วัฒนธรรมไทยเด็กห้ามเถียง ห้ามโต้แย้ง ผู้ใหญ่แม้ว่า ผู้ใหญ่จะทำผิด และเวลามีสิ่งใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงคนไทยหัวเก่าจะต่อต้าน

จะบอกว่า ไม่ควรไม่เหมาะกับสังคมไทย


ทำแบบนี้เป็นเรื่องไร้สาระ    ทำไมไมเรียนให้ได้ที่ 1 เป็นเจ้าคนนายคน

ไปคิดทำไม เรื่องระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยแปลภาษา

หรือทำเครื่องอ่านอักษรแปล ผู้ใหญ่บางคนก็จะว่า  เสียเวลาทำไป ก็ไม่รวยได้เงินน้อย

เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า..


หรือคนที่ มารณรงค์เรื่องช่วยกันลดโลกร้อน  ทำกิจกรรมเพื่อสังคม ผู้ใหญ่บางกลุ่มก็มองว่า

เด็กพวกนี้บ้านก็ไม่รวยอะไร  จะมาทำเรื่องไร้สาระพวกนี้ทำไม   ไปหาเงินให้รวยๆ ก็ซื้อความสะดวกสะบายได้แล้ว

ไม่ต้องมา รณรงค์ให้เหนื่อย


... ผู้ใหญ่หัวเก่า  จะชอบดูละครเดิมๆ ซ้ำๆ อย่างดาวพระศุกร์   สวรรคเบี่ยง  พระเอกข่มขืนนางเอก  การข่มขืนกลายเป็นไม่ผิดกฏหมาย  
นางเอกเลยรัก   จบแบบแฮปปี้แอนดิ้ง  



หรืออย่าง คนเขียนบท ให้มือปืนมายิงรถ ยิงทีรถระเบิดตีลังกา ขัดกับหลักวิทยาศาสตร์เลย

.หรืออย่างถ้า มีการเสนอแนวคิดหรือการปรับปรุงอะไร ใหม่ๆ  มักจะถูกต่อต้านไว้ก่อน


แต่ถ้าเป็น ญี่ปุ่น   เค้ามีเสรีทางความคิด   ถ้ามีการเอาของเดิมมาปรับปรุงก็มาดูอีกทีว่าออกมาแล้วด๊กว่าของเดิมหรือน่าสนใจเพิ่มขึ้นหรือไม่


อย่างเช่น  การ์ตูน เอามา รีเมคใหม่   เนื้อเรื่องก็ปรับปรุงดีขึ้น หรือบางเรื่องกาณรื้อทำใหม่เลย

บางเรื่อง ใช้ชื่อเรื่องเดิม  แต่เอามาสร้างใหม่หลายๆครั้ง  ในหลายๆ มุมมอง

บางครั้งเอาเพลงจากการ์ตูน มาร้องในโรงละคร   มาเล่นเป็นออเคสตร้า    เอาไปแสดงเพลงมาร์ซ  ก็มี


..

แล้วสังคมไทยละ  คิดว่าคนไทยส่วนใหญ่การย้อมรับสิ่งใหม่ๆ  ได้ง่าย หรือค้านไว้ก่อน


เวชั่น เก่า.


ญี่ปุ่น  เค้ากล้าให้เอามาแสดงได้      ถ้าเป็นเมืองไทย  คงบอกว่านิมันเพลงจากการ์ตูน จะเอามาโชว์ได้ไง




การให้เสรีภาพและการแสดงออก   และการมีการศึกษา  ไม่ถูกปิดกั้นให้อยู่แต่ในกรอบ

ทำให้สังคมญี่ปุ่น  พัฒนาระบบเศรษฐกิจ   และเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ   ได้มากกว่า ประเทศไทยด้วยใช่หรือไม่

ทั้งที่ญ่ปุ่นก็แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องมาฟื้นฟูประเทศกันใหม่หมด

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเเพราะ ความมีวินัย  และ ชาตินิยมสูงใช่หรือไม่