ทำไมคนเราต้องเป็นฆาตกรด้วย

ทำไมคนเราถึงเป็นฆาตกร
ทุกวันนี้นักจิตวิทยาหลายคนได้ยอมรับความคิดที่ว่าปัจจัยสิ่งแวดล้อมและด้านชีววิทยาของร่างกายมีส่วนไม่มากก็น้อย ที่ทำให้คนเรานั้นเป็นฆาตกรได้
และยังมีนักจิตวิทยาบางคนที่กล่าวว่า ความผิดปกติของร่างกายคนเรานั้นคือโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้คนฆ่าคนได้ แต่จนถึงปัจจุบันนี้นักจิตวิทยาก็ยังไม่ทราบ
ถึงปัจจัยที่ทำให้คนเราเป็นฆาตกรทั้งหมดได้เลย แต่ถ้าการวิจัยค้นหาสาเหตุที่ทำให้คนเรานั้นเป็นฆาตกรได้นั้นก็จะทำให้เรารู้วิธีรักษาบุคคลที่เป็นอันตราย
ต่อตัวเราและผู้อื่นได้
Cesare Lombroso ผู้เป็นบิดาวิทยาการทางด้าน อาชญากรรมวิทยา ได้เคยตั้งสมมุติฐานว่า คนที่เป็นฆาตกรหรือนักโทษที่จะก่อคดีอุกฉกรรจ์ มักเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาผิดปกติเช่น มีกะโหลกศีรษะที่บิดเบี้ยว มีคางยื่นและกรามใหญ่ หรือมีดวงตาทั้งสองข้างที่มีขนาดไม่เท่ากัน เป็นต้นและหากบุคคลที่มีรูปลักษณ์ ดังกล่าวนี้ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เขาจะไม่กระทำการฆาตกรรมใดๆ แต่ถ้าสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เขาก็จะลงมีดลงไม้ทันที แต่สมมุติฐานนี้ได้รีบการพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง
และสาเหตุทางด้านจิตวิทยา เช่น การมีความผิดปกติทางด้านจิตใจก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่นักจิตวิทยาเชื่อว่าสามารถทำให้คนเป็น ฆาตกรได้ นั้น ได้มีนักจิตวิทยาคนหนึ่งได้เคยรายงานผลการสำรวจของเขาว่าบุคคลที่เป็นฆาตกรมักจะมีแนวโน้มเป็นคนวิกลจริตได้มากและแนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากนักจิตวิทยาอีกท่านหนึ่งผู้มีความเห็นคล้ายกันว่า ความขัดแย้งด้านบุคลิกภาพคือสาเหตุสำคัญในการทำให้คนเป็นฆาตกรและความขัดแย้งนี้มิได้เกิด จากความบกพร่องทางชีววิทยาของบุคคลคนนั้นเพียงสาเหตุเดียว แต่มาจากความสัมพันธ์ที่ผิดปกติระหว่างคนๆ นั้นกับสภาพและ คนแวดล้อม แต่นักจิตวิทยาเองก็ยังสรุปไม่ได้ชัดเจนว่า ความผิดปกติด้านจิตใจมีบทบาทมากเพียงใดในการผลักดันให้คนเป็นฆาตกร

         จิตวิทยาและแรงจูงใจ
ฆาตกรต่อเนื่องหลายคนได้มีพื้นฐานความหลังที่ข่มขื่น โดยที่สวนมากมักจะเป็นผู้ถูกกระทำทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง ถูกทารุณกรรม หรือ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งโดนกกระทำในวัยเด็ก หลายครั้งที่มีคดีฆาตกรรมมีความเกี่ยวพัน หรือ คล้ายกับเหตุการณ์ที่ฆาตกร โดนกระทำในวัยเด็ก นักจิตวิทยาได้ให้ข้อสันนิษฐานถึงที่เป็นแรงจูงใจในการก่อการฆาตกรรมขึ้นมากมาย ส่วนมากนั้นก็เกี่ยวข้องกับการทารุณกรรม และการล่วงละเมิดทางเพศ บางครั้งก็เป็นความอับอายที่ถูกล่วงละเมิดในวัยเด็ก หรือมีความกดดันจากความอดอยาก จากการมีฐานะทางสังคมต้อยต่ำเมื่อโตขึ้นและคดีฆาตกรรมที่ส่วนมากก่อขึ้นก็เพื่อระบายความแค้นส่วนตัว
นักจิตวิทยาได้ตั้งอีกสมมติฐานที่ว่า ฆาตกรต่อเนื่องเป็นพวกที่ไม่มีพัฒนาการทางอารมณ์ ทำให้กลายเป็นพวกแปลกแยกและถูกปฏิเสธจากสังคมภายนอก ทำให้ฆาตกรเหล่านี้เกิดขึ้น

        รายชื่อฆาตกรได้ก่อคดีขึ้น
คริสติน และ ลีอา พาพิน (Christine and Lea Papin)
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ.1933 ได้มีการฆาตกรรมเกิดขึ้น มีแม่ลูกสองคนถูกฆ่า โดยมีสองแม่บ้านพี่น้องซึ่งเป็นคนในบ้านของพวกเขาเอง สองสาวนั้นได้ควักลูกตาของสองแม่ลูกทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่ และฆ่าด้วยค้อน มัด และเหยือกโลหะ หลังจากที่สองพี่น้องนั้นฆ่าเสร็จ ทั้งสองคนไม่ได้คิดที่จะหนี้ แต่กลับไปนอนกอดกันบนเตียงด้วยสภาพที่เปลือยกายทั้งคู่ยังมีความสัมพันธ์ที่มากกว่าพี่น้อง
หลุยส์ อัลเบอร์โต้ การาวิโต้
หลุยส์ อัลเบอร์โต้ การาวิโต้ เขาได้รับฉายาว่า อสูรกายแห่งไร่อ้อย เขาได้สารภาพว่าได้ลงมือสังหารเหยื่อถึง1,800 ราย โดยที่ส่วนมากนั้นเป็นเด็ก แต่กระนั้นการตามหาศพนั้น สามารถตามเก็บได้แค่ 157 ศพเท่านั้น ซึ่งเขาสารภาพว่าก่อนที่จะลงมือฆ่าเหยื่อนั้นเขาได้ทรมานเหยื่อก่อนที่จะฆ่า แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาแทงเหยื่อก่อนที่จะข่มขื่นเหยื่อ
Jesse Pomeroy เด็กมารร้ายแห่งเมืองบอสตัน
เจสซี่ได้ถูกเลี้ยงดูด้วยความรุนแรง ทั้งพ่อแม่ติดเหล้าและมักจะล่วงละเมิดทางเพศ และทำร้ายร่างกายของเจสซี่ จนเขาได้กลายเป็นเด็กเลือดเย็น ชอบที่จะมีเรื่อง นิสัยที่โหดร้ายของเขา และยังมีร่างกายที่โตกว่าเด็กวัยเดียวกัน ทั้งหน้าตาที่โหดเหี้ยม หัวใหญ่ ไม่ยิ้ม ใบหูกาง ดวงตาเหมือนปลาตาย เลยทำให้เด็กรอบๆตัวเขากลัว จนเขาโดดเดี่ยวไม่มีใครคบ
เจสซี่ชอบที่จะทรมานสัตว์และได้เรียนรู้ที่จะฆ่าที่สมบูรณ์แบบโดยที่ปราศจากหลักฐาน แต่เมื่อเขาเริ่มเบื่อที่จะฆ่าสัตว์แล้วเขาจึงมองหามนุษย์ที่ตัวเล็กกว่าเขา
เจสซี่เขาได้ทำร้ายเหยื่อถึง 8 ราย แต่ว่ารายที่ 8 นั้นรอดจากการถูกทำร้ายทำให้เขาถูกตำรวจจับ เจสซี่ได้ถูกนำขึ้นสารเยาวชน แต่ในศาลเจสซี่ไม่ได้แสดงอาการสำนึกผิดเลย แม่ของเขายังเชื่อว่าเจสซี่เป็นคนดี ต่อมาเขาได้ถูกส่งไปโรงเรียนดัดสันดาน
ต่อมาเขาถูกปล่อยตอนอายุ 14 ปี แต่เขาก่อยังก่อคดีฆาตกรรมขึ้นมาอีก และเจ้าหน้าที่ได้มาพบศพเด็กในเวลาต่อมา ทำให้รู้ว่าเจสซี่เป็นคนทำ ตอนแรกบทลงโทษของเขาคือ โทษประหาร แขวนคอ แต่ผู้ว่าราชการไม่กล้าลงนาม เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินคดีกับเด็กวัยนี้ ในที่สุดผู้ว่าราชการก็ตัดสินใจให้บทลงโทษ จำคุกตลอดชีวิต

           ภาพยนตร์ที่นำเรื่องราวของฆาตกรไปทำ
ซีอุย
ซีอุยประวัติโดยย่อคือคนจีนที่มาทำงานที่ไทยแล้วเป็นคนที่ขี้โรคร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก แล้วเกิดสถานการณ์ที่ต้องหาอะไรกินเพราะความหิวจากสงครามจึงลองลิ้มชิมเนื้อมนุษย์จึงติดใจ พอมาอยู่ที่ไทยจึงเริ่มฆ่าคนเพื่อกินเครื่องในของคน แต่สุดท้ายก็โดนจับได้จนโดนประหารชีวิต แต่ในปัจจุบันมีคนเชื่อว่าบางคดีซีอุยไม่ได้เป็นทำ แต่ก็ยังพิสูจน์ ไม่ได้

              การดำเนินคดีทางกฎหมาย
ประมวลกฎหมายอาญา
ลักษณะ 10 ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย หมวด 1 ความผิดต่อชีวิต
มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุก ตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
มาตรา 289 ผู้ใด
(1) ฆ่าบุพการี
(2) ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุ ที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่
(3) ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำ ตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่บุคคลนั้นจะช่วยหรือได้ช่วยเจ้าพนักงาน ดังกล่าวแล้ว
(4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
(5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
(6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการ ที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือ
(7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อ หลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้
ต้องระวางโทษ ประหารชีวิต
มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้น ถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 289 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี
มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท
มาตรา 292 ผู้ใดกระทำด้วยการปฏิบัติอันทารุณ หรือด้วยปัจจัย คล้ายคลึงกันแก่บุคคลซึ่งต้องพึ่งตน ในการดำรงชีพหรือในการอื่นใด เพื่อให้บุคคลฆ่าตนเอง ถ้าการฆ่าตนเองนั้นได้เกิดขึ้นหรือได้มีการ พยายามฆ่าตนเอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นสี่พันบาท
มาตรา 293 ผู้ใดช่วยหรือยุยงเด็กอายุยังไม่เกินสิบหกปี หรือผู้ซึ่งไม่ สามารถเข้าใจว่าการกระทำของตนมีสภาพหรือสารสำคัญอย่างไร หรือไม่ สามารถบังคับการกระทำของตนได้ ให้ฆ่าตนเอง ถ้าการฆ่าตนเองนั้นได้ เกิดขึ้นหรือได้มีการพยายามฆ่าตนเอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 294 ผู้ใดเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคน ขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ ถึงแก่ความตายโดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้นั้นแสดงได้ว่า ได้กระทำไปเพื่อห้ามการ ชุลมุนต่อสู้นั้น หรือเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่