ไหนๆเดอะลาสท์มูฟวี่ก็เข้าไทยแล้ว แฟนอวยคู่นี้ทั้งหลายคงจะฟินกันไปไม่น้อยเลยทีเดียว
(จขกท.นี่ดูไปหลายตลบแล้วค่ะ ฮ่า)
แต่อาจจะมีไม่กี่คนนัก ที่รู้ว่า The Last มันมี "ฉบับนิยาย" อยู่ด้วย!
เล่มนี้นี่เองงง
โดยฉบับนิยาย จะเป็นเนื้อเรื่องหลักเดียวกับตัวหนังนั่นแหล่ะ
แต่ว่า!
จะเป็นส่วนที่ขยายจากเวอร์ชั่นภาพยนต์
โดยจะอธิบายถึงความรู้สึกของเจ้าโตะที่มันคิดในใจตลอดเวลาที่มันทำภารกิจ
เพราะถ้าเราดูจากเวอร์ชั่นหนังอย่างเดียว ก็จะเห็นแค่เพียงสีหน้าของเจ้าโตะ แต่ในใจมันคิดอะไรนั้นไม่อาจมีใครทราบได้
รวมถึงฉบับนิยายจะมีบางฉากที่ถูกตัดออกในหนังด้วยค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นขอเกริ่นไว้ก่อนว่า บางฉากของภาคหนังกับนิยายอาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว เดี๋ยวลองอ่านกันดูนะคะ
ตัวจขกท. เป็นคนที่อ่านญี่ปุ่นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แค่เพียงจับใจความคร่าวๆแต่ไม่สามารถแปลเป็นเรื่องเป็นราวได้
จึงขอยกส่วนของแฟนๆในทัมเบลอที่เป็นภาษาอังกฤษมาแปลเป็นภาษาไทยแทนละกันนะคะ (แต่ก็เปิดนิยายเช็คภาษาญี่ปุ่นดูตลอดว่าแปลตรงมั้ยด้วยนะเออ)
ขอเริ่มตั้งแต่บทที่5 (หน้าที่100) นะคะ
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านกิ่งไม้เป็นประกาย นารุโตะและฮินาตะเดินเคียงข้างกันไป
นารุโตะปัดหยากไย่ที่ติดพันอยู่บนผมของฮินาตะออก เขาตักน้ำจากบ่อน้ำดื่มเก่าๆด้วยอุ้งมือแล้วดื่มมันด้วยกันสองคน
ฮินาตะหัวเราะราวกับดอกไม้ นี่เป็นครั้งแรกที่นารุโตะรู้สึกได้ถึงความสุขในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน
มันไม่ได้หมายความว่าจนถึงทุกวันนี้เขาไม่มีความสุขเวลาอยู่กับคนอื่นหรอก
ตัวเขานั้นเชื่อมต่อผูกพันธ์กับเพื่อนๆด้วยความเชื่อและไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ท้องกับจิตใจของเขาก็ถูกเติมเต็มยามเมื่อเขากินราเม็งที่เขาชอบ
เขารู้สึกเคารพนับถือในตัวอาจารย์ของเขา ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์อิรุกะ อาจารย์คาคาชิ และอาจารย์จิรายะ
ตัวตนของจิ้งจอกเก้าหางคุราม่าที่อยู่ในตัวเขาก็สำคัญไม่แพ้กัน
ตั้งแต่เขายังเด็กแล้ว เขาเป็นเด็กกำพร้าที่มีชะตากรรมต้องสาปในฐานะจินจูริคิ แต่อุปสรรคทั้งหลายก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาเติบโตขึ้น
นารุโตะคิดว่าเขามีความสุขแล้ว นั่นคือความรู้สึกจริงๆของเขาแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตาม ความสุขอย่างที่สุด ที่เขาสัมผัสได้ในหลายชั่วโมงของบ่ายวันนี้ มันเป็นความรู้สึกหวานปนขม ฟูฟ่อง รื่นเริงอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต
มันเป็นความรู้สึกที่ต่างจากตอนทำภารกิจเสร็จสิ้น ตอนเฮฮากับเพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งตอนที่เขาซดน้ำซุปของร้านราเม็งอิจิราคุ
มันเป็นความสุขที่พิเศษและแตกต่างออกไป
*ตรงนี้พีคมากค่ะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก*
นารุโตะใจลอยขณะแอบมองใบหน้าของฮินาตะจากด้านข้างด้วยความหลงใหล
เขารู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งกระตุ้นปลายนิ้วของเขาให้เอื้อมไปสัมผัสรูปลักษณ์ที่งดงามนั่น
แล้วทันใดนั้น ฮินาตะก็หันมาหาเขา
ทำให้นารุโตะต้องรีบเสมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว
...
“น..นารุโตะคุง แล้วผ้าพันคอนั่นไปไหนแล้วเหรอ“
“อ๋อ นั่นน่ะเหรอ... ก็ข้างใต้ดินมันอุ่นน่ะ ฉันก็เลยเก็บไปแล้วล่ะ“
“ง..งั้นเหรอ“
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ความจริงแล้วเขายังรู้สึกหนาวอยู่ แม้ลมหายใจเบาๆของเขาก็กลายเป็นไอน้ำสีขาว
“ก็เพราะเธอแต่งตัว(บางๆ)แบบนั้น มันก็เลยหนาวน่ะสิ”
นารุโตะชำเลืองมองต้นแขนท่อนบนของฮินาตะ
ผิวของฮินาตะเป็นสีขาวและกระจ่างใส
“..........”
“อย่ามองเลยค่ะ.. ก็นี่มันเป็นชุดปฏิบัติภารกิจนี่นา......”
ฮินาตะพยายามปกปิดต้นแขนทั้งสองข้างด้วยมือของตนพร้อมกับหลุบตาลงด้วยแก้มสีแดงระเรื่อ
ทำให้หัวใจของนารุโตะหยุดเต้นไปชั่วครู่
(บ..บางอย่าง ฉันต้องพูดอะไรซักอย่างแล้ว!)
นารุโตะคิด
ทั้งอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ในตอนนี้ของเขา เขาต้องบอกฮินาตะให้ได้!
ทันใดที่ริมฝีปากของนารุโตะกำลังจะเปิดออก
แกร๊ง!
กระเป๋าเป้ของฮินาตะหล่นลง มีดสั้นของฮานาบิส่งเสียงยามเมื่อกระทบกับพื้น
หลังจากตั้งสติได้อีกครั้ง นารุโตะนั่งลงและเว้นระยะห่างออกมาจากฮินาตะ
เขารู้สึกว่าได้มีดสั้นของฮานาบิเป็นตัวเรียกสติกลับคืนมาก่อนที่ตัวเองจะลืมภารกิจและความตั้งใจของตัวเอง
แล้วความเงียบก็ปกคลุมทั้งสอง
……………..
“นารุโตะคุง...ฉันมีบางสิ่งอยากจะปรึกษาหน่อยน่ะ...”
“?”
“เกี่ยวกับโทเนริ...”
“ฮินาตะซัง!”
เสียงของซาอิแทรกเข้ามาระหว่างทั้งคู่
“เหมือนว่าชิกามารุจะเจอซากปรักของแท่นบวงสรวงที่ชานเมือง แล้วอยากจะให้เธอไปช่วยสำรวจมันด้วยเนตรสีขาวหน่อยน่ะ”
“...จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะจ้ะ!”
ฮินาตะลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าจริงจัง เธอโค้งศีรษะให้นารุโตะเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไปกับซาอิ
“...”
นารุโตะต้องการเวลา
ถ้าเกิดปล่อยให้โลกจบลงแบบนี้ล่ะก็
โอกาสที่เขาจะได้สารภาพกับฮินาตะคงหายไปด้วยแน่ๆ
เขาคงไม่สามารถตายได้อย่างสงบหรอกหากยังต้องเก็บเจ้าความรู้สึกเอาไว้ในอกแบบนี้
นารุโตะกำหมัดของตนและตัดสินใจแน่วแน่
(จบที่หน้า104)
--------------------------------
(หน้า108(ความคิดของชิกามารุ))
ตรงหน้าของเขา โดยมีฮินาตะย่อตัวนั่งลงข้างบ่อน้ำดื่มที่ริมทางเดิน ชิกามารุเห็นร่างของเจ้านารุโตะที่ไม่ยอมห่างจากเธอไปไหนเลย
ชิกามารุสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าช่วงนี้นารุโตะกับฮินาตะสนิทกันมากขึ้นอย่างรวดเร็วผิดหูผิดตา
ถึงเขาจะไม่ได้สนใจเรื่องเจ้านารุโตะอินเลิฟก็เถอะ(ใช้คำว่า恋するナルト) แต่ตอนนี้เจ้านั่นกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่นะ
ในฐานะที่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทีม คงจะเป็นปัญหาไม่น้อยหากหมอนั่นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
(ควรจะด่าเจ้านั่นซักรอบดีมั้ยเนี่ย?)
ยังไงก็เถอะ ปัญหาเรื่องรักๆใคร่ๆมันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน หากขืนไปทำลายมิตรภาพด้วยคำพูดพล่อยๆ
เขาคงไม่ได้อะไรดีขึ้นมาแน่
(ยุ่งยากชะมัด....)
ชิกามารุเดาะลิ้นและคิดในใจ
----------------------------------------------------------------
(หน้า158-161) ฉากซากุระนอนพักฟื้นคุยกับนารุโตะ
“ขอโทษนะ ซากุระจัง”
ขณะที่นารุโตะคุกเข่าลงข้างๆเธอ ซากุระลืมตาขึ้นช้าๆแล้วยิ้ม
“นี่ นารุโตะ สมัยก่อน นายเคยพูดบ่อยๆใช่มั้ยว่าชอบฉันน่ะ”
“.............”
“เรื่องนั้นน่ะ มันเป็นเพราะฉันชอบซาสึเกะคุงใช่มั้ยล่ะ เพราะนายไม่อยากจะแพ้ซาสึเกะคุง”
“...............”
"ฮินาตะน่ะเป็นผู้หญิงที่ดีนะ ดีจนคนอย่างนายไม่คู่ควรด้วยซ้ำ"
“อา... เรื่องนั้นจะเป็นยังไง มันก็จบแล้วล่ะ...
ยัยฮินาตะน่ะ เป็นคนยอมไปเป็นเจ้าสาวของเจ้าโทเนริด้วยตัวเองแล้ว...”
“แล้ว นายก็ทึ่ม แล้วยอมรับมันงั้นเหรอ?”
ซากุระหัวเราะ
“ก็มันเป็นความตั้งใจของยัยนั่นเองนี่...”
“เธออาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่บอกนายไม่ได้ก็ได้ไม่ใช่หรือไง
แล้วตัวนายล่ะ นายจะเชื่อมั่นในเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวที่นายชอบไม่ได้เลยงั้นเหรอ?
นายตอนนี้น่ะ ทำหน้าขี้แพ้แลัวก็น่าสมเพชเป็นบ้า น่าผิดหวังชะมัด"
“.....................”
“นี่ นารุโตะ... ผู้หญิงน่ะ ถ้าหากได้ตกหลุมรักใครสักคนอย่างแท้จริงแล้วล่ะก็
หัวใจของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงได้โดยง่ายดายขนาดนั้นหรอกนะ...
มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้...”
ภาพของซาสึเกะปรากฎในหัวของซากุระ
“มันเป็นแบบนั้นแหล่ะ... ฉันเข้าใจมันดี”
ซากุระก็หลับตาลง
“.................”
---
ข้างๆซากุระ นารุโตะกอดหัวเข่าของตนไว้ด้วยลำแขนทั้งสองข้าง
ใบหน้าของเขาถูกย้อมด้วยแสงสลัวจากกองไฟ นารุโตะมองไปที่จุดๆเดียวโดยไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย
...
น้ำตาสายหนึ่ง ไหลเป็นทางอาบบนแก้มและใบหน้าของนารุโตะ
เขาได้ตกหลุมรักใครสักคนจากใจจริง
สารภาพรัก
ถูกปฏิเสธ
แล้วก็จมสู่จุดที่ลึกที่สุด
นารุโตะพยายามที่จะดึงตนเองขึ้นมา จากเด็กชาย สู่ความเป็นผู้ชาย
บันไดที่จะพาเขาให้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
...นายตอนนี้น่ะ ทำหน้าขี้แพ้และน่าสมเพชชะมัด
...นายนี่มันใช้ไม่ได้จนน่าแปลกเลยนะครับ
...วิถีนินจาของนายไปอยู่ที่ไหนแล้วล่ะ!
[น่าจะเป็นคำพูดของพวกซากุระ ซาอิ ชิกะ]
เพราะพวกพ้อง ทำให้นารุโตะที่เกือบจะสูญเสียคำพูดของตนเอง ทบทวนคำพูดเหล่านั้นอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทีละเล็กทีละน้อยในดวงตาของนารุโตะ ทั้งพละกำลังและจิตวิญญาณได้กลับมาแล้ว
“แคร๊ก”
เสียงถ่านไม้ปริแตกดังขึ้น
นารุโตะก้มหัวลงสุดตัว เช็ดน้ำตาออก
เขาชันเข่าขึ้นข้างๆซากุระ
“ซากุระจัง ฉันเข้าใจแล้ว...
ฉันจะไปพบฮินาตะอีกครั้ง!”
“....................”
ซากุระพยักหน้าขณะที่หลับตาลงแล้วยิ้ม
“ขอบคุณนะ ซากุระจัง...”
นารุโตะลุกขึ้นยืนอย่างมีพลัง
นารุโตะเดินออกมาจากถ้ำที่ซ่อนตัวเพียงคนเดียว
พระอาทิตย์จำลองส่องแสงเหมือนกับพระจันทร์ดวงนั้น... ในคืนนั้น...
คนที่เขารักอย่างแท้จริงอยู่ที่นั่น
ฮินาตะ... ในที่สุดคนโง่ๆแบบฉัน ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะ
ในตอนที่เธอไปกับโทเนริ ความหมายของผ้าพันคอที่เธอให้กับฉัน...
ความรู้สึกของเธอ มันเป็นสิ่งที่ใช้เวลายาวนานในการสร้างขึ้นมา เหมือนกับตอนที่เธอถักไหมพรม
และความรักของเธอไม่ใช่สิ่งที่สามารถแก้ออกได้โดยง่าย...
ฮินาตะ... รอฉันก่อนนะ... คนอย่างฉัน... ที่เธอรักมาโดยตลอด ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง
ฉันมีเรื่องที่จะต้องบอกกับเธอให้ได้อยู่...!
“ฮินาตะ ฉันจะต้องช่วยเธอออกมาให้ได้!”
นารุโตะตะโกนออกมาพร้อมกับมือที่พยายามจะไขว่คว้าดวงอาทิตย์จำลองนั่นไว้
(เสริม ชื่อของฮินาตะ สามารถเขียนเป็นตัวคันจิได้ว่า日向ค่ะ หมายถึงที่ๆแสงแดดสาดส่อง ตัว日แปลว่าดวงอาทิตย์
ตรงจุดนี้เราเลยคิดว่าเขาอาจจะเล่นความนัยอะไรแฝงรึเปล่าหน๋อ อิอิ)
-------------------------------------------------------------
ฮ่าาาา เหนื่อย นั่งแปลมาหลายชั่วโมง5555
โอ้ยมายกอชชชชชชชชชช คือมัน มัน มัน มันดีมากกกกก //ขอกรี๊ดแปปนึงค่ะ55555
เราจะเห็นได้ว่า ฉบับนิยายจะเน้นการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของนารุโตะครั้งยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
จากเด็กผู้ชายที่ไม่ประสีประสาเรื่องความรัก สู่ผู้ชายที่เข้าใจในตัวเอง เป็นบันไดก้าวสุดท้ายก่อนที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่
เราชอบฉากที่นารุโตะบรรยายเรื่องความสุขตอนที่อยู่กับฮินาตะมากๆค่ะ โอยตาบ้านี่ โลกเป็นสีชมพูไปแล้ว
ฮินาตะหัวเราะราวกับดอกไม้อะไรกันยะะะ (ヒナタは花ように笑っていた。)
โอ้ยหมั่นไส้หหหหหหหหห
แล้วฉากมองต้นแขน เรารู้สึกว่ามันเป็นฉากที่เอโร่ยมากๆเลยค่ะ ทำไมแอบรู้สึกว่าโตะหื่น... ไปมองผิวสาวๆแบบนั้นได้ยังไงง
แถมมีการอยากจะไปสัมผัสอะไรด้วยนะ มีเขียนบรรยายอีกว่าผิวฮินาตะขาวแล้วก็ใส555555555 บ้าชริง
ขนาดชิกามารุยังรู้สึกได้เลยว่านารุโตะเหมือนหมาน้อยมากกก คือตามฮินาตะต้อยๆ ฉันจะไม่ห่างจากเธอไปไหนเด็ดขาด ฮา
แล้วอีกฉากหนึ่งที่ทำเราช็อคมากก็คือ ...
............
นารุโตะร้องไห้ค่ะ!!!
ร้องจริง ร้องจัง ไม่ใช้แสตนอิน ไม่ใช้ตัวแสดงแทน โอมายกอดดด
แต่เอาจริงๆตอนเราอ่าน/แปล ก็รู้สึกปวดใจมากกว่าฟินนะ... มันไม่ง่ายเลยอ่ะการที่ผู้ชายซักคนจะเสียน้ำตา ยิ่งเป็นคนอย่างเจ้าโตะแล้ว
ไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าจะสามารถร้องไห้เรื่องความรักได้... นั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าแบบนั้น.... ช็อคมากจริงๆค่ะ
เรารู้สึกว่าเดอะลาสท์ฉบับนิยายแสดงความรู้สึกออกมาได้ดีมากๆ ให้เรารู้สึกได้ถึงความสับสนในตัวเอง ความกลัว ความเศร้า ความผิดหวัง ไม่รู้จะต้องทำยังไงของนารุโตะ เพราะตัวโตะเองก็เหมือนเด็กน้อยๆที่เพิ่งรู้จักคำว่า "รัก" ในแบบที่ไม่ใช่มิตรภาพ ไม่ใช่ครอบครัว แต่เป็นการรักใครสักคนด้วยความรู้สึกของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงเป็นครั้งแรก แต่ก็ได้คำพูดของพวกพ้องผลักให้ตัวเองก้าวเดินต่อไปได้
ตอนนี้เรากำลังเปิดเพจแปลโด+นิยายนารุโตะอยู่ค่ะ ชื่อเพจ NARUTO+Couple ในเฟซ
https://www.facebook.com/NaruHinaCanon
ใครสนใจก็ตามไปดูได้น้า คิดว่าคงจะลงผลงานใหม่เรื่อยๆค่ะ
ความรู้สึกของนารุโตะที่มีต่อฮินาตะในThe Last "ฉบับนิยาย" มาดูกันว่าเราพลาดอะไรไป
(จขกท.นี่ดูไปหลายตลบแล้วค่ะ ฮ่า)
แต่อาจจะมีไม่กี่คนนัก ที่รู้ว่า The Last มันมี "ฉบับนิยาย" อยู่ด้วย!
เล่มนี้นี่เองงง
โดยฉบับนิยาย จะเป็นเนื้อเรื่องหลักเดียวกับตัวหนังนั่นแหล่ะ
แต่ว่า!
จะเป็นส่วนที่ขยายจากเวอร์ชั่นภาพยนต์
โดยจะอธิบายถึงความรู้สึกของเจ้าโตะที่มันคิดในใจตลอดเวลาที่มันทำภารกิจ
เพราะถ้าเราดูจากเวอร์ชั่นหนังอย่างเดียว ก็จะเห็นแค่เพียงสีหน้าของเจ้าโตะ แต่ในใจมันคิดอะไรนั้นไม่อาจมีใครทราบได้
รวมถึงฉบับนิยายจะมีบางฉากที่ถูกตัดออกในหนังด้วยค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นขอเกริ่นไว้ก่อนว่า บางฉากของภาคหนังกับนิยายอาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว เดี๋ยวลองอ่านกันดูนะคะ
ตัวจขกท. เป็นคนที่อ่านญี่ปุ่นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แค่เพียงจับใจความคร่าวๆแต่ไม่สามารถแปลเป็นเรื่องเป็นราวได้
จึงขอยกส่วนของแฟนๆในทัมเบลอที่เป็นภาษาอังกฤษมาแปลเป็นภาษาไทยแทนละกันนะคะ (แต่ก็เปิดนิยายเช็คภาษาญี่ปุ่นดูตลอดว่าแปลตรงมั้ยด้วยนะเออ)
ขอเริ่มตั้งแต่บทที่5 (หน้าที่100) นะคะ
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านกิ่งไม้เป็นประกาย นารุโตะและฮินาตะเดินเคียงข้างกันไป
นารุโตะปัดหยากไย่ที่ติดพันอยู่บนผมของฮินาตะออก เขาตักน้ำจากบ่อน้ำดื่มเก่าๆด้วยอุ้งมือแล้วดื่มมันด้วยกันสองคน
ฮินาตะหัวเราะราวกับดอกไม้ นี่เป็นครั้งแรกที่นารุโตะรู้สึกได้ถึงความสุขในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน
มันไม่ได้หมายความว่าจนถึงทุกวันนี้เขาไม่มีความสุขเวลาอยู่กับคนอื่นหรอก
ตัวเขานั้นเชื่อมต่อผูกพันธ์กับเพื่อนๆด้วยความเชื่อและไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ท้องกับจิตใจของเขาก็ถูกเติมเต็มยามเมื่อเขากินราเม็งที่เขาชอบ
เขารู้สึกเคารพนับถือในตัวอาจารย์ของเขา ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์อิรุกะ อาจารย์คาคาชิ และอาจารย์จิรายะ
ตัวตนของจิ้งจอกเก้าหางคุราม่าที่อยู่ในตัวเขาก็สำคัญไม่แพ้กัน
ตั้งแต่เขายังเด็กแล้ว เขาเป็นเด็กกำพร้าที่มีชะตากรรมต้องสาปในฐานะจินจูริคิ แต่อุปสรรคทั้งหลายก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาเติบโตขึ้น
นารุโตะคิดว่าเขามีความสุขแล้ว นั่นคือความรู้สึกจริงๆของเขาแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตาม ความสุขอย่างที่สุด ที่เขาสัมผัสได้ในหลายชั่วโมงของบ่ายวันนี้ มันเป็นความรู้สึกหวานปนขม ฟูฟ่อง รื่นเริงอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต
มันเป็นความรู้สึกที่ต่างจากตอนทำภารกิจเสร็จสิ้น ตอนเฮฮากับเพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งตอนที่เขาซดน้ำซุปของร้านราเม็งอิจิราคุ
มันเป็นความสุขที่พิเศษและแตกต่างออกไป
*ตรงนี้พีคมากค่ะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก*
นารุโตะใจลอยขณะแอบมองใบหน้าของฮินาตะจากด้านข้างด้วยความหลงใหล
เขารู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งกระตุ้นปลายนิ้วของเขาให้เอื้อมไปสัมผัสรูปลักษณ์ที่งดงามนั่น
แล้วทันใดนั้น ฮินาตะก็หันมาหาเขา
ทำให้นารุโตะต้องรีบเสมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว
...
“น..นารุโตะคุง แล้วผ้าพันคอนั่นไปไหนแล้วเหรอ“
“อ๋อ นั่นน่ะเหรอ... ก็ข้างใต้ดินมันอุ่นน่ะ ฉันก็เลยเก็บไปแล้วล่ะ“
“ง..งั้นเหรอ“
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ความจริงแล้วเขายังรู้สึกหนาวอยู่ แม้ลมหายใจเบาๆของเขาก็กลายเป็นไอน้ำสีขาว
“ก็เพราะเธอแต่งตัว(บางๆ)แบบนั้น มันก็เลยหนาวน่ะสิ”
นารุโตะชำเลืองมองต้นแขนท่อนบนของฮินาตะ
ผิวของฮินาตะเป็นสีขาวและกระจ่างใส
“..........”
“อย่ามองเลยค่ะ.. ก็นี่มันเป็นชุดปฏิบัติภารกิจนี่นา......”
ฮินาตะพยายามปกปิดต้นแขนทั้งสองข้างด้วยมือของตนพร้อมกับหลุบตาลงด้วยแก้มสีแดงระเรื่อ
ทำให้หัวใจของนารุโตะหยุดเต้นไปชั่วครู่
(บ..บางอย่าง ฉันต้องพูดอะไรซักอย่างแล้ว!)
นารุโตะคิด
ทั้งอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ในตอนนี้ของเขา เขาต้องบอกฮินาตะให้ได้!
ทันใดที่ริมฝีปากของนารุโตะกำลังจะเปิดออก
แกร๊ง!
กระเป๋าเป้ของฮินาตะหล่นลง มีดสั้นของฮานาบิส่งเสียงยามเมื่อกระทบกับพื้น
หลังจากตั้งสติได้อีกครั้ง นารุโตะนั่งลงและเว้นระยะห่างออกมาจากฮินาตะ
เขารู้สึกว่าได้มีดสั้นของฮานาบิเป็นตัวเรียกสติกลับคืนมาก่อนที่ตัวเองจะลืมภารกิจและความตั้งใจของตัวเอง
แล้วความเงียบก็ปกคลุมทั้งสอง
……………..
“นารุโตะคุง...ฉันมีบางสิ่งอยากจะปรึกษาหน่อยน่ะ...”
“?”
“เกี่ยวกับโทเนริ...”
“ฮินาตะซัง!”
เสียงของซาอิแทรกเข้ามาระหว่างทั้งคู่
“เหมือนว่าชิกามารุจะเจอซากปรักของแท่นบวงสรวงที่ชานเมือง แล้วอยากจะให้เธอไปช่วยสำรวจมันด้วยเนตรสีขาวหน่อยน่ะ”
“...จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะจ้ะ!”
ฮินาตะลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าจริงจัง เธอโค้งศีรษะให้นารุโตะเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไปกับซาอิ
“...”
นารุโตะต้องการเวลา
ถ้าเกิดปล่อยให้โลกจบลงแบบนี้ล่ะก็
โอกาสที่เขาจะได้สารภาพกับฮินาตะคงหายไปด้วยแน่ๆ
เขาคงไม่สามารถตายได้อย่างสงบหรอกหากยังต้องเก็บเจ้าความรู้สึกเอาไว้ในอกแบบนี้
นารุโตะกำหมัดของตนและตัดสินใจแน่วแน่
(จบที่หน้า104)
--------------------------------
(หน้า108(ความคิดของชิกามารุ))
ตรงหน้าของเขา โดยมีฮินาตะย่อตัวนั่งลงข้างบ่อน้ำดื่มที่ริมทางเดิน ชิกามารุเห็นร่างของเจ้านารุโตะที่ไม่ยอมห่างจากเธอไปไหนเลย
ชิกามารุสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าช่วงนี้นารุโตะกับฮินาตะสนิทกันมากขึ้นอย่างรวดเร็วผิดหูผิดตา
ถึงเขาจะไม่ได้สนใจเรื่องเจ้านารุโตะอินเลิฟก็เถอะ(ใช้คำว่า恋するナルト) แต่ตอนนี้เจ้านั่นกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่นะ
ในฐานะที่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทีม คงจะเป็นปัญหาไม่น้อยหากหมอนั่นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
(ควรจะด่าเจ้านั่นซักรอบดีมั้ยเนี่ย?)
ยังไงก็เถอะ ปัญหาเรื่องรักๆใคร่ๆมันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน หากขืนไปทำลายมิตรภาพด้วยคำพูดพล่อยๆ
เขาคงไม่ได้อะไรดีขึ้นมาแน่
(ยุ่งยากชะมัด....)
ชิกามารุเดาะลิ้นและคิดในใจ
----------------------------------------------------------------
(หน้า158-161) ฉากซากุระนอนพักฟื้นคุยกับนารุโตะ
“ขอโทษนะ ซากุระจัง”
ขณะที่นารุโตะคุกเข่าลงข้างๆเธอ ซากุระลืมตาขึ้นช้าๆแล้วยิ้ม
“นี่ นารุโตะ สมัยก่อน นายเคยพูดบ่อยๆใช่มั้ยว่าชอบฉันน่ะ”
“.............”
“เรื่องนั้นน่ะ มันเป็นเพราะฉันชอบซาสึเกะคุงใช่มั้ยล่ะ เพราะนายไม่อยากจะแพ้ซาสึเกะคุง”
“...............”
"ฮินาตะน่ะเป็นผู้หญิงที่ดีนะ ดีจนคนอย่างนายไม่คู่ควรด้วยซ้ำ"
“อา... เรื่องนั้นจะเป็นยังไง มันก็จบแล้วล่ะ...
ยัยฮินาตะน่ะ เป็นคนยอมไปเป็นเจ้าสาวของเจ้าโทเนริด้วยตัวเองแล้ว...”
“แล้ว นายก็ทึ่ม แล้วยอมรับมันงั้นเหรอ?”
ซากุระหัวเราะ
“ก็มันเป็นความตั้งใจของยัยนั่นเองนี่...”
“เธออาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่บอกนายไม่ได้ก็ได้ไม่ใช่หรือไง
แล้วตัวนายล่ะ นายจะเชื่อมั่นในเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวที่นายชอบไม่ได้เลยงั้นเหรอ?
นายตอนนี้น่ะ ทำหน้าขี้แพ้แลัวก็น่าสมเพชเป็นบ้า น่าผิดหวังชะมัด"
“.....................”
“นี่ นารุโตะ... ผู้หญิงน่ะ ถ้าหากได้ตกหลุมรักใครสักคนอย่างแท้จริงแล้วล่ะก็
หัวใจของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงได้โดยง่ายดายขนาดนั้นหรอกนะ...
มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้...”
ภาพของซาสึเกะปรากฎในหัวของซากุระ
“มันเป็นแบบนั้นแหล่ะ... ฉันเข้าใจมันดี”
ซากุระก็หลับตาลง
“.................”
---
ข้างๆซากุระ นารุโตะกอดหัวเข่าของตนไว้ด้วยลำแขนทั้งสองข้าง
ใบหน้าของเขาถูกย้อมด้วยแสงสลัวจากกองไฟ นารุโตะมองไปที่จุดๆเดียวโดยไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย
...
น้ำตาสายหนึ่ง ไหลเป็นทางอาบบนแก้มและใบหน้าของนารุโตะ
เขาได้ตกหลุมรักใครสักคนจากใจจริง
สารภาพรัก
ถูกปฏิเสธ
แล้วก็จมสู่จุดที่ลึกที่สุด
นารุโตะพยายามที่จะดึงตนเองขึ้นมา จากเด็กชาย สู่ความเป็นผู้ชาย
บันไดที่จะพาเขาให้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
...นายตอนนี้น่ะ ทำหน้าขี้แพ้และน่าสมเพชชะมัด
...นายนี่มันใช้ไม่ได้จนน่าแปลกเลยนะครับ
...วิถีนินจาของนายไปอยู่ที่ไหนแล้วล่ะ!
[น่าจะเป็นคำพูดของพวกซากุระ ซาอิ ชิกะ]
เพราะพวกพ้อง ทำให้นารุโตะที่เกือบจะสูญเสียคำพูดของตนเอง ทบทวนคำพูดเหล่านั้นอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทีละเล็กทีละน้อยในดวงตาของนารุโตะ ทั้งพละกำลังและจิตวิญญาณได้กลับมาแล้ว
“แคร๊ก”
เสียงถ่านไม้ปริแตกดังขึ้น
นารุโตะก้มหัวลงสุดตัว เช็ดน้ำตาออก
เขาชันเข่าขึ้นข้างๆซากุระ
“ซากุระจัง ฉันเข้าใจแล้ว...
ฉันจะไปพบฮินาตะอีกครั้ง!”
“....................”
ซากุระพยักหน้าขณะที่หลับตาลงแล้วยิ้ม
“ขอบคุณนะ ซากุระจัง...”
นารุโตะลุกขึ้นยืนอย่างมีพลัง
นารุโตะเดินออกมาจากถ้ำที่ซ่อนตัวเพียงคนเดียว
พระอาทิตย์จำลองส่องแสงเหมือนกับพระจันทร์ดวงนั้น... ในคืนนั้น...
คนที่เขารักอย่างแท้จริงอยู่ที่นั่น
ฮินาตะ... ในที่สุดคนโง่ๆแบบฉัน ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะ
ในตอนที่เธอไปกับโทเนริ ความหมายของผ้าพันคอที่เธอให้กับฉัน...
ความรู้สึกของเธอ มันเป็นสิ่งที่ใช้เวลายาวนานในการสร้างขึ้นมา เหมือนกับตอนที่เธอถักไหมพรม
และความรักของเธอไม่ใช่สิ่งที่สามารถแก้ออกได้โดยง่าย...
ฮินาตะ... รอฉันก่อนนะ... คนอย่างฉัน... ที่เธอรักมาโดยตลอด ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง
ฉันมีเรื่องที่จะต้องบอกกับเธอให้ได้อยู่...!
“ฮินาตะ ฉันจะต้องช่วยเธอออกมาให้ได้!”
นารุโตะตะโกนออกมาพร้อมกับมือที่พยายามจะไขว่คว้าดวงอาทิตย์จำลองนั่นไว้
(เสริม ชื่อของฮินาตะ สามารถเขียนเป็นตัวคันจิได้ว่า日向ค่ะ หมายถึงที่ๆแสงแดดสาดส่อง ตัว日แปลว่าดวงอาทิตย์
ตรงจุดนี้เราเลยคิดว่าเขาอาจจะเล่นความนัยอะไรแฝงรึเปล่าหน๋อ อิอิ)
-------------------------------------------------------------
ฮ่าาาา เหนื่อย นั่งแปลมาหลายชั่วโมง5555
โอ้ยมายกอชชชชชชชชชช คือมัน มัน มัน มันดีมากกกกก //ขอกรี๊ดแปปนึงค่ะ55555
เราจะเห็นได้ว่า ฉบับนิยายจะเน้นการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของนารุโตะครั้งยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
จากเด็กผู้ชายที่ไม่ประสีประสาเรื่องความรัก สู่ผู้ชายที่เข้าใจในตัวเอง เป็นบันไดก้าวสุดท้ายก่อนที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่
เราชอบฉากที่นารุโตะบรรยายเรื่องความสุขตอนที่อยู่กับฮินาตะมากๆค่ะ โอยตาบ้านี่ โลกเป็นสีชมพูไปแล้ว
ฮินาตะหัวเราะราวกับดอกไม้อะไรกันยะะะ (ヒナタは花ように笑っていた。)
โอ้ยหมั่นไส้หหหหหหหหห
แล้วฉากมองต้นแขน เรารู้สึกว่ามันเป็นฉากที่เอโร่ยมากๆเลยค่ะ ทำไมแอบรู้สึกว่าโตะหื่น... ไปมองผิวสาวๆแบบนั้นได้ยังไงง
แถมมีการอยากจะไปสัมผัสอะไรด้วยนะ มีเขียนบรรยายอีกว่าผิวฮินาตะขาวแล้วก็ใส555555555 บ้าชริง
ขนาดชิกามารุยังรู้สึกได้เลยว่านารุโตะเหมือนหมาน้อยมากกก คือตามฮินาตะต้อยๆ ฉันจะไม่ห่างจากเธอไปไหนเด็ดขาด ฮา
แล้วอีกฉากหนึ่งที่ทำเราช็อคมากก็คือ ...
............
นารุโตะร้องไห้ค่ะ!!!
ร้องจริง ร้องจัง ไม่ใช้แสตนอิน ไม่ใช้ตัวแสดงแทน โอมายกอดดด
แต่เอาจริงๆตอนเราอ่าน/แปล ก็รู้สึกปวดใจมากกว่าฟินนะ... มันไม่ง่ายเลยอ่ะการที่ผู้ชายซักคนจะเสียน้ำตา ยิ่งเป็นคนอย่างเจ้าโตะแล้ว
ไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าจะสามารถร้องไห้เรื่องความรักได้... นั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าแบบนั้น.... ช็อคมากจริงๆค่ะ
เรารู้สึกว่าเดอะลาสท์ฉบับนิยายแสดงความรู้สึกออกมาได้ดีมากๆ ให้เรารู้สึกได้ถึงความสับสนในตัวเอง ความกลัว ความเศร้า ความผิดหวัง ไม่รู้จะต้องทำยังไงของนารุโตะ เพราะตัวโตะเองก็เหมือนเด็กน้อยๆที่เพิ่งรู้จักคำว่า "รัก" ในแบบที่ไม่ใช่มิตรภาพ ไม่ใช่ครอบครัว แต่เป็นการรักใครสักคนด้วยความรู้สึกของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงเป็นครั้งแรก แต่ก็ได้คำพูดของพวกพ้องผลักให้ตัวเองก้าวเดินต่อไปได้
ตอนนี้เรากำลังเปิดเพจแปลโด+นิยายนารุโตะอยู่ค่ะ ชื่อเพจ NARUTO+Couple ในเฟซ
https://www.facebook.com/NaruHinaCanon
ใครสนใจก็ตามไปดูได้น้า คิดว่าคงจะลงผลงานใหม่เรื่อยๆค่ะ