แพร่/น่าน – กระแสต่อต้านมุสลิมสร้างมัสยิดที่เมืองน่านส่อบานปลาย ล่าสุดมีคนเปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจนัดรวมตัว “วัดพระธาตุแช่แห้ง”พรุ่งนี้(1มี.ค.)แสดงพลัง “คนน่าน บ่อเอา มัสยิด” กลัวก่อการร้ายเหมือนชายแดนใต้ แถมโยงแผนอิสลามโดดเดี่ยวอเมริกา-ยุโรป/ยึดไทยผ่านการเมืองภาคใต้ อ้างเฉยหนุนเงินผ่านอิสลามแบงก์ ใช้เอเอสทีวี.ปลุกปั่นคนไทย
วันนี้(28 ก.พ.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอดมินเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คนน่าน บ่เอา มัสยิด” ที่เพิ่งออนไลน์กันช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีผู้มีติดตามแล้วกว่า 2 พันราย ได้ประกาศบนหน้าเพจว่า “พุทธศาสนาถูกรังแกมามากพอแล้ว ที่มั่นสุดท้ายของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยคือ นครน่าน แผ่นดินธรรมของพ่อเฒ่าแม่หม่อนได้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาไว้ดีแล้ว ลูกหลานชาวน่านจะต้องรักษาไว้บ่หื้อไผมาย่ำยี 1 มีนาคม 2558 พบกันที่วัดพระธาตุแช่แห้งเพื่อแสดงพลังว่า คนน่านบ่เอามัสยิด”
เป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหลังชาวมุสลิมในจังหวัดน่าน ที่มีอยู่ราว 60 คน ได้พยายามที่จะตั้งมัสยิดเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาขึ้นในจังหวัดน่าน เพราะทุกวันนี้ชาวมุสลิมจังหวัดน่านต้องเดินทางไปละหมาด-ทำพิธีกันที่มัสยิด อ.เด่นชัย จ.แพร่ ที่มีระยะทางไกลถึง 130 กม.
ช่วงแรกมีแนวทางที่จะสร้างมัสยิดที่ริมฝั่งน้ำน่านตรงข้ามโรงพยาบาลน่าน เขตบ้านบุพผาราม ต.ฝายแก้ว อ.เมืองน่าน แต่ปรากฏว่า ชาวบ้านไม่ยอมขายที่ดินให้ เพราะเกรงจะเกิดปัญหาทางการเมืองขึ้นมา หรือจะเป็นจุดเริ่มของการก่อเหตุไม่สงบเหมือนภาคใต้ ทำให้ชาวมุสลิมน่าน หาที่ดินแปลงใหม่ ล่าสุดแผนก่อสร้างขึ้นที่ ต.น้ำแก่น อ.ภูเพียง จ.น่าน แต่ก็เกิดกระแสต่อต้านที่รุนแรงหนักขึ้น
โดยมีการอ้างว่า ชาวมุสลิมกลุ่มนี้จะสร้างศาสนสถานแข่งกับพระธาตุแช่แห้ง และพระธาตุเขาน้อย จนกลายเป็นกระแสของคนน่านต้านมุสลิมบานปลายออกไปแล้ว ภายใต้สโลแกนว่า “คนเมืองน่าน เมืองพุทธ เมืองสงบ”
นอกจากนี้ยังมีข้อความเน้นไปที่การก่อการร้ายสากลและการรุกครอบครองพื้นที่ของชาวมุสลิม เผยแพร่ไปในหมู่ชาวพุทธจังหวัดน่าน ทำนองว่า “อย่ามัวแต่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้ว อ่านหน่อยเถอะแล้วแชร์ ยุโรปอยู่ไม่ได้แล้วหลายประเทศ แผนการยึดครองแผ่นดินไทย ภายใน 10 ปี ของผู้ก่อการ ขจก. ย้ำ ขจก. เอามาเตือนให้คิดกันอีกครั้งว่า มันเกิดขึ้นไปกี่ข้อแล้ว และในต่างประเทศมีกลุ่มหัวรุนแรงเพิ่มขึ้นแล้วเท่าไหร่ ร่วมกันผลักดันกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงให้พ้นไปจากประเทศไทย
แผนการ ต้องการโดดเดี่ยวสหรัฐอเมริกาและยุโรป ด้วยการเอาเอเชีย (ไทย ลาว เขมร เวียดนาม พม่า และมาเลเซีย) ร่วมเป็นรัฐอิสลาม หรือเป็นเครือข่ายผนวกอินโนนีเซียเป็นฐานต่อสู้อเมริกา และยุโรป โดยใช้มาเลเซียเป็นรัฐบาลกลาง โดยมุสลิมโลก นำมุสลิมจากซีเรีย ลิเบีย และอาฟกานิสถาน เข้ามาฝึกอาวุธ และการสื่อสารให้มุสลิมในภูมิภาคเอเชียรวมถึงอินโดนิเซีย (ซึ่งมีคนจนมาก) เชื่อมโยงกับฟิลิปปินส์ (ซึ่งมีคริสต์มาก) และมาเลเซียอิสลามแข็งแรงโดยเฉพาะในประเทศไทยเพราะมีพุทธมาก ซึ่งในปัจจุบันให้ ดร.มหาเธร์ แห่งมาเลเซีย เป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย แผนการระยะยาวได้เริ่มปฏิบัติการมาราว 40 ปี”
ทั้งยังมีการผูกโยงว่า “ปี 2545 พ.ร.บ.ธนาคารอิสลาม เกิดขึ้นด้วยเงินงบประมาณแผ่นดินมากกว่า 1,000 ล้านบาท การดำเนินงานขาดทุนทุกปี จนในที่สุดต้องยุบเลิกธนาคารชาริอะห์ ของธนาคารกรุงไทย ที่มีกำไร เพราะธนาคารกรุงไทย ดูแลอย่างใกล้ชิด และใช้งบประมาณสนับสนุนจำนวนมาก เพื่อมาควบรวมกับธนาคารอิสลามเหลือเพียงธนาคารอิสลามฯเพียงแห่งเดียวในปัจจุบัน
และอ้างอีกว่า “Time” หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของโลก เปิดโปงแผน Dream State ที่อิสลามหวังยึดครองประเทศไทย โดยรุกทางการเมืองจากภาคใต้ ขยายผลให้มีการเลือกพรรคของตนใน กทม. และภาคตะวันออก โดยสนับสนุนการเงินผ่านธนาคารอิสลาม แล้วใช้ Astv ปลุกปั่นคนไทยให้ฆ่ากันเอง ได้ผลดีกว่าที่คาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสดังกล่าวกำลังลุกลามมากขึ้น โดยที่ยังไม่มีใครไปสร้างความเข้าใจ และดูเหมือนจะสุ่มเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบรุนแรงในอนาคตได้เช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000024212&Html=1&TabID=1&#Commenttab
คนน่านคงจะดูข่าวมากไป กลัวว่าในอนาคตคนน่านพุทธจะถูกลอบยิงรายวัน จะต้องขายบ้านขายที่ดินถูกๆ แล้วอพยพไปอยู่ที่อื่น
อารยธรรมน่าน งาช้างดำ พระธาตุแช่แห้ง จะโดนทุบทำลายเหมือนอารยธรรมอัสซีเรีย หรือพระพุทธรูปที่บามิยัน
ซึ่งเรื่องแบบนี้กว่าจะเกิดก็อีกเป็นร้อยปีหรือพันปี คนน่านไม่น่าจะคิดมากเป็นกระต่ายตื่นตูมไปก่อน
แต่น่าเป็นห่วงถ้าพฤติกรรมของคนน่านดังไปถึงโลกอิสลาม จะเกิดการประกาศฟัตวาในโลกอิสลาม
เพื่อทำสงครามก่อการร้ายจีฮัดกับนครน่าน เหมือนกับที่พม่า จีน โดนไปแล้ว
ส่วนตัวไม่อยากให้คนน่านเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง อะไรยอมได้ก็ควรยอมไปก่อน
ถ้าเสียงอาซานดังมาก ก็ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น เป็นวิธีแก้ปัญหาอย่างสันติที่ดีที่สุด
อย่าไปร้องเรียนจนชาวมุสลิมต้องไปปิดวัดพระธาตุแช่แห้ง มันจะกลายเป็นปัญหาไม่รู้จบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://news.muslimthaipost.com/content.php?page=sub&category=81&id=23167
ส่อยุ่ง!นัดรวมตัว“วัดพระธาตุแช่แห้ง”พรุ่งนี้ ปลุกกระแสต้านมุสลิมตั้งมัสยิด“น่าน”
วันนี้(28 ก.พ.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอดมินเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คนน่าน บ่เอา มัสยิด” ที่เพิ่งออนไลน์กันช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีผู้มีติดตามแล้วกว่า 2 พันราย ได้ประกาศบนหน้าเพจว่า “พุทธศาสนาถูกรังแกมามากพอแล้ว ที่มั่นสุดท้ายของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยคือ นครน่าน แผ่นดินธรรมของพ่อเฒ่าแม่หม่อนได้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาไว้ดีแล้ว ลูกหลานชาวน่านจะต้องรักษาไว้บ่หื้อไผมาย่ำยี 1 มีนาคม 2558 พบกันที่วัดพระธาตุแช่แห้งเพื่อแสดงพลังว่า คนน่านบ่เอามัสยิด”
เป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหลังชาวมุสลิมในจังหวัดน่าน ที่มีอยู่ราว 60 คน ได้พยายามที่จะตั้งมัสยิดเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาขึ้นในจังหวัดน่าน เพราะทุกวันนี้ชาวมุสลิมจังหวัดน่านต้องเดินทางไปละหมาด-ทำพิธีกันที่มัสยิด อ.เด่นชัย จ.แพร่ ที่มีระยะทางไกลถึง 130 กม.
ช่วงแรกมีแนวทางที่จะสร้างมัสยิดที่ริมฝั่งน้ำน่านตรงข้ามโรงพยาบาลน่าน เขตบ้านบุพผาราม ต.ฝายแก้ว อ.เมืองน่าน แต่ปรากฏว่า ชาวบ้านไม่ยอมขายที่ดินให้ เพราะเกรงจะเกิดปัญหาทางการเมืองขึ้นมา หรือจะเป็นจุดเริ่มของการก่อเหตุไม่สงบเหมือนภาคใต้ ทำให้ชาวมุสลิมน่าน หาที่ดินแปลงใหม่ ล่าสุดแผนก่อสร้างขึ้นที่ ต.น้ำแก่น อ.ภูเพียง จ.น่าน แต่ก็เกิดกระแสต่อต้านที่รุนแรงหนักขึ้น
โดยมีการอ้างว่า ชาวมุสลิมกลุ่มนี้จะสร้างศาสนสถานแข่งกับพระธาตุแช่แห้ง และพระธาตุเขาน้อย จนกลายเป็นกระแสของคนน่านต้านมุสลิมบานปลายออกไปแล้ว ภายใต้สโลแกนว่า “คนเมืองน่าน เมืองพุทธ เมืองสงบ”
นอกจากนี้ยังมีข้อความเน้นไปที่การก่อการร้ายสากลและการรุกครอบครองพื้นที่ของชาวมุสลิม เผยแพร่ไปในหมู่ชาวพุทธจังหวัดน่าน ทำนองว่า “อย่ามัวแต่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้ว อ่านหน่อยเถอะแล้วแชร์ ยุโรปอยู่ไม่ได้แล้วหลายประเทศ แผนการยึดครองแผ่นดินไทย ภายใน 10 ปี ของผู้ก่อการ ขจก. ย้ำ ขจก. เอามาเตือนให้คิดกันอีกครั้งว่า มันเกิดขึ้นไปกี่ข้อแล้ว และในต่างประเทศมีกลุ่มหัวรุนแรงเพิ่มขึ้นแล้วเท่าไหร่ ร่วมกันผลักดันกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงให้พ้นไปจากประเทศไทย
แผนการ ต้องการโดดเดี่ยวสหรัฐอเมริกาและยุโรป ด้วยการเอาเอเชีย (ไทย ลาว เขมร เวียดนาม พม่า และมาเลเซีย) ร่วมเป็นรัฐอิสลาม หรือเป็นเครือข่ายผนวกอินโนนีเซียเป็นฐานต่อสู้อเมริกา และยุโรป โดยใช้มาเลเซียเป็นรัฐบาลกลาง โดยมุสลิมโลก นำมุสลิมจากซีเรีย ลิเบีย และอาฟกานิสถาน เข้ามาฝึกอาวุธ และการสื่อสารให้มุสลิมในภูมิภาคเอเชียรวมถึงอินโดนิเซีย (ซึ่งมีคนจนมาก) เชื่อมโยงกับฟิลิปปินส์ (ซึ่งมีคริสต์มาก) และมาเลเซียอิสลามแข็งแรงโดยเฉพาะในประเทศไทยเพราะมีพุทธมาก ซึ่งในปัจจุบันให้ ดร.มหาเธร์ แห่งมาเลเซีย เป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย แผนการระยะยาวได้เริ่มปฏิบัติการมาราว 40 ปี”
ทั้งยังมีการผูกโยงว่า “ปี 2545 พ.ร.บ.ธนาคารอิสลาม เกิดขึ้นด้วยเงินงบประมาณแผ่นดินมากกว่า 1,000 ล้านบาท การดำเนินงานขาดทุนทุกปี จนในที่สุดต้องยุบเลิกธนาคารชาริอะห์ ของธนาคารกรุงไทย ที่มีกำไร เพราะธนาคารกรุงไทย ดูแลอย่างใกล้ชิด และใช้งบประมาณสนับสนุนจำนวนมาก เพื่อมาควบรวมกับธนาคารอิสลามเหลือเพียงธนาคารอิสลามฯเพียงแห่งเดียวในปัจจุบัน
และอ้างอีกว่า “Time” หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของโลก เปิดโปงแผน Dream State ที่อิสลามหวังยึดครองประเทศไทย โดยรุกทางการเมืองจากภาคใต้ ขยายผลให้มีการเลือกพรรคของตนใน กทม. และภาคตะวันออก โดยสนับสนุนการเงินผ่านธนาคารอิสลาม แล้วใช้ Astv ปลุกปั่นคนไทยให้ฆ่ากันเอง ได้ผลดีกว่าที่คาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสดังกล่าวกำลังลุกลามมากขึ้น โดยที่ยังไม่มีใครไปสร้างความเข้าใจ และดูเหมือนจะสุ่มเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบรุนแรงในอนาคตได้เช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คนน่านคงจะดูข่าวมากไป กลัวว่าในอนาคตคนน่านพุทธจะถูกลอบยิงรายวัน จะต้องขายบ้านขายที่ดินถูกๆ แล้วอพยพไปอยู่ที่อื่น
อารยธรรมน่าน งาช้างดำ พระธาตุแช่แห้ง จะโดนทุบทำลายเหมือนอารยธรรมอัสซีเรีย หรือพระพุทธรูปที่บามิยัน
ซึ่งเรื่องแบบนี้กว่าจะเกิดก็อีกเป็นร้อยปีหรือพันปี คนน่านไม่น่าจะคิดมากเป็นกระต่ายตื่นตูมไปก่อน
แต่น่าเป็นห่วงถ้าพฤติกรรมของคนน่านดังไปถึงโลกอิสลาม จะเกิดการประกาศฟัตวาในโลกอิสลาม
เพื่อทำสงครามก่อการร้ายจีฮัดกับนครน่าน เหมือนกับที่พม่า จีน โดนไปแล้ว
ส่วนตัวไม่อยากให้คนน่านเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง อะไรยอมได้ก็ควรยอมไปก่อน
ถ้าเสียงอาซานดังมาก ก็ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น เป็นวิธีแก้ปัญหาอย่างสันติที่ดีที่สุด
อย่าไปร้องเรียนจนชาวมุสลิมต้องไปปิดวัดพระธาตุแช่แห้ง มันจะกลายเป็นปัญหาไม่รู้จบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้