่า??
แน่นอนว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิวหน้าของแต่ละคนนั้น ก็มีความชอบ และ ความเชื่อ ที่แตกต่างกันไป
โพสนี้ไม่ได้บอกว่าต้องซื้อหรือ ไม่ซิ้อ หรือจะเลิก ซื้อโทนเนอร์นะคะ แต่เป็นการมาแสดงความคิดเห็นว่า ความเป็นจำของมันนั้นมีหรือไม่มีอย่างไร
แน่นอนว่า ถ้าโทนเนอร์มีเอาไว้แค่ทำความสะอาดผิวหน้า คนที่ไม่ได้แต่งหน้า หรือ หน้าไม่ได้โดน มลภาวะอะไรมากมายในหนึ่งวันก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เพราะแค่การล้างหน้าด้วยโฟมสมัยนี้นั้นก็สะอาดเกินพอต่อผิวหน้า และค่า PH ของผิวหน้าก็ปรับสมดุลดีอยู่แล้วจาก โฟมล้างหน้าทั่วไป และ แน่นอนว่า ถ้าโทนเนอร์มีเอาไว้เฉพาะทำความสะอาดครั้งสุดท้าย คนที่แต่งหน้า หรือ หน้าต้องเจอกับฝุ่นควัน มากๆก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มากกว่าคนอื่น
แต่จริงๆแล้วนั้น โทนเนอร์มีความสำคัญมากกว่านั้น และ โทนเนอร์ สามารถแบ่งเป็นแบบใหญ่ๆได้ 2 แบบคือ
1. เป็นแบบที่เอาไว้เช็ดเพื่อทำความสะอาดครั้งสุดท้ายก่อน การทาบำรุงผิวหน้า
2. เป็นแบบที่ฉีด ซึ่งชนิดนี้นั้นจะทำการบำรุงผิวหน้าด้วย เพราะ มี Active ingredients ที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหน้า
เช่น Begin
อืมๆๆๆ แต่จริงๆแล้วโทนเนอร์ที่มีอยู่ในท้องตลาดทั่วไปนั้นมีหลากหลาย ประเภท และ หลายแบบ มีส่วนผสมที่แตกต่างกันไป............แล้วเราจะเลือกแบบไหนดี ????
แน่นอนว่าจะดีแค่ไหนว่า ถ้าเราสามารถซื้อโทนเนอร์ที่เป็นทั้งสองอย่างได้ในขวดเดียว แน่นอนว่า มีแบรนด์อยู่บางแบรนด์ที่ได้ออกโทนเนอร์มาใน ลักษณะนั้น
แต่วันนี้เราจะบอกโทนเนอร์ที่เราควรจะหลีกเลี่ยง โทนเนอร์ที่พวกหลีกเลี่ยงคือ โทนเนอร์ที่ เป็น Alochol Base หรือ โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ แอลกอกฮอล์อยู่มาก แบนรด์ที่นิยม โทนเนอร์ชนิดนี้คือ Clinique
โทนเนอร์ของแบรนด์นี้นั้นมีส่วนผสมของแอลกอกฮอล์สูงมาก ซึ่งไม่เหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะคะแค่บอกว่าควรหลีกเลี่ยง
ตอนนี้ต้องมีคนถามแน่นอนว่า แต่ว่าฉันมีผิวมันมาก สิวเยอะด้วย ใช้โทนเนอร์พวกนี้ทำให้ผิวมันแห้งลง สิวก็น้อยลงนะ แล้วมันไม่ดียังไงย่ะ ??!!! อย่างที่บอก แน่นอนว่า แอลกอกฮอล์นั้นทำให้ผิวหน้าแห้งลงมาก จริง ผลลัพธ์ที่เห็นนั้น ได้เห็นทันตาว่า ว้าววว หน้าฉันไม่มันแล้ว....จริงหรอ??? การโทนเนอร์ทำให้หน้าแห้งนั้น เป็นการทำให้ผิวหน้าของเราผลิตน้ำมันออกมา มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น การอุดตันของผิวหน้าจะมากขึ้น และ สิวก็จะมากขึ้นใน อนาคต เพราะฉะนั้นก็อยู่ที่คนใช้ว่า ชอบสิ่งที่เห็นผลเลย หรือว่า สามารถอดใจรอสื่งที่ดีแต่เห็นผลช้ากว่านะคะ นานาจิตตัง คะ
แล้วโทนเนอร์หรือผลิตภัณฑ์ใดๆที่บอกว่าสามารถ Detox ผิว หรือ ทำให้รูขุมขนเล็กลง เชื่อเถอะคะว่า ไม่มีจริง โกหกทั้งนั้น ถ้าคุณเห็นแบบนั้นรู้เลยว่าเค้ากำลังหลอกเงินคุณอยู่ เพราะ ผิวหน้าไม่ใช้ ประตู จะเปิดก็เปิด คิดจะปิดก็ปิด อันนี้ต้องตื่นจากการหลอกขายฝัน
เพราะฉะนั้นแน่นอนว่า โทนเนอร์ที่ดีจะไม่ใช่แค่ทำให้ผิวหน้าสะอาดขึ้นแต่จะทำให้ผิวหน้าของเราดีขึ้น!! เช่น ป้องกันการเกิดริ้วรอย ปรับสภาพผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี และดู Glow
ต้องมีคนผิวมันถามแน่นอนว่า แล้วหนูละ ถ้าโทนเนอร์ที่มีแอลกอกฮอล์ไม่ดีต่อผิวหนู หนูจะใช้อะไรดี
ขอแนะนำว่า ถ้าผิวของเรามันมาก ก็หาโทนเนอร์ดีๆที่ไม่ทำให้ผิวมัน แล้ว ใช้เช็ดกับฉีด ทั่วหน้าแล้วก็ไม่ต้องทาครีมบำรุง เพราะโทนเนอร์ที่บำรุงก็พอแล้วสำหรับหน้า แต่อย่างลืมทากันแดดนะคะ
เพราะฉะนั้น โทนเนอร์จำเป็นต้องผิวหรือไหม แน่นอนว่า การใช้โทนเนอร์ไม่จำเป็นสำหรับทุกคน แต่ถ้าคุณใช้แล้วผิวของคุณดีขึ้นเพราะว่า โทนเนอร์เหล่านี้มีส่วนผสม และ Active Ingredients ที่ช่วยให้ผิวหน้าของคุณดีขึ้น ทำไมจะไม่ใช้ละ??สวยขึ้น ดูดีขึ้น อย่างเช่น
สาวๆควรสรรหาโทนเนอร์ที่สามารเป็นทั้ง เซรั่มในตัวเพื่อที่จะได้คุณสมบัติของทั้งสองสิ่งเอาไว้ในตัวเดียวจะดีที่สุดนะคะ โดยเฉพาะสาวๆยุคปัจจุบันที่อยู่แต่กับห้องแอร์ และ มลภาวะจากการทำงาน การที่เราได้เติมน้ำและสิ่งดีๆให้ผิวก็ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากกก
โทนเนอร์ไม่จำเป็นต้องใช้จริงๆหรอ ??
แน่นอนว่า หลายๆคนต้องเคยได้ยินว่าการใช้โทนเนอร์เป็นการทำความสะอาดผิวครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะทำการบำรุงผิวหน้าของเรา หืมๆๆๆๆๆ แล้วถ้าหน้าของเราสะอาดอยู่แล้วละ ยังต้องใช้อีกไหมน้าาาาาาา??? และถ้าไม่ใช้คนที่แต่งหน้าเป็นประจำไม่ได้ทำอะไรกับหน้ามากนอกจากทากันแดด แล้วก็ออกจากบ้านเลย ไม่เคยทาแป้งหรือรองพื้นละ? จำเป็นไหมน่า??
แน่นอนว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิวหน้าของแต่ละคนนั้น ก็มีความชอบ และ ความเชื่อ ที่แตกต่างกันไป
โพสนี้ไม่ได้บอกว่าต้องซื้อหรือ ไม่ซิ้อ หรือจะเลิก ซื้อโทนเนอร์นะคะ แต่เป็นการมาแสดงความคิดเห็นว่า ความเป็นจำของมันนั้นมีหรือไม่มีอย่างไร
แน่นอนว่า ถ้าโทนเนอร์มีเอาไว้แค่ทำความสะอาดผิวหน้า คนที่ไม่ได้แต่งหน้า หรือ หน้าไม่ได้โดน มลภาวะอะไรมากมายในหนึ่งวันก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เพราะแค่การล้างหน้าด้วยโฟมสมัยนี้นั้นก็สะอาดเกินพอต่อผิวหน้า และค่า PH ของผิวหน้าก็ปรับสมดุลดีอยู่แล้วจาก โฟมล้างหน้าทั่วไป และ แน่นอนว่า ถ้าโทนเนอร์มีเอาไว้เฉพาะทำความสะอาดครั้งสุดท้าย คนที่แต่งหน้า หรือ หน้าต้องเจอกับฝุ่นควัน มากๆก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มากกว่าคนอื่น
แต่จริงๆแล้วนั้น โทนเนอร์มีความสำคัญมากกว่านั้น และ โทนเนอร์ สามารถแบ่งเป็นแบบใหญ่ๆได้ 2 แบบคือ
1. เป็นแบบที่เอาไว้เช็ดเพื่อทำความสะอาดครั้งสุดท้ายก่อน การทาบำรุงผิวหน้า
2. เป็นแบบที่ฉีด ซึ่งชนิดนี้นั้นจะทำการบำรุงผิวหน้าด้วย เพราะ มี Active ingredients ที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหน้า
เช่น Begin
อืมๆๆๆ แต่จริงๆแล้วโทนเนอร์ที่มีอยู่ในท้องตลาดทั่วไปนั้นมีหลากหลาย ประเภท และ หลายแบบ มีส่วนผสมที่แตกต่างกันไป............แล้วเราจะเลือกแบบไหนดี ????
แน่นอนว่าจะดีแค่ไหนว่า ถ้าเราสามารถซื้อโทนเนอร์ที่เป็นทั้งสองอย่างได้ในขวดเดียว แน่นอนว่า มีแบรนด์อยู่บางแบรนด์ที่ได้ออกโทนเนอร์มาใน ลักษณะนั้น
แต่วันนี้เราจะบอกโทนเนอร์ที่เราควรจะหลีกเลี่ยง โทนเนอร์ที่พวกหลีกเลี่ยงคือ โทนเนอร์ที่ เป็น Alochol Base หรือ โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ แอลกอกฮอล์อยู่มาก แบนรด์ที่นิยม โทนเนอร์ชนิดนี้คือ Clinique
โทนเนอร์ของแบรนด์นี้นั้นมีส่วนผสมของแอลกอกฮอล์สูงมาก ซึ่งไม่เหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะคะแค่บอกว่าควรหลีกเลี่ยง
ตอนนี้ต้องมีคนถามแน่นอนว่า แต่ว่าฉันมีผิวมันมาก สิวเยอะด้วย ใช้โทนเนอร์พวกนี้ทำให้ผิวมันแห้งลง สิวก็น้อยลงนะ แล้วมันไม่ดียังไงย่ะ ??!!! อย่างที่บอก แน่นอนว่า แอลกอกฮอล์นั้นทำให้ผิวหน้าแห้งลงมาก จริง ผลลัพธ์ที่เห็นนั้น ได้เห็นทันตาว่า ว้าววว หน้าฉันไม่มันแล้ว....จริงหรอ??? การโทนเนอร์ทำให้หน้าแห้งนั้น เป็นการทำให้ผิวหน้าของเราผลิตน้ำมันออกมา มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น การอุดตันของผิวหน้าจะมากขึ้น และ สิวก็จะมากขึ้นใน อนาคต เพราะฉะนั้นก็อยู่ที่คนใช้ว่า ชอบสิ่งที่เห็นผลเลย หรือว่า สามารถอดใจรอสื่งที่ดีแต่เห็นผลช้ากว่านะคะ นานาจิตตัง คะ
แล้วโทนเนอร์หรือผลิตภัณฑ์ใดๆที่บอกว่าสามารถ Detox ผิว หรือ ทำให้รูขุมขนเล็กลง เชื่อเถอะคะว่า ไม่มีจริง โกหกทั้งนั้น ถ้าคุณเห็นแบบนั้นรู้เลยว่าเค้ากำลังหลอกเงินคุณอยู่ เพราะ ผิวหน้าไม่ใช้ ประตู จะเปิดก็เปิด คิดจะปิดก็ปิด อันนี้ต้องตื่นจากการหลอกขายฝัน
เพราะฉะนั้นแน่นอนว่า โทนเนอร์ที่ดีจะไม่ใช่แค่ทำให้ผิวหน้าสะอาดขึ้นแต่จะทำให้ผิวหน้าของเราดีขึ้น!! เช่น ป้องกันการเกิดริ้วรอย ปรับสภาพผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี และดู Glow
ต้องมีคนผิวมันถามแน่นอนว่า แล้วหนูละ ถ้าโทนเนอร์ที่มีแอลกอกฮอล์ไม่ดีต่อผิวหนู หนูจะใช้อะไรดี
ขอแนะนำว่า ถ้าผิวของเรามันมาก ก็หาโทนเนอร์ดีๆที่ไม่ทำให้ผิวมัน แล้ว ใช้เช็ดกับฉีด ทั่วหน้าแล้วก็ไม่ต้องทาครีมบำรุง เพราะโทนเนอร์ที่บำรุงก็พอแล้วสำหรับหน้า แต่อย่างลืมทากันแดดนะคะ
เพราะฉะนั้น โทนเนอร์จำเป็นต้องผิวหรือไหม แน่นอนว่า การใช้โทนเนอร์ไม่จำเป็นสำหรับทุกคน แต่ถ้าคุณใช้แล้วผิวของคุณดีขึ้นเพราะว่า โทนเนอร์เหล่านี้มีส่วนผสม และ Active Ingredients ที่ช่วยให้ผิวหน้าของคุณดีขึ้น ทำไมจะไม่ใช้ละ??สวยขึ้น ดูดีขึ้น อย่างเช่น
สาวๆควรสรรหาโทนเนอร์ที่สามารเป็นทั้ง เซรั่มในตัวเพื่อที่จะได้คุณสมบัติของทั้งสองสิ่งเอาไว้ในตัวเดียวจะดีที่สุดนะคะ โดยเฉพาะสาวๆยุคปัจจุบันที่อยู่แต่กับห้องแอร์ และ มลภาวะจากการทำงาน การที่เราได้เติมน้ำและสิ่งดีๆให้ผิวก็ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากกก