คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เล่าจ๋องถูกฆ่าเป็นเรื่องแต่งที่ปรากฏในสามก๊กฉบับนิยายของหลัวกว้านจงเท่านั้นครับ
ตามประวัติศาสตร์ โดยปกติถ้าเจ้าเมืองหรือขุนศึกยอมสวามิภักดิ์แต่โดยดี โจโฉจะชุบเลี้ยงไว้โดยไม่ทำอันตราย และมักจะตั้งให้มีบรรดาศักดิ์สูงๆ เพียงแต่โยกย้ายจากเขตอิทธิพลเดิมเท่านั้น ขุนศึกรายย่อยหลายคนมักมีโอกาสรับราชการในราชสำนักจนมีตำแหน่งสูงได้ เช่น
เตียวสิ้ว (張繡 จางสิ้ว) ได้ยอมสวามิภักดิ์ต่อโจโฉในช่วงศึกกัวต๋อตามคำแนะนำของกาเซี่ยง แม้ว่ากาเซี่ยงจะเคยทำศึกกับโจโฉจนทำให้โจโฉแพ้ย่อยยับ ทำให้โจงั่ง โจอั๋นบิ๋น และเตียนอุยต้องตาย แต่โจโฉก้าวข้ามความแค้นในอดีต จับมือจัดงานเลี้ยงต้อนรับเตียวสิ้วอย่างดี ให้ลูกชายคือเฉาจวิน (曹均) แต่งงานกับลูกสาวเตียวสิ้ว และแต่งตั้งเตียวสิ้วเป็นขุนพลขจรยุทธ (揚武將軍 หยางอู่เจียงจวิน) ในศึกกัวต๋อเตียวสิ้วสู้รบมีความชอบได้เลื่อนเป็ย ขุนพลพิชิตเชียง (ผัวเชียงเจียงจวิน 破羌將軍)
เตียวสิ้วได้ติดตามโจโฉรบชนะอ้วนถำที่หนานผี (南皮) ได้บำเหน็จศักดินารวมทั้งสิ้น 2,000 ครัวเรือน ทั้งนี้เวลานั้นประชากรเบาบางลงมากเหลือเพียงหนึ่งในสิบจากอดีต ขุนพลทั้งหลายมีศักดินาไม่ถึงพันครัวเรือน แต่เตียวสิ้วกลับได้มากเป็นพิเศษ เตียวสิ้วยังติดตามโจโฉไปทำศึกกับชนเผาอูหวนที่เมืองลิ่วเฉิง (柳城) แต่ตายก่อนไปถึง ได้สมัญญานามว่า ติ้งโหว (定侯) หรือ "โหวผู้แน่วแน่" บุตรชายได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อ (จดหมายเหตุเว่ยเลวี่ย (魏略) ระบุว่า เตียวสิ้วเคยเชิญโจผีไปพบหลายครั้ง จนโจผีโกรธกล่าวว่า "ท่านฆ่าพี่ข้า เหตุใดยังทนแบกหน้ามองผู้คนได้อีก" ทำให้เตียวสิ้วใจไม่สงบ แล้วฆ่าตัวตาย)
ม้าเท้ง (馬騰 หม่าเถิง) หลังจากยอมอ่อนน้อมต่อโจโฉ ถูกเรียกให้มาประจำการที่อำเภอหฺวายหลี่ (槐里) ในจังหวัดโย่วฝูเฟิง (右扶風) หนึ่งในสามเขตของกวนจง เลื่อนเป็นขุนพลฝ่ายหน้า (前將軍) ถือคฑาอาญาสิทธิ์ มีบรรดาศักดิ์หฺวายหลี่โหว (槐里侯) ม้าเท้งเตรียมการป้องกันโจรหูทางเหนือ ป้องกันทหารม้าขาวเซียนเปยทางตะวันออก อุปถัมภ์บัณฑิตและผู้มีความสามารถ เห็นใจช่วยเหลือราษฎร ผู้คนในสามเขตของกวนกงเคารพรักม้าเท้งมาก
รัชศกเจี้ยนอันที่ 13 (ค.ศ. 208) โจโฉจะยกทัพลงใต้แต่ยังเกรงม้าเท้งในกวนจง จึงเชิญม้าเท้งมารับราชการในราชสำนักฮั่น ตัวม้าเท้งตอนนั้นมีปัญหากับหันซุยและเห็นว่าตัวเองแก่แล้ว จึงยอมลงมาอยู่ที่เมืองหลวงได้รับตำแหน่งเว่ยเว่ย (衛尉) ผู้บัญชาการทหารรักษาพระราชวัง ม้าเฉียวได้เป็นขุนพลผู้ช่วย (偏將軍) มีบรรดาศักดิ์ตูถิงโหว (都亭侯) ควบคุมกองทัพในเหลียงโจวแทนบิดา ม้าฮิวได้เป็นเฟิงเชอตูเว่ย (奉車都尉) ผู้บัญชาการราชรถ ม้าเทียดได้เป็นนายกองทหารม้าเหล็ก (鐵騎都尉) ครอบครัวทั้งหมดย้ายไปอยู่ที่เย่เฉิง (鄴城 เงียบกุ๋น) เมืองเอกของมณฑลจี้โจว ศูนย์กลางอำนาจของโจโฉ มีแต่ม้าเฉียวยังอยู่ที่เหลียงโจวกับหันซุย แต่ภายหลังถูกประหารเพราะม้าเฉียวกบฏต่อราชสำนัก ไม่เหมือนในวรรณกรรมที่โจโฉฆ่าม้าเท้งก่อนจนม้าเฉียวโกรธยกมาชำระแค้น
เตียวฬ่อ (張魯 จางหลู่) เนื่องจากโจโฉเห็นว่าเป็นคนจิตใจดี ไม่เผาทำลายทรัพย์สินและยุ้งฉางของแผ่นดิน จึงเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้ แล้วแต่งตั้งเป็นขุนพลพิทักษ์ทักษิณ (鎮南將軍 เจิ้นหนานเจียงจวิน) มีบรรดาศักดิ์ล่างจงโหว (閬中侯) ถือศักดินาหมื่นครัวเรือน ให้การปฏิบัติอย่างแขกผู้มีเกียรติ ตั้งลูกชายเตียวฬ่อทั้งห้าคนและขุนนางของเตียวฬ่อเป็นเลี่ยโหว (列侯) หรือโหวกินศักดินา และให้ลูกชายคือโจฮู (曹宇 เฉาอวี๋) แต่งงานกับลูกสาวของเตียวฬ่อด้วย เรื่องนี้นักประวัติศาสตร์ในราชวงศ์หลังอย่างสีจั้วฉื่อ (習鑿齒) และเผยซงจือ (裴松之) วิจารณ์ว่าโจโฉปูนบำเหน็จมากเกินไป หลังเตียวฬ่อตายแล้ว ได้สมัญญานามว่า หยวนโหว (原侯) หรือ "โหวผู้เริ่มต้น" บุตรชายได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อ
เล่าจ๋อง (劉琮 หลิวฉง) อ้างอิงจากจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่วตอนประวัติเล่าเปียว เล่าจ๋องยอมแพ้โจโฉแต่โดยดี โจโฉตั้งเล่าจ๋องเป็นผู้ตรวจการมณฑลชิงโจว (青州刺史) มีบรรดาศักดิ์เป็นเลี่ยโหว
เผยซงจือนักประวัติศาสตร์สมัยหลิวซ่งได้ทำอรรถาธิบายจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่วเพิ่มเติม อ้างจดหมายเหตุเว่ยอู่กู้ซื่อ (魏武故事) บันทึกคำสั่งแต่งตั้งเล่าจ๋องว่า เล่าจ๋องมีคุณความดีหลายอย่าง แต่คิดว่าตนเองไม่สมควรได้รับและขอกลับไปอยู่มณฑลเดิมของตน ราชสำนักเห็นว่าตำแหน่งผู้ตรวจการมณฑลของเล่าจ๋องเป็นตำแหน่งสำคัญ แต่ผลตอบแทนในตำแหน่งไม่สูงมาก จึงยินยอมแล้วเลื่อนตำแหน่งให้เป็นเจี้ยนอี้ต้าฟู (諫議大夫) ที่ปรึกษาฝ่ายทัดทานในราชสำนัก ควบตำแหน่งที่ปรึกษาทางการทหาร (參同軍事) ไม่ได้ถูกลวงไปฆ่าแต่อย่างใด
อองลอง (王朗 หวังหล่าง) เดิมเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดไขว้จี (會稽) ที่ถูกซุนเซ็กปราบ ภายหลังถูกโจโฉดึงตัวมารับราชการ ได้รับตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งในรัฐศักดินาเว่ย (วุยก๊ก) ของโจโฉ เมื่อโจผีสืบทอดตำแหน่งอ๋อง ได้เลื่อนเป็นอวี้สื่อต้าฟู (御史大夫) สมุหพระอาลักษณ์ตำแหน่งรองอัครมหาเสนาบดี เมื่อโจผีครองราชย์ได้เปลื่ยนชื่อตำแหน่งเป็นซือคง (司空) เสนาบดีโยธาธิการ เป็นหนึ่งในตำแหน่งซานกง (三公) สามมหาเสนาบดีซึ่งเป็นตำแหน่งเกียรติยศระดับสูง ในสมัยโจยอยได้เลื่อนเป็นซือถู (司徒) เสนาบดีพลเรือนซึ่งเป็นซานกงเหมือนกัน อองลองเป็นบัณฑิตเสนาบดีคนสำคัญที่ได้รับการยกย่องมากในยุคนั้น
ซุนกวน (孫權 ซุนเฉวียน) เป็นขุนศึกใหญ่ที่มีอิทธิพลมาก ในกรณีที่ยอมสวามิภักดิ์ คิดว่าน่าจะไม่ต่างจากเตียวฬ่อ คงถูกย้ายออกจากฐานอำนาจของตนเอง ได้เป็นโหวเป็นขุนพลระดับสูง กินศักดินาหมื่นครัวเรือน แต่ปราศจากอำนาจโดยแท้จริง และไม่น่าจะเป็นที่วางใจให้รับราชการในตำแหน่งราชการที่มีอำนาจบริหาร
โลซกเคยพูดเรื่องนี้กับซุนกวนเมื่อโจโฉเสนอให้ยอมแพ้ว่า หากเป็นคนอย่างโลซกยอมแพ้ ก็คงถูกส่งตัวให้กลับบ้านเมืองเดิม ยังมีโอกาสได้รับราชการ ได้นั่งรถเทียมวัว มีขุนนางรับใช้ สามารถไต่เต้าจนมีตำแหน่งเป็นกรมการหัวเมือง แต่ถ้าซุนกวนยอมแพ้อะไรเกิดขึ้น
ตามประวัติศาสตร์ โดยปกติถ้าเจ้าเมืองหรือขุนศึกยอมสวามิภักดิ์แต่โดยดี โจโฉจะชุบเลี้ยงไว้โดยไม่ทำอันตราย และมักจะตั้งให้มีบรรดาศักดิ์สูงๆ เพียงแต่โยกย้ายจากเขตอิทธิพลเดิมเท่านั้น ขุนศึกรายย่อยหลายคนมักมีโอกาสรับราชการในราชสำนักจนมีตำแหน่งสูงได้ เช่น
เตียวสิ้ว (張繡 จางสิ้ว) ได้ยอมสวามิภักดิ์ต่อโจโฉในช่วงศึกกัวต๋อตามคำแนะนำของกาเซี่ยง แม้ว่ากาเซี่ยงจะเคยทำศึกกับโจโฉจนทำให้โจโฉแพ้ย่อยยับ ทำให้โจงั่ง โจอั๋นบิ๋น และเตียนอุยต้องตาย แต่โจโฉก้าวข้ามความแค้นในอดีต จับมือจัดงานเลี้ยงต้อนรับเตียวสิ้วอย่างดี ให้ลูกชายคือเฉาจวิน (曹均) แต่งงานกับลูกสาวเตียวสิ้ว และแต่งตั้งเตียวสิ้วเป็นขุนพลขจรยุทธ (揚武將軍 หยางอู่เจียงจวิน) ในศึกกัวต๋อเตียวสิ้วสู้รบมีความชอบได้เลื่อนเป็ย ขุนพลพิชิตเชียง (ผัวเชียงเจียงจวิน 破羌將軍)
เตียวสิ้วได้ติดตามโจโฉรบชนะอ้วนถำที่หนานผี (南皮) ได้บำเหน็จศักดินารวมทั้งสิ้น 2,000 ครัวเรือน ทั้งนี้เวลานั้นประชากรเบาบางลงมากเหลือเพียงหนึ่งในสิบจากอดีต ขุนพลทั้งหลายมีศักดินาไม่ถึงพันครัวเรือน แต่เตียวสิ้วกลับได้มากเป็นพิเศษ เตียวสิ้วยังติดตามโจโฉไปทำศึกกับชนเผาอูหวนที่เมืองลิ่วเฉิง (柳城) แต่ตายก่อนไปถึง ได้สมัญญานามว่า ติ้งโหว (定侯) หรือ "โหวผู้แน่วแน่" บุตรชายได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อ (จดหมายเหตุเว่ยเลวี่ย (魏略) ระบุว่า เตียวสิ้วเคยเชิญโจผีไปพบหลายครั้ง จนโจผีโกรธกล่าวว่า "ท่านฆ่าพี่ข้า เหตุใดยังทนแบกหน้ามองผู้คนได้อีก" ทำให้เตียวสิ้วใจไม่สงบ แล้วฆ่าตัวตาย)
ม้าเท้ง (馬騰 หม่าเถิง) หลังจากยอมอ่อนน้อมต่อโจโฉ ถูกเรียกให้มาประจำการที่อำเภอหฺวายหลี่ (槐里) ในจังหวัดโย่วฝูเฟิง (右扶風) หนึ่งในสามเขตของกวนจง เลื่อนเป็นขุนพลฝ่ายหน้า (前將軍) ถือคฑาอาญาสิทธิ์ มีบรรดาศักดิ์หฺวายหลี่โหว (槐里侯) ม้าเท้งเตรียมการป้องกันโจรหูทางเหนือ ป้องกันทหารม้าขาวเซียนเปยทางตะวันออก อุปถัมภ์บัณฑิตและผู้มีความสามารถ เห็นใจช่วยเหลือราษฎร ผู้คนในสามเขตของกวนกงเคารพรักม้าเท้งมาก
รัชศกเจี้ยนอันที่ 13 (ค.ศ. 208) โจโฉจะยกทัพลงใต้แต่ยังเกรงม้าเท้งในกวนจง จึงเชิญม้าเท้งมารับราชการในราชสำนักฮั่น ตัวม้าเท้งตอนนั้นมีปัญหากับหันซุยและเห็นว่าตัวเองแก่แล้ว จึงยอมลงมาอยู่ที่เมืองหลวงได้รับตำแหน่งเว่ยเว่ย (衛尉) ผู้บัญชาการทหารรักษาพระราชวัง ม้าเฉียวได้เป็นขุนพลผู้ช่วย (偏將軍) มีบรรดาศักดิ์ตูถิงโหว (都亭侯) ควบคุมกองทัพในเหลียงโจวแทนบิดา ม้าฮิวได้เป็นเฟิงเชอตูเว่ย (奉車都尉) ผู้บัญชาการราชรถ ม้าเทียดได้เป็นนายกองทหารม้าเหล็ก (鐵騎都尉) ครอบครัวทั้งหมดย้ายไปอยู่ที่เย่เฉิง (鄴城 เงียบกุ๋น) เมืองเอกของมณฑลจี้โจว ศูนย์กลางอำนาจของโจโฉ มีแต่ม้าเฉียวยังอยู่ที่เหลียงโจวกับหันซุย แต่ภายหลังถูกประหารเพราะม้าเฉียวกบฏต่อราชสำนัก ไม่เหมือนในวรรณกรรมที่โจโฉฆ่าม้าเท้งก่อนจนม้าเฉียวโกรธยกมาชำระแค้น
เตียวฬ่อ (張魯 จางหลู่) เนื่องจากโจโฉเห็นว่าเป็นคนจิตใจดี ไม่เผาทำลายทรัพย์สินและยุ้งฉางของแผ่นดิน จึงเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้ แล้วแต่งตั้งเป็นขุนพลพิทักษ์ทักษิณ (鎮南將軍 เจิ้นหนานเจียงจวิน) มีบรรดาศักดิ์ล่างจงโหว (閬中侯) ถือศักดินาหมื่นครัวเรือน ให้การปฏิบัติอย่างแขกผู้มีเกียรติ ตั้งลูกชายเตียวฬ่อทั้งห้าคนและขุนนางของเตียวฬ่อเป็นเลี่ยโหว (列侯) หรือโหวกินศักดินา และให้ลูกชายคือโจฮู (曹宇 เฉาอวี๋) แต่งงานกับลูกสาวของเตียวฬ่อด้วย เรื่องนี้นักประวัติศาสตร์ในราชวงศ์หลังอย่างสีจั้วฉื่อ (習鑿齒) และเผยซงจือ (裴松之) วิจารณ์ว่าโจโฉปูนบำเหน็จมากเกินไป หลังเตียวฬ่อตายแล้ว ได้สมัญญานามว่า หยวนโหว (原侯) หรือ "โหวผู้เริ่มต้น" บุตรชายได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อ
เล่าจ๋อง (劉琮 หลิวฉง) อ้างอิงจากจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่วตอนประวัติเล่าเปียว เล่าจ๋องยอมแพ้โจโฉแต่โดยดี โจโฉตั้งเล่าจ๋องเป็นผู้ตรวจการมณฑลชิงโจว (青州刺史) มีบรรดาศักดิ์เป็นเลี่ยโหว
เผยซงจือนักประวัติศาสตร์สมัยหลิวซ่งได้ทำอรรถาธิบายจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่วเพิ่มเติม อ้างจดหมายเหตุเว่ยอู่กู้ซื่อ (魏武故事) บันทึกคำสั่งแต่งตั้งเล่าจ๋องว่า เล่าจ๋องมีคุณความดีหลายอย่าง แต่คิดว่าตนเองไม่สมควรได้รับและขอกลับไปอยู่มณฑลเดิมของตน ราชสำนักเห็นว่าตำแหน่งผู้ตรวจการมณฑลของเล่าจ๋องเป็นตำแหน่งสำคัญ แต่ผลตอบแทนในตำแหน่งไม่สูงมาก จึงยินยอมแล้วเลื่อนตำแหน่งให้เป็นเจี้ยนอี้ต้าฟู (諫議大夫) ที่ปรึกษาฝ่ายทัดทานในราชสำนัก ควบตำแหน่งที่ปรึกษาทางการทหาร (參同軍事) ไม่ได้ถูกลวงไปฆ่าแต่อย่างใด
อองลอง (王朗 หวังหล่าง) เดิมเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดไขว้จี (會稽) ที่ถูกซุนเซ็กปราบ ภายหลังถูกโจโฉดึงตัวมารับราชการ ได้รับตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งในรัฐศักดินาเว่ย (วุยก๊ก) ของโจโฉ เมื่อโจผีสืบทอดตำแหน่งอ๋อง ได้เลื่อนเป็นอวี้สื่อต้าฟู (御史大夫) สมุหพระอาลักษณ์ตำแหน่งรองอัครมหาเสนาบดี เมื่อโจผีครองราชย์ได้เปลื่ยนชื่อตำแหน่งเป็นซือคง (司空) เสนาบดีโยธาธิการ เป็นหนึ่งในตำแหน่งซานกง (三公) สามมหาเสนาบดีซึ่งเป็นตำแหน่งเกียรติยศระดับสูง ในสมัยโจยอยได้เลื่อนเป็นซือถู (司徒) เสนาบดีพลเรือนซึ่งเป็นซานกงเหมือนกัน อองลองเป็นบัณฑิตเสนาบดีคนสำคัญที่ได้รับการยกย่องมากในยุคนั้น
ซุนกวน (孫權 ซุนเฉวียน) เป็นขุนศึกใหญ่ที่มีอิทธิพลมาก ในกรณีที่ยอมสวามิภักดิ์ คิดว่าน่าจะไม่ต่างจากเตียวฬ่อ คงถูกย้ายออกจากฐานอำนาจของตนเอง ได้เป็นโหวเป็นขุนพลระดับสูง กินศักดินาหมื่นครัวเรือน แต่ปราศจากอำนาจโดยแท้จริง และไม่น่าจะเป็นที่วางใจให้รับราชการในตำแหน่งราชการที่มีอำนาจบริหาร
โลซกเคยพูดเรื่องนี้กับซุนกวนเมื่อโจโฉเสนอให้ยอมแพ้ว่า หากเป็นคนอย่างโลซกยอมแพ้ ก็คงถูกส่งตัวให้กลับบ้านเมืองเดิม ยังมีโอกาสได้รับราชการ ได้นั่งรถเทียมวัว มีขุนนางรับใช้ สามารถไต่เต้าจนมีตำแหน่งเป็นกรมการหัวเมือง แต่ถ้าซุนกวนยอมแพ้อะไรเกิดขึ้น
แสดงความคิดเห็น
(สามก๊ก) หาก ซุนกวน ยอมสวามิภักดิ์ ต่อโจโฉ ก่อนศึก ผาเเดง จะเป็นแบบเล่าจ๋อง ไหมครับ???
หรือจะมีจุดจบแบบเล่าจ๋อง เจ้าเมืองเกงจิ๋ว ที่โดนอิกิ๋ม (โจโฉา ส่งมา) ดักสังหาร ล้างโครต กลางทาง
ส่วนตัวผมคิดว่า ไม่น่ารอด ขนาดเตียวสิ้ว ยังหายไปในประวัติศาสตร์เลย(แม้จะไม่ๆได้ระบุว่าโดนฆ่า แต่อาจโดนเก็บไปก็ได้)
ทุกท่านคิดว่าไงครับ???