ให้เด้งด่วน ผบก.ตม.2 ออนไลน์แฉทำเครื่องบินดีเลย์

กรณีสื่อออนไลน์แฉ! ทำเครื่องบินดีเลย์อื้อ ไม่พอใจไม่ให้ส่งเมีย

ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งโยก ผบก.ตม.2 สตม. ไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก.ตร.ด่วน หลังถูกสื่อออนไลน์โจมตีแกล้งเซ็นอนุญาตปล่อยเครื่องบินของสายการบินไทยทีละเที่ยว ทำให้เครื่องดีเลย์ เหตุจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ ดูแลเที่ยวบินไม่อนุญาตให้ไปส่งภรรยาถึงประตูเครื่อง ด้านโฆษก ตร.ที่เดินทางมามอบนโยบายและปรับเปลี่ยนวิธีการส่งเอกสารการปล่อยเที่ยวบิน ระบุข้อมูลที่โพสต์ในโลกออนไลน์ไม่เป็นความจริง เจ้าตัวบอกต้องการเข้าไปทักทายผู้ใหญ่ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่อนุมัติก็เดินทางกลับออกมา

ที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มี.ค. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร. เรียกประชุมระดับรอง ผบก.-สว.ในสังกัด บก.ตม.2 สตม.ที่รับผิดชอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อมอบนโยบายการทำงานและปรับระบบการส่งเอกสารตรวจสอบก่อนปล่อยเที่ยวบิน ใช้เวลาประชุม 2 ชั่วโมง

ภายหลัง พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ ผบก.ตม.2 สตม.มาปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ตร. และให้ พล.ต.ต.นุชิต ศรีสมพงษ์ รอง ผบช.สตม. รรท.ผบก.ตม.2 สตม. เนื่องจากปัญหาที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกสื่อออนไลน์เกี่ยวกับความขัดแย้งของตำรวจ บก.ตม.2 สตม. กับเจ้าหน้าที่สายการบินไทย ทาง ผบ.ตร.จึงมีคำสั่งให้ตนลงมาดูแลและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเรื่องดังกล่าวเชื่อว่ามาจากการเข้าใจผิดในการทำงาน จึงปรับเปลี่ยนการส่งเอกสารในปล่อยเที่ยวบินจากเดิม ให้มาเป็นส่งทางระบบออนไลน์แทน ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจสามารถตรวจสอบและเซ็นปล่อยได้ทันทีโดยใช้เวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะเริ่มใช้กับสายการบินไทยก่อนในสัปดาห์หน้า เนื่องจากเป็นสายการบินที่มีเที่ยวบินเข้าออกมากที่สุด ทำให้ปัญหาเรื่องความล่าช้าในการส่งรายชื่อผู้โดยสารตรวจสอบกับ ตม.มีความรวดเร็วมากขึ้น

สำหรับการตรวจสอบว่า ผบก.ตม.2 ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าข้อมูลที่โพสต์ในโลกออนไลน์ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบ ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ ผบก.ตม.2 สตม.ไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ก่อน จนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ

ส่วนที่มีการระบุสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินดีเลย์มาจากความขัดแย้งของ ผบก.ตม.2 กับสายการบินไทย ที่ไม่พอใจในเรื่องการขอเข้าไปส่งภรรยาในพื้นที่หวงห้ามตามที่สื่อออนไลน์เสนอข่าวนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งหรือกลั่นแกล้ง แต่เป็นขั้นตอนการทำหน้าที่ สตม.อนุญาตให้เครื่องบิน ออกนอกราชอาณาจักร ต้องทำให้รัดกุมในการตรวจสอบ ผู้โดยสาร เป็นระบบสากลที่ใช้เท่าเทียมกันในสายการบินทุกแห่งที่เข้ามาใช้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ประชุมได้สร้างความเข้าใจและวางระบบให้ถูกต้องมากสุด อาจมีผลกระทบต่อความล่าช้าของผู้โดยสารในบางเที่ยว ต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบของ สตม.และสายการบินทุกแห่งเพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เท่าที่สอบถาม ผบก.ตม.2 สตม. พบว่าไม่ได้เดินทางไปส่งภรรยา แต่ต้องการเข้าไปทักทายผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เดินทางโดยสารเครื่องบินของสายการบินไทยและได้ขออนุมัติเจ้าหน้าที่สายการบินไทยเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ ทั้งที่บัตรอนุญาตของ ผบก.สามารถเดินทางเข้าไปได้ ซึ่งเมื่อไม่ได้รับคำตอบก็เดินทางกลับออกมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สืบเนื่องจากสื่อออนไลน์นำเสนอเรื่องราวของนายตำรวจผู้ใหญ่ที่ถือบัตรดูแลความปลอดภัยหมายเลข 6 หรือบัตรหมายเลข 6 เพื่อเข้าไปส่งภรรยาที่ประตูเครื่องของสายการบินไทย โดยนายตำรวจรายนี้ส่งเรื่องขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมดูแลเที่ยวบิน แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตทำให้นายตำรวจรายนี้เกิดความไม่พอใจ เซ็นอนุญาตปล่อยเครื่องบินของสายการบินไทยจากเดิมครั้งละหลายเที่ยวบินมาปล่อยทีละเที่ยวบิน โดยเป็นการอนุมัติครั้งละเที่ยวบินที่มีการตรวจสอบรายละเอียดของผู้โดยสาร ทำให้เครื่องบินดีเลย์กว่า 50 เที่ยวบิน จนผู้โดยสารโวยวายเจ้าหน้าที่สายการบินไทยและมีการนำข้อความมาโพสต์แฉ

ที่มาของข่าว http://www.thairath.co.th/content/485002
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่