ได้ยินชื่อเสียงของร้าน Porcupine Café มานานแล้วแต่ไม่เคยมีโอกาสได้แวะมาสักที คราวนี้ตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องมาลองชิมให้ได้เลยตัดสินตามรอยเพื่อนๆในวงในมาลองดูสักครั้ง

ร้าน Porcupine Café ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 7 (อยู่ระหว่างซอยอารีย์ 3และซอยอารีย์ 4 ติดกับร้าน Salt)
โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. ไม่มีที่จอดรถนะคะ ต้องอาศัยจอดข้างทางเอาค่ะ

สไตล์การตกแต่งร้านจะเป็นแบบ DIY Concept ด้วยการทำผนังปูนปั้นมีเท็กซ์เจอร์แปลกตาคล้ายถ้ำสีขาว

ส่วนเฟอร์นิเจอร์จะเน้นเป็นไม้ตัดกับสีของร้าน ดูสวยแปลกตาดีค่ะ ซึ่งทุกอย่างเจ้าของร้านล้วนลงมือออกแบบและทำด้วยตัวเองกับพวกเพื่อนๆค่ะ



ร้าน Porcupine Café จะเป็นร้านกาแฟกึ่งๆร้านขนม ผสมผสานกับอาหารเมนูที่ทานง่ายๆ ส่วนเครื่องดื่ม นอกจากกาแฟแล้วยังมีชา น้ำผลไม้ต่างๆซึ่งมีทั้งเฟรปเป้ และแบบอิตาเลี่ยนโซดา ส่วนขนมเค้กจะเป็นสไตล์โฮมเมดของเพื่อนๆเจ้าของร้านเอามาฝากขายค่ะ ดูน่ารักอบอุ่นดีค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนมาทานข้าวบ้านเพื่อนเลย


ที่นี้เรามาดูรายการอาหาร เครื่องดื่ม และขนมที่สั่งไปกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรกัน
ส่วนแรกจะเป็นรายการอาหาร มีดังนี้
- Ago Bacon (168฿) เป็นสปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งใส่เบคอน เส้นทำออกมาได้กำลังพอดีไม่เปื่อยเกินไป รสชาติกลมกล่อม กลางๆ ไม่เผ็ดเกินไปค่ะ

- Spinach-Cheese Bake (138฿) เป็นผักขมอบชีส เสิร์ฟมาร้อนๆ

ซึ่งชีสจะน้อยไปหน่อยค่ะ แต่ก็อร่อยดีค่ะ ออกเค็มๆมันๆทานแล้วฟินค่ะ

- Carbonara (188฿) เป็นสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ผัดออกมาได้สวยงามสีเหลืองนวล

ส่วนเส้นก็กำลังพอดี เสิร์ฟมาพร้อมเบคอนเยอะพอสมควรค่ะ รสชาติกลมกล่อมอร่อยดีค่ะ


ส่วนที่สองจะเป็นเครื่องดื่มที่สั่งไปจะเยอะหน่อยค่ะ เพราะอยากลองหลายๆอย่าง มีดังนี้
- Hot Mocha (Double 108฿) เป็นมอคค่าร้อนเพิ่มดับเบิ้ลช็อต กลิ่นหอมยวนใจ และให้รสสัมผัสถึงความเข้มข้นของกาแฟผสมช็อคโกแลตแบบเต็มๆ

- Ultramarine (88฿) เป็นอิตาเลี่ยนโซดา เสิร์ฟมาโดยมีน้ำตาลอยู่ตรงขอบแก้ว สีสันสวนงาม ออกสีเขียวครามเปรี้ยวนิดๆ ให้ความรู้สึกออกสดชื่นๆหน่อยค่ะ

- Passion Fruit Juice (98฿) เป็นน้ำเสาวรสนำมาปั่นทั้งเมล็ดจนละเอียด แล้วเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งเล็กน้อย รสชาติออกเปรี้ยวๆหวานๆ ใครที่ชอบแนว Passion Fruit แนะนำเลยค่ะ ทำออกมาได้รสชาติดีทีเดียวค่ะ


- Passion Fruit Frappe (108฿) เมนูนี้จะคล้ายๆกับ Passion Fruit Juice ต่างกันตรงที่นำไปปั่นพร้อมน้ำแข็งจนละเอียด ส่วนตัวชอบแบบนี้มากกว่าแบบ Passion Fruit Juice ค่ะ

- Fresh Red (118฿) เป็นชาแดง Rooibos ผสมน้ำแอปเปิ้ลและมะนาว ซึ่งชาแดงนี้จะนำเข้ามาจากแอฟริกา และมีจุดเด่นตรงที่ไม่มีคาเฟ่อีนค่ะ
เมนูนี้จะออกหวานๆเปรี้ยวๆกำลังดี ให้ความรู้สึกที่สดชื่นดีค่ะ


ทีนี้ส่วนสุดท้ายมาดูขนมกันบ้างค่ะ ที่เลือกไปมี 2 เมนูดังนี้
- Lime Tart (138฿) เป็นทาร์ตรสมะนาว ซึ่งเป็นทาร์ตยอดนิยมของผู้ที่ชอบความเปรี้ยว เสิร์ฟมาพร้อมซอสคาราเมลน่ารักๆ รสชาติดีแนะนำเลยค่ะ

- Raspberry Cheesecake (158฿) เป็นชีสเค้กรสราสป์เบอร์รี่ ตัวชีสเค้กจะออกเนื้อเน้นๆ เปรี้ยวหวานกำลังดีค่ะ


รสชาติ
- นอกจากร้านจะน่ารักแล้วยังสามารถทำอาหาร เครื่องดื่ม และขนมออกมาได้รสชาติดีทุกอย่างได้อีกด้วยค่ะ ถือได้ว่ามีดีที่หน้าตาและรสชาติเลยก็ว่าได้ค่ะ

ราคา
- ราคาจะออกกลางๆค่ะ แต่มีแอบแพงเป็นบางเมนูด้วยค่ะ

การบริการ
- เวลาสั่งอาหารและเครื่องดื่มต้องมาสั่งและจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ค่ะ หลังจากนั้นพนักงานจะมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะค่ะ

บรรยากาศ
- เรื่องบรรยากาศของร้านต้องยกให้ระดับ 10 เลยค่ะ เพราะทุกตารางนิ้วในร้านนี้ล้วนใส่ใจในสไตล์การตกแต่งเป็นอย่างมาก แถมเปิดเพลงคลอเบาๆ ทำให้เคลิ้ม ให้ความรู้สึกสบายๆดีค่ะ

ใครที่ผ่านมาแถวนี้ อย่าลืมแวะมาที่คาเฟ่แห่งนี้ดูนะคะ ร้านนี้มีดีที่ดีไซน์ อีกทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และขนมเค้ก ก็รสชาติดีด้วยค่ะ อร่อยแบบนี้ต้องรีบบอกต่อค่ะ


อ่านละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.wongnai.com/reviews/c8e5b3c8d842464290e50d1be41cc364

ร่วมแบ่งปันภาพเรื่องราวความอร่อยที่ได้ชิมมาเล่าให้ฟัง ได้ที่ #kinjubkinjib
หรือติดตามความอร่อยที่ IG: @kinjubkinjib และ Fan Page https://www.facebook.com/kinjubkinjib ค่ะ