เสียงสะท้อนด้วยความไม่พอใจ ของคนไข้คนหนึ่ง แต่ไม่ใช่กับโรงพยาบาล แต่เป็นกับใคร เข้ามาอ่านกันนะครับ

ผมเป็นแพทย์ประจำห้องไตเทียม ครับ หน้าที่ของผมคือดูแลระบบห้องไตเทียมและดูแลคนไข้ที่มาฟอกเลือด

"นี่คือเสียงสะท้อนด้วยความไม่พอใจ ของคนไข้คนหนึ่ง แต่ไม่ใช่กับโรงพยาบาล แต่เป็นกับใคร เข้ามาอ่านกันนะครับ"

วันนี้ ผมได้คุยกับคนไข้ที่ฟอกเลือดคนหนึ่งที่เจอกันอยู่ประจำ หลังจากดูอาการและตรวจร่างกายเสร็จแล้ว เห็นคุณลุงคนไข้คนนี้มีสีหน้าเศร้า ผมก็เลยชวนคุย
ผม : อยู่ทีบ้านได้ทำอะไรบ้างไหม เหงาไหม
คุณลุง : อยู่บ้านเหงามาก เพราะไม่มีใครอยู่ด้วย ไม่มีอะไรจะทำเพราะทำอะไรเล็กน้อยก็เหนื่อย มาฟอกเลือดที่ห้องไตเทียม ไม่เหงา ได้คุยกับพยาบาลกับหมอ ทำให้รู้สึกดีขึ้น (คุณลุงก็พูดไปยิ้มไป)

ผม : แล้วลูกๆ ละครับ มีหลายคน แต่ละคนได้เรียนสูงๆ มีงานทำ ผมภูมิใจแทนเลย
คุณลุง : ถึงมีลูกหลายคน แต่ไม่น่าส่งให้พวกมันเรียนเลย เพราะ เมื่อเรียนสูง มีความรู้มาก ทำให้ต้องไปทำงานที่ไกลๆ เวลาว่างก็ไม่มี คนไข้โทรไปหาลูก ลูกก็กลับตอบว่า "โทรมาทำไม" คนไข้เลยไม่มีแรงจะคุยต่อ (หน้าเริ่มเศร้าเหมือนเดิม แล้วหันมามองตาผม) หมอมีลูกใช่มั้ย อย่าส่งไปเรียน ไม่ต้องให้เรียน จะได้เวลากับเรา แถวๆ บ้านลุงนะ ลูกบ้านไหน ที่เรียนไม่เยอะ ก็จะอยู่กับพ่อแม่ตลอดเวลา ได้ไปมาหาสู่ ถามไถ่ ถึงแม้จะไม่มีทรัพย์สินมากมาย แต่ก็พออยู่ได้

ผม : (ผมก็เข้าไปโอบไหล่ไหล่คุณลุง) ที่คุณลุงพูดมาก็เป็นเรื่องจริง และเป็นเรื่องที่น่าคิดจริงๆ การเรียนหนังสือที่มาก ทำให้ได้บทบาทหน้าที่ที่มากขึ้น แต่บทบาทอันนั้นทำให้ทิ้งหน้าที่ของความเป็นลูกไป ทั้งที่สำคัญมากๆ
จบการสนทนา

ผมคิดว่าอย่างน้อยที่สุด อย่าให้การเรียน การมีความรู้ บทบาทหน้าที่มากมาย มาเบียดบังหน้าที่ที่สำคัญอันนี้ ไปนะครับ ขอเป็นกระบอกเสียงของคนไข้คนนี้ และคนไข้อีกหลายๆ คน ที่อยากบอกลูกของเขา

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่