เรื่องมันมีอยู่ว่าเรามีเพื่อนแถวบ้านอยู่คนนึงซึ่งเค้าขายของกิ๊ฟช๊อปทั่วไป สถานที่เค้าขายประจำคือบนทางเท้าใต้ BTS แห่งหนึ่งที่มีคนพลุกพล่าน มีป้ายห้ามขายของติดไว้ ซึ่งไม่โดนจับ เพราะไม่มีใครสนใจ ซึ่งเมื่อตอนเขาเริ่มทำใหม่ๆ เราเห็นว่ามันไม่ควรและเคยแนะนำให้หาที่ขายให้มีถูกที่ถูกทาง ระวังโดนจับ แต่ได้คำตอบกลับมาว่า "จะไปสนใจทำไม เรื่องขอกรู คนจะทำมาหากิน ใครๆ เขาก็ทำทั้งนั้น ของงี้มันอยู่ที่ทางหนีทีไล่ เดี๋ยว
รอดูว่ากรูจะรวยกว่า
ที่จบตั้ง ป.ตรี แต่เป็นลูกน้องเขา" ตอนนั้นผมก็ได้แต่เออ ออไป เค้าก็ขายมาเรื่อยๆครับ ผ่านไปเกือบสองปีได้มั้ง กิจการของเค้าก็ขายดิบขายดีจนเอาเสื้อผ้า ต่างหูมาตั้งขายด้วยจนถนนไม่มีที่จะเดินเลย ตอนที่เค้าโดนจัดระเบียบทางเท้าเค้าก็เป็นตัวนำในการประท้วงเลยบอกว่ารังแกคนหาเช้ากินค่ำ แล้วล่าสุดเมื่อจันทร์ที่แล้ว เราได้เจอกัน ก็ถามสารทุกข์สุขดิบกันทั่วไป แต่มีเรื่องนึงที่เค้าทำให้เราไม่ค่อยพอใจเท่าไรคือ เค้ามาอวดว่าธุรกิจเค้ากำลังไปได้ดี ออกรถใหม่มา แถมเอาสมุดบัญชีมาเปิดให้ดูว่ามีเงินเกือบล้านนนน (แน่นอนมากกว่าเราที่เป็นยอดมนุษย์เงินเดือนกว่าครึ่ง) แล้วก็ถากถางว่าเงินดีกว่าพวกจบ ป.ตรี อีก (แอบเหน็บแนมเรา) ในใจเราก็อิจฉานะที่เค้าทำผิดแล้วได้ดี แต่อีกทางนึงก็คิดว่าเราควรยินดีกับเค้า เลยอยากถามว่า การรวยจากการขายของในที่ๆ ผิดกฎหมายแบบนี้ควรชื่นชมอยู่มั้ย
เราควรยินดีกับคนที่รวยจากการตั้งแผงลอยในที่ห้ามขายมั้ย