หลังจากเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงจะเริ่มมองหาลู่ทางในการนำเงินเก็บไปลงทุนให้งอกเงย เพราหันไปมองดอกเบี้ยเงินฝาก ก็อาจจะรู้สึกว่าให้ผลตอบแทนที่น้อยเสียเหลือเกิน อย่างไรก็ตามหลายๆคนก็อาจจะกลัวและยังไม่กล้าลงทุนในตราสารทางการเงินอื่นๆ เพราะรู้สึกว่าทำได้ยากและมีความเสี่ยงเยอะ วันนี้ผมอยากจะนำเสนอหลักการหรือแนวคิดการลงทุนง่ายๆสำหรับ นักออมที่จะเปลี่ยนตัวเองไปเป็นนักลงทุนครับ
1.ไม่ต้องรีบร้อนลงทุน - หลายๆคนเห็นผลตอบแทนจากเงินฝากที่ระดับ 1-2% ก็คงอยากจะรีบเอาเงินไปลงทุนในตราสารทางการเงินอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า เช่น ตราสารทุน หรือ ตราสารหนี้ อย่างไรก็ตามการรีบร้อนเอาเงินเก็บหรือเงินออมทั้งหมดไปลงทุน อาจจะต้องระมัดระวัง เนื่องจากความเสี่ยงในการลงทุนตราสารทางการเงินอื่นๆนั้นส่วนใหญ่จะสูงกกว่าการฝากเงินครับ
2. ศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน – ในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จนั้น ความเข้าใจในเรื่องความเสี่ยงและผลตอบแทนเป็นสิ่งที่สำคัญ การลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น ผู้ลงทุนจะต้องระมัดระวังเรื่องความเสี่ยงของการลงทุนที่สูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนให้น้อยลงได้ ก็คือความรู้ความเข้าใจในสินทรัพย์ทางการเงิน และเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ครับ
3. แบ่งเงินลงทุน – หลังจากศึกษาข้อมูลการลงทุนในระดับหนึ่ง และพร้อมที่จะลงทุนแล้ว ผมคิดว่าต่อไปเราควรจะจัดสรรเงินลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและความรู้ของเรา สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และมีความรู้ความเข้าใจในตราสารทุนในระดับหนึ่ง การแบ่งเงินลงทุนในตราสารทุนในสัดส่วนที่มากขึ้น น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ในทางกลับกัน สำหรับมือใหม่และผู้ที่กำลังศึกษาการลงทุนรูปแบบต่างๆ อาจจะลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าในสัดส่วนที่มากกว่าตราสารทุน หรือ อาจจะเก็บเงินสดในสัดส่วนที่สูงหน่อย
ภาพด้านล่าง คือ แนวทางการจัดสรรเงินลงทุนเบื้องต้น จากศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน (TSI-Thailand)
จากนักออมสู่นักลงทุนมืออาชีพ
1.ไม่ต้องรีบร้อนลงทุน - หลายๆคนเห็นผลตอบแทนจากเงินฝากที่ระดับ 1-2% ก็คงอยากจะรีบเอาเงินไปลงทุนในตราสารทางการเงินอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า เช่น ตราสารทุน หรือ ตราสารหนี้ อย่างไรก็ตามการรีบร้อนเอาเงินเก็บหรือเงินออมทั้งหมดไปลงทุน อาจจะต้องระมัดระวัง เนื่องจากความเสี่ยงในการลงทุนตราสารทางการเงินอื่นๆนั้นส่วนใหญ่จะสูงกกว่าการฝากเงินครับ
2. ศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน – ในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จนั้น ความเข้าใจในเรื่องความเสี่ยงและผลตอบแทนเป็นสิ่งที่สำคัญ การลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น ผู้ลงทุนจะต้องระมัดระวังเรื่องความเสี่ยงของการลงทุนที่สูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนให้น้อยลงได้ ก็คือความรู้ความเข้าใจในสินทรัพย์ทางการเงิน และเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ครับ
3. แบ่งเงินลงทุน – หลังจากศึกษาข้อมูลการลงทุนในระดับหนึ่ง และพร้อมที่จะลงทุนแล้ว ผมคิดว่าต่อไปเราควรจะจัดสรรเงินลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและความรู้ของเรา สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และมีความรู้ความเข้าใจในตราสารทุนในระดับหนึ่ง การแบ่งเงินลงทุนในตราสารทุนในสัดส่วนที่มากขึ้น น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ในทางกลับกัน สำหรับมือใหม่และผู้ที่กำลังศึกษาการลงทุนรูปแบบต่างๆ อาจจะลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าในสัดส่วนที่มากกว่าตราสารทุน หรือ อาจจะเก็บเงินสดในสัดส่วนที่สูงหน่อย
ภาพด้านล่าง คือ แนวทางการจัดสรรเงินลงทุนเบื้องต้น จากศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน (TSI-Thailand)