ท้าวความก่อนว่า ทำไมเราถึงออกไปข้างนอกดึกมากๆ...
ปกติเราออกไปตอนกลางคืนให้อาหารแมวข้างถนน 2 จุดให้ประจำจุดหนึ่งห่างไปสามบล๊อค และอีกจุดไกลจากบ้านไป 5 บล๊อค... อาทิตย์ก่อนๆๆจะออกค่ำตอนสามสี่ทุ่ม แต่มาหลังๆนี้เราต้องเลื่อนออกไปให้ดึกมากแบบประมาณห้าทุ่มครึ่งถึงเที่ยงคืน เพราะมีผู้หญิงผู้ชายสูงวัยคนรัสเซียน (เป็นผัวเมียกัน) มันพาหมาโดเบอร์มานออกไปอึฉี่ แล้วพาหมาของมันไปกินอาหารแมวที่เราและผู้หญิงอีกคนวางไว้ให้แมวๆข้างถนนกิน... เรามารู้ไม่กี่วันนี้เอง หลังจากมาปะติดปะต่อกัน... ตอนเรากำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากจุดให้อาหาร ก็มีไอ้และอีคู่รัสเซียนเดินตรงรี่จูงหมามันไปที่จานอาหารแมว แบบยิ้มเริงร่า... เราก็งงๆว่า มันสองคนทำไมถึงให้ความสนใจกับอาหารแมว และมันรู้ได้ยังไงว่าตรงนั้นมีอาหารแมวที่วางหลบ... ตอนแรกมันยังไม่รู้ว่าเราเป็นคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับอาหารแมวตรงนั้น... เรารอสักพักมันก็ยังยืนมองสำรวจว่าในจานมีอะไร... เราเลยเอ่ยถามมันว่า " What are you up to?" แค่นั้นล่ะมันรู้ว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาหารแมว มันเลยทำไก๋ตอบเราว่า "I can look where I want to" แล้วก็พาหมามันออกไปทันที ซึ่งเราพออ่านไต๋มันออกแล้ว ดูจากการพาหมาจากที่ไกลออกไปสามถนน เราเคยเห็นมันพาหมาเดินเล่นช่วงหน้าร้อน แบบไม่มีจูงโซ่ ปล่อยให้หมาเก็บกินเศษอาหารตกบนพื้นดิน และให้หมากินอาหารแมวที่คนวางให้แมวข้างถนน... เราเลยเลิกให้อาหารแมวตรงจุดนั้นไปเพราะหมาตัวนั้น มาร่วมดูแลให้อาหารและน้ำตรงอีกจุด... บางคืนอากาศอุ่นๆ เราวางเนื้อไก่ย่างหอมๆ แบบซื้อมาทั้งตัวหั่นเป็นชิ้นๆ ให้แมวๆข้างถนนได้กินดีๆบ้าง หั่นวางโปะเยอะๆบนจานวางไว้ให้ตอนสามทุ่มครึ่ง แล้วเราเดินจากไป... ก็คงเป็นหมาตัวนี้ที่กินไก่ย่าง กินอาหารแมวจนหมด ก่อนที่แมวๆจะได้กิน... ทุเรสมากที่มีคนแบบนี้ มาเบียดเบียนอาหารแมวให้หมาของตัวเองกิน
ดูจากกิริยาท่าทางของมันสองคนแล้ว แสดงว่าทำบ่อย และเราจับได้สองครั้งสองวันติดกัน ช่วงเวลาสามทุ่มครึ่ง เราไปเช็คจานแมวที่ผู้หญิงอีกคนวางไว้ตั้งแต่สองทุ่มครึ่ง อาหารแมวแบบเม็ดถูกกินจนเกลี้ยง ซึ่งปกติแล้วแมวๆแถวนั้นเลือกกิน และจะกินกระจายออกมานอกจาน พอเราเดินสวนทางไอ้อีสองคนจูงหมามาจากทางนั้น มันมีสีหน้ามีพิรุธ เราหันหลับไปดูมัน... มันหยุดมองเราและรีบหันกลับทางอื่นทันที
เราเลยติดต่อผู้หญิงที่ให้อาหารแมวประจำว่าเปลี่ยนเวลาให้ถันเถอะ เธอให้ดึกๆแมวๆจะได้มีกิน ส่วนฉันจะยืดเวลาให้ออกไปหลังห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน... หลังจากจุดแรกแล้วเราเดินไปให้อาหารจุดที่สอง ที่เป็นมุมซอกแคบๆที่ปลอดภัยจากหมาของคนอื่นๆพาไปอึฉี่... ช่วงหิมะตกหนัก เราจะรอให้หิมะหยุดแล้วถึงออกไป ถ้าฝนตกเราจะรอให้หยุด หรือถ้ายังตกไม่หยุดเราก็ต้องจำใจไม่ออกไปคืนนั้น เพราะอาหารจะเปียกฝน หรือหิมะปลิวกลบอาหาร... เราปฏิบัติการประจำแทบทุกคืน จนกระทั่งคืนนี้เราเดินลัดเลาะระวังไม่ให้ลื่นบนหิมะที่เป็นน้ำแข็ง... พอเราเดินเข้าไปใกล้จุดให้อาหารเห็นมีถุงกระดาษใหญ่สีน้ำตาลวางบล๊อคทางเข้ารั้ว... ตอนแรกในใจเราขุ่นๆว่า "ใครวะ ต้องมาบล๊อคทางเข้าแมวๆไปกิน มันช่างจงใจกันแบบนี้"
พอไปถึงตรงนั้นกลายเป็นข้างในเป็นอาหารแมวกระป๋อง ส่วนถุงอาหารแมวแบบเม็ดสองถุงจงใจวางข้างนอกบนหิมะแบบตั้งใจสื่อให้คนที่ให้อาหารแมวตรงนั้นว่าเขาช่วยเรา... เราไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร เพราะเราจะไม่ทำตัวโดดเด่นให้เป้นจุดสนใจ เราถึงต้องออกไปตอนกลางคืนดึกๆ ปลอดคนเดินผ่านจอแจ... เราสังเกตุจากก้นถุงกระดาษได้ว่า คนลึกลับนั้นมาวางไว้ได้ไม่นาน คือก้นถุงยังแห้งไม่เปียกหิมะ เราคิดว่าเขาคงแอบสังเกตมองดูห่างไกลลับตาว่าจะมีคนอื่นหยิบไปหรือไม่ ถ้าไม่ใช่เรา... ถ้าเราไม่ไปคืนนี้ เขาก็คงจะกลับมาหยิบนำกลับไป
แสดงว่ามีคนสังเกตการณ์เห็นเราไปให้อาหารตรงนั้นประจำ เขาอยากมีส่วนร่วม แต่ไม่ต้องการแสดงตัว !!
ปล. เราทำความสะอาดตรงจุดให้อาหาร เราไม่ใช่คนมักง่าย เคยมีคนนำเศษกระจกมากองทิ้งไว้เต็ม อันตรายมากสำหรับแมวๆต้องเดินผ่าน เราเลยนำไม้กวาดไปกวาดเศษกระจกทิ้ง ช่วงหน้าร้อนเราเคยไปตั้งกับดักจับแมวๆตรงนั้นเพื่อพาไปทำหมัน แต่ไม่สำเร็จเพราะมันเป็นพื้นที่โล่งๆกว้างๆ ไม่สะดวกวางกรงกับดักเปิดเผย และเราไปยืนรอให้แมวมาเดินเข้ากับดักเป็นชม.ๆคนเดียวตรงนั้นมันดูไม่ปลอดภัย เราเลยล้มเลิกกับดัก แต่ให้อาหารแทน... นอกจากแมวๆแล้วยังมีตัว อะพอสซั่มมากินด้วย เคยเห็นสองครั้ง
นี่คือรูปอาหารที่บุคคลลึกลับนำมาวางไว้ให้ แบรนด์อาหารเป็นแบรนด์ราคาแพง รวมๆแล้วอยู่มากกว่า $60+ ทำให้เรานึกถึงคำว่า สวรรค์มีตา
เพิ่มเติม..
วันก่อนได้อีเมลไปบอกผู้มีพระคุณท่านหนึ่ง ผู้หญิงฝรั่งเป็นไดเร็คเตอร์องค์กรช่วยเหลือแมวจรบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเองออกไปช่วยเหลือแมวจรแถวบ้านเขาเหมือนกันค่ะ เขาตอบอีเมลเราว่า...
ของขวัญอาหารให้แมวๆข้างถนน จากบุคคลลึกลับมาวางไว้ให้ตรงนั้นคืนนี้
ปกติเราออกไปตอนกลางคืนให้อาหารแมวข้างถนน 2 จุดให้ประจำจุดหนึ่งห่างไปสามบล๊อค และอีกจุดไกลจากบ้านไป 5 บล๊อค... อาทิตย์ก่อนๆๆจะออกค่ำตอนสามสี่ทุ่ม แต่มาหลังๆนี้เราต้องเลื่อนออกไปให้ดึกมากแบบประมาณห้าทุ่มครึ่งถึงเที่ยงคืน เพราะมีผู้หญิงผู้ชายสูงวัยคนรัสเซียน (เป็นผัวเมียกัน) มันพาหมาโดเบอร์มานออกไปอึฉี่ แล้วพาหมาของมันไปกินอาหารแมวที่เราและผู้หญิงอีกคนวางไว้ให้แมวๆข้างถนนกิน... เรามารู้ไม่กี่วันนี้เอง หลังจากมาปะติดปะต่อกัน... ตอนเรากำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากจุดให้อาหาร ก็มีไอ้และอีคู่รัสเซียนเดินตรงรี่จูงหมามันไปที่จานอาหารแมว แบบยิ้มเริงร่า... เราก็งงๆว่า มันสองคนทำไมถึงให้ความสนใจกับอาหารแมว และมันรู้ได้ยังไงว่าตรงนั้นมีอาหารแมวที่วางหลบ... ตอนแรกมันยังไม่รู้ว่าเราเป็นคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับอาหารแมวตรงนั้น... เรารอสักพักมันก็ยังยืนมองสำรวจว่าในจานมีอะไร... เราเลยเอ่ยถามมันว่า " What are you up to?" แค่นั้นล่ะมันรู้ว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาหารแมว มันเลยทำไก๋ตอบเราว่า "I can look where I want to" แล้วก็พาหมามันออกไปทันที ซึ่งเราพออ่านไต๋มันออกแล้ว ดูจากการพาหมาจากที่ไกลออกไปสามถนน เราเคยเห็นมันพาหมาเดินเล่นช่วงหน้าร้อน แบบไม่มีจูงโซ่ ปล่อยให้หมาเก็บกินเศษอาหารตกบนพื้นดิน และให้หมากินอาหารแมวที่คนวางให้แมวข้างถนน... เราเลยเลิกให้อาหารแมวตรงจุดนั้นไปเพราะหมาตัวนั้น มาร่วมดูแลให้อาหารและน้ำตรงอีกจุด... บางคืนอากาศอุ่นๆ เราวางเนื้อไก่ย่างหอมๆ แบบซื้อมาทั้งตัวหั่นเป็นชิ้นๆ ให้แมวๆข้างถนนได้กินดีๆบ้าง หั่นวางโปะเยอะๆบนจานวางไว้ให้ตอนสามทุ่มครึ่ง แล้วเราเดินจากไป... ก็คงเป็นหมาตัวนี้ที่กินไก่ย่าง กินอาหารแมวจนหมด ก่อนที่แมวๆจะได้กิน... ทุเรสมากที่มีคนแบบนี้ มาเบียดเบียนอาหารแมวให้หมาของตัวเองกิน
ดูจากกิริยาท่าทางของมันสองคนแล้ว แสดงว่าทำบ่อย และเราจับได้สองครั้งสองวันติดกัน ช่วงเวลาสามทุ่มครึ่ง เราไปเช็คจานแมวที่ผู้หญิงอีกคนวางไว้ตั้งแต่สองทุ่มครึ่ง อาหารแมวแบบเม็ดถูกกินจนเกลี้ยง ซึ่งปกติแล้วแมวๆแถวนั้นเลือกกิน และจะกินกระจายออกมานอกจาน พอเราเดินสวนทางไอ้อีสองคนจูงหมามาจากทางนั้น มันมีสีหน้ามีพิรุธ เราหันหลับไปดูมัน... มันหยุดมองเราและรีบหันกลับทางอื่นทันที
เราเลยติดต่อผู้หญิงที่ให้อาหารแมวประจำว่าเปลี่ยนเวลาให้ถันเถอะ เธอให้ดึกๆแมวๆจะได้มีกิน ส่วนฉันจะยืดเวลาให้ออกไปหลังห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน... หลังจากจุดแรกแล้วเราเดินไปให้อาหารจุดที่สอง ที่เป็นมุมซอกแคบๆที่ปลอดภัยจากหมาของคนอื่นๆพาไปอึฉี่... ช่วงหิมะตกหนัก เราจะรอให้หิมะหยุดแล้วถึงออกไป ถ้าฝนตกเราจะรอให้หยุด หรือถ้ายังตกไม่หยุดเราก็ต้องจำใจไม่ออกไปคืนนั้น เพราะอาหารจะเปียกฝน หรือหิมะปลิวกลบอาหาร... เราปฏิบัติการประจำแทบทุกคืน จนกระทั่งคืนนี้เราเดินลัดเลาะระวังไม่ให้ลื่นบนหิมะที่เป็นน้ำแข็ง... พอเราเดินเข้าไปใกล้จุดให้อาหารเห็นมีถุงกระดาษใหญ่สีน้ำตาลวางบล๊อคทางเข้ารั้ว... ตอนแรกในใจเราขุ่นๆว่า "ใครวะ ต้องมาบล๊อคทางเข้าแมวๆไปกิน มันช่างจงใจกันแบบนี้"
พอไปถึงตรงนั้นกลายเป็นข้างในเป็นอาหารแมวกระป๋อง ส่วนถุงอาหารแมวแบบเม็ดสองถุงจงใจวางข้างนอกบนหิมะแบบตั้งใจสื่อให้คนที่ให้อาหารแมวตรงนั้นว่าเขาช่วยเรา... เราไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร เพราะเราจะไม่ทำตัวโดดเด่นให้เป้นจุดสนใจ เราถึงต้องออกไปตอนกลางคืนดึกๆ ปลอดคนเดินผ่านจอแจ... เราสังเกตุจากก้นถุงกระดาษได้ว่า คนลึกลับนั้นมาวางไว้ได้ไม่นาน คือก้นถุงยังแห้งไม่เปียกหิมะ เราคิดว่าเขาคงแอบสังเกตมองดูห่างไกลลับตาว่าจะมีคนอื่นหยิบไปหรือไม่ ถ้าไม่ใช่เรา... ถ้าเราไม่ไปคืนนี้ เขาก็คงจะกลับมาหยิบนำกลับไป
แสดงว่ามีคนสังเกตการณ์เห็นเราไปให้อาหารตรงนั้นประจำ เขาอยากมีส่วนร่วม แต่ไม่ต้องการแสดงตัว !!
ปล. เราทำความสะอาดตรงจุดให้อาหาร เราไม่ใช่คนมักง่าย เคยมีคนนำเศษกระจกมากองทิ้งไว้เต็ม อันตรายมากสำหรับแมวๆต้องเดินผ่าน เราเลยนำไม้กวาดไปกวาดเศษกระจกทิ้ง ช่วงหน้าร้อนเราเคยไปตั้งกับดักจับแมวๆตรงนั้นเพื่อพาไปทำหมัน แต่ไม่สำเร็จเพราะมันเป็นพื้นที่โล่งๆกว้างๆ ไม่สะดวกวางกรงกับดักเปิดเผย และเราไปยืนรอให้แมวมาเดินเข้ากับดักเป็นชม.ๆคนเดียวตรงนั้นมันดูไม่ปลอดภัย เราเลยล้มเลิกกับดัก แต่ให้อาหารแทน... นอกจากแมวๆแล้วยังมีตัว อะพอสซั่มมากินด้วย เคยเห็นสองครั้ง
นี่คือรูปอาหารที่บุคคลลึกลับนำมาวางไว้ให้ แบรนด์อาหารเป็นแบรนด์ราคาแพง รวมๆแล้วอยู่มากกว่า $60+ ทำให้เรานึกถึงคำว่า สวรรค์มีตา
เพิ่มเติม..
วันก่อนได้อีเมลไปบอกผู้มีพระคุณท่านหนึ่ง ผู้หญิงฝรั่งเป็นไดเร็คเตอร์องค์กรช่วยเหลือแมวจรบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเองออกไปช่วยเหลือแมวจรแถวบ้านเขาเหมือนกันค่ะ เขาตอบอีเมลเราว่า...