ความแม่นเป็นเหตุ โบอิ้งเผย ระเบิดอัจฉริยะ JDAM ยอดขายพุ่ง
โบอิ้ง เผย ชาติพันธมิตรต่างๆ ได้มีคำสั่งซื้อชุดอัพเกรดลูกระเบิดนำวิถีเจแดม มากกว่า 11,000 ชุด ที่ถือว่าเป็นการทำสถิติในด้านจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยจุดเด่นที่เปลี่ยนระเบิดธรรมดา กลายเป็นระเบิดนำวิถีที่แม่นยำมากที่สุด...
นับตั้งแต่การปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอีรัก อย่าง Operation Enduring Freedom และ Operation Iraqi Freedom จนถึงปัจจุบัน ทำให้ความต้องการชุดดัดแปลงระเบิด เจแดม หรือ Joint Attack Direct Munition (JDAM) ที่เป็นอุปกรณ์นำวิถีให้กับระเบิดธรรมดาแบบทิ้งตกกระทบระเบิดทั่วไป กลายเป็นอาวุธที่แม่นยำสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุด คือ การใช้โจมตีเป้าหมายทางอากาศโดยอากาศยานของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ชุดอัพเกรดลูกระเบิด เจแดม เมื่อติดกับระเบิดขนาดต่างๆ ภาพจากวิกิพีเดีย
ในการถล่มกลุ่มไอซิสในอีรักและซีเรีย
ชุดอัพเกรดระเบิดเจแดม เปลี่ยนจากระเบิดโง่ (Dumb Bombs) ธรรมดาให้สามารถควบคุมตำแหน่งการตกผ่านการนำทาง โดยระบบบอกพิกัดตำแหน่งดาวเทียม หรือ GPS ควบคู่กับระบบนำทางภายใน หรือ INS ที่จะคอยนำทางลูกระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาจากเครื่องบินรบ ให้ค่อยๆ ลอยเข้าสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำ ทำให้สามารถลดปริมาณลูกระเบิดที่ใช้ทิ้งทำลายเป้าหมายได้ ส่งผลให้ระดับการใช้งานก็เพิ่มขึ้น ด้วยความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ ขณะนี้มีใช้งานแล้วกว่าใน 23 ชาติพันธมิตร รวมทั้งกองทัพสหรัฐฯ
โบอิ้ง ระบุว่า ปี 2014 ที่ผ่านมาชาติพันธมิตรต่างๆ ได้มีคำสั่งซื้อชุดอัพเกรดลูกระเบิดนำวิถีเจแดม มากกว่า 11,000 ชุด ที่ถือเป็นการทำสถิติในด้านจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โบอิ้ง เวพ่อนส์ แอนด์ ซิสเต็มส์ ในเมืองเซนต์ชาล์ส รัฐมิซซูรี สร้างชุดคิทต้นทุนต่ำมา เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ และกองทัพเรือสหรัฐฯ รวมทั้งคำสั่งซื้อจากชาติพันธมิตร ทั้งนี้ เชื่อว่ายอดการสั่งซื้อในปี 2015 จะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ระเบิดเจแดม ถูกนำมาเตรียมสำหรับเครื่องบินของ ทร.สหรัฐ ภาพจาก วิกิพีเดีย
ชุดเสริมสมรรถนะของระเบิดนำวิถี เจแดม สามารถสร้างขึ้นได้ตามความต้องการใช้งานในแต่ละภารกิจ รวมทั้งมีตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น เซ็นเซอร์จับเป้าด้วย เลเซอร์ สำหรับการโจมตีเป้าหมายที่มีการเคลื่อนที่ รวมทั้งปีกเสริมสำหรับระเบิด เจแดม ที่โบอิ้งและออสเตรเลีย ร่วมกันพัฒนา เพิ่มเพิ่มระยะการโจมตีให้กับลูกระเบิดสามารถร่อนไปยังเป้าหมายได้ไกลขึ้นจากเดิม 15 ไมล์ เป็น 40 ไมล์ ดังนั้น ในสภาพการณ์ของการปฏิบัติการทางทหาร ภายใต้งบประมาณที่ลดลงในปัจจุบัน เจแดมจึงเป็นตัวเลือกในการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และยืดหยุ่นเพียงพอสำหรับการปฏิบัติการทางทหารทั่วโลก
ทั้งนี้ ชุดคิทลูกระเบิดนำวิถีเจแดม (JDAM) มีระบบนำวิถีทั้งแบบที่ใช้พิกัดตำแหน่งดาวเทียม เลเซอร์ชี้เป้า และภาพจากรังสีอินฟราเรด มีราคาประมาณ 25,000 เหรียญสหรัฐฯ ติดตั้งได้ทั้งระเบิดตระกูล MK.80 หรือตระกูล BLU ที่มีขนาดตั้งแต่ 500 ปอนด์ ไปจนถึง 2,000 ปอนด์ โดยกำหนดตามรหัสอาวุธ ดังนี้ GBU-31 เป็นระเบิดแบบ MK.84 ขนาด 2,000 ปอนด์ GBU-32 เป็นระเบิดแบบ MK.83 ขนาด 1,000 ปอนด์ และ GBU-38 เป็นระเบิด แบบ MK.82 ขนาด 500 ปอนด์ ส่วน GBU-54 เป็นระเบิด MK.82 ขนาด 500 ปอนด์ พร้อมระบบนำวิถีแบบเลเซอร์ มีใช้เฉพาะกองทัพเรือ และหน่วยนาวิกโยธินของสหรัฐฯ มีใช้งาน 23 ชาติพันธมิตร รวมทั้ง กองทัพอากาศไทย.
มาดูของเล่นดีกว่า
ที่มา : rollcall
http://www.thairath.co.th/content/483844 
HaHaHaพี่กันนี่โหดจัง"ความแม่นเป็นเหตุ โบอิ้งเผย ระเบิดอัจฉริยะ JDAM ยอดขายพุ่ง"
โบอิ้ง เผย ชาติพันธมิตรต่างๆ ได้มีคำสั่งซื้อชุดอัพเกรดลูกระเบิดนำวิถีเจแดม มากกว่า 11,000 ชุด ที่ถือว่าเป็นการทำสถิติในด้านจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยจุดเด่นที่เปลี่ยนระเบิดธรรมดา กลายเป็นระเบิดนำวิถีที่แม่นยำมากที่สุด...
นับตั้งแต่การปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอีรัก อย่าง Operation Enduring Freedom และ Operation Iraqi Freedom จนถึงปัจจุบัน ทำให้ความต้องการชุดดัดแปลงระเบิด เจแดม หรือ Joint Attack Direct Munition (JDAM) ที่เป็นอุปกรณ์นำวิถีให้กับระเบิดธรรมดาแบบทิ้งตกกระทบระเบิดทั่วไป กลายเป็นอาวุธที่แม่นยำสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุด คือ การใช้โจมตีเป้าหมายทางอากาศโดยอากาศยานของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ชุดอัพเกรดลูกระเบิด เจแดม เมื่อติดกับระเบิดขนาดต่างๆ ภาพจากวิกิพีเดีย
ในการถล่มกลุ่มไอซิสในอีรักและซีเรีย
ชุดอัพเกรดระเบิดเจแดม เปลี่ยนจากระเบิดโง่ (Dumb Bombs) ธรรมดาให้สามารถควบคุมตำแหน่งการตกผ่านการนำทาง โดยระบบบอกพิกัดตำแหน่งดาวเทียม หรือ GPS ควบคู่กับระบบนำทางภายใน หรือ INS ที่จะคอยนำทางลูกระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาจากเครื่องบินรบ ให้ค่อยๆ ลอยเข้าสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำ ทำให้สามารถลดปริมาณลูกระเบิดที่ใช้ทิ้งทำลายเป้าหมายได้ ส่งผลให้ระดับการใช้งานก็เพิ่มขึ้น ด้วยความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ ขณะนี้มีใช้งานแล้วกว่าใน 23 ชาติพันธมิตร รวมทั้งกองทัพสหรัฐฯ
โบอิ้ง ระบุว่า ปี 2014 ที่ผ่านมาชาติพันธมิตรต่างๆ ได้มีคำสั่งซื้อชุดอัพเกรดลูกระเบิดนำวิถีเจแดม มากกว่า 11,000 ชุด ที่ถือเป็นการทำสถิติในด้านจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โบอิ้ง เวพ่อนส์ แอนด์ ซิสเต็มส์ ในเมืองเซนต์ชาล์ส รัฐมิซซูรี สร้างชุดคิทต้นทุนต่ำมา เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ และกองทัพเรือสหรัฐฯ รวมทั้งคำสั่งซื้อจากชาติพันธมิตร ทั้งนี้ เชื่อว่ายอดการสั่งซื้อในปี 2015 จะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ระเบิดเจแดม ถูกนำมาเตรียมสำหรับเครื่องบินของ ทร.สหรัฐ ภาพจาก วิกิพีเดีย
ชุดเสริมสมรรถนะของระเบิดนำวิถี เจแดม สามารถสร้างขึ้นได้ตามความต้องการใช้งานในแต่ละภารกิจ รวมทั้งมีตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น เซ็นเซอร์จับเป้าด้วย เลเซอร์ สำหรับการโจมตีเป้าหมายที่มีการเคลื่อนที่ รวมทั้งปีกเสริมสำหรับระเบิด เจแดม ที่โบอิ้งและออสเตรเลีย ร่วมกันพัฒนา เพิ่มเพิ่มระยะการโจมตีให้กับลูกระเบิดสามารถร่อนไปยังเป้าหมายได้ไกลขึ้นจากเดิม 15 ไมล์ เป็น 40 ไมล์ ดังนั้น ในสภาพการณ์ของการปฏิบัติการทางทหาร ภายใต้งบประมาณที่ลดลงในปัจจุบัน เจแดมจึงเป็นตัวเลือกในการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และยืดหยุ่นเพียงพอสำหรับการปฏิบัติการทางทหารทั่วโลก
ทั้งนี้ ชุดคิทลูกระเบิดนำวิถีเจแดม (JDAM) มีระบบนำวิถีทั้งแบบที่ใช้พิกัดตำแหน่งดาวเทียม เลเซอร์ชี้เป้า และภาพจากรังสีอินฟราเรด มีราคาประมาณ 25,000 เหรียญสหรัฐฯ ติดตั้งได้ทั้งระเบิดตระกูล MK.80 หรือตระกูล BLU ที่มีขนาดตั้งแต่ 500 ปอนด์ ไปจนถึง 2,000 ปอนด์ โดยกำหนดตามรหัสอาวุธ ดังนี้ GBU-31 เป็นระเบิดแบบ MK.84 ขนาด 2,000 ปอนด์ GBU-32 เป็นระเบิดแบบ MK.83 ขนาด 1,000 ปอนด์ และ GBU-38 เป็นระเบิด แบบ MK.82 ขนาด 500 ปอนด์ ส่วน GBU-54 เป็นระเบิด MK.82 ขนาด 500 ปอนด์ พร้อมระบบนำวิถีแบบเลเซอร์ มีใช้เฉพาะกองทัพเรือ และหน่วยนาวิกโยธินของสหรัฐฯ มีใช้งาน 23 ชาติพันธมิตร รวมทั้ง กองทัพอากาศไทย.
มาดูของเล่นดีกว่า
ที่มา : rollcall
http://www.thairath.co.th/content/483844