ก่อนหน้านี้กูรูหนังแห่งสยามประเทศต่างยกให้ Boyhood เป็นตัวเต็งในการคว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาครองแบบไร้ซึ่งคู่แข่ง จนกระทั่งการมาของ Birdman ก็ทำให้ตัวเต็งที่หลายคนยกให้ ณ ตอนนั้นต้องอกสั่นขวัญแขวน เมื่อกูรูหลายท่านต่างเทใจและเทคะแนนให้กับผู้ท้าชิงอย่างล้นหลาม และนั่นก็ทำให้การลุ้นรางวัลใหญ่ของออสการ์เริ่มเค้าแห่งความตื่นเต้นขึ้นมาทันที
Birdman หนังเสียดสีตลกร้ายที่กัดจิกจนสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการภาพยนตร์ ไปว่าจะเป็นคนสร้างหนังผู้กำกับ นักวิจารณ์ และผู้ชม ตัวหนังเป็นเรื่องราวของดาราดังในบทซุปเปอร์ฮีโร่ที่อยู่ในช่วงขาลง ที่พยายามจะสร้างละครบรอดเวย์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตนเอง บทบาทนี้น่าสนใจมากเพราะคนที่ต้องมารับบทนั่นคือ Michael Keaton ผู้เคยรับบทเป็น Batman ในชีวิตจริงเช่นกัน แล้วเส้นทางชีวิตของแกก็คล้ายคลึงกับในหนังมาก การแสดงของ Keaton จึงออกมาแบบสุดยอดที่สุด ทุกซีนสามารถตรึงคนดูได้อยู่หมัด และบอกเลยว่านี่ไม่ใช่การแสดงที่ดีแบบธรรมดา เพราะหนังเรื่องนี้ถ่ายทำด้วยกล้องตัวเดียวแบบลองเทคแทบทั้งเรื่อง ซึ่งหมายความว่าถ้าผิดครั้งเดียวนี่ต้องถ่ายใหม่เลยแหละ
แค่ถ่ายทำแบบธรรมดาก็ยากพอสมควรแล้ว สำหรับสาขานักแสดงที่จะได้เข้าชิงออสการ์ แต่นี่เล่นแบบลองเทคยาวมาก แค่บทก็ไม่รู้จะเอาสมองส่วนไหนไปจำ แต่ในหนังเรื่องนี้นอกจาก Keaton ที่ทำได้ดีแล้ว นักแสดงสมทบอย่าง Zach Galifianakis, Edward Norton, Emma Stone และอื่นๆ ล้วนทำออกมาไ้ด้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้กันเลย เทคเดียวต้องอยู่จริงๆ ซึ่งนอกจากฝีมือของนักแสดงที่ต้องแม่นยำแล้ว ทีมงานถ่ายทำก็เช่นกันที่ต้องเป๊ะมากๆ ทั้งมุมกล้อง จังหวะ ซาวน์ประกอบ และสารพัดที่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ แล้วแค่ลองเทคยังเทพไม่พอ ยังมีโชว์ซีจีเนียนๆอีกหลายฉากยกระดับความเทพเขาไปอีก ไอ้เราดูไปก็อึ้งไปอยากจะยกรางวัลการผลิต และนักแสดงยอดเยี่ยมจากทุกสถาบันให้เอาไปต้มกินจนหนำใจกันไปเลย
ทางด้านตัวหนังบอกเลยว่าไม่ใช่ทางสำหรับทุกคนแน่ๆ เพราะเป็นแนวตลกร้ายเสียดสีฮออลลีวู้ดแบบเหนืองจริงๆนิด(Surreal) ถ้าชั่วโมงบินในการดูหนัง และความรู้ในวงการฮอลลีวู้ดไม่มากพอคุณอาจจะงงและมึนหัวตึบๆได้ นี่ยังไม่นับการพูดแบบน้ำไหลไฟดับของนักแสดง คือถ้าฟังอังกฤษไม่เป็น หรืออ่านซับไม่ทัน จบเห่ทันทีกับหนังเรื่องนี้ นี่ยังไม่นับจินตนาการในการวิเคราะห์หนัง แต่ถ้าคุณมีคุณสมบัติพร้อมทุกประการสำหรับการชมหนังเรื่องนี้ รับรองความสนุกและความมันส์บังเกิดแน่ๆครับ
สรุปแล้ว Birdman คือภาพยนตร์เสียดสีตลกร้ายสุดทรงพลัง ที่มีเทคนิคการถ่ายทำ และการแสดงขั้นโคตรเทพ เหมาะสำหรับนักดูหนัง นักเรียนหนัง นักแสดง และคนทำหนังที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!!
#คุยเรื่องหนัง #Birdman
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มายาWhiplash = Maps to the Stars(มายาวิปลาส) + Whiplash = Birdman
Birdman มายาWhiplash!! (ไม่สปอย)
ก่อนหน้านี้กูรูหนังแห่งสยามประเทศต่างยกให้ Boyhood เป็นตัวเต็งในการคว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาครองแบบไร้ซึ่งคู่แข่ง จนกระทั่งการมาของ Birdman ก็ทำให้ตัวเต็งที่หลายคนยกให้ ณ ตอนนั้นต้องอกสั่นขวัญแขวน เมื่อกูรูหลายท่านต่างเทใจและเทคะแนนให้กับผู้ท้าชิงอย่างล้นหลาม และนั่นก็ทำให้การลุ้นรางวัลใหญ่ของออสการ์เริ่มเค้าแห่งความตื่นเต้นขึ้นมาทันที
Birdman หนังเสียดสีตลกร้ายที่กัดจิกจนสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการภาพยนตร์ ไปว่าจะเป็นคนสร้างหนังผู้กำกับ นักวิจารณ์ และผู้ชม ตัวหนังเป็นเรื่องราวของดาราดังในบทซุปเปอร์ฮีโร่ที่อยู่ในช่วงขาลง ที่พยายามจะสร้างละครบรอดเวย์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตนเอง บทบาทนี้น่าสนใจมากเพราะคนที่ต้องมารับบทนั่นคือ Michael Keaton ผู้เคยรับบทเป็น Batman ในชีวิตจริงเช่นกัน แล้วเส้นทางชีวิตของแกก็คล้ายคลึงกับในหนังมาก การแสดงของ Keaton จึงออกมาแบบสุดยอดที่สุด ทุกซีนสามารถตรึงคนดูได้อยู่หมัด และบอกเลยว่านี่ไม่ใช่การแสดงที่ดีแบบธรรมดา เพราะหนังเรื่องนี้ถ่ายทำด้วยกล้องตัวเดียวแบบลองเทคแทบทั้งเรื่อง ซึ่งหมายความว่าถ้าผิดครั้งเดียวนี่ต้องถ่ายใหม่เลยแหละ
แค่ถ่ายทำแบบธรรมดาก็ยากพอสมควรแล้ว สำหรับสาขานักแสดงที่จะได้เข้าชิงออสการ์ แต่นี่เล่นแบบลองเทคยาวมาก แค่บทก็ไม่รู้จะเอาสมองส่วนไหนไปจำ แต่ในหนังเรื่องนี้นอกจาก Keaton ที่ทำได้ดีแล้ว นักแสดงสมทบอย่าง Zach Galifianakis, Edward Norton, Emma Stone และอื่นๆ ล้วนทำออกมาไ้ด้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้กันเลย เทคเดียวต้องอยู่จริงๆ ซึ่งนอกจากฝีมือของนักแสดงที่ต้องแม่นยำแล้ว ทีมงานถ่ายทำก็เช่นกันที่ต้องเป๊ะมากๆ ทั้งมุมกล้อง จังหวะ ซาวน์ประกอบ และสารพัดที่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ แล้วแค่ลองเทคยังเทพไม่พอ ยังมีโชว์ซีจีเนียนๆอีกหลายฉากยกระดับความเทพเขาไปอีก ไอ้เราดูไปก็อึ้งไปอยากจะยกรางวัลการผลิต และนักแสดงยอดเยี่ยมจากทุกสถาบันให้เอาไปต้มกินจนหนำใจกันไปเลย
ทางด้านตัวหนังบอกเลยว่าไม่ใช่ทางสำหรับทุกคนแน่ๆ เพราะเป็นแนวตลกร้ายเสียดสีฮออลลีวู้ดแบบเหนืองจริงๆนิด(Surreal) ถ้าชั่วโมงบินในการดูหนัง และความรู้ในวงการฮอลลีวู้ดไม่มากพอคุณอาจจะงงและมึนหัวตึบๆได้ นี่ยังไม่นับการพูดแบบน้ำไหลไฟดับของนักแสดง คือถ้าฟังอังกฤษไม่เป็น หรืออ่านซับไม่ทัน จบเห่ทันทีกับหนังเรื่องนี้ นี่ยังไม่นับจินตนาการในการวิเคราะห์หนัง แต่ถ้าคุณมีคุณสมบัติพร้อมทุกประการสำหรับการชมหนังเรื่องนี้ รับรองความสนุกและความมันส์บังเกิดแน่ๆครับ
สรุปแล้ว Birdman คือภาพยนตร์เสียดสีตลกร้ายสุดทรงพลัง ที่มีเทคนิคการถ่ายทำ และการแสดงขั้นโคตรเทพ เหมาะสำหรับนักดูหนัง นักเรียนหนัง นักแสดง และคนทำหนังที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!!
#คุยเรื่องหนัง #Birdman
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้