ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปฐวีนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อผู้มั่งคั่ง ฝันร้ายเห็นภาพในอดีตเมื่อครั้งยังเป็นแค่เด็กชายตัวน้อย ภาพปลายเท้าพ่อของตัวเองที่ผูกคอตายตรงหน้า ทำให้เขาสะดุ้งตื่น ลุกพรวดขึ้นนั่ง เหงื่อท่วมตัว พึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ฝัน...นี่เราฝันร้ายอีกแล้วหรือ”
เนื้อตัวของชายหนุ่มสั่นสะท้าน นัยน์ตาฉายแววหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด...
ขณะที่ปฐวีฝันร้ายซ้ำซากถึงพ่อที่ฆ่าตัวตายเพราะหมดตัวจากถูกเพื่อนทรยศคดโกง โสมสุภางค์คู่หมั้นของเขาซึ่งอยู่ที่บ้านตัวเองในกรุงเทพฯ พยายามโทร.ติดต่อเขา แต่ไม่มีใครรับสาย จังหวะนั้นเถาว์เครือแม่ของโสมสุภางค์เดินหน้าเครียดเข้ามาบอกว่ามีคนพูดกันให้แซดว่าปฐวีชนะพนันชิดชงค์ได้ทรัพย์สินไปหมด ทั้งธุรกิจ เรือสำราญหรือแม้แต่คฤหาสน์หลังงาม โสมสุภางค์แปลกใจ ทำไมไม่เห็นเขาพูดถึงเรื่องนี้ให้ฟัง...
ทางฝ่ายปฐวีออกจากโรงแรมห้าดาวมาที่ถนนใหญ่ ขณะกำลังจะรับสายเรียกเข้ามือถือจากคู่หมั้นตัวเอง ชิดชบาเดินชนเขาอย่างจัง มือถือตกพื้นแตกกระจาย หญิงสาวขอโทษเป็นภาษาฝรั่งเศส เขามองเธอนิ่งก่อนจะตอบเป็นภาษาไทยว่าไม่เป็นอะไร แค่อุบัติเหตุเท่านั้น เธอยิ้มตื่นเต้นดีใจ
“คุณเป็นคนไทยหรือคะ แล้วทำไมคุณรู้ว่า...”
“ผมได้กลิ่นน้ำอบไทย” ปฐวีว่าแล้วกอบเศษมือถือ เดินจากไป ชิดชบาตะโกนไล่หลังให้เขารอก่อน เธอเสียใจที่ทำให้มือถือของเขาพัง ชายหนุ่มไม่สนใจแม้แต่จะหันมอง ยังคงเดินต่อไป ชิดชบาไล่ตามจนทัน
“คุณจะไม่มีเวลาฟังคำขอโทษกับคำเสียใจของใครเลยหรือคะ ฉันขอโทษแล้วฉันก็เสียใจ ให้ฉันจ่ายค่าเสียหายให้คุณได้ไหม”
ปฐวีไม่ต้องการอะไรจากเธอทั้งนั้น แค่อย่ายุ่งกับเขาก็พอ แล้วผละจากไป ชิดชบามองตาม ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง เขาเป็นอะไรของเขา
ooooooo
ที่คฤหาสน์ของชิดชงค์ ขณะที่ตลับนาค พี่สาวของชิดชงค์เดินนำหน้าจำเรียงคนรับใช้ที่ถือถาดใส่อาหารกำลังจะเอาไปให้ชิดชงค์ที่ห้องทำงาน เห็นเฉวียงทนายความประจำตระกูล เดินสวนลงมาก็ร้องถามว่า
“เกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ชิดชงค์กลับจากบ่อนพนันก็ขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งคืน เขาเรียกคุณเฉวียงมาทำไม”
“มันเป็นเรื่องที่คุณชิดชงค์ควรจะอธิบายกับคุณตลับนาคด้วยตัวเองครับ ไม่ใช่ผม ขอโทษนะครับ ผมต้องไปจัดการเรื่องที่คุณชิดชงค์สั่ง” เฉวียงเดินลิ่วจากไป ตลับนาคได้แต่มองตามสงสัย แล้วเดินนำจำเรียงขึ้นไปยังห้องทำงานของน้องชาย เคาะประตูเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงขานตอบ
ภายในห้องนั้น ชิดชงค์นั่งก้มหน้าคอตกอย่างสิ้นหวัง ก่อนจะยกมือปิดหน้าสะอื้นไห้เบาๆ...
ระหว่างที่ชิดชงค์คิดจะทำบางอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนในครอบครัวตัวเองไปตลอดกาล ชิดชบาเรียนหนังสือเสร็จ ก้าวออกมาจากสถาบันสอนศิลปะ
ในกรุงปารีสเพื่อไปรอรถประจำทาง ต้องชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ตัวเองเดินชนเมื่อเช้านั่งอยู่ที่ม้านั่งริมถนน กำลังต่อชิ้นส่วนมือถือที่เธอทำพัง หญิงสาวมองอย่างขบขัน เดินไปหยุดยืนตรงหน้าเขา เสนอจะซื้อมือถือเครื่องใหม่ชดใช้ให้ เขานิ่งเฉยไม่สนใจ
“ไม่ก็...ให้ฉันทำอะไรให้คุณแทนคำว่าเสียใจหรือขอโทษ”
“เด็กอย่างคุณจะทำอะไรได้ ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ไม่ใช่หรือ”
“ใช่ค่ะ แต่ฉันเป็นลูกเศรษฐี มีปัญญาซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้คุณ เราจะได้ไม่ติดค้างกันไปถึงชาติหน้าไง เอางี้ ถ้าคุณไม่ต้องการโทรศัพท์ใหม่ ให้ฉันเลี้ยงข้าวคุณมื้อค่ำได้ไหม”
ปฐวีแอบหมั่นไส้ ในเมื่อคุยอวดว่าพ่อรวยนักก็จะให้เธอเลี้ยงอาหารหรูแทนคำขอโทษ...
ชิดชบามีเงินจ่ายค่าอาหารแพงระยิบอย่างที่คุยเอาไว้ หลังกินอาหารมื้อหรูเสร็จ เธอจัดแจงขอตัวกลับ ปฐวีรีบเดินตามมาเรียกไว้ ถามว่าเรียนศิลปะที่ปารีส แล้วรู้จักที่นี่ดีแค่ไหน ชิดชบาเชิดหน้า รู้จักดีพอจะเป็นมัคคุเทศก์ให้ผู้ใหญ่หรือลูกท่านหลานเธอที่มาเที่ยวปารีสได้โดยไม่หลงทาง
“ไม่น่าเชื่อ”
“นี่คุณ ครั้งแรกคุณก็ไม่เชื่อว่าฉันมีปัญญาจ่ายค่าเสียหายได้ แล้วฉันก็จ่ายแล้ว จ่ายมากกว่าค่าโทรศัพท์บุโรทั่งเครื่องที่มันพัง ตอนนี้คุณไม่เชื่อว่าฉันรู้จักปารีสดี คุณมีปัญหาเรื่องจิตใจหรือเปล่า” ชิดชบาต่อว่าโดยไม่ได้คิดอะไร ปฐวีโกรธ เสียงเขียวใส่ พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร
“ก็หมายความว่าคนที่หมดความไว้วางใจมนุษย์ คือคนที่ถูกมนุษย์หลอกเสียจนเข็ด” คำพูดแทงใจดำ
ของชิดชบาทำให้ปฐวีถึงกับหน้าสลด รีบหันหลังให้ กลัวเธอจะเห็นความอ่อนแอ
“คุยว่ารู้จักปารีสดี แล้วทำไมคุณไม่ทำหน้าที่มัคคุเทศก์พาผมเที่ยวปารีสล่ะ”
ooooooo
รุ่งขึ้น ชิดชบารับหน้าที่ไกด์จำเป็นพาปฐวีทัวร์กรุงปารีสอย่างที่รับปากไว้ อธิบายสถานที่ท่องเที่ยวได้คล่องแคล่วราวกับไกด์อาชีพ ไล่ตั้งแต่หอไอเฟลเรื่อยไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ซึ่งเป็นที่เก็บงานศิลปะมากมาย รวมทั้งภาพเขียนอันลือลั่นและลึกลับเหมือนเขา
“เหมือนผมหรือ ผมลึกลับตรงไหน”
“คุณลึกลับตรงที่นัยน์ตาของคุณซ่อนอะไรไว้ในใจเยอะแยะ แล้วรอยยิ้มของคุณก็...ช่างน่าสะพรึง”
อ่านต่อได้ที
http://www.thairath.co.th/ent/novel/maisinraifaiswart/ch1
______________________________________________________________________________________
ฝากติดตามละคร "ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท" ตอนแรก วันที่ 17 มี.ค.58 นี้ หน้าจอ 7 สี จร้าาาา
นี่มันเรื่องย่อ "ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท" ตอนแรกเหรอเนี่ยยย
“ฝัน...นี่เราฝันร้ายอีกแล้วหรือ”
เนื้อตัวของชายหนุ่มสั่นสะท้าน นัยน์ตาฉายแววหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด...
ขณะที่ปฐวีฝันร้ายซ้ำซากถึงพ่อที่ฆ่าตัวตายเพราะหมดตัวจากถูกเพื่อนทรยศคดโกง โสมสุภางค์คู่หมั้นของเขาซึ่งอยู่ที่บ้านตัวเองในกรุงเทพฯ พยายามโทร.ติดต่อเขา แต่ไม่มีใครรับสาย จังหวะนั้นเถาว์เครือแม่ของโสมสุภางค์เดินหน้าเครียดเข้ามาบอกว่ามีคนพูดกันให้แซดว่าปฐวีชนะพนันชิดชงค์ได้ทรัพย์สินไปหมด ทั้งธุรกิจ เรือสำราญหรือแม้แต่คฤหาสน์หลังงาม โสมสุภางค์แปลกใจ ทำไมไม่เห็นเขาพูดถึงเรื่องนี้ให้ฟัง...
ทางฝ่ายปฐวีออกจากโรงแรมห้าดาวมาที่ถนนใหญ่ ขณะกำลังจะรับสายเรียกเข้ามือถือจากคู่หมั้นตัวเอง ชิดชบาเดินชนเขาอย่างจัง มือถือตกพื้นแตกกระจาย หญิงสาวขอโทษเป็นภาษาฝรั่งเศส เขามองเธอนิ่งก่อนจะตอบเป็นภาษาไทยว่าไม่เป็นอะไร แค่อุบัติเหตุเท่านั้น เธอยิ้มตื่นเต้นดีใจ
“คุณเป็นคนไทยหรือคะ แล้วทำไมคุณรู้ว่า...”
“ผมได้กลิ่นน้ำอบไทย” ปฐวีว่าแล้วกอบเศษมือถือ เดินจากไป ชิดชบาตะโกนไล่หลังให้เขารอก่อน เธอเสียใจที่ทำให้มือถือของเขาพัง ชายหนุ่มไม่สนใจแม้แต่จะหันมอง ยังคงเดินต่อไป ชิดชบาไล่ตามจนทัน
“คุณจะไม่มีเวลาฟังคำขอโทษกับคำเสียใจของใครเลยหรือคะ ฉันขอโทษแล้วฉันก็เสียใจ ให้ฉันจ่ายค่าเสียหายให้คุณได้ไหม”
ปฐวีไม่ต้องการอะไรจากเธอทั้งนั้น แค่อย่ายุ่งกับเขาก็พอ แล้วผละจากไป ชิดชบามองตาม ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง เขาเป็นอะไรของเขา
ooooooo
ที่คฤหาสน์ของชิดชงค์ ขณะที่ตลับนาค พี่สาวของชิดชงค์เดินนำหน้าจำเรียงคนรับใช้ที่ถือถาดใส่อาหารกำลังจะเอาไปให้ชิดชงค์ที่ห้องทำงาน เห็นเฉวียงทนายความประจำตระกูล เดินสวนลงมาก็ร้องถามว่า
“เกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ชิดชงค์กลับจากบ่อนพนันก็ขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งคืน เขาเรียกคุณเฉวียงมาทำไม”
“มันเป็นเรื่องที่คุณชิดชงค์ควรจะอธิบายกับคุณตลับนาคด้วยตัวเองครับ ไม่ใช่ผม ขอโทษนะครับ ผมต้องไปจัดการเรื่องที่คุณชิดชงค์สั่ง” เฉวียงเดินลิ่วจากไป ตลับนาคได้แต่มองตามสงสัย แล้วเดินนำจำเรียงขึ้นไปยังห้องทำงานของน้องชาย เคาะประตูเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงขานตอบ
ภายในห้องนั้น ชิดชงค์นั่งก้มหน้าคอตกอย่างสิ้นหวัง ก่อนจะยกมือปิดหน้าสะอื้นไห้เบาๆ...
ระหว่างที่ชิดชงค์คิดจะทำบางอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนในครอบครัวตัวเองไปตลอดกาล ชิดชบาเรียนหนังสือเสร็จ ก้าวออกมาจากสถาบันสอนศิลปะ
ในกรุงปารีสเพื่อไปรอรถประจำทาง ต้องชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ตัวเองเดินชนเมื่อเช้านั่งอยู่ที่ม้านั่งริมถนน กำลังต่อชิ้นส่วนมือถือที่เธอทำพัง หญิงสาวมองอย่างขบขัน เดินไปหยุดยืนตรงหน้าเขา เสนอจะซื้อมือถือเครื่องใหม่ชดใช้ให้ เขานิ่งเฉยไม่สนใจ
“ไม่ก็...ให้ฉันทำอะไรให้คุณแทนคำว่าเสียใจหรือขอโทษ”
“เด็กอย่างคุณจะทำอะไรได้ ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ไม่ใช่หรือ”
“ใช่ค่ะ แต่ฉันเป็นลูกเศรษฐี มีปัญญาซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้คุณ เราจะได้ไม่ติดค้างกันไปถึงชาติหน้าไง เอางี้ ถ้าคุณไม่ต้องการโทรศัพท์ใหม่ ให้ฉันเลี้ยงข้าวคุณมื้อค่ำได้ไหม”
ปฐวีแอบหมั่นไส้ ในเมื่อคุยอวดว่าพ่อรวยนักก็จะให้เธอเลี้ยงอาหารหรูแทนคำขอโทษ...
ชิดชบามีเงินจ่ายค่าอาหารแพงระยิบอย่างที่คุยเอาไว้ หลังกินอาหารมื้อหรูเสร็จ เธอจัดแจงขอตัวกลับ ปฐวีรีบเดินตามมาเรียกไว้ ถามว่าเรียนศิลปะที่ปารีส แล้วรู้จักที่นี่ดีแค่ไหน ชิดชบาเชิดหน้า รู้จักดีพอจะเป็นมัคคุเทศก์ให้ผู้ใหญ่หรือลูกท่านหลานเธอที่มาเที่ยวปารีสได้โดยไม่หลงทาง
“ไม่น่าเชื่อ”
“นี่คุณ ครั้งแรกคุณก็ไม่เชื่อว่าฉันมีปัญญาจ่ายค่าเสียหายได้ แล้วฉันก็จ่ายแล้ว จ่ายมากกว่าค่าโทรศัพท์บุโรทั่งเครื่องที่มันพัง ตอนนี้คุณไม่เชื่อว่าฉันรู้จักปารีสดี คุณมีปัญหาเรื่องจิตใจหรือเปล่า” ชิดชบาต่อว่าโดยไม่ได้คิดอะไร ปฐวีโกรธ เสียงเขียวใส่ พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร
“ก็หมายความว่าคนที่หมดความไว้วางใจมนุษย์ คือคนที่ถูกมนุษย์หลอกเสียจนเข็ด” คำพูดแทงใจดำ
ของชิดชบาทำให้ปฐวีถึงกับหน้าสลด รีบหันหลังให้ กลัวเธอจะเห็นความอ่อนแอ
“คุยว่ารู้จักปารีสดี แล้วทำไมคุณไม่ทำหน้าที่มัคคุเทศก์พาผมเที่ยวปารีสล่ะ”
ooooooo
รุ่งขึ้น ชิดชบารับหน้าที่ไกด์จำเป็นพาปฐวีทัวร์กรุงปารีสอย่างที่รับปากไว้ อธิบายสถานที่ท่องเที่ยวได้คล่องแคล่วราวกับไกด์อาชีพ ไล่ตั้งแต่หอไอเฟลเรื่อยไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ซึ่งเป็นที่เก็บงานศิลปะมากมาย รวมทั้งภาพเขียนอันลือลั่นและลึกลับเหมือนเขา
“เหมือนผมหรือ ผมลึกลับตรงไหน”
“คุณลึกลับตรงที่นัยน์ตาของคุณซ่อนอะไรไว้ในใจเยอะแยะ แล้วรอยยิ้มของคุณก็...ช่างน่าสะพรึง”
อ่านต่อได้ที http://www.thairath.co.th/ent/novel/maisinraifaiswart/ch1
ฝากติดตามละคร "ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท" ตอนแรก วันที่ 17 มี.ค.58 นี้ หน้าจอ 7 สี จร้าาาา