ขออนุญาตเเทนตัวเองว่าเรานะคะ
เราเองเคยเป็นพนักงานบริษัทเอกชนเเห่งนึ่งเเต่ชั่วหลังน้ำท่วมใหญ่ก็ได้รับเเพ็คเเกจจากทางบริษัท นั้นคือโดน layoff นั้นเอง เลยนำเงินที่ได้มาเปิดร้านมินิมาร์ทเล็กๆเพื่อทดแทนรายได้ที่สูญเสียไป
ขณะที่เราขายของอยู่ที่ร้าน108shopมาเนิ่นนานก็ได้พบเได้พบปะลูกค่ามากมายตั้งเเต่เด็กน้อยไปจนถึงคนเเก่ไม่เว้นเเม้กระชาวต่างชาติที่เดินเข้ามาซื้อของในร้านพร้อมพาเรื่องราวที่น่าสนใจมาให้เราได้รับรู้เเละอยากที่จะส่งต่อให้เพื่อนๆฟัง
อย่างวันนี้เราอยากเล่าเรื่องฝรั่งคนนึงเค้าป็นคนอังกฤษ อายุยังน้อยแค่27ปีเองเค้าเป็นลูกค้าประจำที่ร้านฝรั่งนี่มันติดหญิงไทยที่เป็น
นักศึกษาที่เพิ่งจะจบที่ไม่กลับบ้านกลับเมือง เเรกๆฝรั่งนี่ก็ซื้อของร้านเราบ้างร้านอื่นที่อยู่ใกล้ร้านเราบ้าง แต่เนื่องจากเราพอที่จะสื่อสารกับเค้าได้ก็เลยมาเข้าที่ร้านเราประจำตลอดเลยเเบบว่าคงหาเพื่อนคุย
มาที่ร้านทีเราก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย เค้าก็ชอบเม้าแฟนเค้าบ้าง ถามทางบ้าง คุยโน้นนี่ไปเรื่อย
วันนี้ฝรั่งมาอีกมาซื้อเบียร์
เเต่ว่าดึกเเล้วไอ้เราก็ทักไปตามธรรมดาว่านึกว่า
เเม่ค้า: ยังไม่ง่วงอีกเหรอ
ฝรั่ง:วันนี้ไอเหนื่อยมากเลยอยากกินเบียร์ก่อนนอน
เเม่ค้า:ทำไมเหนื่อย
ฝรั่ง:ไอไปสอนเด็กๆมา
เเม่ค้า:อ้าวนี้ยูเป็นครูเหรอ???
ฝรั่ง:ใช่
แม่ค้า: ที่ไหนรร.อะไร
ฝรั่ง:อ๋อ..ไอไม่ได้สอนที่รร.ไอสอนเด็กตามรร.สอนพิเศษ
เเม่ค้า:เเล้วยูไม่อยากสอนตามรรเหรอ
ฝรั่ง:อยากสิแต่ไอไม่ได้จบ มหาลัยเลยทำได้เเค่นี้ เเล้วไอก็เรียนไม่เก่งด้วย ตอนเรียนที่นู้ไอชอบเล่นดนตรี เเต่งเพลงมากกว่า
ฝรั่งก็เล่าเรื่องที่มันสอนอีกมากมาย....เเล้วเราก็เริ่มฟังมันไม่รู้เรื่องเเม้งชักเยอะก็นึกขึ้นได้ว่าไอ้ฝรั่งนี้มันมีเพื่อนนี้หว่า
มันเคยเล่าให้ฟังเราก็เลยเเทรกถามมันไปว่า
เเม่ค้า:เออเเล้วเพื่อนยูละทำอะไรที่ไหน
ฝรั่ง:เพื่อนไอก็เป็นครูเเต่เค้าสอนที่รร.เป็นงานประจำ
แม่ค้า:เพื่อนยูจบมหาลัยเหรอ??(ถามไปงั้นเเหละขี้เกียจฟังมันเล่ายาว)
ฝรั่ง:เปล่า!!!เพื่อนไอไม่ได้จบมหาลัยแต่ไปซื้อวุฒิมหาลัยจากถนนข้าวสาร(แม่ค้าอ้าปากค้างเเล้วถามกลับไปว่า)
แม่ค้า:เอ้ยทำไมทำเเบบนี้อะเด็กไทยต้องการเรียนภาษาจากครูที่เป็นครูจริงๆนะ เเล้วรร.ไม่ได้ตรวจสอบเหรอ
ฝรั่ง:No +ยิ้มๆ
แม่ค้า: เฮ้ย จริงๆเเล้วพวกครูฝรั่งเนี้ยจะต้องถูกส่งตัวมาจาก บริษัทจัดหาครูไม่ให้เหรอเเล้วหลังจากนั้นถึงค่อยส่ง
ไปตามรร
ฝรั่ง:Yes!! +ยิ้ม
แม่ค้า
MGเเล้วบริษัทมันไม่ตรวจสอบเหรอเนี้ย
ฝรั่ง:NO +ขำไปด้วย
ไอ้เราถึงกับอึ่งไปเลยนึกยาวไปต่อถึงตาย
เเละอนาคตลูกกรูจะต้องตกอยู่ในมือฝรั่งพวกนี้เหรอเนี้ย เเล้วตอนนี้กำลังที่จะเลือกหลักสูตรให้ลูกเรียนอยู่ด้วยคิดหนักเลย กลัวเจอครูข้าวสาร
เรากับฝรั่งคุยกัยต่ออีกนิสเเล้วฝรั่งก็กำลังจะกลับออกไปจากร้านเราเราก็เลยพูดติดตลกไปว่า
แม่ค้า: พรุ่งนี้ถ้ายูมาที่ร้านไอก็จะกลายเป็นโปรเฟสเซอร์ที่มาจากฮอกวอต์ (ขี่ไม้กวาดมาเลยที่เดียว...55555)
เพราะไอจะไปถนนข้าวสาร.....
ฝรั้งขำกร๊ากเเล้วเดินจากไป...เรายังอึ้งต่อ
เรากลับมานั้งคิดว่าชักไม่เเปลกใจเเล้วว่าทำไมระดับการศึกษาของบ้านเราถึงไม่พัฒนาเเบบจริงจัง ไอ้หลักสูตร EP หรือว่าMEP ตามโรงเรียนไม่ไม่ทำให้เกิดประโยชน์กับเด็กเลย คิดต่อไปว่าถ้าไอ้ครูข้าวสารมันไปสอนวิชา เลข วิทยาศาสตร์ อะไรพวกนี้ลูกเราจะได้อะไรจากมัน น่าจะมีหน่วยงานรัฐเข้ามาดูเเลอย่าจริงจังกว่านี้ไม่ใช่เเค่จะดันๆไปเพราะพยายามยกระดับประเทศให้ดูดี
จริงๆเเล้วเรื่องการทำเอกสารปลอมเนี้ยก็เคยได้ยินมานานเเล้ว เราเคยดูสารคดีท่องเที่ยวที่ฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทยเเล้วก็กล่าวถึงข้าวสารว่ามีการทำแบบนี้ เเต่ตอนนั้นไม่คิดว่าการทำเอกสารปลอมเเบบนี้ทำมาเพื่อไปใช้สมัครงานนึกว่าทำกันเล่นๆสนุก พอเจอกับตัวเองถึงกับพูดไม่ออกเลย
ไม่อยากไปด่าฝรั่งเเต่อยากจะด่าไอ้พวกบริษัทนายหน้าที่ไม่มีจรรยาบรรณเลย !!!!
ว่าเเล้วก็ขี่ไม้กวาดกลับไปสอนต่อดีกว่า.....กลุ้ม!!!
ขออภัยนะคะถ้าบางคำใช่คำไม่สุภาพหรือสะกดผิด...
นี่ขนาดคนไทยจบตรียังสะกดภาษาตัวเองผิดเลยไม่ต้องพูดถึงครูข้าวสารเลยว่าจะเป็นงัย
กลุ้มใจกับระบบการคัดเลือกครูชาวต่างชาติเข้ามาเป็นคูร
เราเองเคยเป็นพนักงานบริษัทเอกชนเเห่งนึ่งเเต่ชั่วหลังน้ำท่วมใหญ่ก็ได้รับเเพ็คเเกจจากทางบริษัท นั้นคือโดน layoff นั้นเอง เลยนำเงินที่ได้มาเปิดร้านมินิมาร์ทเล็กๆเพื่อทดแทนรายได้ที่สูญเสียไป
ขณะที่เราขายของอยู่ที่ร้าน108shopมาเนิ่นนานก็ได้พบเได้พบปะลูกค่ามากมายตั้งเเต่เด็กน้อยไปจนถึงคนเเก่ไม่เว้นเเม้กระชาวต่างชาติที่เดินเข้ามาซื้อของในร้านพร้อมพาเรื่องราวที่น่าสนใจมาให้เราได้รับรู้เเละอยากที่จะส่งต่อให้เพื่อนๆฟัง
อย่างวันนี้เราอยากเล่าเรื่องฝรั่งคนนึงเค้าป็นคนอังกฤษ อายุยังน้อยแค่27ปีเองเค้าเป็นลูกค้าประจำที่ร้านฝรั่งนี่มันติดหญิงไทยที่เป็น
นักศึกษาที่เพิ่งจะจบที่ไม่กลับบ้านกลับเมือง เเรกๆฝรั่งนี่ก็ซื้อของร้านเราบ้างร้านอื่นที่อยู่ใกล้ร้านเราบ้าง แต่เนื่องจากเราพอที่จะสื่อสารกับเค้าได้ก็เลยมาเข้าที่ร้านเราประจำตลอดเลยเเบบว่าคงหาเพื่อนคุย
มาที่ร้านทีเราก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย เค้าก็ชอบเม้าแฟนเค้าบ้าง ถามทางบ้าง คุยโน้นนี่ไปเรื่อย
วันนี้ฝรั่งมาอีกมาซื้อเบียร์
เเต่ว่าดึกเเล้วไอ้เราก็ทักไปตามธรรมดาว่านึกว่า
เเม่ค้า: ยังไม่ง่วงอีกเหรอ
ฝรั่ง:วันนี้ไอเหนื่อยมากเลยอยากกินเบียร์ก่อนนอน
เเม่ค้า:ทำไมเหนื่อย
ฝรั่ง:ไอไปสอนเด็กๆมา
เเม่ค้า:อ้าวนี้ยูเป็นครูเหรอ???
ฝรั่ง:ใช่
แม่ค้า: ที่ไหนรร.อะไร
ฝรั่ง:อ๋อ..ไอไม่ได้สอนที่รร.ไอสอนเด็กตามรร.สอนพิเศษ
เเม่ค้า:เเล้วยูไม่อยากสอนตามรรเหรอ
ฝรั่ง:อยากสิแต่ไอไม่ได้จบ มหาลัยเลยทำได้เเค่นี้ เเล้วไอก็เรียนไม่เก่งด้วย ตอนเรียนที่นู้ไอชอบเล่นดนตรี เเต่งเพลงมากกว่า
ฝรั่งก็เล่าเรื่องที่มันสอนอีกมากมาย....เเล้วเราก็เริ่มฟังมันไม่รู้เรื่องเเม้งชักเยอะก็นึกขึ้นได้ว่าไอ้ฝรั่งนี้มันมีเพื่อนนี้หว่า
มันเคยเล่าให้ฟังเราก็เลยเเทรกถามมันไปว่า
เเม่ค้า:เออเเล้วเพื่อนยูละทำอะไรที่ไหน
ฝรั่ง:เพื่อนไอก็เป็นครูเเต่เค้าสอนที่รร.เป็นงานประจำ
แม่ค้า:เพื่อนยูจบมหาลัยเหรอ??(ถามไปงั้นเเหละขี้เกียจฟังมันเล่ายาว)
ฝรั่ง:เปล่า!!!เพื่อนไอไม่ได้จบมหาลัยแต่ไปซื้อวุฒิมหาลัยจากถนนข้าวสาร(แม่ค้าอ้าปากค้างเเล้วถามกลับไปว่า)
แม่ค้า:เอ้ยทำไมทำเเบบนี้อะเด็กไทยต้องการเรียนภาษาจากครูที่เป็นครูจริงๆนะ เเล้วรร.ไม่ได้ตรวจสอบเหรอ
ฝรั่ง:No +ยิ้มๆ
แม่ค้า: เฮ้ย จริงๆเเล้วพวกครูฝรั่งเนี้ยจะต้องถูกส่งตัวมาจาก บริษัทจัดหาครูไม่ให้เหรอเเล้วหลังจากนั้นถึงค่อยส่ง
ไปตามรร
ฝรั่ง:Yes!! +ยิ้ม
แม่ค้าMGเเล้วบริษัทมันไม่ตรวจสอบเหรอเนี้ย
ฝรั่ง:NO +ขำไปด้วย
ไอ้เราถึงกับอึ่งไปเลยนึกยาวไปต่อถึงตาย
เเละอนาคตลูกกรูจะต้องตกอยู่ในมือฝรั่งพวกนี้เหรอเนี้ย เเล้วตอนนี้กำลังที่จะเลือกหลักสูตรให้ลูกเรียนอยู่ด้วยคิดหนักเลย กลัวเจอครูข้าวสาร
เรากับฝรั่งคุยกัยต่ออีกนิสเเล้วฝรั่งก็กำลังจะกลับออกไปจากร้านเราเราก็เลยพูดติดตลกไปว่า
แม่ค้า: พรุ่งนี้ถ้ายูมาที่ร้านไอก็จะกลายเป็นโปรเฟสเซอร์ที่มาจากฮอกวอต์ (ขี่ไม้กวาดมาเลยที่เดียว...55555)
เพราะไอจะไปถนนข้าวสาร.....
ฝรั้งขำกร๊ากเเล้วเดินจากไป...เรายังอึ้งต่อ
เรากลับมานั้งคิดว่าชักไม่เเปลกใจเเล้วว่าทำไมระดับการศึกษาของบ้านเราถึงไม่พัฒนาเเบบจริงจัง ไอ้หลักสูตร EP หรือว่าMEP ตามโรงเรียนไม่ไม่ทำให้เกิดประโยชน์กับเด็กเลย คิดต่อไปว่าถ้าไอ้ครูข้าวสารมันไปสอนวิชา เลข วิทยาศาสตร์ อะไรพวกนี้ลูกเราจะได้อะไรจากมัน น่าจะมีหน่วยงานรัฐเข้ามาดูเเลอย่าจริงจังกว่านี้ไม่ใช่เเค่จะดันๆไปเพราะพยายามยกระดับประเทศให้ดูดี
จริงๆเเล้วเรื่องการทำเอกสารปลอมเนี้ยก็เคยได้ยินมานานเเล้ว เราเคยดูสารคดีท่องเที่ยวที่ฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทยเเล้วก็กล่าวถึงข้าวสารว่ามีการทำแบบนี้ เเต่ตอนนั้นไม่คิดว่าการทำเอกสารปลอมเเบบนี้ทำมาเพื่อไปใช้สมัครงานนึกว่าทำกันเล่นๆสนุก พอเจอกับตัวเองถึงกับพูดไม่ออกเลย
ไม่อยากไปด่าฝรั่งเเต่อยากจะด่าไอ้พวกบริษัทนายหน้าที่ไม่มีจรรยาบรรณเลย !!!!
ว่าเเล้วก็ขี่ไม้กวาดกลับไปสอนต่อดีกว่า.....กลุ้ม!!!
ขออภัยนะคะถ้าบางคำใช่คำไม่สุภาพหรือสะกดผิด...
นี่ขนาดคนไทยจบตรียังสะกดภาษาตัวเองผิดเลยไม่ต้องพูดถึงครูข้าวสารเลยว่าจะเป็นงัย