มุมมองจากArtistที่ทำงานด้านAnimationกับหนังเรื่อง Ananta(อนันตา)

ขอบอกก่อนว่าตัวผมก็ไม่ได้เก่งอะไรเป็นแค่Artistตัวเล็กๆที่ได้เห็นได้ทำอะไรมาบ้างเลยอยากบอกเล่ามุมมองที่ผมมองหนังเรื่อง อนันตา

ตัวผมเองไม่ได้ดูถูกวงการAnimationไทยแม้แต่น้อยแต่เมือผมเห็นสิ่งที่วงการAnimationบ้านเราควรพัฒนาได้มากกว่านี้ แต่เมือผมได้มาดูท่านรองให้สัมภาษณ์ในรายการทางช่อง3 มันทำให้ผมเห็นขอบกพร่องของวงการบ้านเราจริงๆละ ท่านรองบอกว่าเนื้อเรื่อง"พระพุทธเจ้า"หนักไปทางชีวะประวัติมันเลยทำให้Animationไม่สนุก ตัวผมมองว่ามันทำให้สนุกได้ตั้งแต่ตอนทำStoryBorderแล้วมันเห็นภาพโดยรวมตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว แต่ก็ยังตกลงให้มันเป็นแบบนั้น ผมยกตัวอย่างการทำงานของDisneyเค้าจะมีผู้ชมที่เป็นผู้ชมทดสอบดูหนังทุกๆ3-6เดือน ถ้าผู้ชมบอกว่าแย่ตรงไหนทีมงานจะเอามานั้งดูและไม่รอช้าแก้มันทันที่ หนังDisneyเลยถูกใจผู้ชมเป็นส่วนมากและขายได้ในวงกว้าง มันเลยล่วงเลยมาถึงอนันตา บอกอยากให้เป็นActionมากขึ้น แต่หลังจากที่ได้เห็นฉากActionบนTrailerแล้วบอกได้คำเดียวว่าจืดมากทั้งมุมกล้องทั้งการAnimateตัวละคร ทั้งๆที่เรื่องนี้ใช้เวลาทำไป5ปี(ผมว่านานกว่านั้น)น่าจะมีเวลาทำStoryboardกว่า2ปีเลยละ ตัวเนื่อเรื่องเองท่านรองบอกว่าอยากให้เป็นสากลแต่อยากยึดความเป็นไทยอยู่ด้วย มันเลยทำให้ภาพโดยรวมของหนังดูยำมั้วไปหมด ลอกตรงนั้นมาที่ลอกตรงนี้มาที่ มันเลยดูไม่มีอะไรเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเลย แค่ดูจากการออกแบบตัวละครของทหารก็รู้แล้วว่าเอามาจากเรื่องAladdinไหนจะมนุษย์เสื่ออีกก็ลายเส้นเกื่อบจะเหมื่อนRajahนี้ไม่รวมการออกแบบของพ่อมดอีก ตัวหลักก็เหมือนจะไปเอาแบบมาจากตัวละครanimaจากญี่ปุ่นมากไป(ท่านรองบอกว่าศึกษามาแล้วว่าคนสมัยก่อนหน้าตาเป็นยังไง) ไม่จบที่เรื่องออกแบบอย่างเดียว ขนาดรูปทรงที่ไม่สมส่วนของร่างกายอีกบางฉากหัวเล็กกว่าตัวบางฉากหัวใหญ่กว่าตัว บางฉากตัวละครตาเข บางฉากหน้าเบี้ยวก็มี บริษัทAnimationส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญเรื่องตาของตัวละครมากเพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวละครดูมีชีวิต อย่าว่าเลยขนาดเดินตลาดซื้อปลายังต้องซื้อตัวที่ตาใส่เลยๆ พูดงายๆคื่อหลักกายภาพของAnimationเรื่องนี้เป็นส่วนที่ทำให้คนไม่อยากจะดูสักเท่าไหร(นี้ขนาดเคยทำAnimationให้Disneyมา2เรื่องนะเนี้ยDisneyปล่อยผ่านได้ไงหว่า) ต่อมาก็คงเป็นเรื่องแสงเงาของเรืองนี้ลงสีแบบว่าแบนและไรมิติมาก ลองกลับไปเปิดPinocchio(1940)มาดูเรื่องแสงเงาดีไหมครับ?

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แล้วอีกอย่างเรื่องframe rateหรื่อความนุ่มนวลของการขยับของตัวละคร ถ้าลองไปเปิดSnow White(1937)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
งานAnimationอันนตาเหมือนเป็นงานblockingเสียมากกว่า มีเวลา5ปีกับเงินเป็น100กว่าล้านกับเครื่องมือเก่าที่มาจากเรื่อง"พระพุทธเจ้า"

แค่ตัวอย่างงานAnimationTVของที่อื่นเรื่องการออกแบบเรื่องมุมกล้องรวมไปถึงงานAnimationมันดูดีจริงๆนะ(ThunderCat)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ท่านรองยังบอกอีกว่าอยากให้หนังเรื่องนี้เป็น2มิติเพราะเรามีต้นทุนคนไทยในความสามารถในการวาดภาพและการเล่าเรื่องที่ดี เพราะว่ามันใช้ทักษะในการวาดมากกว่าความสามารถของsoftware... ผมว่าไม่ผิดเลยที่จะทำเป็น2มิติถ้า! การวาดตัวละครมันดูสมส่วนแล้วให้ภาพการขยับที่นุ่มนวล ทำไม่จิบิสตูดิโอถึงได้ทำแต่2D Animation และไม่ยอมขยับไปทำ3Dก็เหตุผลเพราะ3D มันให้การขยับที่นุ่มนวลไม่ได้มันดูไม่พริ้วเหมื่อน2Dถ้าทำตรงนี้ไม่ได้ก็อย่าบอกเลยว่าตัวเองทำ2Dเป็น

รู้ไหมว่าทำไม่Tangled(Rapunzel)ถึงใช้เงินทุนมากกว่า3DAnimationsเรื่องอื่นของDisneyมากว่าเท่าตัว Tanglesใช้260ล้านส่วนFrozenใช้ไปแค่150ล้าน จริงๆแล้วDisneyทำTangledเป็น2Dมาเกื่อบจะครึ่งเรื่องแล้วแต่ด้วยเหตุที่ยอดขายของThe Princess and the Frogไม่ได้ดีเหมือนที่Disneyตั้งเป้าไว้Disneyเลยล้มกระดานปิดStudio2DและเปิดStudio3DมาทำRapunzelแทนด้วยเหตุผลง่ายๆเลยเด็กสมัยใหม่ชอบดูอะไรที่มีมิติมากกว่าและยังลดเรื่องต้นทุนการผลิตลงไปได้อีก ส่วนเรื่องที่บอกว่าคนไทยไม่มีการพัฒนาSoftwareไม่มีเพราะ...ค้าจ้างProgramที่มาพัฒนาในวงการAnimationมันถูกจนถึงกับพูดได้ว่าคนที่อยู่ทนเขียนSoftwareAnimationในไทยนี้คื่อต้องรักในตัวAnimationจริงๆที่เหลื่อก็ไปทำงานแบงค์หมด เอาเป็นว่าถ้าทำงานStudioเมืองนอกคนพัฒนาSoftwareได้เงินเดื่อนดีมากคุ้มกับงานที่ทำแล้วอีกย่างเวลาที่จะพัฒนาSoftwareขึ้นมาสักอันต้องดูจากความสำคัญของหนัง หนังแต่ละเรื่องจะมีงบพัฒนาแยกออกมาให้นำไปใช้พัฒนาSoftwareสำคัญๆในหนังเรื่องนั้นๆ ยกตัวอย่างTangledก็พัฒนาเรื่องของการSimulation ผ้าและเส้นผมเป็นหลัก Frozen ก็เรื่องของSimulationหิมะ BigHero6ก็เขียนSoftwareที่ใช้Renderสิ่งของเยอะๆได้เช่นเมืองฝูงคนเป็นต้น แล้วเค้าก็ค่อยๆเก็บKnowHowของเค้ามาเรื่อยๆ แต่อันนั้นมันเป็นเหตุผลว่าทำไม่เค้าต้องเขียนขึ้นมาใช้เอง Softwareที่เราใช้อยู่ทั่วไปที่บอกว่ามันทำได้แค่หยองแหยงๆ มันทำได้แค่นั้นจริงหรอแล้วทำไม่เค้าถึงขายได้แพงแล้วยังมีคนไปซื่อมันมาใช้อีก? ผมกล้าพูดเลยว่าSoftwareมันเป็นแค่เครื่องมือที่ทำให้ทำงานสบายขึ้นแต่จริงๆแล้วมันอยู่ที่Artistมากกว่าที่จะหยิบเครื่องมือมาใช้ยังไง ยกตัวอย่างMaya ผมถามหน่อยเหอะว่ามีคนรู้ว่าปุ่มทุกปุ่มบนSoftware ใช้ทำอะไรได้มั้ง อย่าเอาsoftwareมาอ้างว่ามันไม่ดี ถ้ามันไม่ดีคนเค้าคงไม่ใช้กันทั้งโลกหรอกจริงไหม?

พูดถึงเรื่องการสนับสนุนจากภาครัฐ รัฐมีเงินสนับสนุนออกมาบ้างแต่ว่าเงินมันจะไปตกอยู่ที่ใครอันนั้นอีกเรื่องหนึ่งแล้วคนที่ได้เงินไปจะไปใช้ให้มันเกิดประโยชน์อะไรบ้างอันนี้ต้องมาดูที่ผลงานที่ออกมากันอีกที่แล้ววงการAnimationได้ประโยชน์จากเงินก้อนนั้นมากน้อยเพียงใด เรื่องการที่จะสนับสนุนให้คนได้ทำ2Dมากขึ้นเพราะคนไทยวาดรูปเก่ง? แทนที่จะสนับสนุนให้เขียนProgram มากขึ้นและศึกษาเรื่องArtมากขึ้นจะได้เป็นแรงพลักวงการAnimationต่อไปในอนาคต การศึกษาการเขียนโปรแกรมมันช่วยมากกว่าเรื่องAnimationอย่างเดียวมันยังต่อยอดไปด้านเกมส์รวมถึงการคิดสิงของสินค้าใหม่ๆอีกด้วย

สุดท้ายนี้สิงที่ผมเขียนไปอาจจะทำให้หลายๆคนไม่พอใจแต่มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นอีกหลายๆคนลุกขึ้นมาทำอะไรให้วงการAnimationบ้านเราดีมากขึ้น

อยากให้กลับไปนังดูการสร้างLionKingดูครับว่ากว่าAnimation2Dดีดีจะออกมาสักเรื่องมันเป็นยังไง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่