ทริปต่างประเทศทริปแรกของปีนี้ (แหม่...ทำเหมือนไปไกล ก็อยู่ใน AEC เรานี้ล่ะ)
ทริปนี้เริ่มต้นจากโปรหางแดงเมื่อปีที่แล้วดูไปดูมา คุณเพื่อนก็บอกว่า ไปพม่ากัน
เราก็ เออ เอาสิ อยากไปเจดีย์ชเวดากอง ไปไหว้พระธาตุปีเกิดปีมะเมีย
เป้าหมายเรามีแค่นี้ และ ไม่อยากไปกับทัวร์ เราเลยจองแต่ตั๋วเครื่องบินอย่างเดียว แล้วกะกันว่าบินจากดอนเมืองไฟล์ทเที่ยง ไปถึงย่างกุ้งบ่ายกว่าๆ ไปนอนโรงแรมในย่างกุ้งใกล้ๆเจดีย์ชเวดากอง แล้วเรื่อยเปื่อยในย่างกุ้งแค่ 2 คืนพอ แล้วก็กลับเมืองไทยไฟล์ทเที่ยงๆ แค่นี้ก็พอแล้ว ไปสบายๆไม่เช้ามาก กลับก็ไม่ต้องเย็นมาก ได้แค่นี้ก็จองตั๋วกันเลย
สักช่วงปีใหม่คุณเพื่อนก็บอกว่า มีเพื่อนไปทำงานที่พม่า เดี๋ยวเพื่อนจะพาเที่ยวนะ เราก็ยิ้มเลย เออดีๆ
วันแรก ไปถึงย่างกุ้งบ่ายๆ ก็ไปเจดีย์โบดาทาวน์ ไปไหว้ขอพรเทพทันใจ และ เทพกระซิบ จากนั้นก็ไปเจดีย์ชเวดากอง
วันที่สอง ตื่นเช้าไปพระธาตุอินแขวน แล้วกลับมานอนในเมืองหงสา
วันที่สาม ตื่นเช้าไปไหว้พระธาตุมุเตา แล้วก็นั่งรถไปสนามบินย่างกุ้ง ขึ้นเครื่องกลับไทย
ได้ทริปคร่าวๆแล้ว มีเจ้าถิ่นพาเที่ยวและจัดการทุกอย่างให้ เราก็สบายกันเลย โชคดีจริงจัง
ส่วนที่ต้องจัดการต่อมาก็คือ
visa
จะเข้าพม่ายังต้องทำ visa อยู่นะจ๊ะ เท่าที่หาข้อมูลการทำ visa มี 2 แบบ
1. วิธีปกติ คือไปทำ visa ที่สถานทูตพม่า เสียค่าใช้จ่าย 810 บาท แล้วต้องไปรับ VISA หลังจากวันที่ทำไม่เกินสัปดาห์
แต่ถ้าอยากได้เร็วกว่านี้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มรวมประมาณ 1,200-1,500 บาท (อันนี้ไม่แน่ใจ ลองหาข้อมูลดูอีกทีนะจ๊ะ)
2. E- visa กรอกข้อมูลในเวปกระทรวงต่างประเทศพม่า upload รูปผ่านหน้าเวป เสียค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 50$ วิธีนี้ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าวิธีปกติ แต่เราไม่ต้องเสียเวลาไปที่สถานทูต 2 รอบ (ไปยื่นเรื่อง และ ไปรับ visa) ใช้เวลาพิจารณาอนุมัติ 7-10 วัน
พวกเราเลือกทำ E-visa ก่อนเดินทางเกือบเดือน (เผื่อว่ามีปัญหาจะได้ไปต่อคิวทำ visa ที่สถานทูตได้ทันก่อนเดินทาง)
ปรากฏว่าวิธี E-visa นี่รวดเร็วมาก เรากรอกข้อมูลยื่นเรื่องทางเวป แค่คืนเดียวก็ได้รับ e-mail แนบ E-visa มาเลย
เราก็แค่ print E-visa ที่แนบมากับ e-mail แล้วก็ใช้แนบกับพาสปอร์ตเข้าประเทศพม่าได้เลย ไม่ต้องไปทำ visa on arrival ที่พม่าด้วยนะ
ถ้าใครไม่อยากเสียเวลา ขอแนะนำ E-visa นะจ๊ะ สะดวก และ รวดเร็วมาก ง่ายๆเลย
เนื่องด้วยเราจองไฟล์ทไปกลับช่วงเที่ยงทำให้มีเวลาอยู่พม่าจริงๆแค่ บ่ายวันแรก วันที่ 2 เต็มวัน และ วันสุดท้ายช่วงเช้าเท่านั้น
เพื่อไม่ให้เสียเวลาเที่ยว เราเลยจองอาหารบนเครื่องเป็นมื้อกลางวันทั้งขาไปและกลับ เพื่อความสะดวกไม่ต้องไปแวะหาของกินที่พม่า
เพื่อนเจ้าถิ่นจัดการเตรียมทุกอย่างที่พม่าไว้ให้ทั้งหมด แล้วก็บอกว่าที่ต้องเตรียมกันไปเองคือ
ทิชชู่เปียก อันนี้สำคัญมากเอาไว้เช็ดเท้า
เพราะที่เราจะไปส่วนใหญ่เป็นวัด ซึ่งคนพม่าจะถอดรองเท้าเดินกันตั้งแต่เข้าเขตวัดเลย
ดังนั้นเราจะต้องเดินบนพื้นบนดินบนถนนกันเข้าไปเลย เตรียมใจเท้าเปื้อนกันเลย
แต่งตัวก็ไม่ต้องคิดเยอะมาก เอาเป็นว่าไม่ใส่ขาสั้นแขนกุด ถ้าจะเซฟสุดก็กางเกงขายาวเลยง่ายดี
เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปลุยพม่ากันเลย
[CR] ไหว้พระ 9 วัด เทพทันใจ 4 องค์ เทพกระซิบ 1 องค์ @พม่า : ย่างกุ้ง-หงสา 06-08 Feb 15
ทริปต่างประเทศทริปแรกของปีนี้ (แหม่...ทำเหมือนไปไกล ก็อยู่ใน AEC เรานี้ล่ะ)
ทริปนี้เริ่มต้นจากโปรหางแดงเมื่อปีที่แล้วดูไปดูมา คุณเพื่อนก็บอกว่า ไปพม่ากัน
เราก็ เออ เอาสิ อยากไปเจดีย์ชเวดากอง ไปไหว้พระธาตุปีเกิดปีมะเมีย
เป้าหมายเรามีแค่นี้ และ ไม่อยากไปกับทัวร์ เราเลยจองแต่ตั๋วเครื่องบินอย่างเดียว แล้วกะกันว่าบินจากดอนเมืองไฟล์ทเที่ยง ไปถึงย่างกุ้งบ่ายกว่าๆ ไปนอนโรงแรมในย่างกุ้งใกล้ๆเจดีย์ชเวดากอง แล้วเรื่อยเปื่อยในย่างกุ้งแค่ 2 คืนพอ แล้วก็กลับเมืองไทยไฟล์ทเที่ยงๆ แค่นี้ก็พอแล้ว ไปสบายๆไม่เช้ามาก กลับก็ไม่ต้องเย็นมาก ได้แค่นี้ก็จองตั๋วกันเลย
สักช่วงปีใหม่คุณเพื่อนก็บอกว่า มีเพื่อนไปทำงานที่พม่า เดี๋ยวเพื่อนจะพาเที่ยวนะ เราก็ยิ้มเลย เออดีๆ
วันแรก ไปถึงย่างกุ้งบ่ายๆ ก็ไปเจดีย์โบดาทาวน์ ไปไหว้ขอพรเทพทันใจ และ เทพกระซิบ จากนั้นก็ไปเจดีย์ชเวดากอง
วันที่สอง ตื่นเช้าไปพระธาตุอินแขวน แล้วกลับมานอนในเมืองหงสา
วันที่สาม ตื่นเช้าไปไหว้พระธาตุมุเตา แล้วก็นั่งรถไปสนามบินย่างกุ้ง ขึ้นเครื่องกลับไทย
ได้ทริปคร่าวๆแล้ว มีเจ้าถิ่นพาเที่ยวและจัดการทุกอย่างให้ เราก็สบายกันเลย โชคดีจริงจัง
ส่วนที่ต้องจัดการต่อมาก็คือ visa
จะเข้าพม่ายังต้องทำ visa อยู่นะจ๊ะ เท่าที่หาข้อมูลการทำ visa มี 2 แบบ
1. วิธีปกติ คือไปทำ visa ที่สถานทูตพม่า เสียค่าใช้จ่าย 810 บาท แล้วต้องไปรับ VISA หลังจากวันที่ทำไม่เกินสัปดาห์
แต่ถ้าอยากได้เร็วกว่านี้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มรวมประมาณ 1,200-1,500 บาท (อันนี้ไม่แน่ใจ ลองหาข้อมูลดูอีกทีนะจ๊ะ)
2. E- visa กรอกข้อมูลในเวปกระทรวงต่างประเทศพม่า upload รูปผ่านหน้าเวป เสียค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 50$ วิธีนี้ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าวิธีปกติ แต่เราไม่ต้องเสียเวลาไปที่สถานทูต 2 รอบ (ไปยื่นเรื่อง และ ไปรับ visa) ใช้เวลาพิจารณาอนุมัติ 7-10 วัน
พวกเราเลือกทำ E-visa ก่อนเดินทางเกือบเดือน (เผื่อว่ามีปัญหาจะได้ไปต่อคิวทำ visa ที่สถานทูตได้ทันก่อนเดินทาง)
ปรากฏว่าวิธี E-visa นี่รวดเร็วมาก เรากรอกข้อมูลยื่นเรื่องทางเวป แค่คืนเดียวก็ได้รับ e-mail แนบ E-visa มาเลย
เราก็แค่ print E-visa ที่แนบมากับ e-mail แล้วก็ใช้แนบกับพาสปอร์ตเข้าประเทศพม่าได้เลย ไม่ต้องไปทำ visa on arrival ที่พม่าด้วยนะ
ถ้าใครไม่อยากเสียเวลา ขอแนะนำ E-visa นะจ๊ะ สะดวก และ รวดเร็วมาก ง่ายๆเลย
เนื่องด้วยเราจองไฟล์ทไปกลับช่วงเที่ยงทำให้มีเวลาอยู่พม่าจริงๆแค่ บ่ายวันแรก วันที่ 2 เต็มวัน และ วันสุดท้ายช่วงเช้าเท่านั้น
เพื่อไม่ให้เสียเวลาเที่ยว เราเลยจองอาหารบนเครื่องเป็นมื้อกลางวันทั้งขาไปและกลับ เพื่อความสะดวกไม่ต้องไปแวะหาของกินที่พม่า
เพื่อนเจ้าถิ่นจัดการเตรียมทุกอย่างที่พม่าไว้ให้ทั้งหมด แล้วก็บอกว่าที่ต้องเตรียมกันไปเองคือ ทิชชู่เปียก อันนี้สำคัญมากเอาไว้เช็ดเท้า
เพราะที่เราจะไปส่วนใหญ่เป็นวัด ซึ่งคนพม่าจะถอดรองเท้าเดินกันตั้งแต่เข้าเขตวัดเลย
ดังนั้นเราจะต้องเดินบนพื้นบนดินบนถนนกันเข้าไปเลย เตรียมใจเท้าเปื้อนกันเลย
แต่งตัวก็ไม่ต้องคิดเยอะมาก เอาเป็นว่าไม่ใส่ขาสั้นแขนกุด ถ้าจะเซฟสุดก็กางเกงขายาวเลยง่ายดี
เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปลุยพม่ากันเลย