Au pair พี่ๆที่เคยไป&ใครสนใจไปaupairกำลังหาเพื่อนปรึกษา

สนใจอยากไปโครงการ au pair
ตอนนี้กำลังเริ่มศึกษาหาข้อมูลมีเพื่อนคนไหนกำลังศึกษาข้อมูลและคิดว่าจะไปปี '58-'59 มาพูดคุยติดต่กันได้ ส่วนตัวเราคิดจะไปแน่นอนแต่ติดเรื่องภาษาอังกฤษแย่มากคงต้องใช้เวลาฝึกอีกนาน

พี่ๆที่เคยไปแล้วรบกวนแนะนำประสบการณ์ และเอเจนซี่ให้หน่อยนะค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาวออแพร์ไทยแลนด์ และที่กำลังจะมาเป็นออแพร์
พี่เคยไปเป็นออแพร์เมกา อยู่สองปี 2009-2011ไปกับคัลเจอรอลแคร์ จากที่เคยมาอ่านหน้าเวบเพจบ่อยๆ เห็นน้องๆพากันรีแมชและเปลี่ยนบ้านกันบ่อย หรือถูกโฮสเอาเปรียบในเรื่องต่างๆนานา จากประสบการณ์ของพี่อันแสนจะโหดมันส์ฮาก้อเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง
และอยากให้คำแนะนำที่ดีก่อนการมาเป็นออแพร์ค่ะ เริ่มกันเลย
ก่อนอื่นต้องดูที่ตัวเราก่อนว่าพร้อมจะมาใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกได้มากแค่ไหน อย่าHITตามกระแสเชียวน่า กำลังใจและกายต้องพร้อม คิดว่าอาการคิดถึงบ้านที่เรียกว่าโอมสิกเนี้ยจะหนักไหม ภาษาก้อสำคัญมากในด้านการสื่อสาร และให้คิดว่าการย้ายมาอยู่กับครอบครัวหนึ่งๆ ที่เราไม่รู้จักเนี้ย มันต้องอาศัยการปรับตัวเยอะ เค้าปรับแต่ตัวเราปรับเยอะกว่าทั้งกับครอบครัว สถานที่ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ อาหารการกิน อาจจะผอมฮวบในช่วงแรกๆก้อเป็นได้ เพราะ อาหารและ คิดถึงบ้าน
การเลือกอเจนซี่ จริงๆแล้วหลายๆอเจนซี่ก้อดี ให้การดูแลเอาใจใส่ ดูแลเรื่องเอกสาร และมีครอบครัวให้เลือกเยอะ แต่ต้องศึกษาดูดีๆ เพราะโปรของการดูแลหลังการขายในบางที่อาจจะไม่ค่อยดีนัก บวกกับเรื่องค่าใช้จ่ายแต่ล่ะที่ราคาต่างกัน ก้อเอาตามกำลังทรัพย์ของเราพอจะจ่ายได้ และให้แน่ใจว่ามีบริการหลังการขายที่ดีด้วย
เรื่องของการไปเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็กก้อไม่ยาก ไปหาสมัครตามศูนย์เลี้ยงเด็ก โรงเรียนอนุบาลหรือ พรีสคูล และถ้าหากมีประสบการณ์เลี้ยงน้องหรือหลานๆที่บ้านก้อแอดเพิ่มเป็นออฟชั่นไปในโปรไฟล์ด้วยก้อจะดี
การได้ไปฝึกเลี้ยงเด็กเพื่อเก็บชั่วโมงนั่นยังทำให้เราได้สามารถรู้ตัวเองด้วยว่าเราเหมาะกับเด็กวัยไหน และสามารถรับมือได้กับวันไหนบ้าง เมื่อคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วก้อ หาข้อมมูลเกี่ยวกับอเจนซี่ที่จะไปด้วยได้แล้ว ต้องสอบภาษาอังกฤษเพื่อวัดระดับภาษาของตัวเราด้วย ณ จุดนี้พี่คิดว่าคงไม่ยากสำหรับน้องๆ อาจจะมีสอบข้อเขียน พูด อ่าน ฟัง แล้วแต่ล่ะอเจนซี่เค้ากำหนดใ
เมื่อสอบผ่านแล้ว ได้ออนไลน์โปรไฟล์ ก้อ มาเตรียมการสมัครได้เลย ทั้งในเรื่องเอกสารต้องพร้อม มีประกาศณียบัตรอะไรที่เกี่ยวกับเด็กและกิจกรรมอะไรก้อตามที่ไปบำเพ็ญร่วมกับเด็กๆ งัดมาให้หมด รูปถ่ายร่วมกับเด็กๆ กิจกรรมต่างๆ การเขียนโปรไฟล์เกี่ยวกับประสบการณ์การเลี้ยงเด็ก บรรยายไปร้อยแปดเลย
ตอนนี้แหละสำคัญ เมื่อมีครอบครัวเริ่มเข้ามาวิวแล้ว อย่าเพิ่งดีใจจนติสด์แตกกระเจิดกระเจิงล่ะ ตั้งสติก่อน บางครอบครัวแค่เข้ามาแล้วก้อจากไป แต่บางครอบครัวเข้ามาแล้วหากเค้าสนใจเรา ให้ใจเย็นๆ ปล่อยให้เค้าเปิดยิงคำถามใส่เราก่อน รับมือตั้งรับกับทุกๆคำถาม และตอบให้ดี แล้วหลังจากนั้นเราค่อยเริ่มถามเค้า ดูโปรไฟล์เค้าว่าเบื่องต้นว่า เด็กกี่คน อายุเท่าไร เค้าพักอาศัยอยู่เมืองและรัฐไหน ตรงสเป็คที่เราคาดการไว้หรือไม่
หากสนใจกันจริงๆนี้คือประเด็นสำคัญ ว่าเราต้องทำความรู้จักกับครอบครัวที่เราจะแมชให้มากที่สุด ทุกเรื่องของเด็ก นิสัยใจคอ การกิน เล่น นอน กิจกรรมต่างๆที่เด็กชอบ ไม่ชอบอะไร การเลี้ยงดูเด็กของครอบครัวนี้เป้นอย่างไร เด็กเข้ากับคนสมาชิกใหม่ของครอบครัวได้ง่ายไหม ถามเกี่ยวกับเด็กให้มากๆถามเถอะค่ะแล้วจะเกิดผล เค้าจะได้รู้ว่าเราสนใจลูกเค้ามากแค่ไหน แล้วต้องถามถึงตัวพ่อแม่เด็กด้วย ว่าเป็นคนลักษณะนิสัยแนวไหน ทำงานอะไร เค้าจะปฏิบัติต่อออแพร์แบบไหน บ้านอยู่โซนแถวไหนของเมือง มีรถเมลล์ผานไหม ให้ใช้รถไหมถ้าให้ใช้ มีเงือนไขอะไรบ้าง ถ้าหากบ้นอยู่ไกล ป้ายรถเมล์และเค้าไม่ให้ใช้รถนอกเวลางาน ต้องถามเค้าว่าคุณยินดีที่จะขับรถไปรับส่งฉันไหม ถามด้วยว่ามีเคอฟิวป่าว ถึงกี่โมง แต่แน่นนอนว่าเค้าต้องขับรถไปส่งเราไปเรียน ถ้าโรงเรียนอยู่ไกลเกินกว่าจะเดินไปได้ อ่ออย่าลืมถามถึงความเป้นอยู่ที่เราจะได้รับด้วย อาหารการกิน บางครอบครัว กินเจ และไม่ให้เอาเนื้อสัตว์เข้าบ้าน อันนี้ซวยไป แต่บางครอบครัวกินเจก้อจริงแต่ไม่มายด์ให้เรื่องเอาเนื้อสัตว์เข้าบ้านได้ และบางครอบครัวชอบอาหารไทย อันนี้ถือว่าโชคดีไปทำอาหารฉุนในบ้านได้ แต่อย่าฉุนมาก ฮ่าๆๆ
ถามเรื่องงานบ้านว่านอกเหนือจากการดูแลน้องแล้ว ต้องทำอะไรอีกบ้าง อันนี้สำคํญหากพูดคุยกันไม่เคลียร์ก่อนบินอาจจะโดนให้ทำนั้น นี่โน่น เช่น ล้างจาน(เมืองนอกเค้ามีเครื่องล้างจาก แค่โหลดจานเข้าเครื่องใส่น้ำยาแล้วกดปุ่มแค่นั้นจบ แล้วก้อรอให้เสร็จ เก็บเข้าที่) แน่นอนว่าต้องซักผ้าเด็ก แล้วผ้าพ่อแม่เด็กต้องทำด้วยไหม ทำความสะอาดบ้านล่ะ ล้างห้องน้ำไหม ซักผ้าปูให้พ่อแม่เด็กด้วยไหมเอาขยะออกไปทิ้งป่าว คือถ้าเค้าระบุว่าให้ทำงานเหล่านี้ด้วย งั้นต้องคุยกับเค้าว่า เวลาดูน้องก้อจะถูกเจียดมาทำงานบ้านน่ะ โอเคไหมอะไรอย่างงี้
หรือให้เค้าจัดตารางงานมา ทำกี่โมงถึงกี่โมง และเขียนบรรยายลักษณะของงานให้ชัดเจนด้วยส่วนใหญ่จะเป็นเป็นลิสมาเลย จันทร์ถึงศุกร์และหยุดเสาร์อาทิตย์ แล้วถ้าหากมีการทำโอเว่อไทม์จะคิดยังไง(ส่วนใหญ่ได้ชั่วโมงล่ะสิบเหรียญ)และก้อถามอะไรก้อได้ดีเป้นประโยชน์ต่อตัวเราเยอะ
ส่วนการตอบคำถามนั่น เค้าอาจจะลองภูมิถามเกี่ยวกับเด็กเวลาเจอปัญหาต่างๆจะแก้ไขยังไง และขอบอกว่าเด็กที่เมืองนอกห้ามตีเด็ดขาด ทำได้แค่ไทม์เอ้าส์ หากเด็กดื้อไม่หยุด ต่องคุยและปรึกษากับพ่อแม่เด็กว่าจะเอายังไง บทลงโทษมีแค่ไหน
แล้วถามเค้าด้วยว่าเวลาสอนเด็กให้ปฏิบัติต่างๆ พวกเค้าทำไปในทางเดียวกันหรือไม่ ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งลงโทษเด็ก แล้วเด็กวิ่งไปหาอีกคน แล้วเค้าโอ๋เด็ก อันนี้จบเฮ่เรือเลยน่ะ เพราะไม่งั้นถ้าเด็กดื้อกับเราแล้วแล้วเราทำไทม์เอาเด็กแล้วเด็กวิ่งไปหาพ่อหรือแม่ ใครก้อตามที่ตามใจ มันจะลำบากเรา ต้องถามให้ระเอียดรอบครอบ เพราะเจอมากับตัวแล้ว เลยปล่อยเลยตามเลยล่ะกัน
เมื่อแมชและได้ครอบครัวแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมอีกอย่างหนึ่งคือ Childcare skills ก้อคือ ต้องมีพิ้นฐานการเอนเตอเทรนเด็ก ทำคาร์ฟแอนอาร์ต ร้องเพลง เล่านิทานเด็กภาษาอังกฤษ เผื่อเวลาพาเด็กไป เพลล์กรู๊ป จะได้ร้องเล่นไปได้กับเค้าได้อย่างสนุกสนาน
การไปอสสัมภาษณ์วีซ่า ส่วนใหญ่เค้าไม่ได้ถามอะไรยากมาก เค้าจะถามเกี่ยวกับ สิ่งที่เราจะไปทำ ให้เตรียมข้อมูลของครอบครัวไว้ให้ดี ทำไมถึงอยากไปเป็นออแพร์ จะไปเลี้ยงเด็กกี่คน อายุเท่าไร ไปอยู่เมืองไหน กะไปอยู่กี่ปี
พอจบโครงการแล้วจะทำอะไรต่อ (ข้อนี้คนตกม้าตายกันเยอะ) อย่าได้ตอบว่า อยากอยู่ต่อเพื่อที่จะเรียนหรือทำงาน เพราะเค้าคงคิดว่าเราเอาโครงการไปบังหน้าเพื่อที่จะโดดอยู่ในเมกา ฉะนั้นให้ตอบว่าจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้กลับมาใช้สานต่อในการทำงานที่ไทยอะไรประมาณนี้ ตอบอย่างชัดเจนอย่าเสียงสั่นและตื่นเต้น
มีอะไรอีกล่ะ สุดท้ายเตรียมตัวเตรียมใจ ที่จะต้องจากบ้านจากเมืองไทย ไปผจญภัยที่เมืองลุงแซม มันไม่ได้สนุกอย่างที่คิดในช่วงแรกๆ รีบๆหาเพื่อนไว้ไปเที่ยวด้วยกันวันหยุด
โอเค เยอะไปล่ะ เดี๋ยวจะเริ่มรำคาญและเบื่อกันซะก่อน สุดท้ายขอให้โชคดีกันทุกคน เมื่อมาเมกาแล้วขอให้ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เพราะเราไม่รู้ว่าจะได้กลับตอนไหน เร็วกว่ากำหนดหรือไม่ บางคนมาโดนรีแมชหลังจากมาแค่สองอาทิตย์และโดนกลับประเทศ ประมาณว่ามาอยู่ยังไม่ทันจะได้ปรับเวลาเลย ก้อกลับล่ะ


ก๊อบบี้มาจากรุ่นพี่ในเพจ ออแพร์ อเมริกา
ส่วนตัวเป็นออแพร์มาแล้วปี 2011 ตอนนี้หลายปีแล้ว หากมีคำถามอื่นๆอีกที่สงสัยนอกเหนือนจากนี้ พี่ยินดีตอบให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่