จขกท เดินทางไปเกาหลีใต้เมื่อคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558
โดยสายการบิน Korean Air
ซึ่งเป็นการเดินทางไปเที่ยวคนเดียว เป็นครั้งที่ 5
ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญอะไรเลย
ไม่ว่าจะเป็น ต.ม. สุดโหด หรือของหาย
ก็เลยเดินทางแบบชิวสุดๆ ชิวซะจนเกือบขึ้นเครื่องไม่ทัน - -*
คืนวันนั้นมีคนเดินทางเยอะมาก
ตรงที่ตรวจก่อนผ่าน ต.ม. ที่สุวรรณภูมิเลยแถวยาวเหยียด
เลยได้แต่อุทานในใจว่า เรือหายแล้ว T T
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ เรามาช้าเอง ต่อแถวไป ตื่นเต้นไป
แต่สุดท้ายก็ทันค่ะ แบบฉิวเฉียดสุดๆ
ได้แต่คิดใจใจว่า รอบนี้แค่เริ่มแรกก็ตื่นเต้นซะแล้ว
เดินทางไปถึงเกาหลีใต้โดยสวัสดิภาพ
แต่อยู่ไป 2-3 วัน บัตรทีมันนี่หายย (บัตรทีมันนี่สำหรับขึ้นรถไฟใต้ดิน รถเมล์ ซื้อของ)
ซึ่งพึ่งเติมเงินไปในนั้นเกือบ 300 บาท เศร้ามากค่ะ T T
หลังจากนั้นก็ไปซื้อบัตรใหม่ และเติมเงินทีละน้อยๆ 55555
กะว่าถ้าหายอีกจะได้ไม่เสียดาย #โธ่แม่คุณ
หลังจากนั้นเลยซื้อกระเป๋าหนังเล็กๆ ห้อยคอเลยค่ะ
ใส่เงิน ใส่บัตรไว้ในนั้น จะได้ไม่หาย
ซึ่งก็ช่วยได้มาก อยู่รอดปลอดภัยจนถึงวันกลับ
ชีวิตปกติสุขดีจนถึงวันสุดท้ายที่กำลังจะเดินทางกลับ
กำหนดกลับเดิมของเราคือวันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 21.10 น.
เราเลือกไปสนามบินด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีฮงแด ยิงยาวไปสนามบินอินชอนเลย
ระหว่างนั่งก็ปกติดี แต่ประมาณ 2-3 สถานีที่จะใกล้ถึงสนามบิน
เราหยิบเอกสารที่จะขอรีฟันด์ กับพาสปอร์ต ออกมาจากในกระเป๋า
เพราะเรามีกระเป๋าหลายใบ ทั้งลาก ทั้งสะพาย ทั้งหิ้ว
เลยอยากจะเตรียมทีเดียว ไม่ต้องหาที่วาง แล้วควานหาตอนถึงแล้ว
ระหว่างที่กำลังจัดเตรียมเอกสารรีฟันด์ เราก็วางพาสปอร์ตไว้บนกระเป๋าลาก
ตรงที่ลากของกระเป๋าเดินทาง เวลาที่เราดึงขึ้น จะมีช่องว่างเล็กๆ
และเราก็เอาพาสปอร์ตวางไว้ตรงช่องนั้น
แต่เราไม่ได้สังเกตุ ว่ารถไฟใต้ดินกำลังถึงสนามบินแล้ว
เราลุกทันที และลากกระเป๋า ไปเค้าน์เตอร์เช็คอินทันที
ระหว่างต่อแถว เราหาพาสปอร์ต........ ไม่เจอ
หน้าเริ่มซีด........ สมองเริ่มประมวลผล...............
และอุทานกับตัวเองอีกครั้งว่า เรือหายแล้ว พาสปอร์ตหล่นหายยยยยยยย
ตอนนั้นเราช๊อคมาก เราวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่คนที่ใกล้เราที่สุด
เราบอกเจ้าหน้าที่คนนั้นว่าพาสปอร์ตเราหาย
เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปหาเจ้าหน้าที่ Information
เราเดินเร็วๆ ไปหาเจ้าหน้าที่คนนั้น และรีบบอกว่าพาสปอร์ตเราหาย
น่าจะหล่นในรถไฟใต้ดิน หรือไม่ก็สนามบิน
เจ้าหน้าที่ถามเวลาที่เราเดินทางมาถึงสนามบิน
เราแจ้งเวลา และ ชื่อ-นามสกุล เราไป
เจ้าหน้าที่โทรติดต่อกับรถไฟใต้ดิน และบอกเราว่าทางรถไฟใต้ดินจะโทรกลับมาแจ้ง
ไม่ถึง 5 นาที เจ้าหน้าที่รถไฟใต้ดินโทรกลับมาแจ้งว่าไม่พบ T T
เราถามเจ้าหน้าที่ว่าเราควรทำยังไงต่อ ตอนนี้มึนมาก
เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เราไปติดต่อแผนกของหายของสนามบิน
เราไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่แผนกของหาย
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครพบพาสปอร์ตคนไทย
เราเลยขอฝากเบอร์เพื่อนเกาหลีไว้ ในกรณีถ้ามีคนเก็บได้จะได้ติดต่อเราได้
แล้วเราเดินออกมาแบบงงๆ
วันนั้นชีวิตแย่มาก เพราะเราใช้เงินสดจนหมด ทั้งเงินดอลล่าร์และเงินวอน
เหลือเงินไทยประมาณ 300 บาทเท่านั้น
แต่เรายังมีบัตร ATM 2 ใบ เรามีเงินในบัตร
เพียงแต่ว่ากดเป็นเงินออกมาไม่ได้ แต่ยังรูดได้ปกติ
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าทำไมกดเงินไม่ได้ ลองหลายตู้มาก
ตอนนั้นเพื่อนเราเตือนสติว่าให้เอาเงินไทยที่เหลืออยู่ไปแลก
และกลับไปเจอกันที่ฮง-่อน
เราเลยไปติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารที่สนามบินเพื่อแลกเงิน
เสร็จแล้วเราก็นั่งรถไฟใต้ดินกลับมาฮงแด
วันรุ่งขึ้นเรานัดน้องคนไทยที่ทำงานที่อยู่ที่เกาหลี (แบบถูกกฏหมาย)
ให้ช่วยเหลือเรื่องขอทำพาสปอร์ตใหม่ เพื่อเดินทางกลับ
แต่ก่อนจะไปสถานทูต เราไปติดต่อสถานีตำรวจใกล้ๆ เพื่อขอใบแจ้งความ
เนื่องจากสถานีที่เราไปเป็นสถานีเล็กๆ คุณลุงตำรวจพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย
สื่อสารกันด้วยความยากลำบากจนได้เอกสารมา
ตอนไปขอพาสปอร์ตใหม่ เราก็แจ้งกับสถานทูตว่าพาสปอร์ตหาย
รอไม่นานก็ได้พาสปอร์ตชั่วคราวสำหรับเดินทางกลับ
เอกสารที่ใช้สำหรับขอพาสปอร์ตชั่วคราวมี สำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ รูปถ่าย 2 ใบ ใบแจ้งความ 1 ใบ
หลังจากได้พาสปอร์ตชั่วคราว เราก็ขอเลื่อนตั๋วเครื่องบิน
ซึ่งสัปดาห์นั้นเป็นวันปีใหม่ของเกาหลีใต้พอดี ทำให้เราเราเลื่อนตั๋วได้ช้ามาก
คือจริงๆ เราคิดว่าเราน่าจะได้กลับเลยเร็ว แต่ปรากฏว่าไฟล์ทเต็มจนถึงวันพุธ
(กำหนดกลับวันอาทิตย์ พาสปอร์ตหายวันอาทิตย์ ได้พาสปอร์ตชั่วคราววันจันทร์)
และไฟล์ทเร็วสุดคือวันพฤหัสตอน 18.50 น. เราก็เลือกไฟล์ทนี้เลย
และโชคดีอีกอย่าง เราจองตั๋วกับเอเจนซี่ที่เพื่อนเราทำงาน
เพื่อนเลยคุยกับสายการบินให้เรื่องการขอเลื่อนตั๋วให้ เราเลยไม่ต้องเสียค่าเลื่อนตั๋ว
ตอนแรกเราก็เตรียมใจไว้แล้วว่าต้องเสียเงินค่าเลื่อนตั๋ว
เพราะเราเลื่อนตั๋วหลังจากไฟล์ทมันออกไปแล้ว 1 วัน
ซึ่งเราก็ดีใจมากที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม T T
ซึ่ง 3-4 วันที่อยู่ต่อ เราก็ไม่ได้ไปไหนไกลมาก ไม่มีอารมณ์ 5555
และอย่างที่บอกเป็นช่วงปีใหม่ของคนเกาหลี ร้านก็เลยปิดเยอะ
ในระหว่างนั้นก็ไม่มีการติดต่อจากเจ้าหน้าที่มาเลย
ในที่สุดก็ถึงวันกลับ เราไปเช็คอินและแจ้งเจ้าหน้าทีสายการบินว่าเราพาสปอร์ตหาย
และเราก็ยื่นพาสปอร์ตชั่วคราวให้ไป เขาก็จัดการเช็คอินให้
แถมด้วยโทรไปเช็คเจ้าหน้าที่ ต.ม. ของเกาหลีให้ว่า
ถ้าผู้โดยสารใช้พาสปอร์ตชั่วคราวจะมีปัญหามั๊ย ซึ่งก็ไม่มีปัญหา
และในที่สุด เราก็ได้เดินทางกลับประเทศไทย แบบไม่มีเรื่องตื่นเต้นอะไรอีก
แต่ตอนผ่าน ต.ม. ไทยก็รอนานหน่อยคะ เพราะเจ้าหน้าที่ต้องคีย์ข้อมูลลงไปใหม่
แต่พี่เจ้าหน้าที่ที่เราได้เจอ ใจดีมากค่ะ บอกว่ารอนานหน่อยนะ
เขาก็พยายามทำให้ค่ะ เราโชคดีมาก
ถึงจะกลับไทยมาแล้ว แต่ในใจลึกๆ เราหวังว่าจะมีคนเจอ และเก็บไปให้เจ้าหน้าที่
เราบอกเพื่อนเกาหลีอีกคนนึง ให้ช่วยโทรเช็คกับรถไฟใต้ดินสายที่วิ่งไปสนามบินให้อีกทีได้มั๊ย
เพราะเรามั่นใจว่ามันน่าจะตกในรถไฟ หรือไม่ก็ในช่องรางรถไฟ
ที่เราคิดว่าน่าจะตกในรางรถไฟเพราะว่า ช่องว่างระหว่างรถไฟและชานชาลาห่างกว่าของไทยมาก
เนื่องจากวันที่เราคุยกะเพื่อนเป็นวันอาทิตย์ เพื่อนเลยบอกว่าเดี๋ยวเช็คให้ วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
พอบ่ายๆ วันจันทร์ เพื่อนก็เข้าไปเช็คในเว็บไซต์ของเว็บไซต์รถไฟใต้ดินสายที่วิ่งมาสนามบิน (AREX)
และเพื่อนก็ส่งรูปมาให้ดูว่ามีคนในเว็บไซต์ว่า พบพาสปอร์ตไทย วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558
เราได้เห็นนี่กรีดร้องมาก T T ถึงแม้จะรู้ว่าได้มาแล้วก็เอามาใช้อีกไม่ได้ แต่เราก็อยากได้คืนอยู่ดี
เพื่อความมั่นใจ เราเลยให้เพื่อนช่วยโทรไปยืนยันว่าพาสปอร์ตที่เจอชื่อตรงกับเรามั๊ย
สรุปว่าใช่ค่ะ แต่ในรายงานที่เจอไม่ได้แจ้งว่าเจอที่ไหน
แต่คนที่เก็บได้ เอาไปให้เจ้าหน้าที่ที่สถานีนึงก่อนถึงสนามบินอินชอน
ตอนนี้เราก็ให้เพื่อนไปเอาพาสปอร์ตมาเก็บไว้กับเขาก่อน แล้วค่อยส่งมาให้เราอีกทีค่ะ
หวังจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะคะ เผื่อถ้าท่านอื่นๆ มีของหายที่เกาหลีใต้
หรือถ้าท่านใดทำของหาย ลองติดต่อเรามาก็ได้ค่ะ เราจะให้เพื่อนช่วยเช็คให้ว่ามีใครเก็บได้หรือป่าว
เพราะนอกจากแผนกของหายที่สนามบิน และรถไฟใต้ดินแล้ว
เกาหลีใต้ยังมีศูนย์ของหายทั่วไปค่ะ
ประสบการณ์พาสปอร์ตหายที่เกาหลีใต้ และตามหาจนได้คืน
โดยสายการบิน Korean Air
ซึ่งเป็นการเดินทางไปเที่ยวคนเดียว เป็นครั้งที่ 5
ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญอะไรเลย
ไม่ว่าจะเป็น ต.ม. สุดโหด หรือของหาย
ก็เลยเดินทางแบบชิวสุดๆ ชิวซะจนเกือบขึ้นเครื่องไม่ทัน - -*
คืนวันนั้นมีคนเดินทางเยอะมาก
ตรงที่ตรวจก่อนผ่าน ต.ม. ที่สุวรรณภูมิเลยแถวยาวเหยียด
เลยได้แต่อุทานในใจว่า เรือหายแล้ว T T
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ เรามาช้าเอง ต่อแถวไป ตื่นเต้นไป
แต่สุดท้ายก็ทันค่ะ แบบฉิวเฉียดสุดๆ
ได้แต่คิดใจใจว่า รอบนี้แค่เริ่มแรกก็ตื่นเต้นซะแล้ว
เดินทางไปถึงเกาหลีใต้โดยสวัสดิภาพ
แต่อยู่ไป 2-3 วัน บัตรทีมันนี่หายย (บัตรทีมันนี่สำหรับขึ้นรถไฟใต้ดิน รถเมล์ ซื้อของ)
ซึ่งพึ่งเติมเงินไปในนั้นเกือบ 300 บาท เศร้ามากค่ะ T T
หลังจากนั้นก็ไปซื้อบัตรใหม่ และเติมเงินทีละน้อยๆ 55555
กะว่าถ้าหายอีกจะได้ไม่เสียดาย #โธ่แม่คุณ
หลังจากนั้นเลยซื้อกระเป๋าหนังเล็กๆ ห้อยคอเลยค่ะ
ใส่เงิน ใส่บัตรไว้ในนั้น จะได้ไม่หาย
ซึ่งก็ช่วยได้มาก อยู่รอดปลอดภัยจนถึงวันกลับ
ชีวิตปกติสุขดีจนถึงวันสุดท้ายที่กำลังจะเดินทางกลับ
กำหนดกลับเดิมของเราคือวันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 21.10 น.
เราเลือกไปสนามบินด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีฮงแด ยิงยาวไปสนามบินอินชอนเลย
ระหว่างนั่งก็ปกติดี แต่ประมาณ 2-3 สถานีที่จะใกล้ถึงสนามบิน
เราหยิบเอกสารที่จะขอรีฟันด์ กับพาสปอร์ต ออกมาจากในกระเป๋า
เพราะเรามีกระเป๋าหลายใบ ทั้งลาก ทั้งสะพาย ทั้งหิ้ว
เลยอยากจะเตรียมทีเดียว ไม่ต้องหาที่วาง แล้วควานหาตอนถึงแล้ว
ระหว่างที่กำลังจัดเตรียมเอกสารรีฟันด์ เราก็วางพาสปอร์ตไว้บนกระเป๋าลาก
ตรงที่ลากของกระเป๋าเดินทาง เวลาที่เราดึงขึ้น จะมีช่องว่างเล็กๆ
และเราก็เอาพาสปอร์ตวางไว้ตรงช่องนั้น
แต่เราไม่ได้สังเกตุ ว่ารถไฟใต้ดินกำลังถึงสนามบินแล้ว
เราลุกทันที และลากกระเป๋า ไปเค้าน์เตอร์เช็คอินทันที
ระหว่างต่อแถว เราหาพาสปอร์ต........ ไม่เจอ
หน้าเริ่มซีด........ สมองเริ่มประมวลผล...............
และอุทานกับตัวเองอีกครั้งว่า เรือหายแล้ว พาสปอร์ตหล่นหายยยยยยยย
ตอนนั้นเราช๊อคมาก เราวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่คนที่ใกล้เราที่สุด
เราบอกเจ้าหน้าที่คนนั้นว่าพาสปอร์ตเราหาย
เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปหาเจ้าหน้าที่ Information
เราเดินเร็วๆ ไปหาเจ้าหน้าที่คนนั้น และรีบบอกว่าพาสปอร์ตเราหาย
น่าจะหล่นในรถไฟใต้ดิน หรือไม่ก็สนามบิน
เจ้าหน้าที่ถามเวลาที่เราเดินทางมาถึงสนามบิน
เราแจ้งเวลา และ ชื่อ-นามสกุล เราไป
เจ้าหน้าที่โทรติดต่อกับรถไฟใต้ดิน และบอกเราว่าทางรถไฟใต้ดินจะโทรกลับมาแจ้ง
ไม่ถึง 5 นาที เจ้าหน้าที่รถไฟใต้ดินโทรกลับมาแจ้งว่าไม่พบ T T
เราถามเจ้าหน้าที่ว่าเราควรทำยังไงต่อ ตอนนี้มึนมาก
เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เราไปติดต่อแผนกของหายของสนามบิน
เราไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่แผนกของหาย
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครพบพาสปอร์ตคนไทย
เราเลยขอฝากเบอร์เพื่อนเกาหลีไว้ ในกรณีถ้ามีคนเก็บได้จะได้ติดต่อเราได้
แล้วเราเดินออกมาแบบงงๆ
วันนั้นชีวิตแย่มาก เพราะเราใช้เงินสดจนหมด ทั้งเงินดอลล่าร์และเงินวอน
เหลือเงินไทยประมาณ 300 บาทเท่านั้น
แต่เรายังมีบัตร ATM 2 ใบ เรามีเงินในบัตร
เพียงแต่ว่ากดเป็นเงินออกมาไม่ได้ แต่ยังรูดได้ปกติ
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าทำไมกดเงินไม่ได้ ลองหลายตู้มาก
ตอนนั้นเพื่อนเราเตือนสติว่าให้เอาเงินไทยที่เหลืออยู่ไปแลก
และกลับไปเจอกันที่ฮง-่อน
เราเลยไปติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารที่สนามบินเพื่อแลกเงิน
เสร็จแล้วเราก็นั่งรถไฟใต้ดินกลับมาฮงแด
วันรุ่งขึ้นเรานัดน้องคนไทยที่ทำงานที่อยู่ที่เกาหลี (แบบถูกกฏหมาย)
ให้ช่วยเหลือเรื่องขอทำพาสปอร์ตใหม่ เพื่อเดินทางกลับ
แต่ก่อนจะไปสถานทูต เราไปติดต่อสถานีตำรวจใกล้ๆ เพื่อขอใบแจ้งความ
เนื่องจากสถานีที่เราไปเป็นสถานีเล็กๆ คุณลุงตำรวจพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย
สื่อสารกันด้วยความยากลำบากจนได้เอกสารมา
ตอนไปขอพาสปอร์ตใหม่ เราก็แจ้งกับสถานทูตว่าพาสปอร์ตหาย
รอไม่นานก็ได้พาสปอร์ตชั่วคราวสำหรับเดินทางกลับ
เอกสารที่ใช้สำหรับขอพาสปอร์ตชั่วคราวมี สำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ รูปถ่าย 2 ใบ ใบแจ้งความ 1 ใบ
หลังจากได้พาสปอร์ตชั่วคราว เราก็ขอเลื่อนตั๋วเครื่องบิน
ซึ่งสัปดาห์นั้นเป็นวันปีใหม่ของเกาหลีใต้พอดี ทำให้เราเราเลื่อนตั๋วได้ช้ามาก
คือจริงๆ เราคิดว่าเราน่าจะได้กลับเลยเร็ว แต่ปรากฏว่าไฟล์ทเต็มจนถึงวันพุธ
(กำหนดกลับวันอาทิตย์ พาสปอร์ตหายวันอาทิตย์ ได้พาสปอร์ตชั่วคราววันจันทร์)
และไฟล์ทเร็วสุดคือวันพฤหัสตอน 18.50 น. เราก็เลือกไฟล์ทนี้เลย
และโชคดีอีกอย่าง เราจองตั๋วกับเอเจนซี่ที่เพื่อนเราทำงาน
เพื่อนเลยคุยกับสายการบินให้เรื่องการขอเลื่อนตั๋วให้ เราเลยไม่ต้องเสียค่าเลื่อนตั๋ว
ตอนแรกเราก็เตรียมใจไว้แล้วว่าต้องเสียเงินค่าเลื่อนตั๋ว
เพราะเราเลื่อนตั๋วหลังจากไฟล์ทมันออกไปแล้ว 1 วัน
ซึ่งเราก็ดีใจมากที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม T T
ซึ่ง 3-4 วันที่อยู่ต่อ เราก็ไม่ได้ไปไหนไกลมาก ไม่มีอารมณ์ 5555
และอย่างที่บอกเป็นช่วงปีใหม่ของคนเกาหลี ร้านก็เลยปิดเยอะ
ในระหว่างนั้นก็ไม่มีการติดต่อจากเจ้าหน้าที่มาเลย
ในที่สุดก็ถึงวันกลับ เราไปเช็คอินและแจ้งเจ้าหน้าทีสายการบินว่าเราพาสปอร์ตหาย
และเราก็ยื่นพาสปอร์ตชั่วคราวให้ไป เขาก็จัดการเช็คอินให้
แถมด้วยโทรไปเช็คเจ้าหน้าที่ ต.ม. ของเกาหลีให้ว่า
ถ้าผู้โดยสารใช้พาสปอร์ตชั่วคราวจะมีปัญหามั๊ย ซึ่งก็ไม่มีปัญหา
และในที่สุด เราก็ได้เดินทางกลับประเทศไทย แบบไม่มีเรื่องตื่นเต้นอะไรอีก
แต่ตอนผ่าน ต.ม. ไทยก็รอนานหน่อยคะ เพราะเจ้าหน้าที่ต้องคีย์ข้อมูลลงไปใหม่
แต่พี่เจ้าหน้าที่ที่เราได้เจอ ใจดีมากค่ะ บอกว่ารอนานหน่อยนะ
เขาก็พยายามทำให้ค่ะ เราโชคดีมาก
ถึงจะกลับไทยมาแล้ว แต่ในใจลึกๆ เราหวังว่าจะมีคนเจอ และเก็บไปให้เจ้าหน้าที่
เราบอกเพื่อนเกาหลีอีกคนนึง ให้ช่วยโทรเช็คกับรถไฟใต้ดินสายที่วิ่งไปสนามบินให้อีกทีได้มั๊ย
เพราะเรามั่นใจว่ามันน่าจะตกในรถไฟ หรือไม่ก็ในช่องรางรถไฟ
ที่เราคิดว่าน่าจะตกในรางรถไฟเพราะว่า ช่องว่างระหว่างรถไฟและชานชาลาห่างกว่าของไทยมาก
เนื่องจากวันที่เราคุยกะเพื่อนเป็นวันอาทิตย์ เพื่อนเลยบอกว่าเดี๋ยวเช็คให้ วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
พอบ่ายๆ วันจันทร์ เพื่อนก็เข้าไปเช็คในเว็บไซต์ของเว็บไซต์รถไฟใต้ดินสายที่วิ่งมาสนามบิน (AREX)
และเพื่อนก็ส่งรูปมาให้ดูว่ามีคนในเว็บไซต์ว่า พบพาสปอร์ตไทย วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558
เราได้เห็นนี่กรีดร้องมาก T T ถึงแม้จะรู้ว่าได้มาแล้วก็เอามาใช้อีกไม่ได้ แต่เราก็อยากได้คืนอยู่ดี
เพื่อความมั่นใจ เราเลยให้เพื่อนช่วยโทรไปยืนยันว่าพาสปอร์ตที่เจอชื่อตรงกับเรามั๊ย
สรุปว่าใช่ค่ะ แต่ในรายงานที่เจอไม่ได้แจ้งว่าเจอที่ไหน
แต่คนที่เก็บได้ เอาไปให้เจ้าหน้าที่ที่สถานีนึงก่อนถึงสนามบินอินชอน
ตอนนี้เราก็ให้เพื่อนไปเอาพาสปอร์ตมาเก็บไว้กับเขาก่อน แล้วค่อยส่งมาให้เราอีกทีค่ะ
หวังจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะคะ เผื่อถ้าท่านอื่นๆ มีของหายที่เกาหลีใต้
หรือถ้าท่านใดทำของหาย ลองติดต่อเรามาก็ได้ค่ะ เราจะให้เพื่อนช่วยเช็คให้ว่ามีใครเก็บได้หรือป่าว
เพราะนอกจากแผนกของหายที่สนามบิน และรถไฟใต้ดินแล้ว
เกาหลีใต้ยังมีศูนย์ของหายทั่วไปค่ะ