ประชาชาติไลฟ์
นสพ.ฉบับล่าสุด
"พัฒน์กล"ลุ้น ก.ล.ต.อนุมัติกลับSET ชี้19บจ.เสี่ยงแก้ไขฐานะไม่ทัน31มี.ค. จ่อถูกเพิกถอน
Prev
1 of 1
Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 10 มี.ค. 2558 เวลา 05:59:42 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เกาะติด บจ.เก่า เร่งขอกลับเข้ามาเทรดในตลาดหุ้นในเดือน มี.ค.นี้ หลังตลาดหลักทรัพย์ฯส่งซิก 19 บจ.เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนระยะที่ 3 พร้อมขีดเส้นตายฟื้นธุรกิจและส่งหนังสือยกเลิกการเพิกถอนจาก บจ.ภายใน 31 มี.ค.นี้ ก่อนถูกปลด
นายปิยะ จงวัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.พัฒน์กล (PK) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทคาดจะกลับเข้ามาซื้อขาย (เทรด) หุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ทันเส้นตายของตลาดหลักทรัพย์ฯภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ เนื่องจากบริษัทได้ยื่นเอกสารขอกลับเข้ามาซื้อขายต่อตลาดหลักทรัพย์ฯแล้วตั้งแต่เดือน ต.ค. 2557 และที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบบริษัทเสร็จเรียบร้อยแล้ว
โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ในการพิจารณางบการเงินและคุณสมบัติของบริษัท ซึ่งยังติดใจเรื่องการควบคุมและกระบวนการบริหารจัดการงานบางโครงการที่ยังมีผลขาดทุน ซึ่งทางบริษัทก็ได้นำมาแก้ไขหรือปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าน่าจะเห็นผลชัดเจนในช่วงเร็ว ๆ นี้
"คำขอกลับเข้ามาเทรดของบริษัทเหลือเพียงการพิจารณาคุณสมบัติของทาง ก.ล.ต.เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการพิจารณาตรวจคุณสมบัติของทาง ก.ล.ต. ต้องใช้เวลาลากยาวออกไปเกินสิ้นเดือน มี.ค.นี้ ทางบริษัทก็ได้เตรียมแผนสำรองไว้ โดยอาจจะยื่นหนังสือคำขอพ้นเหตุเพิกถอนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯก่อน 31 มี.ค.นี้ ซึ่งเชื่อว่าบริษัทมีเหตุผลหรือข้อมูลสนับสนุนที่แสดงให้เห็นว่าฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทครบตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว"นายปิยะกล่าว
สำหรับฐานะการเงินของบริษัท ปัจจุบันได้ล้างหนี้สะสมกว่า 1,000 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ทำให้ปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 2.1 เท่า ส่วนทิศทางของผลดำเนินงาน บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้น่าจะใกล้เคียงปี 2557 ที่ทำได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งแม้รายได้จะไม่เติบโตจากปีก่อน แต่เชื่อว่าการเน้นขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนของธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะช่วยหนุนให้ปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 20-30% จากปีก่อน
"หุ้นของบริษัทหยุดการซื้อขายมา 5 ปี เนื่องจากมีปัญหาเรื่องฐานะการเงิน ทำให้ต้องปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งบริษัทก็ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบันบริษัทกลับมามีกำไรติดต่อกัน 4 ไตรมาสแล้ว และส่วนผู้ถือหุ้นก็เริ่มเป็นบวก ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะไม่ถูกปลดออกจากตลาดหุ้นและสามารถกลับเข้ามาเทรดได้ในช่วงเร็ว ๆ นี้" นายปิยะกล่าว
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) กล่าวว่า บริษัทได้กลับเข้ามาเทรดวันแรก (3 มี.ค.) ที่ผ่านมาแล้ว ภายหลังได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้พ้นเหตุแห่งการเพิกถอน ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมีความแข็งแกร่ง เห็นได้จากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งปี 2557 บริษัทมียอดขาย 3,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 มียอดขาย 3,174 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 137 ล้านบาท ส่วนปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายด้านยอดขายโต 10% จากปีก่อน
"ส่วนยอดขาดทุนสะสมของบริษัทที่มีอยู่ราว 144 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีในการล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด" นายธนสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มบิ๊ก คาเมร่า ในสัดส่วน 83% และกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 17%
..................................................................................................................................................................
ดูๆไว้เดี๋ยวได้กลับมาเทรด จะตะลุมบอนอะไรจะได้ดูทางหนีทีไล่ไว้
"พัฒน์กล"ลุ้นยื่นกลับเข้าเทรด (ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มบิ๊ก คาเมร่า ในสัดส่วน 83%)
นสพ.ฉบับล่าสุด
"พัฒน์กล"ลุ้น ก.ล.ต.อนุมัติกลับSET ชี้19บจ.เสี่ยงแก้ไขฐานะไม่ทัน31มี.ค. จ่อถูกเพิกถอน
Prev
1 of 1
Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 10 มี.ค. 2558 เวลา 05:59:42 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เกาะติด บจ.เก่า เร่งขอกลับเข้ามาเทรดในตลาดหุ้นในเดือน มี.ค.นี้ หลังตลาดหลักทรัพย์ฯส่งซิก 19 บจ.เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนระยะที่ 3 พร้อมขีดเส้นตายฟื้นธุรกิจและส่งหนังสือยกเลิกการเพิกถอนจาก บจ.ภายใน 31 มี.ค.นี้ ก่อนถูกปลด
นายปิยะ จงวัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.พัฒน์กล (PK) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทคาดจะกลับเข้ามาซื้อขาย (เทรด) หุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ทันเส้นตายของตลาดหลักทรัพย์ฯภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ เนื่องจากบริษัทได้ยื่นเอกสารขอกลับเข้ามาซื้อขายต่อตลาดหลักทรัพย์ฯแล้วตั้งแต่เดือน ต.ค. 2557 และที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบบริษัทเสร็จเรียบร้อยแล้ว
โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ในการพิจารณางบการเงินและคุณสมบัติของบริษัท ซึ่งยังติดใจเรื่องการควบคุมและกระบวนการบริหารจัดการงานบางโครงการที่ยังมีผลขาดทุน ซึ่งทางบริษัทก็ได้นำมาแก้ไขหรือปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าน่าจะเห็นผลชัดเจนในช่วงเร็ว ๆ นี้
"คำขอกลับเข้ามาเทรดของบริษัทเหลือเพียงการพิจารณาคุณสมบัติของทาง ก.ล.ต.เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการพิจารณาตรวจคุณสมบัติของทาง ก.ล.ต. ต้องใช้เวลาลากยาวออกไปเกินสิ้นเดือน มี.ค.นี้ ทางบริษัทก็ได้เตรียมแผนสำรองไว้ โดยอาจจะยื่นหนังสือคำขอพ้นเหตุเพิกถอนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯก่อน 31 มี.ค.นี้ ซึ่งเชื่อว่าบริษัทมีเหตุผลหรือข้อมูลสนับสนุนที่แสดงให้เห็นว่าฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทครบตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว"นายปิยะกล่าว
สำหรับฐานะการเงินของบริษัท ปัจจุบันได้ล้างหนี้สะสมกว่า 1,000 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ทำให้ปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 2.1 เท่า ส่วนทิศทางของผลดำเนินงาน บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้น่าจะใกล้เคียงปี 2557 ที่ทำได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งแม้รายได้จะไม่เติบโตจากปีก่อน แต่เชื่อว่าการเน้นขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนของธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะช่วยหนุนให้ปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 20-30% จากปีก่อน
"หุ้นของบริษัทหยุดการซื้อขายมา 5 ปี เนื่องจากมีปัญหาเรื่องฐานะการเงิน ทำให้ต้องปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งบริษัทก็ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบันบริษัทกลับมามีกำไรติดต่อกัน 4 ไตรมาสแล้ว และส่วนผู้ถือหุ้นก็เริ่มเป็นบวก ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะไม่ถูกปลดออกจากตลาดหุ้นและสามารถกลับเข้ามาเทรดได้ในช่วงเร็ว ๆ นี้" นายปิยะกล่าว
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) กล่าวว่า บริษัทได้กลับเข้ามาเทรดวันแรก (3 มี.ค.) ที่ผ่านมาแล้ว ภายหลังได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้พ้นเหตุแห่งการเพิกถอน ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมีความแข็งแกร่ง เห็นได้จากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งปี 2557 บริษัทมียอดขาย 3,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 มียอดขาย 3,174 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 137 ล้านบาท ส่วนปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายด้านยอดขายโต 10% จากปีก่อน
"ส่วนยอดขาดทุนสะสมของบริษัทที่มีอยู่ราว 144 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีในการล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด" นายธนสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มบิ๊ก คาเมร่า ในสัดส่วน 83% และกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 17%
..................................................................................................................................................................
ดูๆไว้เดี๋ยวได้กลับมาเทรด จะตะลุมบอนอะไรจะได้ดูทางหนีทีไล่ไว้