เราเป็นเพียงแค่คนดูละครตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้นเองอะนะคะ ที่พอดีไปรับรู้ถึงมุมมองในการมองละครไทยจากกระทู้ในนี้บางกระทู้เข้า
เราก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาในหัว ละครที่เราดูทุกวันนี้มันไร้สาระจริงหรือ
เราต้องบอกก่อนว่า เราไม่ใช่คอละคร เราดูละครมาไม่กี่เรื่องหรอก ที่ดูแบบจริงจังอะนะ หลุดจากยุค พี่หนุ่ม ศรราม เราก็ไม่ได้ดูเรื่องไหนจริงจังอีกเลย
(บ่งบอกวัยมากอะ)
ทุกเรื่องที่แล้วๆมาก็ดูแบบผ่านๆ ไปดูละครเกาหลี อยู่ช่วงหนึ่ง(ช่วงยาวนานมาก) ไปดู ซี่รี่ทางยุโรป ทางอเมริกา ญี่ปุ่น ไต่หวันบ้างปะปราย แล้วแต่อารมณ์
เราจะไม่กล่าวถึงซีรี่ย์ต่างประเทศที่เราดูมาหรอก เพราะตอนนี้เราก็เลิกดูซี่รี่ย์พวกนั้นไปแล้ว ไม่ใช่มันไม่ดีหรอก แค่รู้สึกอิ่มตัวก็เท่านั้น ตอนนี้ก็หันกลับมาดูละครไทย หลังจากที่เดินผ่านแว้บๆมาเนิ่นนานเกือบ 10 ปี
**** ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ค่อยปลาบปลื้มพวกดาราใหม่ๆทุกวันนี้กันซักเท่าไหร่หรอกนะ รู้สึกว่า มือไม่ถึง ดูแล้วไม่อิน
ประเดิมด้วยเรื่องแรกที่ตั้งใจดูตั้งแต่แรกจนจบ
-ทองเนื้อเก้า” ทางช่อง 3 ติดงอมแงม ชนิดวันไหนติดงานต้องมาดูย้อนหลังเอา ไม่พลาดซักตอน “ไม่เคยชอบนุ่น ยังชอบเลยอะเรื่องนี้บอกเลย คุณภาพคับแก้วมากๆ เรื่องนี้สาระล้วนๆได้ธรรมะ ได้คติสอนใจเพียบ คนติดด้วยนะเออ(ชอบท่ากระโดดตามไหยาดองของลำยองมากบอกเลยได้ฟิวส์ สุดๆอะ)
แล้วเรากับละครไทย ก็ห่างหายกันไปด้วยภารกิจหน้าที และ กลัวติดเหมือนเรื่อง “ทองเนื้อเก้า”
-
"ลูกผู้ชายพันธุ์ดี “ ทางช่อง 7 วันหนึ่งกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านต่างจังหวัด ขับรถกลับเหนื่อยแสนเหนื่อย นอนแบบอยู่หน้าบ้านตอนเย็นๆ ลูกชายวัย 6 ขวบของเพื่อน ก็วิ่งร้องเพลงแหกปาก มาตั้งกะหน้าบ้านมัน ผ่านหน้าบ้านเรา “ลูกผู้ชายพันธุ์ดี ฮี่โร่ ฮี่โร่ “ เราก็อะไรของมัน แล้วเจ้าตัวเล็กก็ร้องอยู่แบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาเสียงดังมาก หนวกหูชิบ
และเย็นวันนั้นเราก็ได้รู้ว่าที่เด็กๆเค้าแหกปากกันนั้นมันคือเพลงอะไร โถ่ ก็ละครฮีโร่ ทั่วๆไปนั่นแหละ พอดูๆไปซักพัก เอ๊ะ มันไม่ใช่ละ คือมันดีอะ มันสนุก ลุ้นตั้งกะเริ่มดูจนจบ พอจบอ้าว จบละ ก็เลยมานั่งซักแม่เรื่องราวมันเป็นไง ซึ่งก็เข้าใจได้ไม่ยาก ตอนนั้นก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง (แต่หลังๆมาดูทุกตอนจ้ะ คริคริ) แต่บอกเลย ละครเรื่องนี้ ถือเป็นละครแนวฮีโร่สายพันธุ์ไทยที่ถูกใจเรามากๆไม่แปลกใจที่ถูกใจตั้งแต่เด็ก 4-5 ขวบ จนถึงคนชราอยุ 70-80 แต่จะไม่วิเคราะห์เยอะ เพราะดูบ้างไม่ดูบ้าง
-
ต่อมาก็เรื่อง "ลูกไม้ลายรัก" ทางช่อง 3 เรื่องนี้ก็ดูแบบผ่านๆ ก็จะไม่วิจารณ์อีกเหมือนกัน
-
ต่อมาอีกที ก็เรื่อง "ใยกัลยา" ทางช่อง 7 เรื่องนี้ดูตอนแรก กับตอนจบ ไม่ชอบละครแนวหวานๆกุ๊กๆกิ๊กๆแบบนี้เลยดูบ้างไม่ดูบ้าง จะไม่พูดอะไรเยอะแค่บอกว่านางเอกน่ารักดี
-
อีกเรื่องช่อง 7 อีกเหมือนกัน เรื่อง "ลีลาวดีเพลิง" ไม่ชอบหนังชิงรักหักสวาท แนวแก้แค้นไรงี้(ในความคิดของเราตอนนั้น) เลยไม่ดู มาดูทีเดียวตอนจบ สนุกจัง นักแสดงทุกคนเก่งเวอร์ แล้วก็ไปถามเรื่องราวทั้งหมดจากแม่ แล้วก็แค่นั้น
ที่มาดูจริงจังก็คือเรื่อง "คาดเชือก" เหตุผลที่ดูเพราะ
-ติดใจการแสดงของมิกค์ ทองระย้า จาก "ลูกผู้ชายพันนธุ์ดี ฮีโร่ ฮีโร่" ก็เลยดู
-ชอบนางเอกคือน้องโบว์ เมลดา
-ชอบเรื่องหมัดๆมวยๆเป็นทุน(แต่ไม่ดูมวยไทยเจ็ดสีอะไรพวกนี้นะ) ที่ชอบมากๆคือหนังเรื่อง”องค์บาก” ดูเป็นสิบๆรอบ ชอบจา พนม ยีรัมย์มาก พอช่องเจ็ดจะฉาย “คาดเชือก” ต่อเราก็ตั้งตารอเลย เราชอบพวกมวยคาดเชือก มวยโบราณ เราว่าท่วงท่าการต่อสู้มันงดงามและในขณะเดียวกันก็รุนแรงผสมผสานระหว่างความอ่อนน้อมกับความแข็งแกร่งเราเลยชอบ ประเด็นนี้แหละคือประเด็นหลักที่เราตัดสินใจดู "คาดเชือก"
ดูวันแรก เราก็ 50:50 ก็มีเผื่อๆใจไว้บ้างเหมือนกัน แต่แค่ดูวันแรก เราก็ตัดสินใจ เป็นแฟนพันธุ์แท้คาดเชือกโดยทันที
เพราะนอกจากหุ่นล่ำๆ กล้ามแน่นๆ ของ “มิกค์ ทองระย้า” “เคลลี่ ธนะภัทร” “บิ๊ก เจษฏา” แล้ว องค์ประกอบต่างๆของละครเรื่องนี้มันช่างลงตัว
ไม่ว่าจะเป็น
- มุมกล้อง ที่สวยมากกก อลังการงานสร้างสุดๆ
-ท่วงท่าของมวยโบราณ มวยคาดเชือกที่ปกติเราได้เห็นแต่เป็นภาพเคลื่อนไหวไม่ได้ ถึงเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ มันก็เป็นการสาธิต ไม่ใช่ใช้ต่อสู้กันจริงๆเหมือนในละครเรื่องนี้ ช่อง 7 ทำให้เราเชื่อว่า นี่ เค้ากำลังต่อยมวยคาดเชือกกันอยู่จริงๆ สู้กันจริงๆ ใช้แม่ไม้มวยไทยกันจริงๆ ซึ่งมันทรงคุณค่ามากในสายตาเรา เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เราได้เห็นในทีวี
-บทละคร บทละครเรื่องนี้บทถูกเฉลี่ยและให้ความสำคัญกับตัวละครทุกตัวละครให้เท่าๆกัน ไม่มีใครมาก ไม่มีใครน้อย จนเกินไปแม้แต่ตัวประกอบ เล็กๆน้อยๆอย่าง “จ่อย” ลูกน้องของตัวร้าย ออกไม่กี่ฉาก เป็นนักแสดงที่เราไม่รู้จักชื่อ ไม่เคยเห็นหน้า แต่ สามารถแย่งซีนคนอื่นได้ “เมื่อเขาหลอกด่าเจ้านายได้อย่างเจ็บแบ” อันนี้คือสุดยอด
-ความเป็นไปได้ ตัวละครทุกตัวในเรื่อง ก็เป็นเหมือนคนปกติธรรมดาทั่วไปสามารถจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นบุญสม คนเลือดร้อน ปลัดธนู ผุ้ไม่เอาอ่าว นายอำเภอ ข้าราชการเช้าชามเย็นชาม นายตำรวจที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะยืนอยู่ตรงจุดไหนดี ตัวละครเหล่านี้ พบเห็นได้แทบจะทุกวัน ทุกหัวระแหงในประเทศสยามนี้ เหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆแล้ว บุคคลทั้งหลายเหล่านี้ ก็อยู่รอบๆตัวเรานี่แหละ
ฯลฯ
มีต่อด้านล่าง
เราจะหา"สาระ" จากละครไทยที่ถูกประณามว่า "ไร้สาระ" ได้บ้างไหม มาลองวิเคราะห์กันดู
เราก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาในหัว ละครที่เราดูทุกวันนี้มันไร้สาระจริงหรือ
เราต้องบอกก่อนว่า เราไม่ใช่คอละคร เราดูละครมาไม่กี่เรื่องหรอก ที่ดูแบบจริงจังอะนะ หลุดจากยุค พี่หนุ่ม ศรราม เราก็ไม่ได้ดูเรื่องไหนจริงจังอีกเลย
(บ่งบอกวัยมากอะ)
ทุกเรื่องที่แล้วๆมาก็ดูแบบผ่านๆ ไปดูละครเกาหลี อยู่ช่วงหนึ่ง(ช่วงยาวนานมาก) ไปดู ซี่รี่ทางยุโรป ทางอเมริกา ญี่ปุ่น ไต่หวันบ้างปะปราย แล้วแต่อารมณ์
เราจะไม่กล่าวถึงซีรี่ย์ต่างประเทศที่เราดูมาหรอก เพราะตอนนี้เราก็เลิกดูซี่รี่ย์พวกนั้นไปแล้ว ไม่ใช่มันไม่ดีหรอก แค่รู้สึกอิ่มตัวก็เท่านั้น ตอนนี้ก็หันกลับมาดูละครไทย หลังจากที่เดินผ่านแว้บๆมาเนิ่นนานเกือบ 10 ปี
**** ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ค่อยปลาบปลื้มพวกดาราใหม่ๆทุกวันนี้กันซักเท่าไหร่หรอกนะ รู้สึกว่า มือไม่ถึง ดูแล้วไม่อิน
ประเดิมด้วยเรื่องแรกที่ตั้งใจดูตั้งแต่แรกจนจบ
-ทองเนื้อเก้า” ทางช่อง 3 ติดงอมแงม ชนิดวันไหนติดงานต้องมาดูย้อนหลังเอา ไม่พลาดซักตอน “ไม่เคยชอบนุ่น ยังชอบเลยอะเรื่องนี้บอกเลย คุณภาพคับแก้วมากๆ เรื่องนี้สาระล้วนๆได้ธรรมะ ได้คติสอนใจเพียบ คนติดด้วยนะเออ(ชอบท่ากระโดดตามไหยาดองของลำยองมากบอกเลยได้ฟิวส์ สุดๆอะ)
แล้วเรากับละครไทย ก็ห่างหายกันไปด้วยภารกิจหน้าที และ กลัวติดเหมือนเรื่อง “ทองเนื้อเก้า”
- "ลูกผู้ชายพันธุ์ดี “ ทางช่อง 7 วันหนึ่งกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านต่างจังหวัด ขับรถกลับเหนื่อยแสนเหนื่อย นอนแบบอยู่หน้าบ้านตอนเย็นๆ ลูกชายวัย 6 ขวบของเพื่อน ก็วิ่งร้องเพลงแหกปาก มาตั้งกะหน้าบ้านมัน ผ่านหน้าบ้านเรา “ลูกผู้ชายพันธุ์ดี ฮี่โร่ ฮี่โร่ “ เราก็อะไรของมัน แล้วเจ้าตัวเล็กก็ร้องอยู่แบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาเสียงดังมาก หนวกหูชิบ
และเย็นวันนั้นเราก็ได้รู้ว่าที่เด็กๆเค้าแหกปากกันนั้นมันคือเพลงอะไร โถ่ ก็ละครฮีโร่ ทั่วๆไปนั่นแหละ พอดูๆไปซักพัก เอ๊ะ มันไม่ใช่ละ คือมันดีอะ มันสนุก ลุ้นตั้งกะเริ่มดูจนจบ พอจบอ้าว จบละ ก็เลยมานั่งซักแม่เรื่องราวมันเป็นไง ซึ่งก็เข้าใจได้ไม่ยาก ตอนนั้นก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง (แต่หลังๆมาดูทุกตอนจ้ะ คริคริ) แต่บอกเลย ละครเรื่องนี้ ถือเป็นละครแนวฮีโร่สายพันธุ์ไทยที่ถูกใจเรามากๆไม่แปลกใจที่ถูกใจตั้งแต่เด็ก 4-5 ขวบ จนถึงคนชราอยุ 70-80 แต่จะไม่วิเคราะห์เยอะ เพราะดูบ้างไม่ดูบ้าง
-ต่อมาก็เรื่อง "ลูกไม้ลายรัก" ทางช่อง 3 เรื่องนี้ก็ดูแบบผ่านๆ ก็จะไม่วิจารณ์อีกเหมือนกัน
-ต่อมาอีกที ก็เรื่อง "ใยกัลยา" ทางช่อง 7 เรื่องนี้ดูตอนแรก กับตอนจบ ไม่ชอบละครแนวหวานๆกุ๊กๆกิ๊กๆแบบนี้เลยดูบ้างไม่ดูบ้าง จะไม่พูดอะไรเยอะแค่บอกว่านางเอกน่ารักดี
-อีกเรื่องช่อง 7 อีกเหมือนกัน เรื่อง "ลีลาวดีเพลิง" ไม่ชอบหนังชิงรักหักสวาท แนวแก้แค้นไรงี้(ในความคิดของเราตอนนั้น) เลยไม่ดู มาดูทีเดียวตอนจบ สนุกจัง นักแสดงทุกคนเก่งเวอร์ แล้วก็ไปถามเรื่องราวทั้งหมดจากแม่ แล้วก็แค่นั้น
ที่มาดูจริงจังก็คือเรื่อง "คาดเชือก" เหตุผลที่ดูเพราะ
-ติดใจการแสดงของมิกค์ ทองระย้า จาก "ลูกผู้ชายพันนธุ์ดี ฮีโร่ ฮีโร่" ก็เลยดู
-ชอบนางเอกคือน้องโบว์ เมลดา
-ชอบเรื่องหมัดๆมวยๆเป็นทุน(แต่ไม่ดูมวยไทยเจ็ดสีอะไรพวกนี้นะ) ที่ชอบมากๆคือหนังเรื่อง”องค์บาก” ดูเป็นสิบๆรอบ ชอบจา พนม ยีรัมย์มาก พอช่องเจ็ดจะฉาย “คาดเชือก” ต่อเราก็ตั้งตารอเลย เราชอบพวกมวยคาดเชือก มวยโบราณ เราว่าท่วงท่าการต่อสู้มันงดงามและในขณะเดียวกันก็รุนแรงผสมผสานระหว่างความอ่อนน้อมกับความแข็งแกร่งเราเลยชอบ ประเด็นนี้แหละคือประเด็นหลักที่เราตัดสินใจดู "คาดเชือก"
ดูวันแรก เราก็ 50:50 ก็มีเผื่อๆใจไว้บ้างเหมือนกัน แต่แค่ดูวันแรก เราก็ตัดสินใจ เป็นแฟนพันธุ์แท้คาดเชือกโดยทันที
เพราะนอกจากหุ่นล่ำๆ กล้ามแน่นๆ ของ “มิกค์ ทองระย้า” “เคลลี่ ธนะภัทร” “บิ๊ก เจษฏา” แล้ว องค์ประกอบต่างๆของละครเรื่องนี้มันช่างลงตัว
ไม่ว่าจะเป็น
- มุมกล้อง ที่สวยมากกก อลังการงานสร้างสุดๆ
-ท่วงท่าของมวยโบราณ มวยคาดเชือกที่ปกติเราได้เห็นแต่เป็นภาพเคลื่อนไหวไม่ได้ ถึงเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ มันก็เป็นการสาธิต ไม่ใช่ใช้ต่อสู้กันจริงๆเหมือนในละครเรื่องนี้ ช่อง 7 ทำให้เราเชื่อว่า นี่ เค้ากำลังต่อยมวยคาดเชือกกันอยู่จริงๆ สู้กันจริงๆ ใช้แม่ไม้มวยไทยกันจริงๆ ซึ่งมันทรงคุณค่ามากในสายตาเรา เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เราได้เห็นในทีวี
-บทละคร บทละครเรื่องนี้บทถูกเฉลี่ยและให้ความสำคัญกับตัวละครทุกตัวละครให้เท่าๆกัน ไม่มีใครมาก ไม่มีใครน้อย จนเกินไปแม้แต่ตัวประกอบ เล็กๆน้อยๆอย่าง “จ่อย” ลูกน้องของตัวร้าย ออกไม่กี่ฉาก เป็นนักแสดงที่เราไม่รู้จักชื่อ ไม่เคยเห็นหน้า แต่ สามารถแย่งซีนคนอื่นได้ “เมื่อเขาหลอกด่าเจ้านายได้อย่างเจ็บแบ” อันนี้คือสุดยอด
-ความเป็นไปได้ ตัวละครทุกตัวในเรื่อง ก็เป็นเหมือนคนปกติธรรมดาทั่วไปสามารถจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นบุญสม คนเลือดร้อน ปลัดธนู ผุ้ไม่เอาอ่าว นายอำเภอ ข้าราชการเช้าชามเย็นชาม นายตำรวจที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะยืนอยู่ตรงจุดไหนดี ตัวละครเหล่านี้ พบเห็นได้แทบจะทุกวัน ทุกหัวระแหงในประเทศสยามนี้ เหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆแล้ว บุคคลทั้งหลายเหล่านี้ ก็อยู่รอบๆตัวเรานี่แหละ
ฯลฯ
มีต่อด้านล่าง