การตรวจสอบและดำเนินคดีในกรณีโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ มูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท
ปรากฏว่า เงินโกงบางส่วนถูกผ่องถ่าย นำไปมอบให้วัดธรรมกาย โดยอ้างว่าเป็นการบริจาคเพื่อทำบุญ
รายงานข่าวระบุว่า การบริจาคเงินดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้ง มีทั้งจ่ายให้แก่เจ้าอาวาสโดยตรง รวมมูลค่า
กว่า 900 ล้านบาท
ล่าสุด พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม
ครั้งที่ 2/2558 ว่าได้ยึดอายัดทรัพย์จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการ
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ และพวก 1,221 ล้านบาท
พฤติการณ์ที่ปรากฏจากการสืบสวนสอบสวน พบว่า มีการลงลายมือชื่อในเอกสารใบสำคัญจ่ายเงินแล้ว
นำเช็คของสหกรณ์ไปเบิกเงิน จำนวน 878 ฉบับ รวมเป็นเงินกว่า 11,000 ล้านบาท โดยเช็คดังกล่าว
ส่วนใหญ่เป็นเช็คเงินสด มีการถอนเป็นเงินสด แต่บางฉบับนำฝากเข้าบัญชีธนาคารในชื่อของนายศุภชัย
และพวก รวมเป็นเงินกว่า 2,566 ล้านบาท
พ.ต.อ.สีหนาท ระบุว่า ในส่วนของเงินบริจาคให้กับวัดธรรมกาย ที่นายศุภชัยสั่งจ่ายเช็ค 15 ฉบับ มูลค่า
กว่า 714 ล้านบาท ปปง.ไม่สามารถอายัดได้ เพราะตามกฎหมายธรณีสงฆ์และศาสนสมบัติถือเป็นทรัพย์
ของแผ่นดิน แต่ประเด็นนี้ทราบมาว่าทางวัดธรรมกายจะคืนเงินให้กับสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เพราะหาก
ไม่คืน สหกรณ์ก็มีสิทธิ์ยื่นฟ้องขอให้ศาลสั่งให้คืนเงินที่ได้ไปจากการยักยอก
ขณะเดียวกัน นายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ที่ผ่านมา สหกรณ์
ยื่นฟ้องแพ่งเรียกทรัพย์คืน จากทั้งวัดและพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) ในระหว่างการ
เจรจาไกล่เกลี่ย ทางสหกรณ์ฯ คลองจั่นยืนยันทุกครั้งว่าวัดและพระต้องคืนเงินทั้งหมด 937 ล้านบาท
ส่วนเงื่อนไขการชำระคืนสามารถเจรจากันได้ โดยทางวัดมีข้อเสนอจะคืนเงินบางส่วน นอกจากนี้ ยังมี
กรณีที่วัดธรรมกายขอซื้อที่ดินในจังหวัดกาญจนบุรีของสหกรณ์ฯ คลองจั่น และทางวัดได้ก่อสร้างศาสน
สถานไปแล้วบางส่วนด้วย
จากการติดตามข่าวกรณีนี้ เห็นว่ามีประเด็นที่น่าสงสัยหลายประการ
1) รายงานข่าวระบุว่า นายศุภชัยเคยเป็นประธานกฐินวัดพระธรรมกายปี 2552 และร่วมเป็นไวยาวัจกร
(ผู้ดูแลเงินของวัด) ต่อเนื่องหลายปี และยังเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคล
เศรษฐี ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตวัดพระธรรมกาย ปทุมธานี มีทรัพย์สินมากกว่า 4,000 ล้านบาท... ลักษณะ
เช่นนี้ จะถือว่าวัดธรรมกายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกทรัพย์เลย ไม่รู้ไม่เห็น เพียงแค่รับเงินบริจาค
มาโดยไม่รู้ว่าเงินมีที่มาที่ไปอย่างไร การอ้างเช่นนี้ มีน้ำหนักรับฟังได้หรือไม่?
เขาเป็นศิษย์ระดับวงในวัดธรรมกาย ถึงขนาดว่าเคยร่วมเป็นผู้ดูแลเงินของวัดธรรมกายด้วย มิใช่หรือ?
แล้ววัดพระธรรมกายจะปฏิเสธได้เต็มปากเลยหรือ เพราะเงินก้อนใหญ่มันไหลเข้ามาที่วัดโดยตรง?
อาจจะเข้าข่ายรับของโจร หรือไม่?
วัดธรรมกายควรจะต้องถูกตรวจสอบในฐานะส่วนหนึ่งของขบวนการของนายศุภชัย หรือไม่?
2) นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วัดพระธรรมกายมีข่าวพัวพันกับกรณีเงินๆ ทองๆ และที่ดิน
คงจำกันได้... เรื่องฉาวโฉ่ กรณีคดียักยอกทรัพย์สิน ทั้งเงินและที่ดิน กรมที่ดินตรวจพบธัมมชโยมีชื่อ
เป็นเจ้าของโฉนดที่ดินและบริษัทที่เกี่ยวกับวัดกว่า 400 แปลง เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ในจังหวัดพิจิตร
มีการดำเนินคดีกับธัมมชโย ตั้งแต่ปี 2542-2547 คดีขึ้นไปถึงชั้นศาล เหลือสืบพยานจำเลยอีก 2 นัด
ในวันที่ 23 และ 24 ส.ค.2549 แต่แล้วในวันที่ 21 ส.ค. พนักงานอัยการก็ขอถอนฟ้องจำเลย คือ ธัมมชโย
อ้างว่า จำเลยได้คืนที่ดินและเงินจำนวน 959 ล้านบาทแล้ว!
เหตุเกิดยุคทักษิณ โดยก่อนหน้าที่อัยการจะถอนฟ้องแค่เดือนเดียว รัฐบาลได้ใช้สถานที่วัดธรรมกาย
18 ก.ค.2549 ระดมเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 80,000 คน มาร่วมงาน เพื่อให้ทักษิณ
มาเป็นประธาน หวังลดทอนกระแสขับไล่ทักษิณของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในขณะนั้น
3) ไม่ว่าวัดธรรมกายและเจ้าอาวาส จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไม่? ในสถานะใด? แต่ความ
เหมาะสมในฐานะที่เป็นวัดย่อมจะตกเป็นที่ครหา น่าเคลือบแคลง
สำนักงานพระพุทธศาสนา ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลทรัพย์สินของพระพุทธศาสนา มีอำนาจหน้าที่ในการ
กำกับดูแล ควรจะต้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน และขยายผลต่อไปให้ถึงที่สุด อย่างตรงไปตรงมา
ประเด็นตรวจสอบไม่ซ้ำซ้อนกับการทำหน้าที่ของดีเอสไอ เพราะเป็นคนละตัวบทกฎหมาย คนละมิติกันอย่าง
สิ้นเชิง
อ้างว่า จะคืนเงิน ได้คืนแล้วหรือยัง? จะคืนอย่างไร?
หากคืนเงินแล้วก็จบๆ ไปเลย อย่างนั้นหรือ?
ธรรมกาย กับเงินโกง... จะลงเอยอย่างไร?
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/16980
ธรรมกาย กับเงินโกง? กวนน้ำให้ใส ...สารส้ม...แนวหน้าออนไลน์ ...../sao..เหลือ..noi
ปรากฏว่า เงินโกงบางส่วนถูกผ่องถ่าย นำไปมอบให้วัดธรรมกาย โดยอ้างว่าเป็นการบริจาคเพื่อทำบุญ
รายงานข่าวระบุว่า การบริจาคเงินดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้ง มีทั้งจ่ายให้แก่เจ้าอาวาสโดยตรง รวมมูลค่า
กว่า 900 ล้านบาท
ล่าสุด พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม
ครั้งที่ 2/2558 ว่าได้ยึดอายัดทรัพย์จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการ
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ และพวก 1,221 ล้านบาท
พฤติการณ์ที่ปรากฏจากการสืบสวนสอบสวน พบว่า มีการลงลายมือชื่อในเอกสารใบสำคัญจ่ายเงินแล้ว
นำเช็คของสหกรณ์ไปเบิกเงิน จำนวน 878 ฉบับ รวมเป็นเงินกว่า 11,000 ล้านบาท โดยเช็คดังกล่าว
ส่วนใหญ่เป็นเช็คเงินสด มีการถอนเป็นเงินสด แต่บางฉบับนำฝากเข้าบัญชีธนาคารในชื่อของนายศุภชัย
และพวก รวมเป็นเงินกว่า 2,566 ล้านบาท
พ.ต.อ.สีหนาท ระบุว่า ในส่วนของเงินบริจาคให้กับวัดธรรมกาย ที่นายศุภชัยสั่งจ่ายเช็ค 15 ฉบับ มูลค่า
กว่า 714 ล้านบาท ปปง.ไม่สามารถอายัดได้ เพราะตามกฎหมายธรณีสงฆ์และศาสนสมบัติถือเป็นทรัพย์
ของแผ่นดิน แต่ประเด็นนี้ทราบมาว่าทางวัดธรรมกายจะคืนเงินให้กับสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เพราะหาก
ไม่คืน สหกรณ์ก็มีสิทธิ์ยื่นฟ้องขอให้ศาลสั่งให้คืนเงินที่ได้ไปจากการยักยอก
ขณะเดียวกัน นายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ที่ผ่านมา สหกรณ์
ยื่นฟ้องแพ่งเรียกทรัพย์คืน จากทั้งวัดและพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) ในระหว่างการ
เจรจาไกล่เกลี่ย ทางสหกรณ์ฯ คลองจั่นยืนยันทุกครั้งว่าวัดและพระต้องคืนเงินทั้งหมด 937 ล้านบาท
ส่วนเงื่อนไขการชำระคืนสามารถเจรจากันได้ โดยทางวัดมีข้อเสนอจะคืนเงินบางส่วน นอกจากนี้ ยังมี
กรณีที่วัดธรรมกายขอซื้อที่ดินในจังหวัดกาญจนบุรีของสหกรณ์ฯ คลองจั่น และทางวัดได้ก่อสร้างศาสน
สถานไปแล้วบางส่วนด้วย
จากการติดตามข่าวกรณีนี้ เห็นว่ามีประเด็นที่น่าสงสัยหลายประการ
1) รายงานข่าวระบุว่า นายศุภชัยเคยเป็นประธานกฐินวัดพระธรรมกายปี 2552 และร่วมเป็นไวยาวัจกร
(ผู้ดูแลเงินของวัด) ต่อเนื่องหลายปี และยังเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคล
เศรษฐี ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตวัดพระธรรมกาย ปทุมธานี มีทรัพย์สินมากกว่า 4,000 ล้านบาท... ลักษณะ
เช่นนี้ จะถือว่าวัดธรรมกายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกทรัพย์เลย ไม่รู้ไม่เห็น เพียงแค่รับเงินบริจาค
มาโดยไม่รู้ว่าเงินมีที่มาที่ไปอย่างไร การอ้างเช่นนี้ มีน้ำหนักรับฟังได้หรือไม่?
เขาเป็นศิษย์ระดับวงในวัดธรรมกาย ถึงขนาดว่าเคยร่วมเป็นผู้ดูแลเงินของวัดธรรมกายด้วย มิใช่หรือ?
แล้ววัดพระธรรมกายจะปฏิเสธได้เต็มปากเลยหรือ เพราะเงินก้อนใหญ่มันไหลเข้ามาที่วัดโดยตรง?
อาจจะเข้าข่ายรับของโจร หรือไม่?
วัดธรรมกายควรจะต้องถูกตรวจสอบในฐานะส่วนหนึ่งของขบวนการของนายศุภชัย หรือไม่?
2) นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วัดพระธรรมกายมีข่าวพัวพันกับกรณีเงินๆ ทองๆ และที่ดิน
คงจำกันได้... เรื่องฉาวโฉ่ กรณีคดียักยอกทรัพย์สิน ทั้งเงินและที่ดิน กรมที่ดินตรวจพบธัมมชโยมีชื่อ
เป็นเจ้าของโฉนดที่ดินและบริษัทที่เกี่ยวกับวัดกว่า 400 แปลง เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ในจังหวัดพิจิตร
มีการดำเนินคดีกับธัมมชโย ตั้งแต่ปี 2542-2547 คดีขึ้นไปถึงชั้นศาล เหลือสืบพยานจำเลยอีก 2 นัด
ในวันที่ 23 และ 24 ส.ค.2549 แต่แล้วในวันที่ 21 ส.ค. พนักงานอัยการก็ขอถอนฟ้องจำเลย คือ ธัมมชโย
อ้างว่า จำเลยได้คืนที่ดินและเงินจำนวน 959 ล้านบาทแล้ว!
เหตุเกิดยุคทักษิณ โดยก่อนหน้าที่อัยการจะถอนฟ้องแค่เดือนเดียว รัฐบาลได้ใช้สถานที่วัดธรรมกาย
18 ก.ค.2549 ระดมเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 80,000 คน มาร่วมงาน เพื่อให้ทักษิณ
มาเป็นประธาน หวังลดทอนกระแสขับไล่ทักษิณของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในขณะนั้น
3) ไม่ว่าวัดธรรมกายและเจ้าอาวาส จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไม่? ในสถานะใด? แต่ความ
เหมาะสมในฐานะที่เป็นวัดย่อมจะตกเป็นที่ครหา น่าเคลือบแคลง
สำนักงานพระพุทธศาสนา ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลทรัพย์สินของพระพุทธศาสนา มีอำนาจหน้าที่ในการ
กำกับดูแล ควรจะต้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน และขยายผลต่อไปให้ถึงที่สุด อย่างตรงไปตรงมา
ประเด็นตรวจสอบไม่ซ้ำซ้อนกับการทำหน้าที่ของดีเอสไอ เพราะเป็นคนละตัวบทกฎหมาย คนละมิติกันอย่าง
สิ้นเชิง
อ้างว่า จะคืนเงิน ได้คืนแล้วหรือยัง? จะคืนอย่างไร?
หากคืนเงินแล้วก็จบๆ ไปเลย อย่างนั้นหรือ?
ธรรมกาย กับเงินโกง... จะลงเอยอย่างไร?
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/16980