เรื่องมีอยู่ว่า ผมกับครอบครัวได้เดินทางไปเที่ยวเมืองจีน ประมาณอาทิตย์กว่าๆ และผมได้เอารถไปจอดที่คอนโดของน้องสาว ซึ่งน้องสาวก็ไปเที่ยวเมืองจีนด้วยกัน ต้องบอกก่อนว่าคอนโดนี้มีที่จอดรถแบบฟิตตำแหน่ง ก่อนเอามาจอดน้องสาวก็ได้แจ้งกับทางนิติแล้วว่า จะมีรถของพี่ชายมาจอดชั่วคราว ในสิทธิ์ที่จอดรถของห้องน้องสาว น้องสาวไม่มีรถครับ เพราะออฟฟิตที่น้องสาวทำงานอยู่ตึกติดใกล้ๆกัน เธอเดินไปทำงานครับ (รถผมไม่มีสติกเกอร์คอนโด) นิติก็รับทราบเรื่อง
พอกลับมาจากทริปเมืองจีน ก็มาที่คอนโดของน้องสาว ผมกับน้องสาวลงมาที่ลานจอดรถเพื่อจะเอาสัมภาระขึ้นรถแล้วเอารถออก แต่แล้วภาพที่เห็นคือ
รถผมถูกขูดทั้งคัน แถมมีเหรียญวางรอบๆตัวรถด้วย ผมกับน้องสาวได้ถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐานทุกอย่าง และนำเรื่องไปแจ้งกับทางนิติบุคคลของคอนโด และทางกรรมการของคอนโด คำตอบที่ได้รับนั้น มันช่างทำให้เรารู้สึกแย่มากกว่าเดิม ซึ่งพวกเขาได้บอกว่า "ถ้าคุณจะขอดูบันทึกจากกล้องวงจรปิด ต้องนำใบแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันมา เราถึงจะให้คุณดูได้"
หลังจากที่เราไปแจ้งลงบันทึกประจำวันและในนั้นทาง ตร ได้เขียนไว้ด้วยว่ามีความประสงค์ต้องการขอดูบันทึกจากกล้องวงจรปิด คือเรากำชับ ตร เลยว่าให้เขียนลงไป กลับมาถึงคอนโดรู้ไหมพวกเขาพูดว่าไง "คุณต้องพา ตร มาเป็นพยาน เพื่อเป็นการป้องกันคุณนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปเผยแพร่"
ถามจริง ตร ที่ไหนเขาจะมากับไอ้เรื่องภายในคอนโดแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เหตุฆาตรกรรม อาชญากรรม ตร ที่ไหนเขาจะมา..
นี่หรือคือมาตรฐานการทำงานของนิติ ในคอนโดราคา 10 ล้านกว่าย่านถนนสาธรใต้ ผจก คอนโดคนนี้ตอนก่อนเราจะไปเมืองจีนพูดจาดีมาก ยิ้มแย้ม แต่พอกลับมานี่เป็นคนละคนเลย พูดจาใส่อารมณ์ พูดจาเหมือนตะคอก และเดินกระแทกส้นเท้า และพูดจาเหมือนตัวเองใหญ่สุดในอาคาร แล้วตอนที่เราได้เดินไปขอดูบันทึก cctv ยัย ผจก คนนี้ก็เอา tablet ขึ้นมาถ่ายคลิปการสนทนาของเรา ทำไมมีกริยาแบบนี้ก็ไม่รู้ ไม่ให้ความร่วมมือช่วยแก้ไชปัญหาเลย บุคลิกแบบนี้ไม่รู้ว่าบริษัทบริหารรับเข้ามาทำงานได้อย่างไรกัน คนอยากทำงาน หางานมีเยอะแยะ ทำไมถึงเก็บยัยนี่ไว้ก็ไม่รู้...
ขอถามสมาชิกหน่อยครับ หรือผู้ที่มีประสบการณ์แบบนี้ในคอนโดก็ได้ครับ ว่าเหตุการณ์ของผมแบบนี้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ นิติ หรือ บริษัท รปภ. หรือใคร? คือเรามีทนายด้วย แต่ยังไม่อยากให้ถึงขั้นฟ้องร้อง มันน่าจะมีทางที่จะพูดคุยเจรจากันได้ ส่วนรถเราก็มีความจำเป็นต้องใช้ ถ้าถึงขั้นฟ้องร้องหลักฐานคือรถเราก็ไม่สามารถที่จะขยับไปไหนได้ ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าการดำเนินการเอาโทษตามกฏหมายมันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่..
รายละเอียดเพิ่มเติม : น้องสาวไม่มีรถ และ รถที่ผมนำไปจอดก็เป็นที่จอดรถของห้องน้องสาว ไม่เบียดเบียนใคร อย่างแน่นอนครับ
รถโดนขูดรอบคันในคอนโด ใครที่จะเป็นผู้รับผิดชอบครับ
พอกลับมาจากทริปเมืองจีน ก็มาที่คอนโดของน้องสาว ผมกับน้องสาวลงมาที่ลานจอดรถเพื่อจะเอาสัมภาระขึ้นรถแล้วเอารถออก แต่แล้วภาพที่เห็นคือ
รถผมถูกขูดทั้งคัน แถมมีเหรียญวางรอบๆตัวรถด้วย ผมกับน้องสาวได้ถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐานทุกอย่าง และนำเรื่องไปแจ้งกับทางนิติบุคคลของคอนโด และทางกรรมการของคอนโด คำตอบที่ได้รับนั้น มันช่างทำให้เรารู้สึกแย่มากกว่าเดิม ซึ่งพวกเขาได้บอกว่า "ถ้าคุณจะขอดูบันทึกจากกล้องวงจรปิด ต้องนำใบแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันมา เราถึงจะให้คุณดูได้"
หลังจากที่เราไปแจ้งลงบันทึกประจำวันและในนั้นทาง ตร ได้เขียนไว้ด้วยว่ามีความประสงค์ต้องการขอดูบันทึกจากกล้องวงจรปิด คือเรากำชับ ตร เลยว่าให้เขียนลงไป กลับมาถึงคอนโดรู้ไหมพวกเขาพูดว่าไง "คุณต้องพา ตร มาเป็นพยาน เพื่อเป็นการป้องกันคุณนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปเผยแพร่"
ถามจริง ตร ที่ไหนเขาจะมากับไอ้เรื่องภายในคอนโดแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เหตุฆาตรกรรม อาชญากรรม ตร ที่ไหนเขาจะมา..
นี่หรือคือมาตรฐานการทำงานของนิติ ในคอนโดราคา 10 ล้านกว่าย่านถนนสาธรใต้ ผจก คอนโดคนนี้ตอนก่อนเราจะไปเมืองจีนพูดจาดีมาก ยิ้มแย้ม แต่พอกลับมานี่เป็นคนละคนเลย พูดจาใส่อารมณ์ พูดจาเหมือนตะคอก และเดินกระแทกส้นเท้า และพูดจาเหมือนตัวเองใหญ่สุดในอาคาร แล้วตอนที่เราได้เดินไปขอดูบันทึก cctv ยัย ผจก คนนี้ก็เอา tablet ขึ้นมาถ่ายคลิปการสนทนาของเรา ทำไมมีกริยาแบบนี้ก็ไม่รู้ ไม่ให้ความร่วมมือช่วยแก้ไชปัญหาเลย บุคลิกแบบนี้ไม่รู้ว่าบริษัทบริหารรับเข้ามาทำงานได้อย่างไรกัน คนอยากทำงาน หางานมีเยอะแยะ ทำไมถึงเก็บยัยนี่ไว้ก็ไม่รู้...
ขอถามสมาชิกหน่อยครับ หรือผู้ที่มีประสบการณ์แบบนี้ในคอนโดก็ได้ครับ ว่าเหตุการณ์ของผมแบบนี้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ นิติ หรือ บริษัท รปภ. หรือใคร? คือเรามีทนายด้วย แต่ยังไม่อยากให้ถึงขั้นฟ้องร้อง มันน่าจะมีทางที่จะพูดคุยเจรจากันได้ ส่วนรถเราก็มีความจำเป็นต้องใช้ ถ้าถึงขั้นฟ้องร้องหลักฐานคือรถเราก็ไม่สามารถที่จะขยับไปไหนได้ ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าการดำเนินการเอาโทษตามกฏหมายมันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่..
รายละเอียดเพิ่มเติม : น้องสาวไม่มีรถ และ รถที่ผมนำไปจอดก็เป็นที่จอดรถของห้องน้องสาว ไม่เบียดเบียนใคร อย่างแน่นอนครับ