[ไม่รู้เด็กสมัยนี้ยังเล่นกันอยู่รึเปล่า?]ตบแปะชาร์จ สงครามจิตวิทยา และ variation

เนื่องด้วยผมก็ไม่ได้ศึกษามา แค่นึกเอาจากความทรงจำ อาจจะมีผิดพลาด และเป็นทฤษฎีซะเยอะ ต้องขออภัย

แล้วก็ขอยืมคลิปมาจาก Youtube ด้วยนะครับ


ตบแปะชาร์จ(โอแปะชาร์จ ก็เรียก) เป็นการละเล่นอย่างหนึ่งของเด็กสมัยก่อน
ถ้ามองเผินๆ จากสายตาผู้ใหญ่ อาจจะคล้าย"ปิงป่องแชะ" แต่จริงๆ แล้ว การละเล่นนี้ ออกจะซับซ้อนมากเลยทีเดียว

อธิบายย่อๆ เรื่องปิงป่องแชะ
การเล่น ปิงป่องแชะ จะอาศัย การเป่ายิงฉุบ  รีเฟล็กซ์ และสมาธิ
ซึ่งคนชนะจะทำมืออยู่บน คนแพ้อยู่ล่าง ถ้าเสมอแล้วแต่กติกา ในคลิปคือ ตบไหล่กัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แต่วันนี้ เราจะไม่ได้พูดเรื่องปิงป่องแชะ แต่เราจะพูดเรื่องตบแปะชาร์จ หรือ โอแปะชาร์จนั่นเอง
กติกาของตบแปะชาร์จ มีหลากหลายมาก ก่อนอื่นที่จะมาทำความรู้จักกันเลย ก็คือ ตบแปะชาร์จ แบบคลาสสิค
การเล่นตบแปะชาร์จ ก็ตามชื่อของมันเลยครับ เราจะตบแปะ กันก่อน แล้วตามด้วยท่า 3-4 ท่า ซึ่งท่าต่างๆ มีดังนี้
-ชาร์จ เป็นการชาร์จพลังเพื่อโจมตี
-โจมตี เป็นการโจมตีไปยังเป้าหมาย แต่ต้องมีการชาร์จมาก่อน เมื่อโจมตี จะเสียชาร์จ
-ป้องกัน เป็นการป้องกันการโจมตี
-ไม้ตาย เป็นท่าที่ต้องชาร์จ 3 ครั้งขึ้นไปจึงจะใช้ได้ ทะลุป้องกันและโจมตี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าเหล่านี้ ใช้ ยังไงหล่ะ? แล้วมันเป็นสงครามจิตวิทยาตรงไหน?
ผมก็จะค่อยๆ ว่าไปทีละอย่างเลยละกัน
-การชาร์จ เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราชนะ และแพ้ไปในเวลาเดียวกัน
เนื่องจาก การจะโจมตีได้ เราต้องชาร์จก่อนเสมอ ดังนั้น ในเทิร์นแรก ทุกคนจะชาร์จเหมือนรู้กัน (เพราะไงๆ ก็ไม่มีคนโจมตี จึงชาร์จได้อย่างปลอดภัย)

-การโจมตี ต้องกะจังหวะดีๆ ว่า เราจะโจมตีตอนไหน (และถ้าเล่นหลายคน ก็ต้องมีตีใครด้วย)
ถ้าโจมตีใส่คนที่ชาร์จอยู่ คนที่ชาร์จจะแพ้ทันทีเพราะ ถือว่าไม่มีการป้องกัน
ถ้าโจมตีใส่ป้องกัน ก็จะถือว่า ไม่มีผลอะไร แต่คนที่โจมตี ก็จะเสียเปรียบ เพราะถือว่า ได้ใช้ที่ชาร์จไปแล้ว
ถ้าโจมตีใส่โจมตี ก็จะหักล้างกัน และกรณีนี้ ก็แล้วแต่ว่า ยังเหลือชาร์จกันอยู่คนละเท่าไหร่

-การป้องกัน ก็ต้องกะจังหวะดีๆ เช่นกัน เพราะ
ถ้าเรากันการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ นอกจากจะทำให้เราไม่แพ้แล้ว ยังลด ชาร์จของคู่ต่อสู้ได้ด้วย
ในทางกลับกัน ถ้าเราป้องกัน แล้วอีกฝ่ายเลือกชาร์จ เราจะเสียเปรียบ เพราะ ฝ่ายตรงข้าม จะสามารถโจมตีได้เยอะครั้งกว่า
ถ้าป้องกัน เจอป้องกัน ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น

-ไม้ตาย ซึ่งอาจมีหรือไม่มีก็ได้ และจำนวนครั้งที่ชาร์จแล้วใช้ได้ก็ต่างกัน (แต่ปกติ คือ ชาร์จ 3 ขึ้นไป อาจเป็น 4 หรือ 5 ในบางที่)
มีไว้แก้ปัญหาคนเอาแต่ป้องกันแล้วรอสวนอย่างเดียว
เป็นการกดดันว่า ถ้าไม่รีบเล่น และปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามชาร์จครบ 3 ครั้งเมื่อไหร่ หายนะจะบังเกิด
ซึ่งท่าไม้ตายชนะทุกอย่างยกเว้นไม้ตายด้วยกันเอง

นี่ทำให้ ตบแปะชาร์จ ฝึกใช้ความคิดในเวลาอันรวดเร็ว เพราะยังไง การตบแปะก็จะมีรอบของมัน
ซึ่งเราต้อง sync กับสปีดของคนอื่นด้วย ต้องจำในพริบตา ว่า คนนี้ชาร์จไปกี่ทีแล้ว ยิ่งเล่นหลายคนยิ่งเป็นเรื่องยาก
(แต่จริงๆ ก็เล่นกันขำๆ อ่ะนะ)

จบเรื่องตบแปะชาร์จ แบบคลาสสิค ต่อไปก็จะเป็นตบแปะชาร์จแบบแอดว้านซ์
เนื่องด้วยความเป็นเด็ก เราก็อยากจะใช้ท่าที่มันดูอลังการ หรือ มาจากการ์ตูน จากเกมกันบ้าง
ที่พบได้บ่อยๆ (ในสมัยนั้น) ก็เช่น
-สตรีทไฟต์เตอร์โอแปะชาร์จ
-ดราก้อนบอลโอแปะชาร์จ
-เซลเลอร์มูนโอแปะชาร์จ
(ถ้ามันมีมาจนยุคปัจจุบันมันจะเป็นการ์ตูนเรื่องอะไรน้า น่าคิด)
ซึ่งการเล่นก็จะคล้ายๆ กัน แต่จะเสริมจินตนาการเข้าไปด้วย
จะมีท่าที่ชาร์จ 2 3 4 ครั้งที่ไม่เหมือนกัน มีท่ากันพิเศษเอาไว้กันท่าพิเศษ และอีกมากมาย
แล้วแต่ว่า เด็กแถวนั้นจะตั้งกติกาอย่างไร
เช่น ชาร์จ 1 ที ปล่อย อะบู๊เก็ต (ฮาโดเคน) ชาร์จ 2 ที ปล่อยโชริวเค็น ชาร์จ 3 ที ปล่อย สะเบ็ดเจ็ดพะโล้เป็ด (ทัตสึมากิเซนปุเคียกกุ...มั้ง)
ซึ่งส่วนใหญ่เน้นเฮฮาว่าใครจะปล่อยท่าใหญ่ได้ก่อนกันมากกว่าจะมุ่งเอาชนะ

ส่วนของดราก้อนบอลก็จะมีคลื่นเต่า คลื่นกระแทก บลาๆๆๆ

โอเค นั่นก็สร้างสรรค์แล้ว............ยัง ยังไม่พอ
เนื่องด้วยการชาร์จหลายๆ ที เสี่ยงเกินไปที่จะแพ้ และจะให้ปล่อย อะบู๊ จนชนะบ่อยๆ ก็ธรรมดาเกินไป (เพราะท่าใหญ่ท่าเล็กยิงใส่ตอนชาร์จก็ตายอยู่ดี)
จึงมีการคิดค้น ชาร์จเซเลนิตี้ (คาดว่าแผลงมาจาก ชาร์จอินฟินิตี้)
ด้วยการชาร์จนี้ จะเป็นแบบ ชาร์จทีเดียว ได้พลังครอบจักรวาล
กติกานี้ จะเหมือนแข่งกันขี้โม้เลยทีเดียว เพราะ เราใฃ้ท่าใดๆ ก็ได้
บางที อาจจะเป็นท่า จากการ์ตูนเรื่องเดียวกัน บางที ก็เป็นท่าจากการ์ตูนต่างเรื่อง
เด็กสมัยก่อน อยากรู้ว่าตัวละครใหนเก่งกว่ากัน ไม่มาตั้งกระทู้ถามในพันทิพหรอกครับ
จากนี้ ไป คือ พลังวาทะศิลป์ของแต่ละคน ที่จะโน้มน้าว และชักจูงเพื่อนๆ ว่า ท่าที่ปล่อยออกมาน่ะ รุนแรงที่สุดแล้ว
ข้อเสียของการชาร์จอินฟินิตี้ก็คือ มันจะปล่อยท่าได้รอบเดียว แล้วต้องมานั่งเถียงกันว่าท่าของใครโหดกว่า 5555

ที่เหลือที่เคยเห็นก็จะมี ตบแปะชาร์จจากจินตนาการอื่นๆ ด้วยของที่ใกล้ตัว
เช่น ตบแปะชาร์จเครื่องครัว (ท่าก็จะเป็นตะหลิว กระทะ ไรงี้)
ตบแปะชาร์จมังกร (ที่ทำมือยากมาก 5555)
และอื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งผมว่ามันค่อนข้างสร้างสรรค์ดีนะ ส่งเสริมจินตนาการด้วย

ไม่รู้ว่าเด็กสมัยนี้ยังเล่นกันอยู่รึเปล่า แต่ถ้ายังไง มีลูก ลองสอนลูกๆ เล่นกันดูนะครับ
จบก่อนละกัน ไว้วันหลังเจอกันใหม่

ปล. tag การละเล่นเด็กนี่อะไรหว่า?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่