คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ขอโทษทีค่ะ พอดีไปทำงานบ้านต่อเพลินไปหน่อย เล่าต่อค่ะๆๆ
อยู่มาวันหนึ่งลูกชายส่งคลิปวิดีโอมาให้ทางไลน์บอกว่า
แม่หนังเรื่องนี้สนุกนะ ดูด้วย เค้าชอบมากเลยอยากให้แม่ดู
ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจเพราะไม่ได้เป็นคนชอบดูหนังในอินเตอร์เนท
แต่วันต่อมาลูกก็ถามมาทางไลน์อีกว่า ดูหรือยัง เราก็เลยตอบปัดไปแล้ว ดูแล้วสนุกดีนะ
ลูกชายตอบกลับมาว่า เรื่องนี้มันคล้ายกับชีวิตของเค้ามาก ดูแล้วแม่เข้าใจเค้ามากขึ้นไหม
เราก็ไปต่อไปถูกเลยคะ ก็พยายามเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่น
สุดท้ายเลยต้องเรียกลูกชายคนโตมาช่วยเปิดหนังเรื่องนี้ให้ดู
เรื่องนี้มีชื่อว่า “ความลับของหัวใจที่ไม่มีจริงคะ” (ทำไมหนังสมัยนี้ชื่อยาวจังคะ ไม่เหมือนสมัยก่อนชื่อสั้นๆจำง่าย)
ตัวละครหลักเป็นเด็กผู้ชายที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นกำลังสับสนกับเรืองของความรัก แล้วก็มีแฟนเป็นผู้ชายคะ
ดูผ่านๆไปรอบหนึ่งแล้วอีกสองสามวันก็ลองมานั่งดูอีกรอบหนึ่ง
พยายามคิดว่าลูกอยากบอกอะไรกับเรา
น้องผู้ชายในเรื่องเล่นดีคะ มีตอนหนึ่งที่เค้าบ่นว่า”ในครอบครัวก็ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร”
ดูตอนนี้แล้วปวดใจแทนลูกชายคะ
คิดว่าลึกๆแล้วเค้าก็คงไม่ได้อยากจะเกิดมาเป็นแบบนี้
แล้วก็คงอยากจะได้กำลังใจ โดยเฉพาะจากครอบครัว
น่าแปลกนะคะ เวลาที่เราอยู่ใกล้กันเราไม่เห็นคุณค่าของเวลา
แต่ตอนนี้อยากจะกอดลูกมาก อยากจะบอกว่าเรารักเขามากแค่ไหน
อยากจะฝากถึงพ่อแม่นะคะที่อาจจะมีลูกที่เป็นชายรักชายเหมือนดิชั้น
ลองเปิดใจรับฟังลูกเยอะๆนะคะ อย่ารอให้สายเกินไปเหมือนดิชั้น
อย่าให้เค้ารู้สึกว่าไม่มีคนเข้าใจเขา
ถ้ายังไม่เข้าใจก็ลองดูหนังเรื่อง “ความลับของหัวใจที่ไม่มีจริง” ดูซักครั้งคะ
อาจจะทำให้เข้าใจมากขึ้น
สุดท้ายฝากถึงลูกชายที่รักของแม่
ยังไงแม่ก็รักลูกนะ
ลูกเป็นลูกของแม่เสมอ
รีบเรียนจบแล้วกลับมานะ
รัก....จากแม่
อยู่มาวันหนึ่งลูกชายส่งคลิปวิดีโอมาให้ทางไลน์บอกว่า
แม่หนังเรื่องนี้สนุกนะ ดูด้วย เค้าชอบมากเลยอยากให้แม่ดู
ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจเพราะไม่ได้เป็นคนชอบดูหนังในอินเตอร์เนท
แต่วันต่อมาลูกก็ถามมาทางไลน์อีกว่า ดูหรือยัง เราก็เลยตอบปัดไปแล้ว ดูแล้วสนุกดีนะ
ลูกชายตอบกลับมาว่า เรื่องนี้มันคล้ายกับชีวิตของเค้ามาก ดูแล้วแม่เข้าใจเค้ามากขึ้นไหม
เราก็ไปต่อไปถูกเลยคะ ก็พยายามเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่น
สุดท้ายเลยต้องเรียกลูกชายคนโตมาช่วยเปิดหนังเรื่องนี้ให้ดู
เรื่องนี้มีชื่อว่า “ความลับของหัวใจที่ไม่มีจริงคะ” (ทำไมหนังสมัยนี้ชื่อยาวจังคะ ไม่เหมือนสมัยก่อนชื่อสั้นๆจำง่าย)
ตัวละครหลักเป็นเด็กผู้ชายที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นกำลังสับสนกับเรืองของความรัก แล้วก็มีแฟนเป็นผู้ชายคะ
ดูผ่านๆไปรอบหนึ่งแล้วอีกสองสามวันก็ลองมานั่งดูอีกรอบหนึ่ง
พยายามคิดว่าลูกอยากบอกอะไรกับเรา
น้องผู้ชายในเรื่องเล่นดีคะ มีตอนหนึ่งที่เค้าบ่นว่า”ในครอบครัวก็ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร”
ดูตอนนี้แล้วปวดใจแทนลูกชายคะ
คิดว่าลึกๆแล้วเค้าก็คงไม่ได้อยากจะเกิดมาเป็นแบบนี้
แล้วก็คงอยากจะได้กำลังใจ โดยเฉพาะจากครอบครัว
น่าแปลกนะคะ เวลาที่เราอยู่ใกล้กันเราไม่เห็นคุณค่าของเวลา
แต่ตอนนี้อยากจะกอดลูกมาก อยากจะบอกว่าเรารักเขามากแค่ไหน
อยากจะฝากถึงพ่อแม่นะคะที่อาจจะมีลูกที่เป็นชายรักชายเหมือนดิชั้น
ลองเปิดใจรับฟังลูกเยอะๆนะคะ อย่ารอให้สายเกินไปเหมือนดิชั้น
อย่าให้เค้ารู้สึกว่าไม่มีคนเข้าใจเขา
ถ้ายังไม่เข้าใจก็ลองดูหนังเรื่อง “ความลับของหัวใจที่ไม่มีจริง” ดูซักครั้งคะ
อาจจะทำให้เข้าใจมากขึ้น
สุดท้ายฝากถึงลูกชายที่รักของแม่
ยังไงแม่ก็รักลูกนะ
ลูกเป็นลูกของแม่เสมอ
รีบเรียนจบแล้วกลับมานะ
รัก....จากแม่
แสดงความคิดเห็น
เมื่อลูกชายคนเล็กส่งหนังมาให้ดูเรื่องหนึ่งคะ
ดิชั้นเป็นแม่บ้านธรรมดาคนหนึ่งค่ะ อายุก็ปาเข้าไปห้าสิบกว่าๆแล้ว แต่งงานได้เกือบยี่สิบกว่าปีแล้วคะ มีลูกชายสองคน คนโตอายุ 26 คนเล็กอายุ 23 ครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีแต่ก็นับว่าพอมีพอใช้ สามีทำงานบริษัทเอกชนเล็กๆที่หนึ่ง ด้วยความที่ทำงานมานานก็ได้ค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อหน่อย ทำให้ครอบครัวเราอยู่กันอย่างสบาย
ลูกชายคนโตเป็นคนดีเรียบร้อย ไม่เคยสร้างปัญหาเดือดร้อนอะไร เรียนปานกลางจบแล้วก็หางานทำเป็นพนักงานเงินเดือนทั่วไป
ลูกชายคนเล็ก…ส่วนตัวแล้วเป็นความภูมิใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่คะ ลูกชายคนเล็กเป็นคนเรียนดีกิจกรรมเด่นมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนมีน้ำใจ มนุษยสัมพันธ์ดี เป็นที่รักของเพื่อน
แต่จนเมื่อประมาณสองสามปีที่แล้วก็เกิดเรื่องที่เป็นเหมือนมรสุมพัดเข้ามาในครอบครัวเล็กๆของเรา
ดิชั้นบังเอิญไปรู้มาว่าลูกชายคนเล็กของเรา “ชอบผู้ชาย” คะ
ดิชั้นรู้ว่าปัจจุบันสังคมก็อาจจะเปิดมากขึ้นกับเรื่องแบบนี้มากขึ้นแล้ว แต่ด้วยความที่ครอบครัวของเราเป็นแบบคนจีนแท้ๆ สามีเป็นคนหัวโบราณเค้ารับเรื่องแบบนี้ไม่ได้มากๆ
ส่วนตัวดิชั้นก็พยายามทำความเข้าใจลูก แต่ลึกๆแล้วก็ยังหวังว่าลูกจะเปลี่ยน ลูกจะคิดถึงหัวอกพ่อแม่
เกิดความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้นในครอบครัว
จากที่เคยหันหน้าคุยกัน ก็กลายนั่งนิ่งเงียบเหมือนคนไม่รู้จักกัน
กับข้าวจะอร่อยแค่ไหน มันก็เย็นชืดจนปวดไปถึงหัวใจ
มีครั้งหนึ่งที่สามีกับลูกชายเถียงกันรุนแรง ลูกขู่จะหนีออกจากบ้าน
หัวอกคนเป็นแม่เหมือนใจสลายคะ ได้แต่ภาวนาอย่าให้เกิดความแตกหักไปมากกว่านี้
สุดท้ายเราก็ประคับประคองจนผ่านมาได้ แต่ก็ยังคงทิ้งเรื่องราวปัญหาต่างๆไว้เบื้องหลัง
ทำเหมือนกับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมามันไม่เคยเกิดขึ้น
ด้วยความที่ดิชั้นสนิทกับลูกชายพอสมควรก็รู้สึกได้เลยว่า มันเกิดกำแพงเล็กๆระหว่างเรากับลูกขึ้นมาแล้ว
เมื่อปีที่แล้วหลังจากลูกชายเรียนจบ ลูกชายขอไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ
ตอนนี้ลูกชายได้ไปเรียนต่อได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว
ก็ยังคุยกับลูกผ่านไลน์อยู่เรื่อยๆ โทรหากันอาทิตย์ละสองสามครั้ง
ยังไม่จบนะคะ เดี๋ยวดิชั้นมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ ขอพักสายตาแปปนะคะ