นิวฮอไรชอนส์ ภารกิจที่ไม่หยุดยั้ง...

มันไปบนอวกาศ

มันพุ่งเร็วกว่าวอยเอเจอร์ในเวลาเดียวกัน

เทวทูตแห่งจักรกล ผู้นำพาขอบเขตใหม่ในการสำรวจดวงดาว นิวฮอไรชอนส์
เป้าหมายหลักของมัน คือการมุ่งสู่พลูโต ดาวเคราะห์แคระที่ค้นพบโดย ไคลด์ ทอมบอลท์
ด้วยความเร็วมากกว่า 16 กิโลเมตรต่อวินาที นิวฮอไรชอนส์ถือเป็นวัตถุอวกาศที่มีความเร็วสูงสุดที่มนุษย์เคยปล่อยออกไปสูงอวกาศ
(ในหนึ่งช่ั่วโมง ไอ้ยานระดับปีศาจอวกาศตัวนี้มันเดินทางได้ เกือบๆ 60000 km หรือเท่าเส้นผ่าศูนย์กลางโลกห้าใบเรียงกัน)
ปีศาจจักรกลตัวนี้กำลังมุ่งไปที่ดาวพลูโต และจะเข้าระยะโอเปอร์เรชั่นในระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน เมื่อถึงเวลานั้น
เราคนได้ภาพดีๆ จากงานของเจ้านี่ไม่น้อยที่เดียว ปีศาจตนนี้เป็นสมาชิกของโปรเจคนิวฟรอนเทียร์
จัดตั้งโดยนาซ่า ซึ่งเป็นโปรเจคที่ใหญ่ และกินงบมากกว่าโปรเจคดิสคัฟเวอรี่อีกมากครับ
งบประมาณที่ละลายไปกับโปรเจคนี้ อยู่ที่ 650 ล้านดอลลาร์

อันนี้เป็นภาพของฐานจรวดที่ใช้ปล่อยครับ

ดำเนินโปรเจคตั้งแต่ปี 2001-2016 ด้วยงบดังกล่าว เรามียานพุ่งขึ้นไปอวกาศแล้วร่วมสี่ดวงครับ
แต่วันนี้ เราจะเจาะลึกเรื่องราวของฮอร์ไรชอนส์
ในตัวฮอไรชอนส์มียานจิ๋วครับ ขนาดเท่าแกรนด์เปียโน ซึ่งแกรนเปียโนอวกาศอันนี้ละ
ที่มีอุปกรณ์โหดๆ อัดใว้ซะเพียบ มีเรดิสโคปเจเนอเรเตอร์ ที่ผสมทั้งอะลูมีเนียมอัลลอยด์และโลหะ
ความกว้างส่วนจานรับสัญญานของมันก็ร่วม 2.1 เมตร(ใหญ่เท่าสองคันจักรยาน)

ส่วนบอดี้ของยานอวกาศรูปแบบสามเหลี่ยมเกือบ 0.76 เมตร (2.5 ฟุต) หนา (ไฟโอเนียร์มีร่างกายหกเหลี่ยมในขณะที่กัมป์, กาลิเลโอและ Cassini-Huygens มี Decagonal ร่างกายกลวง.) เสริมด้วยหลอดอลูมิเนียม7075   ชั้นโครง โครงสร้างหลักระหว่างแหวนอะแดปเตอร์รถเปิดตัวที่ "หลัง" และ 2.1 ม. (6 ฟุต 11 ใน) จานเสาอากาศวิทยุที่ติดอยู่กับ ด้านหน้าแบน ถังน้ำมันเชื้อเพลิงไทเทเนียมอยู่ในหลอดนี้
radioisotope thermoelectric generator ยึดติดกับไทเทเนียม 4 ด้านที่รูปร่างคล้ายพีระมิดสีเทาหรือ stepstool ไททาเนียมมีความแข็งแรงและการป้องกันความร้อน ส่วนที่เหลือของรูปสามเหลี่ยมเป็นแผงรูปแบบแซนวิชของอลูมิเนียมบางใบปะแถบกาว (น้อยกว่า 1/64 หรือ 0.40 มม) ถูกผูกมัดกับรูปแบบแกนรังผึ้งของอลูมิเนียม ลดโครงสร้างที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นอย่างเคร่งครัดมีพื้นที่ว่างภายใน โครงสร้างถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นป้องกัน, ลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รังสีจากRTG นอกจากนี้การกระจายมวลจำเป็นสำหรับยานอวกาศในการหมุนแบบสามมิติ

นิวฮอไรชอนส์ได้พลังงานมากจากเตาเทอร์โมนิวเคลียร์ไฟฟ้า  radioisotope thermoelectric generator ที่จะลดพลังงานลง 5% ทุกๆ 4 ปี
มันจะสามารถจ่ายพลังงาน 250 วัตต์ 30 โวลต์ ทุกๆวัน ตอนที่ถึงพลูโต พลังงานจะอยู่ที่ 200 วัตต์ ซึ่งนั่นเพียงพอกับการปฏิบัติงาน
เตาพลังงานนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากๆ ครับ เพราะมันมีน้ำหนักของพลูโตเนียมแค่ 11 กิโลกรัมเท่านั้น(เบากว่าเด็ก 4 ขวบซะอีก)

ถูกพัฒนาขึ้นโดยกระทรวงพลังงานแห่งสหรัฐ ใช้งานอิริเดียมและกราไฟต์ทำส่วนเกราะป้องกัน

สถานที่วิจัยอยู่ไอดาโฮครับ มีแล็บวิจัยใหญ่อยู่ที่นั้น เตาพลังงานนี้มีความปลอดภัยกว่าเตาของแคสสินีใน 1997 มากครับ
ต่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ก็จะปล่อยรังสีแค่ 0.3% เท่านั้น แต่ถ้ายานโดนระเบิดตอนปล่อย(นั่นคือเคสที่เลวร้ายสุด ซึ่งไม่เกิดแน่นอนแล้ว)
จะเพิ่มรังสี 80% นี่พึ้นทื 65 ไมล์ของอเมริกาเหนือครับ

การสื่อสารใช้งาน X band ครับ
ซึ่งเป็นระบบปล่อยคลื่นสัญญานสื่อสารที่พัฒนามาจากเรดาห์ มีคลื่นความถี่สูงมาก แถมยังไม่ได้รับหรือส่งได้เฉพาะช่วยคลื่นเดียวอีกต่างหาก
ที่ดาวพฤหัส เราจะได้สัญญานจากมัน 38 กิกะบิต ที่ดาวพลูโตเราจะได้คลื่นสัญญานอยู่ที่ 1
กิกะบิต จานดาวเทียม DSN ขนาด 70 เมตร ถูกเตรียมพร้อมใว้รับสัญญานจากอวกาศแทบตลอดเวลา
คลื่นสัญญานนี้ต้องถูกเตรียมการป้องกันการบิดเบี้ยวใว้ด้วยเจ้า  traveling-wave tube amplifiers
ครับ ระบบนี้ใช้พลังงานแค่ 12 วัตต์ เท่านั้น บนนิวฮอไรชอนส์เองก็มีจานรับสัญญานที่จัดว่าไม่ธรรมดาเอามากๆ อยู่บนนั้นครับ
จานรับสัญญานคุณภาพสูง ที่ติดตั้งกล้องดูดาวแคสสิเกรนใว้ด้านใน จานนี้จะตอบสนองต่อคลื่นสัญญานเกินกว่า 40 เดซิเบล ได้ดีเยี่ยม

บนนั้นมีระบบคอมพิวเตอร์สองระบบ และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์อีกจำนวนมาก
1.อุปกรณ์ตรวจจับอัลตร้าไวโอเลท "อลิซ " สามารถแยกคลื่นอัลตร้าไวโอเล็ทได้ละเอียดถึง 1024 รูปแบบ ในความถี่ 50-180nm
มันจะตรวจสอบชั้นบรรยากาศของพลูโต
2.กล้องอวกาศขนาด 12 กิโลกรัม โลริ ที่จะถ่ายภาพและส่งมาโลกให้โครงการนาซ่า ด้วยความละเอียดเหนือกว่าระดับ HD0จับภาพได้ในระดับ
อาร์คเชค
3.เครื่องวัดลมสุริยะ ที่จะวัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ที่ดาวพลูโต
นอนจากนั้นยังมี เครื่องตรวจจับคลื่นวิทยุ REX
เครื่องตรวจวัดฝุ่น เวอร์จิเนีย เคาเตอร์ ที่จะตรวจวัดฝุ่นและอนุภาคขนาดจิ๋ว ตั้งแต่ระยะ
0.1 ไม่ครอนลงมา และเป็นความน่าภาคภูมิใจของคนอเมริกาทั้งประเทศ เพราะกล่องตรวจจับฝุ่นนี้ถูกสร้าง
ด้วยฝืมือของนักศีกษาในมหาวิทยาลัยโคโลราโด กล่องมีขนาด 18x12 นิ้ว ถูกเคลือบด้วย
Polyvinylidene fluoride





นิวฮอไรชอนส์ถือเป็นสุดยอดในแง่ความเร็วของการพุ่งทะยานจากพึ้นโลก แต่ต่อให้ความเร็วระดับนิวฮอไรชอนส์
ที่จัดว่าเป็นปีศาจในโลกของการพุ่งทะยานขึ้นจากโลกแล้ว แต่มันยังไม่สามารถโค่นรุ่นพี่ที่ชื่อวอยเอเจอร์
ที่จัดการกดสูตรโกงการแข่งด้วยการใช้แรงโน้มถ่วงจากดาวอังคาร และดาวพฤหัสได้!
ยานเฮลิออสก็กดสูตรโกงโดยใช้วงโคจรของมันที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ช่วย!
ผลงานและเกียรติประวัติ
เริ่มต้นด้วยความสำเร็จในการถ่ายภาพดาวเคราห์น้อยในปี
2006 ตรวจจับได้ตั้งแต่มกราคม กุมภาพันธ์เริ่มเข้าประชิด การถ่ายภาพดาวเคราะห์น้อยครั้งนี้
ถูกซักซ้อมใว้เตรียมสำหรับการถ่ายภาพวัตถุในแถบไคเปอร์ครับ นี่เป็นภาพถ่ายจากระยะใกล ของวัตถุขนาด 1 km


จากนั้นนิวฮอร์ไรชอนส์ก็พุ่งเข้าเผชิญหน้าราชันย์แห่งดาวเคราะห์ ดาวพฤหัสของเรานั่นเอง
การเผชิญหน้าในครั้งนี้ เกิดในปี 2007 ทำให้นักดาราศาสตร์ได้เจอกับพายุสำคัญลูกที่สองบนดาวพฤหัส
จุดแดงเล็ก (แต่เล็กของมันก็คือ 70%ของโลกทั้งใบนะ) พบเห็นฟ้าผ่าที่รุนแรงกว่าบนโลกแบบเทียบกันไม่ได้
สายฟ้ากลุ่มที่รุนแรงที่สุดนั้น กระจุกตัวอยู่ที่เส้นศูนย์สูตรแบบมีนัยสำคัญ
ตรวจสอบพบเมฆแอมโมเนียมหาศาลที่บรรยากาศชั้นล่าง พวกเขาพบการเคลื่อนใหวของหมอกน้ำบนดาวพฤหัส
ได้รูปถ่ายใหม่ของวงแหวน และสามารถคำนวนความหนาของวงแหวนได้
ตรวจจับทั้งอินฟราเรด และอุลตร้าไวโอเลต ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์รู้ว่า ราชันย์แห่งดาวเคราะห์เปลื่ยนแปลง
ไปเพียงใด พวกเขาค้นพบฟองของพลาสมาบนนั้นอีกด้วย



ดวงจันทร์ทั้งสี่ของดาวพฤหัส ก็ไม่รอดพ้นการตรวจจับของเจ้าแห่งยานอวกาศไปได้
พวกเขาพบว่าภูเขาไฟนรกบนไอโอทรงพลังกว่าที่คิดใว้เดิมมาก
ทรงพลังซะจนส่งผลต่อนำแข็งบนยูโรปา! ยามที่ดวงจันทร์ทั้งสองเข้าใกล้กันนั้น บางครั้งยูโรปาก็ดูดกลืนลาวาจากไอโอ ให้ตกลงไปสู่พึ้นผิว
ทำให้เกิดการหลอมละลายของเปลือกน้ำแข็ง นักวิทยาศาสตร์ค่อนข้างมันใจว่ามีน้ำแบบของเหลวบนยูโรปา
ทำให้เกิดการเปลื่ยนแปลงของการละลายน้ำแข็ง ภูเขาไฟบนไอโอ ปลดปล่อยซัลเฟอร์
และออกซิเจนออกมาจำนวนมาก และมีผลต่อระบบแก็สใกล้เคียงดาวพฤหัส
ดาวพฤหัสมีสนามแม่เหล็กรุนแรงมมาก เมื่อมันปะทะกับลมสุริยะ มันอาจทำงานออกมาคล้ายแม่เหล็กยักษ์ที่ดูดกลืนอนุภาคที่ถูกปลอดปล่อย
ออกมาจากดาวบริวาร

ไอโอ

กานิมีด

ยูโรปา

นิวฮอไรชอนส์ข้ามวงโคจรของดาวเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2008 [79] และดาวยูเรนัสเมื่อวันที่ 18 มีนาคมปี 2011 [80] หลังจากที่นักดาราศาสตร์ประกาศการค้นพบของสองดวงจันทร์ใหม่ในระบบดาวพลูโต, Kerberos และstrxทีมนักวิทยาศาสตร์วางแผนเริ่มปรับเปลื่ยนภารกิจ อย่างใคร่รวญ ความเป็นไปได้ของการสืบสวน ประวัติของสองดวงจันทร์จิ๋วทำงานเป็นเศษเล็กเศษน้อยที่มองไม่เห็นและฝุ่นละอองที่เหลือจากการชนกันก่อนหน้านี้ที่มีดวงจันทร์ การศึกษาขึ้นอยู่กับ 18 เดือนของคอมพิวเตอร์จำลองโลกตามข้อสังเกตของกล้องโทรทรรศน์และปรากฏการณ์ของระบบดาวพลูโตเผยให้เห็นว่าเป็นไปได้ของการชนกันของภัยพิบัติที่มีเศษฝุ่นหรือน้อยกว่า 0.3% ในหลักสูตรกำหนดเวลาการสอบสวนของ. [81] [82] หากมีการเพิ่มอันตรายนิวฮอไรชอนส์จะใช้หนึ่งในสองแผนฉุกเฉินเป็นไปได้ SHBOTs ที่เรียกว่า (กำบังที่ปลอดภัย ): การสอบสวนจะดำเนินต่อไปในวิถีปัจจุบันกับเสาอากาศที่เผชิญหน้ากับอนุภาคที่เข้ามาเพื่อให้ระบบมีความสำคัญมากขึ้นจะ จะได้รับการป้องกันหรือมันอาจวางตำแหน่งเสาอากาศและทำให้การแก้ไขแน่นอนที่จะใช้มันเป็นเพียงแค่ 3,000 กิโลเมตรจากพื้นผิวของดาวพลูโตที่เป็นที่คาดว่าบรรยากาศจะทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบของเศษที่เป็นไปได้. [82]

ขณะอยู่ในโหมดไฮเบอร์เนตในเดือนกรกฎาคม 2012, pkoเริ่มรวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มี SWAP, PEPSSI และ SDC แม้ว่ามันจะเป็นแผนเดิมที่จะเปิดใช้งานเพียงแค่ SDC เครื่องมืออื่น ๆ ที่ถูกขับเคลื่อนมันเป็นไอเดียผู้วิจัยหลักอลันสเติร์นที่เชื่อว่าพวกเขาสามารถใช้โอกาสที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีคุณค่า Heliospheric ก่อนที่จะเปิดใช้งานอีกสองชิ้นส่วนเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบพื้นดินกำลังดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าการรวบรวมข้อมูลการขยายตัวอยู่ในขั้นตอนของการปฏิบัติภารกิจนี้จะไม่ส่งผลร้ายแรงต่อข้อจำกัด การใช้พลังงานที่มีอยู่, หน่วยความจำและน้ำมันเชื้อเพลิงในอนาคตและว่าระบบทั้งหมดจะทำงานในช่วง flyby. [83] ชุดแรกของข้อมูลที่ถูกส่งในมกราคม 2013 ในช่วงสามสัปดาห์ที่ยืนยันการใช้งานจากการจำศีล คำสั่งใหม่และซอฟต์แวร์การจัดการข้อมูลที่ถูกอัปโหลดไปยังการแก้ไขปัญหาของการตั้งค่าคอมพิวเตอร์. [84]

ภาพจาก 1-03 กรกฎาคม 2013 โดย Lorri เป็นครั้งแรกโดยการสอบสวนที่จะแก้ปัญหาและดาวพลูโตก่อนเป็นวัตถุที่แยกต่างหาก

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2014 ควบคุมภารกิจดำเนินการแก้ไขวิถีโคจรครั้งที่ (TCM) นับตั้งแต่เปิดตัวเพื่อให้สามารถใช้งานความสามารถที่จะไปถึงและสำรวจดาวพลูโต

ตอนนี้ยานหางพลูโตแค่ 1 หน่วยดาราศาสตร์ และรูปถ่ายล่าสุดมาแล้ว

ภาพถ่ายนี้คือสัญญาน ของชัยชนะใหม่ทางดาราศาสตร์!





ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.sciencemag.org/content/318/5848/215.short
http://pluto.jhuapl.edu/Mission/The-Path-to-Pluto/Jupiter-Encounter.php
http://en.wikipedia.org/wiki/New_Horizons
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่