วันที่สองของนอร์เวย์

เมื่อคืน จขกท. หลับสบายสุดๆ เตียงนุ๊มนุ่ม ผ้าห่มก็อุ๊นอุ่น
ตื่นมาก็ทำเวลากันแพคของ ทำแซนวิช แพคโยเกิร์ตและผลไม้ต่างๆ เตรียมไปทานบนเครื่องบินค่ะ
อาหารง่ายๆ (โยเกิร์ตทานบนรถนะ เพราะเครื่องบินไม่ให้เอาขึ้น) แล้วที่สำคัญที่สุดต้องเช๊คสภาพอากาศค่ะ
วันนี้เขาบอกว่าหิมะจะตกด้วย จขกท. ก็ตื่นเต้นใหญ่เลย เพราะจะเห็นหิมะตกตก เป็นครั้งแรกด้วย
แต่งตัวอุ่นเต็มที่ พร้อมลุยหิมะหนาๆ แล้ว!

การเดินทางจากบ้านเพื่อนมาที่สนามบิน คุณแม่ของเพื่อนก็พามาส่งอย่างเช่นเคย Oslo เป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์ค่ะ
และแน่นอนเมืองหลวงช่วงเช้าๆนี่รถก็จะติดหนึบ เป็นทุกที่ค่ะ วันนั้นรถติดมาก เผื่อเวลาออกแล้วนะ แต่ดั๊นมาติดรถซะนี่
กลัวจะตกเครื่องกันใหญ่เลย เวลาฉิวเฉียดมาก อีก 20 นาทีจะถึงเวลาปิด Gate แล้วค่ะ หอบกระเป๋าแล้ววิ่งอย่างเดียวเลยค่ะ
กว่าจะผ่านด่านตรวจความปลอดภัยอีก ชุลมุนมากๆ ตอนนั้นเตรียมใจได้เปลี่ยนไฟล์ทซะแล้วเชียว แต่พอไปถึง Gate ยังเปิด
คนยังต่อคิวเข้าอยู่เลยค่ะ ดีใจมากๆ หอบกันทั้งสามคนเลย

การเดินทางไป Tromso พวกเราใช้สายการบิน Norwegian อีกครั้งค่ะ ระยะเวลาก็จะประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที


มาทำความรู้จักกับเมือง Tromso กันดีกว่าค่ะ เมืองนี้ ออกเสียงตามคนพื้นเมือง จะออกคล้ายๆ ทรอม-เซ่อ ค่ะ เผื่อใครๆ อยากเรียกให้ถูกต้องนะ
เมืองนี้อยู่ทางเหนือของนอร์เวย์จ่ะ ห่างกับฟินแลนด์ กับสวีเดนไม่เท่าไหร่
อย่างที่ทราบกันเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องแสงเหนือเป็นที่สุด รองลงมาก็คือเมืองนี้มีวาฬอาศัยอยู่รอบๆ ด้วยค่ะ
มีกิจกรรมนั่งเรือไปดูวาฬเพชรฆาตได้ด้วย แต่ จขกท ไม่ได้ไป เพราะอากาศมันหนาวจับใจเหลือเกิน บวกกับเวลาที่มีไม่พอด้วยแหละ
อย่างที่บอก เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ประชากรไม่เยอะค่ะเป็นเมืองสงบๆ แต่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเรื่อยๆ
แต่ไม่มีแบบเป็นกรุ๊ปใหญ่ๆ ส่วนมากจะมาเป็นกลุ่มเล็กๆ ซะมากกว่า



และแล้วเสียงกัปตันก็ประกาศขึ้นว่า ขณะนี้เครื่องบินของเรากำลังแลนดิ๊งนะฮะ หิมะตกด้วยฮะ....ห๊ะะะะ หิมะะะะ กรี๊ดดด เง้ออออ หิมะตกกก จขกท. ตื่นเต้นมาก แต่เอ๊ะ...สนามบินมันจะไม่ลื่นหรอ...ตอนนั้นความกลัวเข้าครอบงำ ปวดหัวซะงั้น ดมยาดมเลยค่ะ กล้วเครื่องบินจะลื่น
(ฮ่าๆๆ ไม่เอานะ อย่างนี้ไม่ดี เพื่อนๆ ต้องใจเย็นๆไว้นะคะ) พอเครื่องถึงพื้นปุ๊ปโล่งใจมากๆ แล้วก็มองออกไป หิมะตกอยู่จริงๆด้วย
ตกเบาๆ สวยๆ เลย ตอนนั้นภาพยังติดตาแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่บนปราสาทแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างนั่น....เพ้อ!! รีบลงกันดีกว่า



เอาหล่ะ พอออกจากเครื่องก็ตรงไปที่ป้ายรถ Shuttle Bus เลยค่ะ เพื่อที่จะนั่งเข้าไปในตัวเมือง ตอนนั้น จขกท. ไม่รู้สึกความหนาวเลย
ระหว่างรอรถ ก็ไปเดินเล่นเหยียบหิมะ ลุยหิมะ ที่หนาๆ แถวๆ ที่จอดรถ (ก็คนไม่เคยเห็นนี่หน่าา) เพื่อนๆ ก็ถามว่า จขกท. ไม่หนาวรึไง แหะๆ
ก็เห่ออยู่นี่หน่าาา รถมาแล้วค่ะ ต้องซื้อตั๋ว...โดนไปด่านที่หนึ่ง 70NOK ค่ะ ป๊าาาาดดด แพงแท้ นั่งไปแค่เข้าเมือง...อะไรกัน
แต่ก็ต้องทำใจค่ะ รู้ๆอยู่ว่าที่นี่อะไร อะไรก็แพง คิดซะว่าถือโอกาสนั่งรถชมเมืองด้วยเลย รถ Shuttle Bus ดีก็คือว่า
เขาจะพาเราไปส่งใกล้ๆ ที่พักเลยค่ะ เขาจะวนรอบเมืองแล้วผู้โดยสารก็จะบอกทางคนขับไว้ว่าจะให้จอดตรงไหน ไม่ต้องลุยหิมะกันให้ลำบาก

จากที่เห็นจากรถ แค่มองๆ ก็รักเมืองนี้เข้าแล้ว Tromso เป็นเมืองเล็กๆ คนไม่พลุกพล่าน รถไม่เยอะ และที่สำคัญช่วงเดือนธันวาเขาจะมีประดับไฟทั่วถนนเลย ทำให้ได้บรรยากาศ Christmas เข้าไปใหญ่ บวกกับหิมะปรอยๆ หลายคนคงนึกออกว่าสวยขนาดไหน บ้านที่นี่สีสันน่ารัก แดง เหลือง ฟ้า น้ำเงิน ทำให้ไม่น่าเบื่อเวลาหิมะตกลงมา นี่แหละเมืองในฝันของ จขกท. เลย แต่...เพื่อนบอกว่า ช่วงนี้ที่ Tromso มีแสงอาทิตย์แค่ สองชั่วโมงเท่านั้น...นอกนั้นก็จะครึ้มๆ มืดๆ อยู่ตลอด ทั้งๆ ที่จะบ่ายโมงตรงอะไรแบบนั้นค่ะ

พอถึงที่หมายโชเฟ่อก็ปล่อยพวกเราสามคนลงจากรถ จูนทิศ จูนทางกันอยู่ซักพักก็เดินหาโรงแรมที่จองไว้ค่ะ เดินงงๆ กันอยู่ซักพักก็หาเจอแล้ว!



โรงแรมที่ จขกท. จองไป ชื่อว่า Clarion Collection Hotel Aurora ค่ะ เป็นห้องสำหรับสองคน เพิ่มเตียงเสริมค่ะ Lobby มีครัวซองให้ชิมด้วยย หอมกลิ่นเนยฟินไปเลยหลังจากการเดินลุยหิมะมา พอได้กุญแจก็ตรงไปที่ห้องพักเลยค่ะ ห้องพักไม่ได้พิเศษอะไรมาก แต่ตกแต่งเรียบหรู มีทุกอย่างพร้อมในห้อง สะอาด ได้มาตรฐานดีค่ะ ราคาก็ค่อนข้างโอเคสำหรับประเทศนี้ ไปกันสามคน ตกคนละ จ่ายไป 1,000 NOK ค่ะ (สองคืนค่ะ) โรงแรมที่นี่มีอาหารให้เช้า บ่าย เย็น ซึ่งถือว่าคุ้มมากๆ กับราคาที่ได้มา เช้า และเย็น จะเป็นบุฟเฟ่สไตล์ยุโรปทั่วไป ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นบูทวอฟเฟิลกับน้ำชาค่ะ ให้ทำกันเองแล้วก็มีน้ำผึ้งกับแยมให้เลือกใส่เอง ถือว่า โอเคมากๆ เลย จขกท. ทานร้านข้างนอกแค่ครั้งเดียว ประหยัดเรื่องกินไปเยอะค่ะ
พอวางของเสร็จ แผนวันนี้ก็คือ เดินเที่ยวในเมือง หาร้านทานข้าวเย็น รอเวลา หนึ่งทุ่มตรง เพื่อไปรอที่จุดนัดหมายขึ้นรถไปล่าแสงเหนือค่ะ



มุมนี้ มุมนิยิมของผู้ที่มาเยี่ยมเยือนทรอมโซ่เลยค่ะ โบสไกลๆ ตรงนั้น เดี๋ยววันที่สองจะพาไปดูใกล้ๆ กัน



เรือลำใหญ่ๆ ก็เช่นกัน ไม่มีครั้งไหนที่จะไม่เห็นจอดเทียบท่าอยู่



ตรงนี้ใกล้ๆ กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวค่ะ



เข้ามาในเมืองกันบ้าง ท้องเริ่มร้องหาของกินแล้ววว


ตึกที่นี่ ค่อนข้างจะเป็นแบบ Modern ค่ะ สวยเรียบไปอีกแบบ



ให้บรรยากาศคริสมาสต์สุดๆ เลย จขกท. ช๊อบชอบ อมยิ้ม22


แอบแว๊บเข้ามาหลบหนาวในห้างค่ะ ห้างเล็กๆ แต่มีร้านน่ารักๆ เต็มเลยแหละ  



และแล้วเราก็หาร้านที่ทั้งสามคนเห็นพ้องต้องกันได้ค่ะ เป็นคาเฟ่เล็กๆ เป็นโซฟานั่งสบายๆ แล้วก็จัดการสั่งค่าาา

เครปบลูเบอร์รี่ เบคอน 80NOK ค่ะ อร่อย หอม แต่ราคาก็ต้องทำใจค่ะ ฮ่าๆ


เพื่อน จขกท. สั่งเป็นมันฝรั่งอบโรยเบคอน (130NOK) รสชาติก็ดีนะ แต่ชอบเมนูที่ จขกท. สั่งมากกว่า อิอิ

พอเดินเที่ยวเสร็จก็เดินกลับไปที่โรงแรมกันค่ะ ที่นี่ถ้าอยู่ในเมืองเดินไปไหนมาไหนได้สะดวก
เพราะถนนไม่วกวนและก็ไม่ใหญ่มาก ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็เลยไม่ไกลกันมากค่ะ

พอกลับมาที่โรงแรมยังมีเวลาเหลืออยู่ประมาณสองชั่วโมง เลยขอไปสำรวจ โรงแรมกันซักหน่อย จขกท. เลยขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าดูค่ะ บนนี้มีห้องฟิตเนส ห้องซาวน่า และก็อ่างจากุชชี่ Out Door ด้วย พร้อมกับชมวิวภูเขาลิบๆ ที่มีโบสประจำเมืองอยู่อีกฝั่งหนึงค่ะ

เนื่องจากยังมีเวลา จขกท. เลยไม่รอช้า ขอเปลี่ยนชุดแช่อ่างน้ำให้ความอบอุ่นกับร่างกายก่อนไปตากความหนาวเย็นคืนนี้ละกัน
ตอนนั้นฟินมากค่ะ อากาศเย็นๆ หิมะปรอยๆ แล้วก็แช่ตัวในน้ำอุ่น ไม่อยากลุกเลย
พอมีความสุขพอแล้วก็ไปตากตัวให้แห้งในห้องซาวน่า

แล้วก็เตรียมตัวไปที่จุดนัดหมายกับเพื่อนกันเลย.....
พร้อมแล้วก็มารอกันที่โรงแรมใกล้ๆ กับที่ จขกท. พักค่ะ อากาศตอนนั้นหนาวมากๆ
นี่ขนาดว่า จขกท. ว่าแต่งตัวมาอุ่นสุดๆ แล้วยังไม่รอดเลย
มีคนมารอเช็คชื่อด้วยค่ะ ง่ายๆ เลยก็เดินเข้าไปบอกชื่อเขา คืนนี้มีลูกทัวร์อยู่แค่ 7 คนเอง ถือว่า Private มากๆ
แอบตื่นเต้นเล็กๆ ว่าความฝันจะเป็นจริงแล้ว การได้เห็นแสงเหนือนี่เป็นอะไรที่ฝันว่าอยากเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ
และก็ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นกับตาเร็วขนาดนี้เลย คืนนี้ต้องนั่งรถตู้ออกไปนอกเมืองระยะเวลาประมาณ 30 นาที
เพื่อให้ไม่มีแสงไฟรบกวน เวลาแสงเหนือปรากฏตัวค่ะ ระหว่างทางไกด์ก็เปิดวีดีโอ อธิบายการเกิดขึ้นของแสงเหนือ บิ้วให้เรายิ่งอยากเห็นเข้าไปอีก

แสงเหนือที่นี่ เขาว่ามีเกิดขึ้นทุกคืนค่ะ อยู่ที่ว่าท้องฟ้าจะเปิดให้เราได้ชื่นชมความงดงามได้มากแค่ไหน คืนนี้เป็นคืนดี ท้องฟ้าโปร่ง แต่ไม่ใช่คืนมืด พระจันทร์เลยค่อนข้างสว่างเลยทีเดียวค่ะ แต่ไม่เป็นไร ขอให้ได้เห็นก็คุ้มค่าการมาแล้ว! และแล้วระหว่างทาง แสงเหนือก็ปรากฏตัวขึ้นค่ะ!!! ไกด์จอดรถทันทีเลย ให้พวกเราได้ลงมาดูแนวของแสงเหนือ จุดจอดที่แรก จขกท. ไม่สามารถเก็บภาพสวยๆ ได้เนื่องจากยังไม่มีขาตั้งกล้องค่ะ เลยได้แต่เก็บบรรยากาศไว้ในความทรงจำ หลังจากแสงรอบแรกเริ่มจางๆ ก็ออกเดินทางกันต่อเพื่อไปฐานทัพของเราคืนนี้กันค่ะ ออกมานอกเมืองไกลมาก เป็นหมู่บ้านเล็กๆ หลังห่างๆ กัน และที่สำคัญ หิมะหนามากๆ หนากว่าในเมืองมากๆ เลย ครึ่งเข่า จขกท. ได้ จขกท. นี่ตื่นเต้นมากๆ



ก่อนเริ่มแผนการล่าแสงเหนือต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนค่ะ ต้องไปเปลี่ยนเป็นชุดหมีอวกาศและสวมรองเท้าบูทกันซะก่อน!
และที่ขาดไม่ได้ ขาตั้งกล้อง!!! ดีใจมากๆ ที่ทางทัวร์มีให้ยืมด้วย ไม่อย่างงั้น จขกท. ไม่สามารถเก็บภาพมาได้แน่ๆ

มารอลุ้นกันว่า จขกท จะได้เห็นแสงเหนือไหมเอ่ย รอสักครู่นะคะ



ตอนที่ 3 มาแล้วค่ะ : http://ppantip.com/topic/33261895 แสงเหนือแบบเน้นๆ เลย