กระทู้ระบายคลายเครียดค่ะ อ่านกันหนุกๆเนอะ
คือเกิดเป็นคนโสด มีชะตากรรมที่ต้องโดนคำถามซ้ำๆ จากชะนีมีแฟนทั้งหลาย
"ไม่มีแฟนไม่เหงาเหรอ?"
"เมื่อไหร่แกจะมีแฟน?"
"ไม่กลัวขึ้นคานเหรอแก?"
และบลาๆๆหลายประโยค ซึ่งคนโสดทั้งหลายคงเดากันได้
เราเองก็บอกอยู่ตลอดว่า "ก็เหงานะ แต่อยู่ได้" คือก็ไม่ได้ว้อนอยากได้อยากโดน ถ้ามีก็กำไร ไม่มีก็เท่าทุนแหละ
ชีวิตที่ผ่านมาก็คิดเช่นนี้มาตลอด
จนมาวันนึง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระทู้ระบายนี้
พอดีได้เจอกับเพื่อนเก่าโดยบังเอิญที่ห้าง แล้วมันเอาแฟนมาด้วย เราก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยตามประสาชะนีสาวขาเมาท์ แฟนมันก็นั่งเล่นไอโฟนเงียบๆอยู่คนเดียว
เราซึ่งมีอุปนิสัย อ่อนโยน น่ารัก ช่างเป็นห่วงเป็นใย จึงได้กระซิบกับเพื่อนว่า "แฟนแกจะเบื่อมั้ยวะ? เราคุยกันแต่เรื่องเก่าๆ"
เหมือนแฟนมันจะได้ยิน เขาเงยหน้าเหลือบตามองเรานิดนึง ก่อนจะก้มลงไปเล่นเกมต่อ
ณ จุดนี้เราสัมผัสได้ถึงรังสีไม่เป็นมิตรจากแฟนเพื่อนและ เราเลยช่างหัวมัน ฉันคุยกะเพื่อนฉันก็ได้
หลังจากนั้นเราก็ไปกินข้าว เดินเล่น ซื้อของกัน ตอนนี้แฟนเพื่อนก็เปิดปากพูดกับเราบ้างแล้ว แต่ก็ดูห้วนจนอยากด่าเHี้ย ดีที่ว่ายั้งปากปากทัน
เห็นว่าเป็นแฟนเพื่อนไง เราก็ยังกัดฟันคุยด้วย จนบทสนทนาเราสู่ช่วงเลิฟสตอรี่ เราก็ตอบเหมือนเดิม คือ ก็เหงานะ แต่อยู่ได้
แฟนเพื่อนคนนี้ก็ถามเราว่า
"จริงๆแล้วก็อยากมี แต่ไม่มีคนเอาใข้ป่ะ?"
คือคุณเอ็งหยาบมากค่ะ! ฉันก็เคยมีแฟนนะ! แต่ตอนนี้โสดมาแล้ว 4 ปีเท่านั้นเอง! หน้าชาเลยจ้า รู้สึกเหมือนยืนอยู่ขั้วโลกแล้วเอาพัดลมเป่าอัดหน้า เรานี่รีบหันควับไปส่งข้อความทางสายตากับเพื่อนเลย (นี่แฟนแกจะหาเรื่องกันช่ะ?) เพื่อนเราเองก็ทำหน้าเจื่อนๆ ทักแฟนมันนะว่า ทำไมไปพูดอย่างนั้น แล้วหันมาทางเราส่งสายตาเศร้าๆมา หลังจากนั้นบรรยากาศก็อึมครึมขึ้นมาทันใด ก่อนจะแยกย้าย เราเลยกัดมันกลับไปเล็กๆ
"แกเคยได้ยินป่ะ แฟนอ่ะนะ มีไม่ดี ไม่มีดีกว่า เราก็เพิ่งรู้สึกว่ามันจริงก็ตอนเจอคู่แกนี่แหละ" แล้วเราก็เดินสวยๆจากมา...
จบค่ะ the end
คือที่พูดว่า "อยู่ได้" คืออยู่ได้จริงๆ ไม่ใช่คนที่ต่อหน้าทำเก่งแต่ลับหลังอิจฉาแน่นอน
เรารู้สึกมาซักพักแล้วล่ะ พอโสดแล้ว เวลาเดอะแก๊งคุยเรื่องความรัก เราจะกลายเป็นพลเมืองชั้นสองในวงสนทนาทันที บางทีมันก็ไม่ตั้งใจหรอก แต่เราสัมผัสได้ถึงความข่มกันเล็กๆที่ลอยมากับคำพูด ไม่รู้เรารู้สึกไปเองรึเปล่า แต่ก็อยากจะให้ข้ามๆหัวข้อนี้ไปซะ ยิ่งเวลาพูดว่า "แกนี่ดีจัง อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องมีคนมาคอยห้ามนั่นห้ามนี่" เราเลยบอก "แกก็โสดสิ" มันก็บอก "ไม่อ่ะ" อืมมมมมม จ้ะ งั้นอย่าบ่น
พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีกันดีกว่ามั้ย? มีแฟนดีก็ถือว่ากำไร มีไม่ดีก็ถือว่าขาดทุน ส่วนคนไม่มีแฟนก็ถือว่าเท่าทุนกันไป
อย่าไปอิจฉาในเรื่องที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ คนมีแฟน ถึงไม่มีอิสระ แต่ก็ได้ความดูแลเอาใจใส่มาทดแทนในส่วนนี้
คนโสดเองก็เหมือนกัน บางคนอยากมีแฟน บางคนมีก็ได้ไม่มีก็ดี บางคนไม่อยากมีเลย แต่ไม่ว่าจะมีความต้องการแบบไหน ถ้ายังโสดอยู่ ขอให้คิดซะนะคะว่าถ้าคู่มันจะมี มันก็มีเองแหละค่ะ อย่าไปเครียดมาก ไม่งั้นชีวิตคุณจะไปโฟกัสแต่การหาแฟนๆๆ ชีวิตจะไม่มีเวลาไปมองหาความสุขทางอื่น โลกนี้มีความบันเทิงมากมายที่ช่วยคลายเหงาได้ ดังนั้นเป็นโสด "เหงานะ แต่อยู่ได้"
เล่ามายืดยาว ประเด็นคือ "ฉันโสด หัวฉันไม่หนัก ดังนั้น อย่าเอาความโสดฉัน ไปหนักหัวตัวเอง"
*ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ*
เป็นโสดมานานไม่เคยหนักใจ แต่ทำไมชอบไปหนักหัวใครอยู่เรื่อยเลย??
คือเกิดเป็นคนโสด มีชะตากรรมที่ต้องโดนคำถามซ้ำๆ จากชะนีมีแฟนทั้งหลาย
"ไม่มีแฟนไม่เหงาเหรอ?"
"เมื่อไหร่แกจะมีแฟน?"
"ไม่กลัวขึ้นคานเหรอแก?"
และบลาๆๆหลายประโยค ซึ่งคนโสดทั้งหลายคงเดากันได้
เราเองก็บอกอยู่ตลอดว่า "ก็เหงานะ แต่อยู่ได้" คือก็ไม่ได้ว้อนอยากได้อยากโดน ถ้ามีก็กำไร ไม่มีก็เท่าทุนแหละ
ชีวิตที่ผ่านมาก็คิดเช่นนี้มาตลอด
จนมาวันนึง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระทู้ระบายนี้
พอดีได้เจอกับเพื่อนเก่าโดยบังเอิญที่ห้าง แล้วมันเอาแฟนมาด้วย เราก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยตามประสาชะนีสาวขาเมาท์ แฟนมันก็นั่งเล่นไอโฟนเงียบๆอยู่คนเดียว
เราซึ่งมีอุปนิสัย อ่อนโยน น่ารัก ช่างเป็นห่วงเป็นใย จึงได้กระซิบกับเพื่อนว่า "แฟนแกจะเบื่อมั้ยวะ? เราคุยกันแต่เรื่องเก่าๆ"
เหมือนแฟนมันจะได้ยิน เขาเงยหน้าเหลือบตามองเรานิดนึง ก่อนจะก้มลงไปเล่นเกมต่อ
ณ จุดนี้เราสัมผัสได้ถึงรังสีไม่เป็นมิตรจากแฟนเพื่อนและ เราเลยช่างหัวมัน ฉันคุยกะเพื่อนฉันก็ได้
หลังจากนั้นเราก็ไปกินข้าว เดินเล่น ซื้อของกัน ตอนนี้แฟนเพื่อนก็เปิดปากพูดกับเราบ้างแล้ว แต่ก็ดูห้วนจนอยากด่าเHี้ย ดีที่ว่ายั้งปากปากทัน
เห็นว่าเป็นแฟนเพื่อนไง เราก็ยังกัดฟันคุยด้วย จนบทสนทนาเราสู่ช่วงเลิฟสตอรี่ เราก็ตอบเหมือนเดิม คือ ก็เหงานะ แต่อยู่ได้
แฟนเพื่อนคนนี้ก็ถามเราว่า
"จริงๆแล้วก็อยากมี แต่ไม่มีคนเอาใข้ป่ะ?"
คือคุณเอ็งหยาบมากค่ะ! ฉันก็เคยมีแฟนนะ! แต่ตอนนี้โสดมาแล้ว 4 ปีเท่านั้นเอง! หน้าชาเลยจ้า รู้สึกเหมือนยืนอยู่ขั้วโลกแล้วเอาพัดลมเป่าอัดหน้า เรานี่รีบหันควับไปส่งข้อความทางสายตากับเพื่อนเลย (นี่แฟนแกจะหาเรื่องกันช่ะ?) เพื่อนเราเองก็ทำหน้าเจื่อนๆ ทักแฟนมันนะว่า ทำไมไปพูดอย่างนั้น แล้วหันมาทางเราส่งสายตาเศร้าๆมา หลังจากนั้นบรรยากาศก็อึมครึมขึ้นมาทันใด ก่อนจะแยกย้าย เราเลยกัดมันกลับไปเล็กๆ
"แกเคยได้ยินป่ะ แฟนอ่ะนะ มีไม่ดี ไม่มีดีกว่า เราก็เพิ่งรู้สึกว่ามันจริงก็ตอนเจอคู่แกนี่แหละ" แล้วเราก็เดินสวยๆจากมา...
จบค่ะ the end
คือที่พูดว่า "อยู่ได้" คืออยู่ได้จริงๆ ไม่ใช่คนที่ต่อหน้าทำเก่งแต่ลับหลังอิจฉาแน่นอน
เรารู้สึกมาซักพักแล้วล่ะ พอโสดแล้ว เวลาเดอะแก๊งคุยเรื่องความรัก เราจะกลายเป็นพลเมืองชั้นสองในวงสนทนาทันที บางทีมันก็ไม่ตั้งใจหรอก แต่เราสัมผัสได้ถึงความข่มกันเล็กๆที่ลอยมากับคำพูด ไม่รู้เรารู้สึกไปเองรึเปล่า แต่ก็อยากจะให้ข้ามๆหัวข้อนี้ไปซะ ยิ่งเวลาพูดว่า "แกนี่ดีจัง อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องมีคนมาคอยห้ามนั่นห้ามนี่" เราเลยบอก "แกก็โสดสิ" มันก็บอก "ไม่อ่ะ" อืมมมมมม จ้ะ งั้นอย่าบ่น
พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีกันดีกว่ามั้ย? มีแฟนดีก็ถือว่ากำไร มีไม่ดีก็ถือว่าขาดทุน ส่วนคนไม่มีแฟนก็ถือว่าเท่าทุนกันไป
อย่าไปอิจฉาในเรื่องที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ คนมีแฟน ถึงไม่มีอิสระ แต่ก็ได้ความดูแลเอาใจใส่มาทดแทนในส่วนนี้
คนโสดเองก็เหมือนกัน บางคนอยากมีแฟน บางคนมีก็ได้ไม่มีก็ดี บางคนไม่อยากมีเลย แต่ไม่ว่าจะมีความต้องการแบบไหน ถ้ายังโสดอยู่ ขอให้คิดซะนะคะว่าถ้าคู่มันจะมี มันก็มีเองแหละค่ะ อย่าไปเครียดมาก ไม่งั้นชีวิตคุณจะไปโฟกัสแต่การหาแฟนๆๆ ชีวิตจะไม่มีเวลาไปมองหาความสุขทางอื่น โลกนี้มีความบันเทิงมากมายที่ช่วยคลายเหงาได้ ดังนั้นเป็นโสด "เหงานะ แต่อยู่ได้"
เล่ามายืดยาว ประเด็นคือ "ฉันโสด หัวฉันไม่หนัก ดังนั้น อย่าเอาความโสดฉัน ไปหนักหัวตัวเอง"
*ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ*