รีวิวหนัง : Birdman หลังม่านบันเทิง



หลังจากคว้ารางวัลลูกโลกทองคำสองรางวัล และเข้าชิงตำแหน่งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเวที ออสการ์ 2015 หนังตลกดราม่าฟอร์มเล็กเรื่อง Birdman ก็ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็ยังกวาดรางวัลจากเวทีหนังน้อยใหญ่ทั่วโลกแบบต่อเนื่อง นอกจากการแสดงอันลือลั่นของ ไมเคิล คีตัน ฝีมือการกำกับของ อเลฮันโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู ยังเป็นที่กล่าวขวัญด้วยเช่นกัน

ตัวหนังเล่าถึงชีวิตของ ริกแกน อดีตดาราที่เคยโดดดังกับหนังฮีโร่บล็อกบัสเตอร์อย่าง Birdman ซึ่งภายหลังตกอับ ถังแตก ครอบครัวล่มสลาย แต่เขาไม่ยอมใช้ชื่อเสียงเก่าไปหากินกับหนังภาคต่อ โดยเลือกที่จะกลับมาแจ้งเกิดใหม่กับการอำนวยการสร้าง กำกับ และแสดงละครเวทีบรอดเวย์ เรื่อง What We Talk About When We Talk About Love ที่สร้างจากหนังสือของนักเขียนที่เขานับถือแทน

โปรเจกต์ละครเวทีดังกล่าวไม่ง่ายเหมือนที่ ริกแกน คิดไว้ ปัญหาต่างๆหลังม่านในกองละครเวทีประดังประเดเข้ามาไม่หยุดหย่อน เมื่อผสมรวมกับปัญหาชีวิตส่วนตัวของเขา มันก่อให้เกิดความเครียด ความกดดันระดับมหาศาลจนเขาได้ยินเสียงใครบางคนในหัวบ่อยขึ้นๆ ทว่า ริกแกน ก็ดื้อดึงยอมทำทุกอย่างเพื่อผลักดันโอกาสกลับมาโลดแล่นในวงการบันเทิงครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา

บทภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าขั้นดีจนไร้ที่ติ จัดเป็นหนังที่สุดแห่งการวิพากย์วงการฮอลลีวู้ด ตีแผ่ความไม่บันเทิงในวงการบันเทิงสหรัฐฯได้ถึงแก่น จิกกัดหมดไม่ว่าจะคนเบื้องหน้าเบื้องหลัง ครอบคลุมทั้ง นักแสดง คนในครอบครัว ผู้จัดการส่วนตัว นักข่าว ไปจนถึง ผู้ชม ส่วนใหญ่เน้นหนักไปตรงดราม่าชีวิตดาราตกยุคที่ยังกระหายชื่อเสียง ความอยากมีตัวตนในพื้นที่สื่อกลายเป็นการดิ้นรนที่น่าสมเพช เนื่องจากแต่ตัวละครมีข้อจำกัดในวิธีการเฉพาะทาง หรือจะเรียกง่ายๆว่า ทิฐิ ก็ได้

นอกจากนี้หนังยังมีความเป็นแฟนตาซีและจิตวิทยาพอสมควร แฝงประเด็นต่างๆให้คบคิดตลอดเวลาผ่านบทสนทนาที่สาดข้อความเจ็บๆใส่กันเป็นระยะ ประเด็นความรักยังดูเบาไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็นรักแบบรับผิดชอบต่อครอบครัวหรือรักใคร่แบบหนุ่มสาว พาร์ทคอเมอดี้เป็นแนวตลกร้าย จุดเด่นของหนังคือเทคนิคการถ่ายภาพ ซึ่งนำเสนอในแบบลองเทค (ไม่มีการคัท) ยาวนาน เนียนตาจนคล้ายกับว่าเป็นการถ่ายทำแบบเดินกล้องครั้งเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ด้านเอฟเฟคฉากตัวละครเหาะหรือระเบิดตูมตามก็ทำได้สมจริงพอสมควร

กระนั้นส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้เป็นการแสดงระดับมาสเตอร์พีซของ ไมเคิล คีตัน ที่เล่นได้ยอดเยี่ยมทุกมิติ โดยเฉพาะการแสดงซ้อนการแสดงซึ่งเขาทำมันออกมาได้ทรงพลังมากๆ ขณะเดียวกันภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีทีมนักแสดงสมทบที่เจ๋งที่สุดเรื่องหนึ่ง ทุกคนเล่นในระดับท็อปฟอร์มไม่ว่าจะเป็น เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน กับการสร้างบุคลิกเด่นให้ตัวละครของเขาจนเกือบจะขโมยซีนนักแสดงนำ แซค กาลิเฟียนนาคิส ที่เปลี่ยนลุคกับคาแร็กเตอร์จนเราแทบจำไม่ได้ นาโอมิ วัตส์ กับการถ่ายทอดอารมณ์ชั้นเลิศ และ เอ็มม่า สโตน ที่เติมเต็มสเน่ห์กับสีสันให้หนังไม่เครียดเกินไป

โดยรวม Birdman เป็นภาพยนตร์สายรางวัลที่มีเนื้อหากลมกล่อม ไม่ติสต์จนถึงขั้นเข้าใจยาก แต่ก็ไม่ได้มุ่งสร้างความบันเทิงจนทิ้งความเป็นศิลปะ ช่วงท้ายเข้มข้นชวนลุ้นระทึก ตอนจบทิ้งแมสเสจให้คนดูได้กลับไปคิดและถกเถียงกันต่อ แน่นอนว่ามันมีดีพอที่จะถูกประกาศชื่อหลายครั้งบนเวทีออสการ์ปีนี้

คะแนน 9.5/10

โดย นกไซเบอร์

ที่มา https://www.facebook.com/pages/Cyberbird/1407293122900238?ref=hl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่