ค่านิยมเปลี่ยนไปทำให้เด็กวัยรุ่น. ก้าวร้าวมากขึ้น

น้องชายตัวเองเลยคะ. กลับบ้าน ดึกทุกวัน มีค่านิยมกับตัวเองแปลกๆ ต้องทำตัวให้รวย ดูดีเท่านั้น.  ยกตัวอย่างไปโรงเรียนต้องขับรถไป.   ใช้ของแบรนด์เน้มแท้  ใช้เงินวันล่ะ500 ทุกวัน ไม่สนใจว่าแม่. ทานข้าวยัง แม่เหนื่อยไหม. แม่ผมช่วยงานแม่ไหม แม่เข้าห้องน้ำยัง ผมเฝ้านร้านให้ ไม่เคยมีเลย. ทุกๆเทศกาลที่ร้านจะให้ลูกน้องหยุด แต่ร้านต้องดำเนินต่อไป  เพราะเช็คตัดโนน่นี่นั้น. เราขายกับแม่ 2คน น้องโน่นปาร์ตี้บ้านเพี่อน บ้านแฟน  พอแม่ไม่มีเวลา น้องก้าวร้าวมาก  เตือนไม่ฟัง  ชอบอวดรวย เช่นของมีค่าของคนอื่น ก็ถ่ายรูปลงเฟสให้คนอื่นเข้าใจผิด       เพื่อนในวัยน้องเหมือนกัน แยกแยะอะไรไม่เป็น ว่าอะไรควรทำไม่ทำ. จะมีเพื่อนน้องคนนึง. มานั่งโต๊ะทำงานของแม่ ตามหลักคนจีนบ้านเราถือเรื่องนี้มาก นั่งไม่พอเอาขาพาดอีก   แม่ให้เกียรติไม่เตือนเองพราะรู้ว่าถ้าเตือนเเล้ว จะยาว. แต่แม่ให้น้องเตือน น้องไม่เตือน น้องเชื่อมันตัวเองสูงมากๆ เชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันเจ๋งสุดๆ ใครเตือนมา ด่าเค้าอีกว่าเค้าโง่  เราจะเตือนน้องเวลาขับรถห้ามขับย้อนซอนนะ  ห้ามขับรถแล้วเล่น line. ไป ห้ามกลับรถในที่ห้ามกลับ  ช่วยแม่ประหยัดเช่นนั่งรถตู้ไปเรียน ประหยัดค่าขนมกินข้าวที่บ้าน  เราจะเตือนทุกครั้งเวลาน้องโพสเฟสแปลกๆด้วยความหวังดี เช่น ถ่ายรูปกับเงินที่ร้านแล้วโพส ถ่ายแหวนเพขรของแม่ ถ่ายเพื่อความอวดต่างๆ แต่น้องหลังๆมาปากพูดจาได้แย่มากกกก   แม่เราคนจีนจะรักลูกชายมากแต่ลูกชายพูดให้เสียใจมากๆ  เราคิดว่าทั้งหมดทั้งมวลมาจากค่านิยมที่เปลี่ยนไปของเด็กๆสมัยนี้   เช่นเด็กๆวัยนี้เล่นเกมส์จนติดเกมส์ เห็นเพื่อนทำอยากทำบ้าง ติดเทคโนโลยีต่างๆ แยกไม่เอาว่าใครรักเราแท้จริง  ก้าวร้าวจนมองว่าเป็นคนที่แย่ในสายตาของผู้ใหญ่   ชอบทำอะไรที่แปลกๆ   ดูว่าผมมมนี้เจ๋งที่สุด เราว่าการที่เราเล่นเทคโนโลยีมากเกินไปติดเกมส์ ทำให้นิสัยน่ารักๆของเราวัยเด็กหายไปลดไป. เราจะมีการปฎิสัมพันธ์กับคนในบ้านน้อย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่