ขอเสริมความเห็น#3 นะครับ ........องค์หลวงพ่อเยื้อน ขนฺติพโล ท่านเป็นเจ้าอาวาสของวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ วัดตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีป่าและภูเขาล้อมรอบ มีเนื้อที่ครอบคลุมราว 10,865 ไร่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้ สมุนไพรหายาก และสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร มีทัศนียภาพที่งดงาม สภาพแวดล้อมเงียบสงบร่มเย็น เหมาะกับการศึกษาปฏิบัติธรรม และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญยิ่ง ผืนป่าบางส่วนติดชายแดนไทย-กัมพูชา ป่าทั้งผืนแห่งนี้ จัดได้ว่าอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในอิสานใต้ของประเทศไทย กรมป่าไม้ได้ประกาศบริเวณพื้นที่ป่าเป็นเขตพุทธอุทยานและจัดตั้งวัดขึ้นเมื่อพ.ศ.2536  ตามความคิดริเริ่มของพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร โดยมีเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ ดังนั้น นอกเหนือจากข้อวัตรปฎิปทาที่ท่านดำเนินตามทางของพระสงฆ์พระป่าพระกรรมฐานพ่อแม่ครูอาจารย์แล้ว หลวงพ่อเยื้อน ขนฺติพโล พร้อมคณะสงฆ์ศิษยานุศิษย์ ยังเป็นผู้คุ้มครองรักษาป่าไม้ สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมไว้ให้ดำรงคงอยู่ต่อไปบนผืนดินชายแดนประเทศไทย โดยมีวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ตั้งอยู่เพื่อประกาศเขตดินแดนประเทศไทย ณ พื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกรุกรานอาณาเขต ซึ่งนอกจากพระสงฆ์จะต้องอยู่เสนาสนะป่าทำความเพียรในธรรมแล้ว ท่านยังออกเดินตระเวนพร้อมทหารส่วนหนึ่งไปทั่วผืนป่าเขตแนววัดเพื่อคุ้มครองทั้งต้นไม้และสัตว์ป่าจากการถูกรุกรานทำลายแลกเงินและผลประโยชน์ที่ไม่ชอบธรรมยิ่ง ท่านและคณะสงฆ์ศิษยานุศิษย์ จึงเป็นผู้ทำประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมอย่างยิ่งและอย่างเข้มแข็ง .................ขอกราบหลวงพ่อเยื้อน ขนฺติพโล ด้วยเศียรเกล้า .... หากมีเหตุพลาดพลั้งล่วงเกินองค์หลวงพ่อใดๆ....กระผมขอกราบขอขมาต่อองค์หลวงพ่อเยื้อน ขนฺติพโล ......ผู้มีขันติ ...ความอดทน เป็นกำลัง ... ไว้ ณ ที่นี้