เราชอบโพสการเดินทางท่องเที่ยวในเฟซบุค รสมทั้งเรื่องอาหารการกิน แนะนำที่พักต่างๆ ในแวดวงพี่ๆน้อง เมื่อคืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาพี่น้องหลายคนถามว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องย้ายที่พักกันระหว่างคืน
นั่นสิ ไม่เคยเจอแบบนี้เหมือนกัน จองที่พัก เข็มทองโฮมสเตย์ที่สังขละบุรี จ่ายเงินล่วงหน้าเป็นเดือน ถึงแม้ว่าจะเป็นที่พักเล็กๆ ตามสไตล์ที่เราชอบ แต่เราก็ชื่อว่าเป็นแขกผู้เข้าพัก ที่พักเต็มทุกห้อง 10 ห้อง
เข้าเช็คอินก่อนเที่ยงประมาณ 15 นาที แล้วออกไปเที่ยว กลับมาบ่าย 3 ทีวีดูไม่ได้ สามีเดินไปแจ้ง เด็กบอกพ่อไม่อยู่กลับเย็นๆ ไม่เป็นไร 5 โมงเย็นออกไปกินข้าว ย้ำกับเด็กเรื่องทีวี เด็กบอกมีกุญแจสำรอง เข้าไปทำได้ ก่อนออกมาเห็นเจ้าของตั้งวง ยังยอกกับสามีว่าเออ ครอบครัวใหญ่เนอะ คนกินข้าวเป็นสิบ
กลับมาจากกินข้าวเย็นเกือบทุ่ม ทีวียังใช้การไม่ได้เหมือนเดิม สามีเดินไปตามอีกรอบ เด็กบอกพ่อไปทำงานที่โรงพยาบาลกลับจะมาทำให้ วงกินข้าวเปลี่ยนเป็นวงจัดวันเกิด เด็กเกือบสิบคนวิ่งเล่นส่งเสียงดัง ผู้ใหญ่ร้องเพลงตั้งวงกินเหล้า เจ้าของแวะมาดูทีวีบอกว่าเสียที่กล่องเคเบิ้ลด้านนอก ไปเอาบันไดมาวาง เสร็จแล้วบอกว่ามืดทำไม่ได้ ไปหาไฟแล้วหายไปไม่กลับมาอีก
สองทุ่มครึ่งเพลงสามช่า ทั้งคาราบาว ทั้งพงศ์เทพดังขึ้นเรื่อยๆ เลยให้สามีเดินไปถามว่าจะดังแบบนี้อีกนานไหม ดันถามเรากลับอีกว่ารบกวนเหรอ ขออีกสักพัก หุหุ แถมยังได้ยินพ่อของเด็กคนหนึ่งตอบลูกว่าสี่ทุ่มค่อยกลับ เลยบอกสามีว่ากลับบอกว่าขอคืนห้อง
เจ้าของผู้ชายตะโกนจากวงเหล้าว่า คืนเงินไปเลย โดยเราได้เงินคืนมาครึ่งนึงคือ 400 บาท โดยไม่มีคำว่าขอโทษหรืออะไรทั้งสิ้น เราเลยต้องระเห็จออกจากที่พักขับรถออกจากสังขละบุรีมานอนที่ทองผาภูมิด้วยประการฉะนี้แล
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าทนได้ทนไป ทนไม่ได้ก็ออกไป เข้าใจนะ เราจ่ายเงิน และเราต้องการรักษาสิทธิ์ที่เราควรจะได้ ถึงแม้ว่าเป็นเงินจำนวนไม่มากก็ตาม
โฮมสเตย์ทำแบบนี้ ถูกต้องแล้วหรือ
นั่นสิ ไม่เคยเจอแบบนี้เหมือนกัน จองที่พัก เข็มทองโฮมสเตย์ที่สังขละบุรี จ่ายเงินล่วงหน้าเป็นเดือน ถึงแม้ว่าจะเป็นที่พักเล็กๆ ตามสไตล์ที่เราชอบ แต่เราก็ชื่อว่าเป็นแขกผู้เข้าพัก ที่พักเต็มทุกห้อง 10 ห้อง
เข้าเช็คอินก่อนเที่ยงประมาณ 15 นาที แล้วออกไปเที่ยว กลับมาบ่าย 3 ทีวีดูไม่ได้ สามีเดินไปแจ้ง เด็กบอกพ่อไม่อยู่กลับเย็นๆ ไม่เป็นไร 5 โมงเย็นออกไปกินข้าว ย้ำกับเด็กเรื่องทีวี เด็กบอกมีกุญแจสำรอง เข้าไปทำได้ ก่อนออกมาเห็นเจ้าของตั้งวง ยังยอกกับสามีว่าเออ ครอบครัวใหญ่เนอะ คนกินข้าวเป็นสิบ
กลับมาจากกินข้าวเย็นเกือบทุ่ม ทีวียังใช้การไม่ได้เหมือนเดิม สามีเดินไปตามอีกรอบ เด็กบอกพ่อไปทำงานที่โรงพยาบาลกลับจะมาทำให้ วงกินข้าวเปลี่ยนเป็นวงจัดวันเกิด เด็กเกือบสิบคนวิ่งเล่นส่งเสียงดัง ผู้ใหญ่ร้องเพลงตั้งวงกินเหล้า เจ้าของแวะมาดูทีวีบอกว่าเสียที่กล่องเคเบิ้ลด้านนอก ไปเอาบันไดมาวาง เสร็จแล้วบอกว่ามืดทำไม่ได้ ไปหาไฟแล้วหายไปไม่กลับมาอีก
สองทุ่มครึ่งเพลงสามช่า ทั้งคาราบาว ทั้งพงศ์เทพดังขึ้นเรื่อยๆ เลยให้สามีเดินไปถามว่าจะดังแบบนี้อีกนานไหม ดันถามเรากลับอีกว่ารบกวนเหรอ ขออีกสักพัก หุหุ แถมยังได้ยินพ่อของเด็กคนหนึ่งตอบลูกว่าสี่ทุ่มค่อยกลับ เลยบอกสามีว่ากลับบอกว่าขอคืนห้อง
เจ้าของผู้ชายตะโกนจากวงเหล้าว่า คืนเงินไปเลย โดยเราได้เงินคืนมาครึ่งนึงคือ 400 บาท โดยไม่มีคำว่าขอโทษหรืออะไรทั้งสิ้น เราเลยต้องระเห็จออกจากที่พักขับรถออกจากสังขละบุรีมานอนที่ทองผาภูมิด้วยประการฉะนี้แล
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าทนได้ทนไป ทนไม่ได้ก็ออกไป เข้าใจนะ เราจ่ายเงิน และเราต้องการรักษาสิทธิ์ที่เราควรจะได้ ถึงแม้ว่าเป็นเงินจำนวนไม่มากก็ตาม