โดน SCB รังแก

ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำไงดีครับ มันเครียด หรือใครเคยเจอ แชร์กันหน่อยครับ

        เรื่องมีอยู่ว่า  ผมสนใจจะซื้อบ้านโครงการหนึ่ง แต่ไม่มีเงินซื้อสดนะครับ คนธรรมดา ๆ อย่างเรา เลยต้องกู้ ธนาคารซื้อบ้าน
โดยยื่นไปหลายแบงค์เลยทีเดียว แต่มีแค่ 3 แบงค์ ที่ตอบรับให้กู้ ในวงเงินที่ต่างกันไป โดย SCB นี่แหละครับให้กู้ 100 % ดอกเบี้ย
รายละเอียดต่าง ๆ ก็รับได้ เลยตัดสินใจเลือก SCB ครับ
       แต่ด้วยบ้านที่จะซื้อเป็นทาวโฮม แต่สมาชิกในครอบครัวค่อนข้างเยอะ และโครงการอยู่ใกล้ศูนย์บำบัดขยะเขต เลยไม่มั่นในอนาคตที่จะอยู่ที่นี้
เพราะลองเข้าไปหลายรอบก็ได้กลิ่น ขับรถผ่านก็ได้กลิ่น เลยตัดสินใจยกเลิกสัญญา และเงินมัดจำ 5,000 บาท เงินทำสัญญา 25,000 บาท รวม 30,000 บาทยอมทิ้ง เพื่อแลกกับอนาคตที่ต้องสูดดมกลิ่น ที่ต้องเสียสุขภาพจิต และหนี้ก้อนโต ที่จะต้องอยู่ที่นี้ / พร้อมแจ้ง Scb ยกเลิกโครงการนี้ แต่ขอเปลี่ยนโครงการ ทางเจ้าหน้าที่ก็รับทราบและแจ้งว่าเปลี่ยนโฉนดได้ และไม่ต้องขออนุมัติใหม่  
      จึงมองบ้านมือสอง หรืใหม่โครงการอื่น จนพอใจและจบที่บ้านเดี่ยว 50  ตารางวา มือสอง แต่ก็หวั่น ๆ มีหลายคนบอกว่าบ้านมือสอง จะได้วงเงินกู้น้อย
แต่ด้วยความที่ชอบ เลยโทรหาเจ้าหน้าที่ธนาคารคนเดิม และเล่าให้ฟังถึงบ้านที่จะซื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พูดเหมือนกันว่า จะไม่ได้รับการอนุมัติ 100 % เพราะเป็นบ้านมือสอง ผมก็เข้าใจนะ และต้องประเมินราคาโดยเจ้าหน้าที่จาก SCB  โดยมีค่าใช้จ่าย 5,000 กว่าบาท ซึ่งก็นัดคิวประเมินเรียบร้อย เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา และทราบผลหลังจากนั้น ประมาณ 2 อาทิตย์ และประมาณวันที่  20 กว่า เดือนมกรา ถึงทราบผลว่าได้ 100 % ของราคาประเมินซึ่งก็แอบงง ๆ ด้วยความอยากรู้เลยถามกับเจ้าหน้าที่ เพราะมันเป็นบ้านมือ 2 เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า โครงการพฤกษา เป็นอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ ซึ่งทาง SCB ให้ (เราก็นึกในใจโชคดีเนอะ ) หลังจากทราบผลก็พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ ว่าเมื่อไหร่จะโอนได้ ก็ผัดมาเรื่อย ว่าอาทิตย์หน้า เรื่องยังไม่เสร็จ ผัดมาหลายอาทิตย์เลยทีเดียว และโทรไปก็ไม่รับสาย และไม่โทรกลับ จนวันที่ 10 หรือ 12 กุมภาพันธ์ เลยตัดสินใจโทรเข้า Call center สอบถามความคืบหน้า จึงได้รู้ว่า เรื่องอนุมัติแล้ว แล้วถูกยกเลิกไปแล้ว (นึกในใจหมายความว่าไง ก็เจ้าหน้าที่แจ้งมาอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ) จึงเท้าความให้ call center ฟัง call center เก่งมากครับ ติดต่อเจ้าหน้าที่คนนี้โอนสายให้เลย จึงถามถึงความคืบหน้า และจะนัดวันโอน คำตอบที่ได้คือ ทาง SCB ทำเอกสารผมหาย หาไม่เจอ (ก็แอบโมโห แต่ต้องมีสติและใจเย็น เตือนตัวเองไว้ ) ขอเอกสารใหม่ทั้งหมด องค์กรใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีการสแกนข้อมูล หรือเก็บข้อมูลลูกค้าแบบเป็นระบบเลยหรอ หายก็ไม่บอก ถ้าไม่โทรตามฏ้คงเงียบไปเรื่อย ๆๆ หรอ ซึ่งผมมาทำงานภูเก็ต จะกลับไปอีกทีวันที่ 18 โคตรเสียเวลาเลย และได้ถามเจ้าหน้าที่ว่า หลัง 18 ผมส่งเอกสารไปแล้ว กี่วันถึงจะได้โอน เค้าก็รับปาก 5 วัน  แต่พอถึงเวลา ก็มีเหตุผลร้อยแปดพันเก้า ต้องส่งเอกสารขออนุมัติ ใหม่ ( คืองงในใจและมีคำถามว่า อนุมัติแล้ว ต้องส่งอนุมัติใหม่อีกทำไม แต่ก็ช่างเถอะ คงเป็นกระบวนการของเค้า )
   หลังจากกลับไป วันที่ 18 กุมภา รีบส่งเอกสารให้ทางเมลล์ และเชคอย่างละเอียดว่าได้รับเรียบร้อยนะครับ จากนั้น ก็ต้องตามความคืบหน้าเรื่อย ๆ
ปัญหาก็มีเรื่อย ๆขอเอกสารเพิ่มบุคแบงค์อัพเดท  นัดวันที่ 2 มีนาคม จะโอน ก็แจ้งว่าเรื่องยังไม่เสร็จ (ถ้าอนุมัติแล้ว ก็ดำเนินการอะไรอีกหรอครับ) อ่าก็ไม่เป็นไรใจเย็น ๆ จนมารู้อีกที เค้ามาแจ้งว่า ได้ยอดกู้ 95 % เอ๊ะ อะไร ไหนแจ้งมาได้อนุมัติ 100% เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า แบงค์ชาติหรือแบงค์กลาง สักอย่าง ไม่ให้ 100 % อ่าว ทำไงล่ะเรา ย้ายข้าวของเข้าบ้านเรียบร้อย อยู่ ๆ มาบอกได้แค่นี้ อ้าว สู้ต่อไป เรื่องก็เหมือนจะจบด้วยดี แจ้งว่าอาทิตยหน้าคือ วันที่ 9-13 ก็เรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งผมเองก็ได้แจ้งผู้ขายนัดกันวันโอน เอาวันนัเไปเป็น 17 มีนา เพื่อไปเป็นอาทิตย์หน้าโน้น เพราะกลัวสิ่งคาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น  จนวันนี้ได้โทรไปเพื่อจะนัดวันโอน แล้วข่าวร้ายกสับสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ ผมติดต่อเจ้าหน้าที่ไปเมื่อวันที่ 9 เพื่อจะนัดคิว ไม่รับสาย โทรไปคั้งที่ 2 รับสายแจ้งประชุมอยู่เดวโทรกลับ ก็ไม่มีโทรกลับ จนวันนี้ วันที่ 10 มีนาคม ต้องโทรไป และจะนัดวันโอน 17 มีนาคม 2558 นี้ ได้รับคำตอบว่า คุณรู้ยอดวงเงินอนุมัติแล้วยังครับ ( กูรู้แล้ว แล้วไง) คุณได้วงเงินกู้ 2,550,000 อะไร เกิดอะไรขึ้น !!!!!!!!!! /จาก 100 % 3 ล้าน /เหลือ 95 % 2.85 คืออะไร แล้วเหลือ 2.5

       1.พนักงานบริการแย่มากครับ ไม่มีการติดตามงาน ไม่สนใจลูกค้าเลย
       2.รู้สึกเสียความรู้สึกมากครับ กับการบริการ และการปฎิบัติกับลูกค้าแบบนี้ ทั้งให้ความหวัง และสูญเสียโอกาส เสียเวลามาก
       3.คำพูดจากองค์กรใหญ่ ๆ แบบนี้ ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยครับ กลับ กลอก เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
       4.เสียเงิน ทำสัญญากับเจ้าของบ้าน ตกแต่ง บ้าน แล้วมาแจ้งแบบนี้ มันมีความเป็นธรรมอะไรกับผู้บริโภคบ้างครับ
       5.ถ้าได้ หรือไม่ได้ ก็ควรแจ้งตั้งแต่แรก แบบนี้ไม่แฟร์ มีแต่เสีย กับเสียครับ


             แบบนี้ผมควรทำยังไงได้บ้างครับ เครียดแปดด้าน  เสียหาย เสียความรู้สึก เสียทุกอย่างมาก ๆๆๆ เศร้า
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
โดนรังแกมาเช่นกันค่ะ แต่ถ้าเทียบกับ จขกท.แล้วแค่จิ๊บๆ อาจจะทีมงานเดียวกันค่ะ เพราะจุดเริ่มต้นเราจากบ้านโครงการเดียวกัน ให้เรารอผลอนุมัตินานเกือบ 2 เดือน ได้รับคำตอบเพียงว่าไม่น่าจะมีปัญหา คิดว่าผ่าน ให้นัดโครงการตรวจบ้านได้เลย แต่สุดท้ายไม่อนุมัติ ที่เจ็บไปกว่านั้นคือ เจ้าหน้าที่รู้แล้วว่าไม่อนุมัติ แต่ไม่แจ้งให้เราทราบ ปล่อยให้เรา รอ..ร้อ...รอ.. จนเราต้องติดต่อไปเอง ได้รับคำตอบเป็นแมสเสจว่า หัวหน้าไม่อนุมัติครับ หลังจากนั้นติดต่ออะไรไม่ได้อีกเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
ถึงเจ้าของกระทู้ที่ 19 และ 21
     ผมเห็นด้วยกับวิธีการตอบที่เห็นแย้งของคุณความเห็นที่ 21 I am TeeO  นะครับ  มีเหตุผล ให้ข้อคิดที่ดีและมีทางเลือกให้ จขกท ได้ใช้ประโยชน์
     แต่ไม่เห็นชอบกับความเห็นที่ 19 TheRed2008
     1. ที่เปิดประเด็นด้วยการชี้ว่า จขกท เป็นผู้ผิด ทั้งๆที่บรรทัดที่ 2 คุณพูดเองว่า"เหตุการณ์จริง ไม่ทราบได้ " ดังนั้น คุณไม่ควรด่วนสรุปว่าใครผิดใครถูก เพราะเท่าที่อ่านกระทู้ จขกท แค่อยากแชร์ความรู้สึก และขอคำแนะนำต่อไป ไม่ต้องการให้มาซ้ำเติม เข้าใจเห็นใจกันนะครับ
    2. กรณีนี้เป็นการกู้บ้าน  ไม่ใช่การซื้อของหรือประกันทางโทรศัพท์นะครับ ดังนั้น ความเชื่อถือย่อมแตกต่างกัน  การกู้บ้านเรายื่นหลักฐานการกู้กับธนาคาร(ที่มีตัวตนชัดเจน) ไม่ได้แค่คุยกันทางโทรศัพท์อย่างเดียว และมีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาพบปะเจอกันอย่างเป็นทางการ ดังนั้น ความน่าเชื่อถือมีมากกว่าแค่คำที่ระบุในใบปลิวที่พูดถึงอย่างแน่นอน
        ผมซื้อบ้านมาแล้ว 7 หลัง กู้ธนาคารเป็นส่วนใหญ่  ขอแชร์ให้ฟังว่า ล่าสุดยื่นกู้ TMB และ SCB ไป 2 แบงค์ เมื่อผลการอนุมัติผ่านแล้ว TMB จะมีข้อความทางโทรศัพท์มาบอกว่าได้รับการอนุมัติแล้ว และเจ้าหน้าที่ธนาคารจะโทรมาแจ้งตัวเลขเงินที่ได้รับการอนุมัติ  ส่วนธนาคาร SCB ไม่มีข้อความมาแจ้งผลการอนุมัติ แต่จะแจ้งตัวเลขการอนุมัติให้ทราบทางโทรศัพท์เช่นกัน  ดังนั้น จากประสบการณ์ของผม การแจ้งผลการอนุมัติและจำนวนเงินที่อนุมัติ จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ธนาคารในการแจ้ง  โดยไม่มีหลักฐานเอกสารใดๆ นอกจากการพูดคุยเท่านั้น ดังนั้น ถ้าไม่เชื่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก็ไม่รู้จะเชื่อใครเช่นกัน  แต่ผมโชคดีกว่า จขกท ที่ไม่โดนรังแก ครั้งนี้ ผมเลือกใช้ SCB  เพราะให้วงเงินสูงกว่า
       ในกรณีที่ ที่ธนาคารไม่ติดตามเรื่อง  ไม่สนใจลูกค้า เพราะลูกค้านั้นๆอาจไม่ได้รับการอนุมัติ ธนาคารจะไม่สนใจ  หรือ ประวิงเวลาไปเรื่อยๆ  ประมาณว่า  ไม่อนุมัติ  แต่ก็วางเรื่องไว้ก่อน รอนโยบายใหม่มา   เค้าจะเลือกลุกค้าที่ทำได้ ทำไปก่อน  ถ้ามีพนักงานธนาคาร มาอ่านกระทู้นี้ ฝากขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้เลยนะครับ อนุมัติหรือไม่ อย่างไร ก็ต้องเร่งบอกกันให้เร็วที่สุด  จะได้หาทางออกและยื่นกู้ที่อื่นๆต่อไป อย่าเห็นแก่ตัวด้วยการยึดเหนี่ยวให้รอด้วยความหวัง ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันกู้ไม่ผ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่