ฉันคือเก้งสาว อายุ 27 ปีแล้วยังไม่เคยมีแฟน มันแปลกใช่ไหม

สำหรับกระทู้นี้อาจจะเป็นกระทู้ค่อนข้าง private นิสนึงนะคับ

ตั้งแต่เรียน ประถมผมคิดว่าผมรู้จักตัวเองดีว่าตัวเองเป็นเก้ง เพราะตั้งแต่เรียนโรงเรียนชายล้วน ตอนพักเวลาเห็นพี่ๆผู้ชายถอดเสื้อ มันก็จะเกิดอาการอะไรสักอย่างซึ่งตอนนั้นบอกไม่ถูก และพอเริ่มโตก็โดนเพื่อนล้อ เพราะว่าสำอางผิดปกติ เราจะเป็นคนรักสวยรักงาม และเป็นคนที่ไม่ชอบเปลี่ยนเสื้อผ้าพักเพื่อนๆเวลาวิชาลูกเสือ หรือพละศึกษา ทำให้เป้นจุดสังเกตได้ เมื่อมาถึงประมาณ มอต้น ก็รู้สึกแปลกๆกับการที่เวลาเพื่อนเปลี่ยนเสื้อผ้า และทำไมเราอยากที่จะไปอยู่ใกล้ๆเค้า เวลาเค้าช่วยติวการบ้านก็รู้สึกว่าอบอุ่นจัง อยากอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา ความรู้สึกในตอนนั้นมันค่อนข้างที่จะชัดเจน แรกๆก็ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ เคยโดนคุณครูบอกเสมอว่าใ้หทำตัวแมนๆหน่อย แล้วเคยโดนไปฟ้องพ่อแม่ บางทีก็สงสารแม่เพราะเค้าก็รับไม่ได้ เค้ามีลูกชายไม่ได้มีลูกเป็นตุ๊ด ความรู้สึกนี้ฝังอยู่ในใจตลอดเวลาจนกระทั่ง เข้า มอสาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวิชาพละที่คนอื่นกำลังเปลี่ยนเสื้อ เป็นเวล่ที่ชลมุนวุ่นวายทีเดียว เพื่อนคนนึงที่นั่งด้วยกันข้างๆ ไม่รู้เกิดนึกสนุกท่าไหน ชวยผมไปห้องน้ำแล้ว โตกให้ดูโดยที่ให้ผมเป็นคนช่วยเค้าโตก เป็นครั้งแรกสุดนชีวิตที่รู้สึกดีอย่างที่ไมเคยเป็นมาก่อน อยากมีโมเม้นนั้นอีกรอบ แม้ว่าโมเม้นนั้นจะผ่านเลยมานานถึง สิบห้าปีแล้ว แต่เรื่องสำคัญก็ไม่ได้อยู่แค่นั้น ครั้งนั้นเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างฝังในใจมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ทำให้รู้ว่าตัวเองเป็นเก้งสาวแน่นอน แต่ไม่ได้มีอะไรกับเค้านะ เพราะยังอยู่ในชั่วโมงเรียน พอแยกย้ายกันช่วงมอสาม ผมก็เลื่อนชั้นโรงเรียนชายล้วนแห่งเดิมถึงตอน มอสี่ ซึ่งถ้าหากว่ามองในสายที่เรียนแล้วแน่นอนว่าสายศิลป์ภาษาเป็นสายที่เก้งสาว และชะนีเป็นที่โปรดปรานมาก และได้จับกลุ่มกับเพื่อนตุ๊ดด้วยกัน วันเวลาผ่านไปก็ยิ่งทำให้เรามั่นใจได้ว่าความเป็นเก้งสาวค่อนข้างที่จะเด่นชัด เพราะไม่ชอบเรยที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าวิชาพละที่ห้องร่วมกับเพื่อนๆ และไม่เคยคิดอยากจะใช้ห้องน้ำยืนฉี่กับเพื่อนผู้ชาย เราเป็นคนเดียวที่เข้าห้องน้ำแบบห้องส้วม เพราะว่าอาย จวบจนมาถึงมหาลัยนี่เป้นครั้งแรกที่ได้เคย เพศหญิง ในความรู้สึกนั้นค่อนข้างที่จะสับสนพอสมควร เนื่องจากถ้าใครที่เรียนโรงเรียนชายล้วนมาก่อน จะทราบดีว่า เเรกๆจะเขิลอายกับ เพศตรงข้าม เช่นเดียวกัน ผมก็เป็นคนนึงที่ตอนแรกๆทำอะไรไม่ถูก ก็เรย แอ๊บไว้ก่อน 5555แน่นอนว่าต้องแอ๊บไว้ เผื่อรับน้องแล้วเดี๋ยวพวกที่เป้นตุ๊ด เก้งกวางจะซวยเอา และแน่นอนว่าคนที่แอ๊บได้เนียนมากก็คือผม เพราะหลายครั้งที่เพื่อนๆถามว่า เทอๆๆทำไมเทอไม่ไปกะเพื่อนผู้ชายเรยอะ ทำไมเทอมาเดินกะเรา เทอคิดอะไรกับเราป่าวเนี่ย จิงๆอยากจะตอบว่า "เออ คือกูคิดแค่ว่าเมิงเป็นเพื่อนสาวไม่ได้คิดไรมากมาย" และตอนที่เพื่อนมหาลัยรู้ว่าเราไม่ใช่แน่นอนก็เหมือนเดิมแหละ เค้าสังเกตหลายจุดเช่น ทำไมต้องพกผ้าเช็ดหน้าไปตอนกินข้าว ทำไมต้องมีปากกาหลายๆสี มีสต็กเกอร์แปะโทรสับ มีผ้าเช็ดหน้า ไม่ยืนฉี่ และเวลาพูดทำไมเขิลอายที่จะพูด "ครับ" ก็แน่หละใครอยากจะพูดหละ พูดค่ะง่ายกว่าตั้งเยอะหนิ จิงๆแล้วเพื่อนก็น่าจะรุ้แหละครับว่าเราเป็นอะไร เพราะเปิดตัวกับเพื่อนๆตอนปีหนึ่งเทอมสอง มันชั่งรวดเร็วจิงๆ เวลาได้ผ่านมานานแสนนาน และระหว่างที่เวลาได้หมุนไปเรื่อยๆ ทำให้ผมได้รู้ว่าชีวิตของเก้งสาวนั้นมียากเย็นมาก เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็โดนข้อหาว่า แรด บ้าง เกินจริงบ้าง เฟค บ้าง ซึ่งไม่เหมือนเก้งหนุ่มที่จะสามารถแอบแมนได้ จวบจนมาถึงปัจจุบันนี้ที่จบมหาลัย และจบโท ก็กินเวลามานานมากแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเพราะเราหน้าตาไม่ดีหรอ หรือเราขี้เหร่ หรือเพราะบ้านค่อนข้างมีเงิน หรืออะไรทำไมไม่มีใครมาจีบบ้าง จริงอยู่ที่ผมเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยเข้าสังคม คือต้องเข้าสังคมใช่ไหมถึงจะมีโอกาสเจอเนื้อคู่บ้าง และเวลายิ่งผ่านไปทุกวันๆ โบท็อกก็เอาไม่อยู่หรอก ตอนนี้อายุ 27 แล้วครับ เรียนจบโทเมืองนอก หน้าที่การงานดี ชีวิตดีแฮปปี้ แต่ไม่ค่อยแฮปปี้อยู่สองวันแหละ ก็วันวาเลนไทน์ กะวันลอยกระทง สองวันนี้ไม่เคยไปไหนเรยนอกจากทำงาน และอยู่บ้าน มีบ้างไหมที่เราจะได้พบความรักที่แน่แท้ซะที เคยมีเพื่อนคนนึงที่สนิทกันบอกว่าให้ไปไหว้พระ เทพเจ้าแห่งความรักหรือตรีมูรติ เอาจิงๆไม่ได้ลบหลู่ท่านน่ะ เราไหว้ทุกพฤหัส เพราะเป็นวันแห่งครูเค้าบอกมา บูชา ไหว้อะไรก็สมปรารถนาตลอด แต่ก็ไม่เคยได้เป็นตัวเป็นตนสักครั้ง ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสกับคนอื่นบ้างไหม เพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกัน ดูในเฟสแล้วก็อิจฉา บอกตรงๆ แต่ละคนมีแฟน แต่งงาน เหลือแต่เรานี่แหละไอ้เก้งสาว ทิ้งเราไว้ให้เดียวดายกับความเศร้าต่อไป

ถึงตอนนี้แล้วสำหรับคนที่อ่านมาเนิ่นนาน ขอบคุณมากนะครับที่รับฟัง มีอะไรมาแชร์ๆกันได้
ขอบคุณ และ nice to meet you ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่