ยายจ๋า เพิ่งกลับจากฮานอย-ซาปา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
เลยอยากเอาเกร็ดเล็กน้อยมาบอกแก่เพื่อนๆๆ ที่บางคนอาจเพิ่งไปครั้งแรก(เหมือนเรา)
กระทู้นี้คงไม่มีรูปมารีวิว เพราะมีคนมาลงกันมากมาย ยายจ๋าก็เสิรข์เอาจากในนี้เหมือนกัน
แต่จะมาบอกเล่าเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ไปพบมาเผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่นได้บ้าง
เราออกเดินทาง เช้าวันพุธที่ 4 ด้วยเครื่องหางแดงแต่เช้าตรู่ ถึงสนามบินนอยไบประมาณ09.00
บนเครื่องพบคนไทยไปกันหลายกลุ่มค่ะ ตอนไปถึงฮานอยฝนตกตลอดทั้งวันหนาวมากค่ะ
เราจองตั๋วโปร ต้นปีที่แล้ว(แต่รวมไรต่อไรแล้ว ก็ไม่ค่อยโปรนะ) เราแพลนกันว่า
เย็นวันแรกที่ไปถึง คืนนั้นจะเดินทางไปลาวไก โดยรถไฟค่ะ จะอยู่ที่ ซาปา 2 คืน 3วัน
แล้วกลับมาเที่ยวฮานอยอีก 1คืน ลูกสาวเป็นคนจัดการจองทุกอย่างกับมิสหงาค่ะ
ตั้งแต่รถมารับสนามบิน, day use Hotel, รถไฟไป-กลับซาปา, Sapa Summit Hotel
และรถจากรร ที่ฮานอย ไปสนามบิน รร.ที่ฮานอยคืนนึงนี่ลูกสาวจองเองค่ะ(และนี่คือโชคดีที่จองเอง)
นี่คือการไปครั้งแรก และเป็นผู้หญิงทั้งสองคน ยายจ๋าก็เป็น สว แล้ว(แต่ใจยังรักเที่ยวค่า)
ทุกอย่างเราจองตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ตั้งแต่รถมารับที่สนามบิน จนถึงร้านมิสหงา
เพื่อจ่ายส่วนที่คงค้าง มิสหงาถามเราว่า เราต้องการจะทิ้ง กปเดินทางไว้ที่ร้านเค้า
และเดินเที่ยวจนกว่าจะได้เวลาขึ้นรถไฟ หรือไม่ เค้าจะได้คืน ค่าห้อง day use 20 us$ ให้กับเรา
แต่เราคิดว่า เราตื่นตั้งแต่ตี 4 นอนรถไฟทั้งคืน จึงอยากจะได้อาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้า
นึกเอะใจว่า มีน้ำใจจังที่แนะนำ แต่เราตกลงเอาค่า มิสหงาเรียกTaxiมาพาเราไป รร
พอไปถึงหน้า ที่พัก มันไม่ใช่ รรนิ ข้างล่างเป็นร้านอาหารฝรั่ง มีฝรั่งนั่งกันมากมาย
ดูจากสภาพมันเหมือน guesthouse นิ พอเราเข้าไป ก็มี หนุ่มคนนึงมาช่วยยายจ๋าหิ้ว
กป เดินทางเดินฉับๆๆๆขึ้นไปชั้น 4นุ่นแน่ะ ลิฟท์มีแต่เสียค่า อ้อ เกือบลืมบอก ชื่อที่พัก
Hoan Kiem Downtown ค่ะ แล้วมีชื่อภาษาอ. ข้างบนที่แปลว่าตุ๊กแกอยู่ข้างบนค่ะ
เราตามกันไปอย่าง งงๆ ทางเดินไฟสลัว มืดๆๆ พาเราไปพักห้อง 401 แล้วก็เปิดประตู
พาเราเข้าไปในห้อง วางกป แล้วบอกว่า Have a nice day เราสองคนแม่ลูกมองไปรอบๆๆห้อง
แล้วยืนอึ้งไปเลย เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะห้องมืด ห้องจัดไว้เหมือนดูดี มีเตียงใหญ่1เตียง
เตียงเล็ก1เตียง มีทีวีแขวน lcd. ใหญ่ 1 เครื่อง แต่ เดี๋ยวก่อนค่ะทุกอย่างที่บอกมา ห้องเน่า
และน่ากลัวมาก เหมือนห้องร้างในหนังผีไงอย่างงั้นเลยค่ะ ผ้าม่านเก่าๆๆ ที่นอนหมอนเหม็น
ตู้เสื้อผ้า พังๆๆ ทีวีจอแตกลายงาพื้นห้องฝุ่นเขรอะ บนโต๊ะรับแขก มีแก้วน้ำดื่มไม่หมดวางไว้
ห้องน้ำ ฝักบัว ก๊อกอ่างล้างหน้า คราบเกรอะกรัง ไฟทั้งห้องใช้ได้แค่ 2 ดวง เปิดผ้าม่านออกไป
เหมือนเป็นหลังบ้านชนกัน ใช้ได้แค่ ถ่าย ล้างหน้ายังไม่กล้าล้างเลยค่า ซื้อน้ำกินมาล้างเอา
อ้อ แต่มีน้ำร้อนในห้องน้ำค่ะ ตอนนั้น ใจว่าจะแบก กป ลงมา แต่ไม่กล้าค่ะ เพราะ พนง มีแต่ผู้ชาย
บอกให้ลูกสาวโทร. หามิสหงา เธอก็มัวแต่มึนอึ้ง และไม่แน่ใจว่า ที่เมล์คุยกันใช่ ที่พักนี้หรือเปล่า
จนหลังจากกลับมาแล้วมาเชคดูเมล์อีกทีจึงรู้ว่าเป็นคนละชื่อกัน ลูกสาวจึงทำเมล์ไปต่อว่ามิสหงา
เรื่องนี้ และบอกกับมิสหงาว่า อย่าทำอย่างนี้กับเพื่อนๆๆคนไทยอีกและจนทุกวันนี้
ไม่เห็นมีเมล์ตอบกลับมา จึงอยากมาเตือนเพื่อนในนี้ที่จะไปให้ตรวจเช็คชื่อที่พักให้ดีนะคะ
หากจอง day use ไว้กับมิสหงาค่ะ. ด้วยเพราะความเกรงใจ เราจึงไม่ได้ทักท้วงในตอนนั้น
แต่เรื่องอื่นๆๆที่จองไว้ก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาค่ะ โชคดี ที่ขากลับเราจองที่พักเอง Angel palace.
ห้องดีค่ะ ไม่ใหญ่แต่ไม่อึดอัด เดินไปทะเลสาบคืนดาบและย่าน Old Quater ได้ค่า
จากนี้ก็จะเป็นเรื่องเล็กๆๆน้อยๆๆที่เรา เก็บตกมาบอกกัน เผื่อบางคนยังไม่ทราบนะคะ
รร ที่ซาปา เราจองห้อง518 แต่พอไปได้418แทนก็ไม่เป็นไรค่า น่าจะเป็นห้องdeluxe
เพราะเฟอร์ดีกว่าห้องอื่น มีตู้เย็น มีน้ำให้4ขวด นึกเอะใจโทรลงไปถามfront น้ำไม่ฟรีค่า
แม้แต่ห้องอาหารยังไม่มีน้ำเปล่าให้ค่า แต่บนรถไฟ มีแจกขวดเล็กๆๆนะคะ แต่ได้ยินจาก
หลายๆๆคนที่นั่นว่าตอนนี้ high way. จากฮานอยมาซาปา ทางดีแล้วค่า มารถบัสนอนถูกกว่า
ถึงซาปาเลยค่ะ
Sapa market ย้ายจากที่เดิมไปที่ใหม่แล้วนะคะ ย้ายเมื่อใกล้ปีใหม่ ถ้าเดินจะไกลหน่อย
ตอนที่ไปหมอกหนามากและมีฝน เราจึงให้ รร เรียกtaxiและบอกคนขับให้ว่าจะไปที่นี่
ค่ารถไม่แพงหรอกค่ะ เพียงแต่เราคอยดูและบอกเค้าว่าให้เปิดมิเตอร์ เริ่มต้นที่ 19,000.-ดอง
ไม่ถึง 30บาท อันนี้ที่ซาปานะคะ ฮานอยจำไม่ผิด น่าจะเริ่มที่ 10,000.-ดอง เราเลือกนั่งแต่รถ
ของ Mai Linhตามในนี้บอกน่ะค่ะ ทีนี้ตอนขากลับจากซาปา รถไฟมาถึงตอนตี 5 เราไม่ได้เรียก
รถจากมิสหงามารับ เพราะตอนที่เราติดต่อไป เธอบอกว่า จะให้ตังค์เราแล้วเรียกรถมากันเอง!!!!!
ซึ่งจริงๆๆแล้วสถานีรถไฟไม่ไกลเลยค่ะ แต่ตอนนั้นเราไม่ทราบกันเราจึงเรียก Taxiไปกันเอง
พอเดินออกมาก็เจอนี่เลยรถMai Linhนี่แหละค่ะจอดกันเรียงรายแต่ว่าแต่ละคันจะเหมาอย่างเดียวค่า
ยอมเปิดมิเตอร์ ถามราคา เขาเรียกเหมือนกันทุกคน 300,000.-ดอง ประมาณ450.-ค่า
แพงมากกก เลยไม่ไป เลยลาก กระเป๋าเดินออกมานอกสถานี ตลอดทางก็จะมีคนขับมาตามตื๊อ
ตลอดเวลาเราไม่กล้าขึ้นค่ะ จนเจอรถคันนึงเค้าบอกว่า 50,000.-ดอง เลยตกลงไป
ระยะทางก็ประมาณหัวลำโพงไปสีลมเท่านั้นค่ะ
ที่ซาปาสวยมากค่าถึงจะหมอกหนา มีละอองฝนตลอดเวลา จริงๆๆไม่ใช่ฝนนะคะ เกิดจาก
ความชื้นของอากาศที่สูงกับหมอก เวลาเดินจะพัดเข้าหน้า ค่อนข้างลำบากสำหรับคนที่ใส่แว่นค่ะ
เราเลยได้แต่ซึมซับความสวยงามของนาบันไดและธรรมชาติไว้กับตัวเราเท่านั้น
ไม่สามารถบันทึกภาพเก็บไว้ได้ และยังได้รับไมตรี การทักทายจากเพื่อนคนไทยและต่างชาติ
ที่ได้เจอะเจอกัน นี่คือสิ่งที่นำมาบอกเล่ากัน หากว่าเขียนผิดถูกยังไง อย่าต่อว่ากันเลยค่ะ
ถ้ามีไรอยากทราบถามได้นะคะ
เก็บตกเล็กน้อยมาฝาก จากฮานอย-ซาปาค่ะ
เลยอยากเอาเกร็ดเล็กน้อยมาบอกแก่เพื่อนๆๆ ที่บางคนอาจเพิ่งไปครั้งแรก(เหมือนเรา)
กระทู้นี้คงไม่มีรูปมารีวิว เพราะมีคนมาลงกันมากมาย ยายจ๋าก็เสิรข์เอาจากในนี้เหมือนกัน
แต่จะมาบอกเล่าเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ไปพบมาเผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่นได้บ้าง
เราออกเดินทาง เช้าวันพุธที่ 4 ด้วยเครื่องหางแดงแต่เช้าตรู่ ถึงสนามบินนอยไบประมาณ09.00
บนเครื่องพบคนไทยไปกันหลายกลุ่มค่ะ ตอนไปถึงฮานอยฝนตกตลอดทั้งวันหนาวมากค่ะ
เราจองตั๋วโปร ต้นปีที่แล้ว(แต่รวมไรต่อไรแล้ว ก็ไม่ค่อยโปรนะ) เราแพลนกันว่า
เย็นวันแรกที่ไปถึง คืนนั้นจะเดินทางไปลาวไก โดยรถไฟค่ะ จะอยู่ที่ ซาปา 2 คืน 3วัน
แล้วกลับมาเที่ยวฮานอยอีก 1คืน ลูกสาวเป็นคนจัดการจองทุกอย่างกับมิสหงาค่ะ
ตั้งแต่รถมารับสนามบิน, day use Hotel, รถไฟไป-กลับซาปา, Sapa Summit Hotel
และรถจากรร ที่ฮานอย ไปสนามบิน รร.ที่ฮานอยคืนนึงนี่ลูกสาวจองเองค่ะ(และนี่คือโชคดีที่จองเอง)
นี่คือการไปครั้งแรก และเป็นผู้หญิงทั้งสองคน ยายจ๋าก็เป็น สว แล้ว(แต่ใจยังรักเที่ยวค่า)
ทุกอย่างเราจองตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ตั้งแต่รถมารับที่สนามบิน จนถึงร้านมิสหงา
เพื่อจ่ายส่วนที่คงค้าง มิสหงาถามเราว่า เราต้องการจะทิ้ง กปเดินทางไว้ที่ร้านเค้า
และเดินเที่ยวจนกว่าจะได้เวลาขึ้นรถไฟ หรือไม่ เค้าจะได้คืน ค่าห้อง day use 20 us$ ให้กับเรา
แต่เราคิดว่า เราตื่นตั้งแต่ตี 4 นอนรถไฟทั้งคืน จึงอยากจะได้อาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้า
นึกเอะใจว่า มีน้ำใจจังที่แนะนำ แต่เราตกลงเอาค่า มิสหงาเรียกTaxiมาพาเราไป รร
พอไปถึงหน้า ที่พัก มันไม่ใช่ รรนิ ข้างล่างเป็นร้านอาหารฝรั่ง มีฝรั่งนั่งกันมากมาย
ดูจากสภาพมันเหมือน guesthouse นิ พอเราเข้าไป ก็มี หนุ่มคนนึงมาช่วยยายจ๋าหิ้ว
กป เดินทางเดินฉับๆๆๆขึ้นไปชั้น 4นุ่นแน่ะ ลิฟท์มีแต่เสียค่า อ้อ เกือบลืมบอก ชื่อที่พัก
Hoan Kiem Downtown ค่ะ แล้วมีชื่อภาษาอ. ข้างบนที่แปลว่าตุ๊กแกอยู่ข้างบนค่ะ
เราตามกันไปอย่าง งงๆ ทางเดินไฟสลัว มืดๆๆ พาเราไปพักห้อง 401 แล้วก็เปิดประตู
พาเราเข้าไปในห้อง วางกป แล้วบอกว่า Have a nice day เราสองคนแม่ลูกมองไปรอบๆๆห้อง
แล้วยืนอึ้งไปเลย เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะห้องมืด ห้องจัดไว้เหมือนดูดี มีเตียงใหญ่1เตียง
เตียงเล็ก1เตียง มีทีวีแขวน lcd. ใหญ่ 1 เครื่อง แต่ เดี๋ยวก่อนค่ะทุกอย่างที่บอกมา ห้องเน่า
และน่ากลัวมาก เหมือนห้องร้างในหนังผีไงอย่างงั้นเลยค่ะ ผ้าม่านเก่าๆๆ ที่นอนหมอนเหม็น
ตู้เสื้อผ้า พังๆๆ ทีวีจอแตกลายงาพื้นห้องฝุ่นเขรอะ บนโต๊ะรับแขก มีแก้วน้ำดื่มไม่หมดวางไว้
ห้องน้ำ ฝักบัว ก๊อกอ่างล้างหน้า คราบเกรอะกรัง ไฟทั้งห้องใช้ได้แค่ 2 ดวง เปิดผ้าม่านออกไป
เหมือนเป็นหลังบ้านชนกัน ใช้ได้แค่ ถ่าย ล้างหน้ายังไม่กล้าล้างเลยค่า ซื้อน้ำกินมาล้างเอา
อ้อ แต่มีน้ำร้อนในห้องน้ำค่ะ ตอนนั้น ใจว่าจะแบก กป ลงมา แต่ไม่กล้าค่ะ เพราะ พนง มีแต่ผู้ชาย
บอกให้ลูกสาวโทร. หามิสหงา เธอก็มัวแต่มึนอึ้ง และไม่แน่ใจว่า ที่เมล์คุยกันใช่ ที่พักนี้หรือเปล่า
จนหลังจากกลับมาแล้วมาเชคดูเมล์อีกทีจึงรู้ว่าเป็นคนละชื่อกัน ลูกสาวจึงทำเมล์ไปต่อว่ามิสหงา
เรื่องนี้ และบอกกับมิสหงาว่า อย่าทำอย่างนี้กับเพื่อนๆๆคนไทยอีกและจนทุกวันนี้
ไม่เห็นมีเมล์ตอบกลับมา จึงอยากมาเตือนเพื่อนในนี้ที่จะไปให้ตรวจเช็คชื่อที่พักให้ดีนะคะ
หากจอง day use ไว้กับมิสหงาค่ะ. ด้วยเพราะความเกรงใจ เราจึงไม่ได้ทักท้วงในตอนนั้น
แต่เรื่องอื่นๆๆที่จองไว้ก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาค่ะ โชคดี ที่ขากลับเราจองที่พักเอง Angel palace.
ห้องดีค่ะ ไม่ใหญ่แต่ไม่อึดอัด เดินไปทะเลสาบคืนดาบและย่าน Old Quater ได้ค่า
จากนี้ก็จะเป็นเรื่องเล็กๆๆน้อยๆๆที่เรา เก็บตกมาบอกกัน เผื่อบางคนยังไม่ทราบนะคะ
รร ที่ซาปา เราจองห้อง518 แต่พอไปได้418แทนก็ไม่เป็นไรค่า น่าจะเป็นห้องdeluxe
เพราะเฟอร์ดีกว่าห้องอื่น มีตู้เย็น มีน้ำให้4ขวด นึกเอะใจโทรลงไปถามfront น้ำไม่ฟรีค่า
แม้แต่ห้องอาหารยังไม่มีน้ำเปล่าให้ค่า แต่บนรถไฟ มีแจกขวดเล็กๆๆนะคะ แต่ได้ยินจาก
หลายๆๆคนที่นั่นว่าตอนนี้ high way. จากฮานอยมาซาปา ทางดีแล้วค่า มารถบัสนอนถูกกว่า
ถึงซาปาเลยค่ะ
Sapa market ย้ายจากที่เดิมไปที่ใหม่แล้วนะคะ ย้ายเมื่อใกล้ปีใหม่ ถ้าเดินจะไกลหน่อย
ตอนที่ไปหมอกหนามากและมีฝน เราจึงให้ รร เรียกtaxiและบอกคนขับให้ว่าจะไปที่นี่
ค่ารถไม่แพงหรอกค่ะ เพียงแต่เราคอยดูและบอกเค้าว่าให้เปิดมิเตอร์ เริ่มต้นที่ 19,000.-ดอง
ไม่ถึง 30บาท อันนี้ที่ซาปานะคะ ฮานอยจำไม่ผิด น่าจะเริ่มที่ 10,000.-ดอง เราเลือกนั่งแต่รถ
ของ Mai Linhตามในนี้บอกน่ะค่ะ ทีนี้ตอนขากลับจากซาปา รถไฟมาถึงตอนตี 5 เราไม่ได้เรียก
รถจากมิสหงามารับ เพราะตอนที่เราติดต่อไป เธอบอกว่า จะให้ตังค์เราแล้วเรียกรถมากันเอง!!!!!
ซึ่งจริงๆๆแล้วสถานีรถไฟไม่ไกลเลยค่ะ แต่ตอนนั้นเราไม่ทราบกันเราจึงเรียก Taxiไปกันเอง
พอเดินออกมาก็เจอนี่เลยรถMai Linhนี่แหละค่ะจอดกันเรียงรายแต่ว่าแต่ละคันจะเหมาอย่างเดียวค่า
ยอมเปิดมิเตอร์ ถามราคา เขาเรียกเหมือนกันทุกคน 300,000.-ดอง ประมาณ450.-ค่า
แพงมากกก เลยไม่ไป เลยลาก กระเป๋าเดินออกมานอกสถานี ตลอดทางก็จะมีคนขับมาตามตื๊อ
ตลอดเวลาเราไม่กล้าขึ้นค่ะ จนเจอรถคันนึงเค้าบอกว่า 50,000.-ดอง เลยตกลงไป
ระยะทางก็ประมาณหัวลำโพงไปสีลมเท่านั้นค่ะ
ที่ซาปาสวยมากค่าถึงจะหมอกหนา มีละอองฝนตลอดเวลา จริงๆๆไม่ใช่ฝนนะคะ เกิดจาก
ความชื้นของอากาศที่สูงกับหมอก เวลาเดินจะพัดเข้าหน้า ค่อนข้างลำบากสำหรับคนที่ใส่แว่นค่ะ
เราเลยได้แต่ซึมซับความสวยงามของนาบันไดและธรรมชาติไว้กับตัวเราเท่านั้น
ไม่สามารถบันทึกภาพเก็บไว้ได้ และยังได้รับไมตรี การทักทายจากเพื่อนคนไทยและต่างชาติ
ที่ได้เจอะเจอกัน นี่คือสิ่งที่นำมาบอกเล่ากัน หากว่าเขียนผิดถูกยังไง อย่าต่อว่ากันเลยค่ะ
ถ้ามีไรอยากทราบถามได้นะคะ