ขอออกตัวก่อนนะคะ นี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ เพิ่งเคยเล่นพันทิปค่ะ แนะนำกันได้นะคะ
กระทู้นี้ที่ตั้งขึ้นมาก็เพื่อแชร์ประสบการณ์ของเราเองค่ะ อยากให้เป็นข้อมูลสำหรับใครหลายๆคนที่จะเอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เพื่อไม่ให้ถูกอู่ซ่อมรถหลอกแบบเราค่ะ มันให้เจ็บใจนักถ้าตอนนั้นเรารู้จักหาข้อมูลก่อนจะเชื่อคำพูดของอู่ก็คงจะดี ไม่น่าไปไว้ใจคำพูดของอู่เพียงเพราะเราเชื่อใจ ก็เคยไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ร้านนี้มาหลายครั้งก็ว่าโอเคไม่ได้ติดใจอะไร แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ก็ขอบอกเลยจะไม่ไปใช้บริการอีกแล้ว รู้สึกได้เลยว่าไม่ได้จริงใจกะลูกค้าจริงๆ
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าวันที่ 20 กพ ที่ผ่านมานี้เราเอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่อู่อู่หนึ่งที่ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันไม่ขอเอ่ยนาม(มีรูปดาว) ถ.พหลโยธิน แถวๆตรงข้ามซอยพหลโยธิน 58 (ซอยแอนเน็กซ์)ค่ะ เราก็เอาน้ำมันเครื่องไปเองปกติเพราะซื้อไปเองถูกกว่า ปกติจะไปกับพี่ค่ะแต่วันนั้นเราไปคนเดียวค่ะ พอช่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเสร็จก็เดินมาบอกเราว่าเสร็จแล้วนะครับและแนะนำว่าน้ำมันเกียร์ดำมากแล้วนะครับควรจะเปลี่ยน เราก้ถามรายละเอียดไปแบบน้ำมันเกียร์? อะไรยังไงหรอ? ด้วยความที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถเท่าไหร่ ช่างก้บอกมาคร่าวพอให้รู้จักน้ำมันเกียร์ประมาณว่ามันดำละก็จะไม่ดีต้องเปลี่ยน เราก็ถามราคาช่าง ช่างก้บอกว่าถ้าเปลี่ยนออกบางส่วน(แบบที่1)คือเอาน้ำมันเกียร์เก่าออกส่วนนึงประมาณ 4 ลิตร แล้วเทของใหม่ไปผสมก็ประมาณ 2,000-3,000 ราคาเป๊ะๆต้องเดินไปถามเคาเตอร์อีกที เราก็ถามด้วยความสงสัยแบบอ้าวเทของเก่าออกแล้วผสมของใหม่ไปปนมันจะดีหรอคะแบบไม่ต้องเปลี่ยนหมดหรอคะ ไม่เปนไรหรอคะ แบบกังวลว่าเปลียนแบบประหยัดหรอ? กั๊กๆน้ำมันดีส่วนเสียส่วนปนกันกลัวจะไปเข้าเคสเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย กลัวเกียร์จะพังเร็ว(นึกถึงน้ำมันเครื่อง)ช่างก้บอกว่ามันก็ทำให้น้ำมันใสขึ้นครับประมาณนั้นและแนะนำต่อแบบที่2 ช่างแนะนำว่าทางเราก็จะมีการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทั้งระบบครับ โดยเอาน้ำมันเก่าออกให้หมดแล้วใส่น้ำมันใหม่เข้าไปล้างละก็เติมน้ำมันใหม่หมดครับ วิธีนี้ก็จะดีกับเกียร์ครับ เราก็ถามไปว่าน้ำมันเกียร์ในรถมีกี่ลิตร(เพราะคิดอยู่ว่าต้องใช้เท่าไหร่เนี่ย เดวไปซื้อน้ำมันเกียร์จากร้านขายอะไหล่ที่ซื้อประจำดีกว่าเพราะเค้าขายถูก) ช่างก็บอกมีประมาณ 7-8 ลิตรครับแต่ต้องใช้ 10 ลิตรนะครับแบบเอาไว้ล้างระบบด้วยครับ เราก็ถามราคาช่างเค้าก็บอกว่าให้ไปถามเคาเตอร์ดีกว่าเพื่อความชัวร์ เราก้เดินไปถามพนักงานที่เคาเตอร์ว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์นี่เท่าไหร่คะ เค้าก็บอกราคามาประมาณ 2,000-3,000 น้ำมันแกลลอนนึง 4 ลิตร (แบบที่ช่างบอก) พอดีว่าผ่านมาหลายวันละเราจำราคาเป๊ะๆไม่ได้ เราก็เลยถามต่อว่าถ้าเอาน้ำมันเกียร์มาเองคิดเท่าไหร่คะ เค้าก้บอกว่าค่าแรง 100 บาทค่ะ (เราก็คิดในใจว่า โอ้วววไปซื้อน้ำมันเกียร์มาเองดีกว่าถูกกว่าชัวร์ ) ก้เลยถามต่อไปเพื่อความชัวร์ว่าและถ้าเปลี่ยนทั้งระบบละคะต้องใช้กี่ลิตรเค้าก็ตอบว่า 10 ลิตรค่ะ เราก้โอเคค่ะเดวมาเปลี่ยนนะคะ ตอนเราจะขับรถออกช่างก้มาแบบบริการเติมลมให้เป้นเซอร์วิสไรงี้เราก็บอกไปว่าปกติรถเราเติมลมไนโตรเจนนะคะ เค้าก็บอกครับๆมีลมไนโตรเจนคับละก็เอามาเติมให้เราทุกล้อเราก็ให้ทิปไปตามปกติ ก็แบบขอบคุณบริการดีจัง 555555(ตอนนี้คือยังโง่อยู่ ไม่รู้สึกถึงค.ชั่วร้ายบางอย่าง) เราก็ขับรถไปซื้อน้ำมันเกียร์ที่ร้านประจำอยู่ไม่ไกลกันไปซื้อกลับมาประมาณไม่น่าเกิน 30 นาที ตอนไปซื้อเราก้ไปบอกที่ร้านเค้าก็บอกว่ารถรุ่นนี้ต้องใช้น้ำมันแบบนี้ก็เปนน้ำมันของ 0 โตโตต้าเลย อ่อลืมบอกค่ะ รถเราเป็นโตโยต้าวีออสปกติไม่ใช่ new (ตอนที่เอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลขไมล์ก็อยู่ที่ประมาณ 49,000 เกือบ 50,000 แล้วค่ะ) เค้าขายเป็นแกลลอน แกลลอนละ 4 ลิตร ราคา 1,350 บ. เราจะใช้ 10 ลิตรก็เลยต้องซื้อไป 3 แกลลอนรวม 4,050 บ. ตอนจ่ายเงินเหมือนคนขายก็ทักทำไมซื้อเยอะจัง 3 แกลลอน(ปกติไปซื้อน้ำมันเครื่องเค้าประจำเพราะเป็นทางผ่าน) เราก้บอกไปว่าช่างบอกเปลี่ยนทั้งระบบต้องใช้ 10 ลิตร ก็ดูคนขายงงๆนิดๆ คนขายก็ยุ่งๆเลยไม่ได้คุยไรกันมากและเราก็เอาน้ำมันกลับไปอู่นั้นละก้เดินไปเคาเตอร์บอกว่ามาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ค่ะพร้อมทั้งวางน้ำมันเกียร์ 3 แกลลอนไว้ที่พื้น พนักงานก็เห็นน้ำมันละบอกว่านี่ค่าแรง 1,100 นะคะ เราก้เงิบบบบบบบบบบบบบบบ
ห๊ะอะไรนะไหนมะกี้บอกว่า 100 ไงคะ พนักงานก้บอกต่อว่า 100 คือเปลี่ยนบางส่วนค่ะ แต่นี่ทั้งระบบต้องใช้เครื่องไล่บลาๆ 1,100 นะคะ
เราก็คิดในใจเห้อไหงมะกี้ไม่บอกเราละก็ได้แต่โทดตัวเองว่าไม่ได้ถามเค้าให้รอบคอบ ไม่เปนไรๆซื้อมาแล้วก็ต้องทำอยุ่ดีจะเก็บน้ำมันไว้ทำไม มีรถถึงเวลาก็ต้องซ่อมไม่เปนไรๆ ปลอบใจตัวเอง 555555 อ่อเรื่องน้ำมันอ่ะเค้าบอกต้องใช้ 10 ลิตร แต่เราซื้อมา 12 ลิตร ก็จะต้องเหลือ 2 ลิตร(ราคาก็ประมาณ 700 )เราก็คิดไว้ว่าเดวเหลือจะเอาไปให้พี่อีกคนเพราะรถก็ต้องเปลี่ยนเหมือนกันจะได้ไม่ต้องซื้อน้ำมันเยอะ ปรากฏพอทำเสร็จน้ำมันไม่เหลือให้เราสักหยด . . . เราก็ถามช่างว่า อ้าวไหนน้ำมันเราอ่ะ (ขอเล่าเพิ่มก่อนว่าร้านนี้มีช่าง 2 คน คนที่1 คือคนอายุอ่อนกว่า คนนี้เป็นคนที่เราคุยด้วยตั้งแต่แรกที่แนะนำทุกอย่างกับเราคือคนที่เราเล่ามาทั้งหมดเป็นคนทำรถเรารอบแรก คนที่2 อายุมากก่าเป็นคนทำรถให้เรารอบสองที่เอาน้ำมันเกียร์มาเปลี่ยน ก็คือปกติสองคนนี้ก้จะช่วยกันทำค่ะ) ช่างเดินไปดูที่แกลลอนน้ำมันเรา 3 แกลลอนละก้บอกว่า อ้าวสงสัยอีกคนเทหมดไปแล้ว เราก็อ้าวววววววววววววววว
และก้ถามด้วยความห่วงรถว่าใส่ไปเกินไม่เปนไรหรอ ช่างก็รีบบอกเราว่าไม่เปนไรๆครับยิ่งใส่ไปเยอะก็ยิ่งล้างสะอาด ตึ่งโป๊ะ!!!!! 700 ของช้านนนนน ไหนว่า 10 ลิตรพอละจะเอาอีก 2 ลิตรไปเทเล่นเพื่ออออออ!!!!! ตอบ!!!!! อ่อขอเล่าเรื่องเล็กอีกเรื่องค่ะตอนที่ช่างเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใกล้จะเสร็จมีพี่ผู้ชายคนนึงเค้าก็เอารถมาทำร้านนี้ละเดินมาบอกเราว่าน้องเป็นเจ้าของรถวีออสคันนั้นป่าวครับ พอดีเรานั่งรอทำรถอยู่ในห้องรับรองค่ะ เราก้บอกไปว่าใช่ค่ะ มีไรหรอคะ แบบงงๆว่าเกิดไรขึ้นหว่า พี่เค้าก็บอกว่ารถน้องล้อหลังโดนตะปูตำ ตึ่งโป๊ะ ช็อคแปบ กรีสสสสสสสสสสสส ไม่จบซะทีซ่อมรถ ก็รีบขอบคุณพี่เค้าละพี่เค้าก็พาไปดูชี้จุดที่ตะปูตำ ที่พี่เค้าเหนตะปูเพราะว่ารถเราซ่อมอยู่ก็ถูกยกลอยอยู่ค่ะ พอช่างทำเสร็จเราก็รีบขับรถไปร้านปะยางที่อยู่ในปั๊มก็โชคดีที่ว่าปั๊มนี้มีร้านปะยางด้วยค่ะปะเสดพี่คนปะก้เติมลมให้ปกติ เราก้ถามว่ามีลมไนโตรเจนไหมคะ เค้าก็บอกว่าต้องไปร้านนั้นชี้ไปที่ร้านที่เราทำรถ เราก้อ่อๆขอบคุณค่ะและถอยรถไปอู่เดิมละก้บอกช่างคนที่มะกี้ช่วยเราเติมลมรอบแรกว่าช่วยเติมลมไนโตรเจนให้หน่อยได้ไหมคะไปปะยางมา ที่พูดงี้เพราะเหนรอบแรกเค้ามาเติมลมให้เรา เค้าก้บอกล้อละ 50 นะครับ เราก้เอิ่มมมม มะกี้เพิ่งมาทำรถเองนะยังไม่ได้ออกไปจากปั๊มเลย เสียเงินทำอย่างอื่นไปด้วยนะไม่ได้อยู่ๆมาขอ เราก็แซวๆไปแบบเติมให้หน่อยไม่ได้หรอเค้าก็บอกไม่ได้ครับหัวเราะๆแบบผมก็อยากเติมให้นะแต่เดวหัวหน้ามาตรวจเดวว่าเอาก็แถไปตามเรื่องละบอกให้เราไปถามเคาเตอร์ พอเราพูดกะเคาเตอร์เค้าก้ตอบทันที ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ค่ะ เราก็เครๆละจ่ายเงินไปอีก 50 ละก็ขับรถกลับละก้คิดว่าร้านนี้นี่แบบโคดเคี่ยวแบบเราก็คิดของเราเองอ่ะนะ แบบไม่มีน้ำใจกะลูกค้าแบบเราเลยใช่ว่าเราไม่ได้ทำรถร้านเค้า คราวหน้าจะมาทำอีกนี่ต้องคิดละนะน้ำใจเล็กๆน้อยๆยังหยิบยื่นให้กันไม่ได้เลย ละเรื่องราววันนั้นก็จบลงด้วย เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ต่อด้วยน้ำมันเกียร์ ละปะยางอีก โอ้วววววววว หมดไปเกือบหมื่น 7,000-8,000 ตัวลีบเลย 5555555
มาๆเข้าช็อตเด็ดของเรื่องกันค่ะ พล่ามมายาว พอหลายวันผ่านไปพี่ที่เรารู้จักที่มีความรู้เรื่องซ่อมรถรู้เรื่องว่าเราไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์มาเสียค่าแรงไป 1,100 และน้ำมันเกียร์ 12 ลิตร 4,050 รวม 5,150 พี่ตกใจมากละบอกว่าปกติค่าแรง 100 บ ก็ได้ละนะและทำไมใช้น้ำมันเกียร์เยอะจัง 10 ลิตร ปกติ 4 ลิตรก็พอเราก็บอกพี่ว่าช่างบอกเปลี่ยนทั้งระบบบลาๆๆๆๆ อธิบายให้พี่ฟังพี่ก็ว่าแพงนะงงๆข้อใจๆว่าทั้งระบบมันคืออะไร พี่ก้ไปถามพวกช่างละเค้าก็บอกแระมาณว่าคงโดนหลอกแล้วปกติใช้แค่ 4 ลิตรก็พอ อย่างมากก็ 5 ลิตร ล้างทั้งระบบอะไรไม่มีนะ ไม่เหนต้องทำ โตโยต้าวีออส เราก้เงิบบบบค่ะ โอ้ววววววว ยังไม่อยากจะเชื่อก็เลยลองโทรไปถาม 0 โตโยต้า buzz และ 0 โตโยต้าซาลอน และอีกหนึ่งอู่ที่เคยไป ทุกคนบอกเป็นเสียงเดวกันว่าปกติใช้แค่ 4 ลิตรก็พอไม่ต้องไปล้างทั้งระบบอะไรแบบนั้น เค้าหลอกเอา 0 บอกว่าตามเอกสารคู่มือมาตรฐานของ 0 ก้ใช้แค่ 4 ลิตร ก้คือเอาของเก่าในรถออกซึ่งในรถมีแค่ 4 ลิตร(อ้าวกรรมมมมมม ละไหนช่างบอกมีประมาณ 7-8 ลิตร)แล้วเติมใหม่เข้าไป เราก็ลองพยายามถามเรื่องล้างทั้งระบบ 0 บอกไม่มีนะครับทั้ง 2 ศูนย์ บอกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ก็มีแบบเดวนี่ละครับ เจ้าของอู่ที่เราไปถามก็บอกว่านี่แหละบางอู่อะไแบบนี้เหนผู้หญิงไปคนเดวก็ชอบหลอกให้ทำนู่นนั่นนี่ ซ่อมไปเรื่อย
เราก็เศร้าเลย T^T ได้เเต่เก็บไว้เปนบทเรียน เสียค่าโง่เฉยเลย
บทสทนาอาจจะไม่ได้ตรงเป๊ะเพราะก็ผ่านมาหลายวันแล้วค่ะ แต่คร่าวๆก็ประมาณนี้นะคะ
หวังว่ากระทู้นี้จะพอมีประโยชน์ต่อใครหลายคนนะคะ เจ้าของกระทู้เสียค่าโง่ไปแล้วก้อยากจะมาแชร์ค่ะ ไม่อยากให้ใครต้องเจอแบบเจ้าของกระทู้อีกค่ะ สมัยนี้เงินทองก็ไม่ได้หาง่ายดาย อะไรๆก็ต้องใช้เงิน เวลาจะทำอะไรก็ขอให้รอบคอบเข้าไว้ค่ะลองโทรสอบถามหลายๆที่ก่อนนะคะ จะได้ไม่พลาดเสียค่าโง่เหมือนเจ้าของกระทู้ค่ะ พี่ที่รู้จักของเจ้าของกระทู้ก็บอกว่าเพื่อนที่ทำอู่บอกว่าปัจจุบันก้มีร้านแบบนี้หลายร้าน ผู้บริโภคแบบเราๆท่านๆก้ต้องระวังตัวกันเองนะคะ ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเองค่ะ โชคดีนะคะทุกคน ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
ระวังโดนหลอก!!!! เรื่องการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ไม่อยากให้ใครต้องรู้สึกโง่ เสียค่าโง่เหมือนเรา
กระทู้นี้ที่ตั้งขึ้นมาก็เพื่อแชร์ประสบการณ์ของเราเองค่ะ อยากให้เป็นข้อมูลสำหรับใครหลายๆคนที่จะเอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เพื่อไม่ให้ถูกอู่ซ่อมรถหลอกแบบเราค่ะ มันให้เจ็บใจนักถ้าตอนนั้นเรารู้จักหาข้อมูลก่อนจะเชื่อคำพูดของอู่ก็คงจะดี ไม่น่าไปไว้ใจคำพูดของอู่เพียงเพราะเราเชื่อใจ ก็เคยไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ร้านนี้มาหลายครั้งก็ว่าโอเคไม่ได้ติดใจอะไร แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ก็ขอบอกเลยจะไม่ไปใช้บริการอีกแล้ว รู้สึกได้เลยว่าไม่ได้จริงใจกะลูกค้าจริงๆ
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าวันที่ 20 กพ ที่ผ่านมานี้เราเอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่อู่อู่หนึ่งที่ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันไม่ขอเอ่ยนาม(มีรูปดาว) ถ.พหลโยธิน แถวๆตรงข้ามซอยพหลโยธิน 58 (ซอยแอนเน็กซ์)ค่ะ เราก็เอาน้ำมันเครื่องไปเองปกติเพราะซื้อไปเองถูกกว่า ปกติจะไปกับพี่ค่ะแต่วันนั้นเราไปคนเดียวค่ะ พอช่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเสร็จก็เดินมาบอกเราว่าเสร็จแล้วนะครับและแนะนำว่าน้ำมันเกียร์ดำมากแล้วนะครับควรจะเปลี่ยน เราก้ถามรายละเอียดไปแบบน้ำมันเกียร์? อะไรยังไงหรอ? ด้วยความที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถเท่าไหร่ ช่างก้บอกมาคร่าวพอให้รู้จักน้ำมันเกียร์ประมาณว่ามันดำละก็จะไม่ดีต้องเปลี่ยน เราก็ถามราคาช่าง ช่างก้บอกว่าถ้าเปลี่ยนออกบางส่วน(แบบที่1)คือเอาน้ำมันเกียร์เก่าออกส่วนนึงประมาณ 4 ลิตร แล้วเทของใหม่ไปผสมก็ประมาณ 2,000-3,000 ราคาเป๊ะๆต้องเดินไปถามเคาเตอร์อีกที เราก็ถามด้วยความสงสัยแบบอ้าวเทของเก่าออกแล้วผสมของใหม่ไปปนมันจะดีหรอคะแบบไม่ต้องเปลี่ยนหมดหรอคะ ไม่เปนไรหรอคะ แบบกังวลว่าเปลียนแบบประหยัดหรอ? กั๊กๆน้ำมันดีส่วนเสียส่วนปนกันกลัวจะไปเข้าเคสเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย กลัวเกียร์จะพังเร็ว(นึกถึงน้ำมันเครื่อง)ช่างก้บอกว่ามันก็ทำให้น้ำมันใสขึ้นครับประมาณนั้นและแนะนำต่อแบบที่2 ช่างแนะนำว่าทางเราก็จะมีการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทั้งระบบครับ โดยเอาน้ำมันเก่าออกให้หมดแล้วใส่น้ำมันใหม่เข้าไปล้างละก็เติมน้ำมันใหม่หมดครับ วิธีนี้ก็จะดีกับเกียร์ครับ เราก็ถามไปว่าน้ำมันเกียร์ในรถมีกี่ลิตร(เพราะคิดอยู่ว่าต้องใช้เท่าไหร่เนี่ย เดวไปซื้อน้ำมันเกียร์จากร้านขายอะไหล่ที่ซื้อประจำดีกว่าเพราะเค้าขายถูก) ช่างก็บอกมีประมาณ 7-8 ลิตรครับแต่ต้องใช้ 10 ลิตรนะครับแบบเอาไว้ล้างระบบด้วยครับ เราก็ถามราคาช่างเค้าก็บอกว่าให้ไปถามเคาเตอร์ดีกว่าเพื่อความชัวร์ เราก้เดินไปถามพนักงานที่เคาเตอร์ว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์นี่เท่าไหร่คะ เค้าก็บอกราคามาประมาณ 2,000-3,000 น้ำมันแกลลอนนึง 4 ลิตร (แบบที่ช่างบอก) พอดีว่าผ่านมาหลายวันละเราจำราคาเป๊ะๆไม่ได้ เราก็เลยถามต่อว่าถ้าเอาน้ำมันเกียร์มาเองคิดเท่าไหร่คะ เค้าก้บอกว่าค่าแรง 100 บาทค่ะ (เราก็คิดในใจว่า โอ้วววไปซื้อน้ำมันเกียร์มาเองดีกว่าถูกกว่าชัวร์ ) ก้เลยถามต่อไปเพื่อความชัวร์ว่าและถ้าเปลี่ยนทั้งระบบละคะต้องใช้กี่ลิตรเค้าก็ตอบว่า 10 ลิตรค่ะ เราก้โอเคค่ะเดวมาเปลี่ยนนะคะ ตอนเราจะขับรถออกช่างก้มาแบบบริการเติมลมให้เป้นเซอร์วิสไรงี้เราก็บอกไปว่าปกติรถเราเติมลมไนโตรเจนนะคะ เค้าก็บอกครับๆมีลมไนโตรเจนคับละก็เอามาเติมให้เราทุกล้อเราก็ให้ทิปไปตามปกติ ก็แบบขอบคุณบริการดีจัง 555555(ตอนนี้คือยังโง่อยู่ ไม่รู้สึกถึงค.ชั่วร้ายบางอย่าง) เราก็ขับรถไปซื้อน้ำมันเกียร์ที่ร้านประจำอยู่ไม่ไกลกันไปซื้อกลับมาประมาณไม่น่าเกิน 30 นาที ตอนไปซื้อเราก้ไปบอกที่ร้านเค้าก็บอกว่ารถรุ่นนี้ต้องใช้น้ำมันแบบนี้ก็เปนน้ำมันของ 0 โตโตต้าเลย อ่อลืมบอกค่ะ รถเราเป็นโตโยต้าวีออสปกติไม่ใช่ new (ตอนที่เอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลขไมล์ก็อยู่ที่ประมาณ 49,000 เกือบ 50,000 แล้วค่ะ) เค้าขายเป็นแกลลอน แกลลอนละ 4 ลิตร ราคา 1,350 บ. เราจะใช้ 10 ลิตรก็เลยต้องซื้อไป 3 แกลลอนรวม 4,050 บ. ตอนจ่ายเงินเหมือนคนขายก็ทักทำไมซื้อเยอะจัง 3 แกลลอน(ปกติไปซื้อน้ำมันเครื่องเค้าประจำเพราะเป็นทางผ่าน) เราก้บอกไปว่าช่างบอกเปลี่ยนทั้งระบบต้องใช้ 10 ลิตร ก็ดูคนขายงงๆนิดๆ คนขายก็ยุ่งๆเลยไม่ได้คุยไรกันมากและเราก็เอาน้ำมันกลับไปอู่นั้นละก้เดินไปเคาเตอร์บอกว่ามาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ค่ะพร้อมทั้งวางน้ำมันเกียร์ 3 แกลลอนไว้ที่พื้น พนักงานก็เห็นน้ำมันละบอกว่านี่ค่าแรง 1,100 นะคะ เราก้เงิบบบบบบบบบบบบบบบ ห๊ะอะไรนะไหนมะกี้บอกว่า 100 ไงคะ พนักงานก้บอกต่อว่า 100 คือเปลี่ยนบางส่วนค่ะ แต่นี่ทั้งระบบต้องใช้เครื่องไล่บลาๆ 1,100 นะคะ เราก็คิดในใจเห้อไหงมะกี้ไม่บอกเราละก็ได้แต่โทดตัวเองว่าไม่ได้ถามเค้าให้รอบคอบ ไม่เปนไรๆซื้อมาแล้วก็ต้องทำอยุ่ดีจะเก็บน้ำมันไว้ทำไม มีรถถึงเวลาก็ต้องซ่อมไม่เปนไรๆ ปลอบใจตัวเอง 555555 อ่อเรื่องน้ำมันอ่ะเค้าบอกต้องใช้ 10 ลิตร แต่เราซื้อมา 12 ลิตร ก็จะต้องเหลือ 2 ลิตร(ราคาก็ประมาณ 700 )เราก็คิดไว้ว่าเดวเหลือจะเอาไปให้พี่อีกคนเพราะรถก็ต้องเปลี่ยนเหมือนกันจะได้ไม่ต้องซื้อน้ำมันเยอะ ปรากฏพอทำเสร็จน้ำมันไม่เหลือให้เราสักหยด . . . เราก็ถามช่างว่า อ้าวไหนน้ำมันเราอ่ะ (ขอเล่าเพิ่มก่อนว่าร้านนี้มีช่าง 2 คน คนที่1 คือคนอายุอ่อนกว่า คนนี้เป็นคนที่เราคุยด้วยตั้งแต่แรกที่แนะนำทุกอย่างกับเราคือคนที่เราเล่ามาทั้งหมดเป็นคนทำรถเรารอบแรก คนที่2 อายุมากก่าเป็นคนทำรถให้เรารอบสองที่เอาน้ำมันเกียร์มาเปลี่ยน ก็คือปกติสองคนนี้ก้จะช่วยกันทำค่ะ) ช่างเดินไปดูที่แกลลอนน้ำมันเรา 3 แกลลอนละก้บอกว่า อ้าวสงสัยอีกคนเทหมดไปแล้ว เราก็อ้าวววววววววววววววว และก้ถามด้วยความห่วงรถว่าใส่ไปเกินไม่เปนไรหรอ ช่างก็รีบบอกเราว่าไม่เปนไรๆครับยิ่งใส่ไปเยอะก็ยิ่งล้างสะอาด ตึ่งโป๊ะ!!!!! 700 ของช้านนนนน ไหนว่า 10 ลิตรพอละจะเอาอีก 2 ลิตรไปเทเล่นเพื่ออออออ!!!!! ตอบ!!!!! อ่อขอเล่าเรื่องเล็กอีกเรื่องค่ะตอนที่ช่างเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใกล้จะเสร็จมีพี่ผู้ชายคนนึงเค้าก็เอารถมาทำร้านนี้ละเดินมาบอกเราว่าน้องเป็นเจ้าของรถวีออสคันนั้นป่าวครับ พอดีเรานั่งรอทำรถอยู่ในห้องรับรองค่ะ เราก้บอกไปว่าใช่ค่ะ มีไรหรอคะ แบบงงๆว่าเกิดไรขึ้นหว่า พี่เค้าก็บอกว่ารถน้องล้อหลังโดนตะปูตำ ตึ่งโป๊ะ ช็อคแปบ กรีสสสสสสสสสสสส ไม่จบซะทีซ่อมรถ ก็รีบขอบคุณพี่เค้าละพี่เค้าก็พาไปดูชี้จุดที่ตะปูตำ ที่พี่เค้าเหนตะปูเพราะว่ารถเราซ่อมอยู่ก็ถูกยกลอยอยู่ค่ะ พอช่างทำเสร็จเราก็รีบขับรถไปร้านปะยางที่อยู่ในปั๊มก็โชคดีที่ว่าปั๊มนี้มีร้านปะยางด้วยค่ะปะเสดพี่คนปะก้เติมลมให้ปกติ เราก้ถามว่ามีลมไนโตรเจนไหมคะ เค้าก็บอกว่าต้องไปร้านนั้นชี้ไปที่ร้านที่เราทำรถ เราก้อ่อๆขอบคุณค่ะและถอยรถไปอู่เดิมละก้บอกช่างคนที่มะกี้ช่วยเราเติมลมรอบแรกว่าช่วยเติมลมไนโตรเจนให้หน่อยได้ไหมคะไปปะยางมา ที่พูดงี้เพราะเหนรอบแรกเค้ามาเติมลมให้เรา เค้าก้บอกล้อละ 50 นะครับ เราก้เอิ่มมมม มะกี้เพิ่งมาทำรถเองนะยังไม่ได้ออกไปจากปั๊มเลย เสียเงินทำอย่างอื่นไปด้วยนะไม่ได้อยู่ๆมาขอ เราก็แซวๆไปแบบเติมให้หน่อยไม่ได้หรอเค้าก็บอกไม่ได้ครับหัวเราะๆแบบผมก็อยากเติมให้นะแต่เดวหัวหน้ามาตรวจเดวว่าเอาก็แถไปตามเรื่องละบอกให้เราไปถามเคาเตอร์ พอเราพูดกะเคาเตอร์เค้าก้ตอบทันที ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ค่ะ เราก็เครๆละจ่ายเงินไปอีก 50 ละก็ขับรถกลับละก้คิดว่าร้านนี้นี่แบบโคดเคี่ยวแบบเราก็คิดของเราเองอ่ะนะ แบบไม่มีน้ำใจกะลูกค้าแบบเราเลยใช่ว่าเราไม่ได้ทำรถร้านเค้า คราวหน้าจะมาทำอีกนี่ต้องคิดละนะน้ำใจเล็กๆน้อยๆยังหยิบยื่นให้กันไม่ได้เลย ละเรื่องราววันนั้นก็จบลงด้วย เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ต่อด้วยน้ำมันเกียร์ ละปะยางอีก โอ้วววววววว หมดไปเกือบหมื่น 7,000-8,000 ตัวลีบเลย 5555555
มาๆเข้าช็อตเด็ดของเรื่องกันค่ะ พล่ามมายาว พอหลายวันผ่านไปพี่ที่เรารู้จักที่มีความรู้เรื่องซ่อมรถรู้เรื่องว่าเราไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์มาเสียค่าแรงไป 1,100 และน้ำมันเกียร์ 12 ลิตร 4,050 รวม 5,150 พี่ตกใจมากละบอกว่าปกติค่าแรง 100 บ ก็ได้ละนะและทำไมใช้น้ำมันเกียร์เยอะจัง 10 ลิตร ปกติ 4 ลิตรก็พอเราก็บอกพี่ว่าช่างบอกเปลี่ยนทั้งระบบบลาๆๆๆๆ อธิบายให้พี่ฟังพี่ก็ว่าแพงนะงงๆข้อใจๆว่าทั้งระบบมันคืออะไร พี่ก้ไปถามพวกช่างละเค้าก็บอกแระมาณว่าคงโดนหลอกแล้วปกติใช้แค่ 4 ลิตรก็พอ อย่างมากก็ 5 ลิตร ล้างทั้งระบบอะไรไม่มีนะ ไม่เหนต้องทำ โตโยต้าวีออส เราก้เงิบบบบค่ะ โอ้ววววววว ยังไม่อยากจะเชื่อก็เลยลองโทรไปถาม 0 โตโยต้า buzz และ 0 โตโยต้าซาลอน และอีกหนึ่งอู่ที่เคยไป ทุกคนบอกเป็นเสียงเดวกันว่าปกติใช้แค่ 4 ลิตรก็พอไม่ต้องไปล้างทั้งระบบอะไรแบบนั้น เค้าหลอกเอา 0 บอกว่าตามเอกสารคู่มือมาตรฐานของ 0 ก้ใช้แค่ 4 ลิตร ก้คือเอาของเก่าในรถออกซึ่งในรถมีแค่ 4 ลิตร(อ้าวกรรมมมมมม ละไหนช่างบอกมีประมาณ 7-8 ลิตร)แล้วเติมใหม่เข้าไป เราก็ลองพยายามถามเรื่องล้างทั้งระบบ 0 บอกไม่มีนะครับทั้ง 2 ศูนย์ บอกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ก็มีแบบเดวนี่ละครับ เจ้าของอู่ที่เราไปถามก็บอกว่านี่แหละบางอู่อะไแบบนี้เหนผู้หญิงไปคนเดวก็ชอบหลอกให้ทำนู่นนั่นนี่ ซ่อมไปเรื่อย
เราก็เศร้าเลย T^T ได้เเต่เก็บไว้เปนบทเรียน เสียค่าโง่เฉยเลย
บทสทนาอาจจะไม่ได้ตรงเป๊ะเพราะก็ผ่านมาหลายวันแล้วค่ะ แต่คร่าวๆก็ประมาณนี้นะคะ
หวังว่ากระทู้นี้จะพอมีประโยชน์ต่อใครหลายคนนะคะ เจ้าของกระทู้เสียค่าโง่ไปแล้วก้อยากจะมาแชร์ค่ะ ไม่อยากให้ใครต้องเจอแบบเจ้าของกระทู้อีกค่ะ สมัยนี้เงินทองก็ไม่ได้หาง่ายดาย อะไรๆก็ต้องใช้เงิน เวลาจะทำอะไรก็ขอให้รอบคอบเข้าไว้ค่ะลองโทรสอบถามหลายๆที่ก่อนนะคะ จะได้ไม่พลาดเสียค่าโง่เหมือนเจ้าของกระทู้ค่ะ พี่ที่รู้จักของเจ้าของกระทู้ก็บอกว่าเพื่อนที่ทำอู่บอกว่าปัจจุบันก้มีร้านแบบนี้หลายร้าน ผู้บริโภคแบบเราๆท่านๆก้ต้องระวังตัวกันเองนะคะ ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเองค่ะ โชคดีนะคะทุกคน ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ