บทที่ ๑ พลาดท่า
สักวาเจ้าเอ๋ย...คุณเคยตกหลุมรักใครคนหนึ่งเพียงแค่พบสบดวงตาสุกสกาวราวลูกกวางน้อยหรือเปล่า
คุณเคยรักใครสักคนประหนึ่งแก้วตาดวงใจหรือไม่
คุณเคยร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังเพียงเพราะคิดถึงใครคนนั้นบ้างไหม
หากคุณตอบว่าใช่...ใครคนนั้นของคุณไม่มีทางน่ารักเท่า “นางฟ้าตัวน้อย” ของผมหรอก
แต่หากคุณตอบว่าไม่...ผมของแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง...ชะเอิงเอย
นายแพทย์ชารบ ธนาพฤกษ์ เคยกล่าวไว้...
ณ คฤหาสน์ส่วนตัวย่าน Toluca Lake ใจกลางเมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ค่ำคืนเดือนหงายฝนตกปรอยๆ อาจเป็นคืนที่ใครหลายคนเลือกที่จะนอนหลับซุกตัวอยู่ในผ้าห่มหนา แต่ไม่ใช่สำหรับพวกเขา...
‘ห้าขุนพลพิทักษ์นางฟ้าตัวน้อย’
“โอ้เหล้าจ๋าไหนลองหันมายิ้มหน่อยซิ ยิ้มซิๆ...เอิ๊ก...ที่ร๊ากยิ้มนานๆ~♪...โฮๆๆ” คุณหมอชารบกระดกวิสกี้ราคาแพงย้อมใจพร้อมกับร้องเพลงครวญครางด้วยความเจ็บช้ำ จะทำอย่างไรรบก็ทำใจไม่ได้จริงๆ “ฮึก...เอิ๊กก...”
“พวกแกเลิกบ้าสักทีได้ไหมวะ” นนท์นทีโคลงศีรษะมองคุณหมอขี้เมาและอีกสามขุนพลขี้เหล้าอย่างอดสู
“ใช่ซี๊...” ชารบโงนเงนแกว่งนิ้วชี้ใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนรักอย่างอาฆาต “ฉันมันบ้า...เอิ๊กก...บ้ารักซินจ๋า...โฮๆๆ”
“พวกแกจะหวงซินก็ให้มันมีลิมิตหน่อยเถอะ อย่าเวอร์ให้มันมากนัก” นนท์นทีแงะแก้วน้ำสีอำพันออกจากมือของจารัญซึ่งหนีไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้ว พลางหันไปเอาหมอนยัดใต้ลำคอให้เขตต์ที่นอนคอหักอยู่บนพื้น และใช้ปลายเท้าเขี่ยผ้าห่มคลุมร่างให้ปกรณ์อย่างทุลักทุเล
“หรือแกจะให้ซินแต่งงานกับไอ้แรคคูนล่ะ” สัตว์ขนฟูที่นนท์นทีกล่าวถึงคือคุณชายหลี่เหลาฟาง ศัตรูคู่อาฆาตที่มีคดีความกับพวกเขายาวเป็นหางว่าวนั่นเอง
“กับใครฉันก็ไม่ให้ทั้งน๊านน...” ชารบหมุนคอตามแกนโลก “โอย...ทำไมโลกหมุนเร็วงี้วะ!”
“แกก็หยุดหมุนคอสิวะ
น!” นนท์นทีตะคอกอย่างหัวเสีย “ฉันไปนอนก่อนนะ ใกล้จะได้เวลาซินตื่นมาเข้าห้องน้ำแล้วด้วย”
ชารบกระโดดลอยตัวเป็นซุปเปอร์แมนขี่หลังนนท์นทีจนหน้าคะมำจูบพื้นพรมโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นคุณหมอขี้เมาก็ใช้ขาทั้งสองข้างคีบเอวชายหนุ่มไว้แน่นเหมือนตะพาบน้ำก็ไม่ปาน
“ม่ายห้ายปาย...เอิ๊ก...” ขี้เหล้าหลวงเป่าลมปากเรอกลิ่นเหล้าใส่หน้าของนนท์นที “หั๊วเด็ดตีนขาดอย่างไร ฉ๊านก็ไม่ให้แกตีเมืองน้องน้อยแตกหรอกโว้ย...ฟู่...ห่า...จงเมากลิ่นเหล้าแล้วหลับซะ”
“ไอ่รบ ลงไปจากหลังฉัน...” จิ้งจกนนท์นทีซึ่งนอนแบบราบอยู่บนพื้นพยายามควบคุมอารมณ์ไล่ตัวตะพาบน้ำอย่างใจเย็นที่สุด “พรุ่งนี้ซินมีนัดคุณหมอแต่เช้า แกจำไม่ได้เหรอ”
“โห่ห่าา...จำด๊ายสิวะ แต่พรุ่งนี้ศาสตราจารย์จะมาหาที่บ้าน ซินจ๋าไม่ได้ไปโรงพยาบาลสักหน่อย ไม่งั้นฉันไม่กล้ากินเหล้าย้อมใจแบบนี้หรอก พูดแล้วรบเจ็บหัวไต...โฮๆๆๆ...ฟรื้ดด...” คุณหมอรบพูดพร่ำเสร็จก็ร้องไห้กระซิบๆป้ายขี้มูกฟื้ดฟ๊าดใส่หัวท่านขุนพลใหญ่ยกใหญ่
“หัวไตพ่องซิ! หัวใจโว้ยย!” นนท์นทีเริ่มตะคอกด้วยความเหลืออด “ไอ้เวรรบ ลุกเดี๋ยวนี้!”
“ไม่!” ยิ่งตะคอกชารบก็ยิ่งกอดหลังแนบแน่นเป็นตีนตะพาบพร้อมกับกระซิบกระซาบชวนสยิว “ให้รบบี้นอนกับนนท์นี่นะ เขาอยากนอนกอดซินจ๋าด้วย”
“ไอ้รบ!” ความอดทนของนนท์นทีขาดผึงถึงขีดสุด ชายหนุ่มตะแคงข้างกลิ้งหลุนๆไปเกาะโซฟาพลางเหยียบตูดงอนของเขตต์ที่นอนขวางที่ขวางทางแล้วดันตัวลุกขึ้นยืนโดยที่ไอ้ตะพาบขี้เมาก็ยังคงเกาะหลังหนึบหนับไม่ปล่อย
“แกต๊ายย...” พูดจบท่านขุนพลใหญ่ก็วิ่งถอยหลังชนกำแพงวอเปเปอร์สวยดังปึ๊กๆๆพร้อมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือของตะพาบยักษ์ที่โหยหวนลั่นห้องนั่งเล่น
“โอ้ยๆๆ...ใครก็ได้ช่วยรบด้วย ซินจ๋าๆๆ...ไอ้นนท์จะฆ่าพี่!” เสียงแปดหลอดของชารบไม่ได้นำพาให้ไอ้หนุ่มสามขุนพลขี้เมาตื่นขึ้นมาช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย
จารัญผงกหัวมองเล็กน้อยแล้วก็ทำหน้ายุ่งตะแคงข้างกอดแจกันหลับอุตุฝันถึงน้องแพนเค้กต่อ ปกรณ์ขยี้ตาสางผมแล้วนอนฟุบกระดกตูดงอนสองสามครั้งก็ตามจารัญไปติดๆ จะมีก็แต่เขตต์ที่ส่งเสียงทักอย่างคนเมาแอ้แป้ด้วยความเป็นห่วง...แค่น้องน้อย
“จุ๊ๆๆ...พวกแกอย่าเล่นกันเสียงดังสิวะ เดี๋ยวน้องน้อยก็ตื่นหรอก” ขุนพลเขตต์เอ็ดเหมือนคนละเมอเบาๆ
“ปั๊กๆๆ” นนท์นทีดันหลังกระแทกกำแพงไม่ยั้งพร้อมกับแยกเขี้ยวขู่ตะพาบยักษ์ “ไอ้เห็บหมา แกจะปล่อยดีๆหรือจะให้ช้ำในตายห๊ะ”
“ฉันเป็นเห็บแกก็เป็นหมาล่ะวะ” เห็บตัวเขื่องรั้งท่อนขาคีบเอวสอบหมาตัวใหญ่แน่นหนึบ “ต่อให้ช้ำในตายฉันก็ไม่ปล่อยโว้ย โอ้ยๆ...ฉันต้องรักษาความบริสุทธิ์ของน้องน้อยไม่ให้แกย่ำยีเด็ดขาด!...ฟู่ๆ...ห่าๆ...โอ้ย!”
การหยอกเย้าของสองเพื่อนสนิทยามค่ำคืนคงจะเอ็ดตะโรมากไปหน่อย จึงทำให้เพ่ยอิงอิง...พี่เลี้ยงสาวของคุณหนูเล็กแห่งตระกูลซางหรือนางฟ้าตัวน้อยของห้าขุนพลอดที่จะเดินเข้าไปตักเตือนไม่ได้ แล้วเธอก็ต้องถอนหายใจให้กับสภาพห้องนั่งเล่นที่เละยิ่งกว่าเจอพายุไซโคลนเป็นไหนๆ ยิ่งเห็นคุณชายบุญธรรมแห่งตระกูลซางทั้งสองเอาตัวกระแทกกำแพงหยอกเย้ากันสนุกสนานก็ยิ่งอ่อนใจ
“คุณนนท์ คุณรบคะ เลิกเล่นเสียงดังเถอะค่ะ”
นนท์นทีวิ่งหันหลังชนกำแพงปึกๆ “ผมไม่ได้เล่น ผมเอาจริง!”
“อาอิงช่วยผมด้วย เอิ๊กก...อ๊วกก...” คุณหมอรบพูดป้อแป้ไม่ทันขาดคำก็อาเจียนโอ๊กอ๊ากเต็มท้ายทอยนนท์นทีด้วยความตั้งใจ
นนท์นทีสะบัดตัวทิ้งเพื่อนรักก้นจ้ำเบ้าพลางเอามือเช็ดท้ายทอยลวกๆ “ไอ้เวรรบ!”
ขี้มูกคลุกเคล้าหน่อไม้ฝรั่ง แครอท หมูผัดกระเทียมพริกไทย มะม่วง กะปิหวาน ผสมวิสกี้กลิ่นหึ่งลอยฉุนเต็มศีรษะท่านขุนพลใหญ่ประจำแก๊งห้าขุนพล
นนท์นทีหอมอาหารมื้อเย็นของชารบถึงขนาดโก่งคอแทบจะอาเจียนตาม
“อาอิงผมฝากพวกมันด้วยนะ” พูดจบชนิดที่ไม่ต้องรอให้พี่เลี้ยงสาวรับคำ นนท์นทีก็วิ่งเร็วปรู๊ดเพื่อไปสระผมล้างตัวเป็นการด่วน
“ไอ้หมานนท์โว้ยย กลับมาก๊อนน อย่าทิ้งเห็บผู้น่าสงสาร...เอิ๊กก...” ชารบนั่งจุมปุกหมุนเอวเมาอ๋อแอ๋
เพ่ยอิงอิงนั่งชันเข่ามองหน้าพี่ชายสุดสวาทของเจ้านายตัวน้อยอย่างละเหี่ยใจ “คุณรบคะ”
“อ๋า...อาอิงเหรอ ช่วยหาน้ำหวานให้ผมดื่มหน่อยสิ” ปากพูดอย่างมือทำอย่าง ชารบนั่งอ้าแขนรอให้คุณพี่เลี้ยงคนสวยช่วยประคองด้วยแววตาออดอ้อนน่าเอ็นดู
“ตกลงคุณรบจะให้พี่หาน้ำหวานเอามาให้ดื่ม หรือจะลุกไปหาน้ำหวานเองคะ”
คนขี้เหล้าผงกหัวที...ส่ายหัวอีกสองที...แล้วฉีกยิ้มแฉ่งอวดฟันสวย “อาอิงอุ้มผมหน่อยสิ”
เพ่ยอิงอิงถอนหายใจพร้อมทั้งช่วยพยุงคนตัวโตลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล “ไปห้องครัวกันนะคะ”
ชารบเป็นชายหนุ่มรูปร่างสมาร์ทสูงหล่อดูดีมีชาติตระกูลครบเครื่องอยู่ในตัว เขาเป็นนายแพทย์ศัลยกรรมฝีมือดีอันดับต้นๆของเมืองไทย เป็นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศที่มีสาขาทั่วมุมโลก เป็นพี่ชายสุดรักสุดหวงของคุณหนูมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลอันดับ ๑๑ ของโลก เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมเป็นนายชารบ ธนาพฤกษ์ เกือบสมบูรณ์ไร้ที่ติอยู่แล้วเชียว...
ยามสวมเครื่องแบบนายแพทย์...เขาคือคุณหมอผ่าตัดศัลยกรรมผู้สุขุมเอาจริงเอาจังกับงานเป็นที่รักของคนไข้ ยามสวมหัวโขนผู้อำนวยการโรงพยาบาล...เขาคือหัวหน้าผู้บริหารมือฉกาจเป็นที่รักน่านับถือของลูกน้อง
เขาเป็นชายในอุดมคติของนางพยาบาลชุดขาวและคนไข้สาวแก่แม่ม่าย...นั่นคือภาพลักษณ์ในด้านอาชีพการงาน แล้วยามถอดเครื่องแบบหัวโขนแสนหนักอึ้งล่ะ เขามีนิสัยเช่นไร...น้อยคนนักที่จะล่วงรู้ความลับระดับชาติว่าแท้จริงแล้วคุณหมอชารบ...
‘เกรียนเรียกพี่...ติ่งเรียกน้อง...ติ๊งต๊องเรียกเพื่อน...’
เพ่ยอิงอิงรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของคนส่วนน้อยดีว่าเป็นเช่นไร หญิงสาวประคองคุณชายบุญธรรมแห่งตระกูลซางเดินไปตามทางในสภาพเซไปทางซ้ายที...เบี้ยวไปทางขวาที...
แม้เธอจะสูงถึง ๑๗๔ เซนติเมตร แต่ยังต่ำกว่าเขาที่สูงถึง ๑๘๖ เซนติเมตร จึงทำให้การประคองตุปัดตุเป๋อย่างที่เห็น
“อาอิงเดินเบี้ยว” ชารบทำหน้าตั้งคอแข็งแต่กลับหมุนเอวเดินบิดขาไขว้ “ผมเวียนหัวไปหมดแล้ว โอย...”
“คุณรบก็อย่าหมุนเอวสิคะ” คุณพี่เลี้ยงสาวสุดสวยตัดความรำคาญด้วยการแบกคนตัวโตขึ้นหลังแล้วเดินลิ่วไปที่ห้องครัวมันเสียเลย
เพ่ยอิงอิงคือหนึ่งใน ๑๒ พี่เลี้ยงของคุณหนูเล็กแห่งตระกูลซาง ตระกูลมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเอเชีย งานหลักของเธอคือคอยดูแลคุณหนูเล็ก งานรองคือควบคุมงานในสายธุรกิจของคุณหนูเล็ก งานอดิเรกคือนักฆ่าเดนตาย
ส่วนเขา...หนุ่มขี้เมาอ๋อแอ๋บนหลังเธอ เขาคือหนึ่งในแก๊งห้าขุนพลพิทักษ์นางฟ้าตัวน้อย แก๊งผู้ชายแสนธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นนอกจากตูดงามงอน ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคุณหนูเล็กเลยแม้เพียงเสี้ยว แต่กลับเป็นแก๊งพี่ชายที่เป็นดั่งหัวใจของคุณหนูเล็กแห่งตระกูลซางซะอย่างนั้น
แล้วใครเล่าจะกล้าหือกับพวกเขา...
++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ เนื่องจากเราเคยลงตัวอย่างนิยายเรื่องหนึ่ง แต่กระทู้ถูกลบเนื่องจากมีเนื้อหาเข้าข่ายโฆษณา เราจึงต้องขอโทษในความไม่รู้มาด้วยค่ะ และคิดว่าเราเลือกลงนิยายที่กำลังแต่งล่าสุดจะดีกว่า
อย่างไรแล้ว สำหรับนักเขียนมือใหม่ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนในถนนนักเขียนพันทิปด้วยนะคะ
@เกล็ดถวา
สักวาจองใจ บทที่ 1.1
สักวาเจ้าเอ๋ย...คุณเคยตกหลุมรักใครคนหนึ่งเพียงแค่พบสบดวงตาสุกสกาวราวลูกกวางน้อยหรือเปล่า
คุณเคยรักใครสักคนประหนึ่งแก้วตาดวงใจหรือไม่
คุณเคยร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังเพียงเพราะคิดถึงใครคนนั้นบ้างไหม
หากคุณตอบว่าใช่...ใครคนนั้นของคุณไม่มีทางน่ารักเท่า “นางฟ้าตัวน้อย” ของผมหรอก
แต่หากคุณตอบว่าไม่...ผมของแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง...ชะเอิงเอย
ณ คฤหาสน์ส่วนตัวย่าน Toluca Lake ใจกลางเมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ค่ำคืนเดือนหงายฝนตกปรอยๆ อาจเป็นคืนที่ใครหลายคนเลือกที่จะนอนหลับซุกตัวอยู่ในผ้าห่มหนา แต่ไม่ใช่สำหรับพวกเขา...
‘ห้าขุนพลพิทักษ์นางฟ้าตัวน้อย’
“โอ้เหล้าจ๋าไหนลองหันมายิ้มหน่อยซิ ยิ้มซิๆ...เอิ๊ก...ที่ร๊ากยิ้มนานๆ~♪...โฮๆๆ” คุณหมอชารบกระดกวิสกี้ราคาแพงย้อมใจพร้อมกับร้องเพลงครวญครางด้วยความเจ็บช้ำ จะทำอย่างไรรบก็ทำใจไม่ได้จริงๆ “ฮึก...เอิ๊กก...”
“พวกแกเลิกบ้าสักทีได้ไหมวะ” นนท์นทีโคลงศีรษะมองคุณหมอขี้เมาและอีกสามขุนพลขี้เหล้าอย่างอดสู
“ใช่ซี๊...” ชารบโงนเงนแกว่งนิ้วชี้ใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนรักอย่างอาฆาต “ฉันมันบ้า...เอิ๊กก...บ้ารักซินจ๋า...โฮๆๆ”
“พวกแกจะหวงซินก็ให้มันมีลิมิตหน่อยเถอะ อย่าเวอร์ให้มันมากนัก” นนท์นทีแงะแก้วน้ำสีอำพันออกจากมือของจารัญซึ่งหนีไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้ว พลางหันไปเอาหมอนยัดใต้ลำคอให้เขตต์ที่นอนคอหักอยู่บนพื้น และใช้ปลายเท้าเขี่ยผ้าห่มคลุมร่างให้ปกรณ์อย่างทุลักทุเล
“หรือแกจะให้ซินแต่งงานกับไอ้แรคคูนล่ะ” สัตว์ขนฟูที่นนท์นทีกล่าวถึงคือคุณชายหลี่เหลาฟาง ศัตรูคู่อาฆาตที่มีคดีความกับพวกเขายาวเป็นหางว่าวนั่นเอง
“กับใครฉันก็ไม่ให้ทั้งน๊านน...” ชารบหมุนคอตามแกนโลก “โอย...ทำไมโลกหมุนเร็วงี้วะ!”
“แกก็หยุดหมุนคอสิวะน!” นนท์นทีตะคอกอย่างหัวเสีย “ฉันไปนอนก่อนนะ ใกล้จะได้เวลาซินตื่นมาเข้าห้องน้ำแล้วด้วย”
ชารบกระโดดลอยตัวเป็นซุปเปอร์แมนขี่หลังนนท์นทีจนหน้าคะมำจูบพื้นพรมโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นคุณหมอขี้เมาก็ใช้ขาทั้งสองข้างคีบเอวชายหนุ่มไว้แน่นเหมือนตะพาบน้ำก็ไม่ปาน
“ม่ายห้ายปาย...เอิ๊ก...” ขี้เหล้าหลวงเป่าลมปากเรอกลิ่นเหล้าใส่หน้าของนนท์นที “หั๊วเด็ดตีนขาดอย่างไร ฉ๊านก็ไม่ให้แกตีเมืองน้องน้อยแตกหรอกโว้ย...ฟู่...ห่า...จงเมากลิ่นเหล้าแล้วหลับซะ”
“ไอ่รบ ลงไปจากหลังฉัน...” จิ้งจกนนท์นทีซึ่งนอนแบบราบอยู่บนพื้นพยายามควบคุมอารมณ์ไล่ตัวตะพาบน้ำอย่างใจเย็นที่สุด “พรุ่งนี้ซินมีนัดคุณหมอแต่เช้า แกจำไม่ได้เหรอ”
“โห่ห่าา...จำด๊ายสิวะ แต่พรุ่งนี้ศาสตราจารย์จะมาหาที่บ้าน ซินจ๋าไม่ได้ไปโรงพยาบาลสักหน่อย ไม่งั้นฉันไม่กล้ากินเหล้าย้อมใจแบบนี้หรอก พูดแล้วรบเจ็บหัวไต...โฮๆๆๆ...ฟรื้ดด...” คุณหมอรบพูดพร่ำเสร็จก็ร้องไห้กระซิบๆป้ายขี้มูกฟื้ดฟ๊าดใส่หัวท่านขุนพลใหญ่ยกใหญ่
“หัวไตพ่องซิ! หัวใจโว้ยย!” นนท์นทีเริ่มตะคอกด้วยความเหลืออด “ไอ้เวรรบ ลุกเดี๋ยวนี้!”
“ไม่!” ยิ่งตะคอกชารบก็ยิ่งกอดหลังแนบแน่นเป็นตีนตะพาบพร้อมกับกระซิบกระซาบชวนสยิว “ให้รบบี้นอนกับนนท์นี่นะ เขาอยากนอนกอดซินจ๋าด้วย”
“ไอ้รบ!” ความอดทนของนนท์นทีขาดผึงถึงขีดสุด ชายหนุ่มตะแคงข้างกลิ้งหลุนๆไปเกาะโซฟาพลางเหยียบตูดงอนของเขตต์ที่นอนขวางที่ขวางทางแล้วดันตัวลุกขึ้นยืนโดยที่ไอ้ตะพาบขี้เมาก็ยังคงเกาะหลังหนึบหนับไม่ปล่อย
“แกต๊ายย...” พูดจบท่านขุนพลใหญ่ก็วิ่งถอยหลังชนกำแพงวอเปเปอร์สวยดังปึ๊กๆๆพร้อมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือของตะพาบยักษ์ที่โหยหวนลั่นห้องนั่งเล่น
“โอ้ยๆๆ...ใครก็ได้ช่วยรบด้วย ซินจ๋าๆๆ...ไอ้นนท์จะฆ่าพี่!” เสียงแปดหลอดของชารบไม่ได้นำพาให้ไอ้หนุ่มสามขุนพลขี้เมาตื่นขึ้นมาช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย
จารัญผงกหัวมองเล็กน้อยแล้วก็ทำหน้ายุ่งตะแคงข้างกอดแจกันหลับอุตุฝันถึงน้องแพนเค้กต่อ ปกรณ์ขยี้ตาสางผมแล้วนอนฟุบกระดกตูดงอนสองสามครั้งก็ตามจารัญไปติดๆ จะมีก็แต่เขตต์ที่ส่งเสียงทักอย่างคนเมาแอ้แป้ด้วยความเป็นห่วง...แค่น้องน้อย
“จุ๊ๆๆ...พวกแกอย่าเล่นกันเสียงดังสิวะ เดี๋ยวน้องน้อยก็ตื่นหรอก” ขุนพลเขตต์เอ็ดเหมือนคนละเมอเบาๆ
“ปั๊กๆๆ” นนท์นทีดันหลังกระแทกกำแพงไม่ยั้งพร้อมกับแยกเขี้ยวขู่ตะพาบยักษ์ “ไอ้เห็บหมา แกจะปล่อยดีๆหรือจะให้ช้ำในตายห๊ะ”
“ฉันเป็นเห็บแกก็เป็นหมาล่ะวะ” เห็บตัวเขื่องรั้งท่อนขาคีบเอวสอบหมาตัวใหญ่แน่นหนึบ “ต่อให้ช้ำในตายฉันก็ไม่ปล่อยโว้ย โอ้ยๆ...ฉันต้องรักษาความบริสุทธิ์ของน้องน้อยไม่ให้แกย่ำยีเด็ดขาด!...ฟู่ๆ...ห่าๆ...โอ้ย!”
การหยอกเย้าของสองเพื่อนสนิทยามค่ำคืนคงจะเอ็ดตะโรมากไปหน่อย จึงทำให้เพ่ยอิงอิง...พี่เลี้ยงสาวของคุณหนูเล็กแห่งตระกูลซางหรือนางฟ้าตัวน้อยของห้าขุนพลอดที่จะเดินเข้าไปตักเตือนไม่ได้ แล้วเธอก็ต้องถอนหายใจให้กับสภาพห้องนั่งเล่นที่เละยิ่งกว่าเจอพายุไซโคลนเป็นไหนๆ ยิ่งเห็นคุณชายบุญธรรมแห่งตระกูลซางทั้งสองเอาตัวกระแทกกำแพงหยอกเย้ากันสนุกสนานก็ยิ่งอ่อนใจ
“คุณนนท์ คุณรบคะ เลิกเล่นเสียงดังเถอะค่ะ”
นนท์นทีวิ่งหันหลังชนกำแพงปึกๆ “ผมไม่ได้เล่น ผมเอาจริง!”
“อาอิงช่วยผมด้วย เอิ๊กก...อ๊วกก...” คุณหมอรบพูดป้อแป้ไม่ทันขาดคำก็อาเจียนโอ๊กอ๊ากเต็มท้ายทอยนนท์นทีด้วยความตั้งใจ
นนท์นทีสะบัดตัวทิ้งเพื่อนรักก้นจ้ำเบ้าพลางเอามือเช็ดท้ายทอยลวกๆ “ไอ้เวรรบ!”
ขี้มูกคลุกเคล้าหน่อไม้ฝรั่ง แครอท หมูผัดกระเทียมพริกไทย มะม่วง กะปิหวาน ผสมวิสกี้กลิ่นหึ่งลอยฉุนเต็มศีรษะท่านขุนพลใหญ่ประจำแก๊งห้าขุนพล
นนท์นทีหอมอาหารมื้อเย็นของชารบถึงขนาดโก่งคอแทบจะอาเจียนตาม
“อาอิงผมฝากพวกมันด้วยนะ” พูดจบชนิดที่ไม่ต้องรอให้พี่เลี้ยงสาวรับคำ นนท์นทีก็วิ่งเร็วปรู๊ดเพื่อไปสระผมล้างตัวเป็นการด่วน
“ไอ้หมานนท์โว้ยย กลับมาก๊อนน อย่าทิ้งเห็บผู้น่าสงสาร...เอิ๊กก...” ชารบนั่งจุมปุกหมุนเอวเมาอ๋อแอ๋
เพ่ยอิงอิงนั่งชันเข่ามองหน้าพี่ชายสุดสวาทของเจ้านายตัวน้อยอย่างละเหี่ยใจ “คุณรบคะ”
“อ๋า...อาอิงเหรอ ช่วยหาน้ำหวานให้ผมดื่มหน่อยสิ” ปากพูดอย่างมือทำอย่าง ชารบนั่งอ้าแขนรอให้คุณพี่เลี้ยงคนสวยช่วยประคองด้วยแววตาออดอ้อนน่าเอ็นดู
“ตกลงคุณรบจะให้พี่หาน้ำหวานเอามาให้ดื่ม หรือจะลุกไปหาน้ำหวานเองคะ”
คนขี้เหล้าผงกหัวที...ส่ายหัวอีกสองที...แล้วฉีกยิ้มแฉ่งอวดฟันสวย “อาอิงอุ้มผมหน่อยสิ”
เพ่ยอิงอิงถอนหายใจพร้อมทั้งช่วยพยุงคนตัวโตลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล “ไปห้องครัวกันนะคะ”
ชารบเป็นชายหนุ่มรูปร่างสมาร์ทสูงหล่อดูดีมีชาติตระกูลครบเครื่องอยู่ในตัว เขาเป็นนายแพทย์ศัลยกรรมฝีมือดีอันดับต้นๆของเมืองไทย เป็นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศที่มีสาขาทั่วมุมโลก เป็นพี่ชายสุดรักสุดหวงของคุณหนูมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลอันดับ ๑๑ ของโลก เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมเป็นนายชารบ ธนาพฤกษ์ เกือบสมบูรณ์ไร้ที่ติอยู่แล้วเชียว...
ยามสวมเครื่องแบบนายแพทย์...เขาคือคุณหมอผ่าตัดศัลยกรรมผู้สุขุมเอาจริงเอาจังกับงานเป็นที่รักของคนไข้ ยามสวมหัวโขนผู้อำนวยการโรงพยาบาล...เขาคือหัวหน้าผู้บริหารมือฉกาจเป็นที่รักน่านับถือของลูกน้อง
เขาเป็นชายในอุดมคติของนางพยาบาลชุดขาวและคนไข้สาวแก่แม่ม่าย...นั่นคือภาพลักษณ์ในด้านอาชีพการงาน แล้วยามถอดเครื่องแบบหัวโขนแสนหนักอึ้งล่ะ เขามีนิสัยเช่นไร...น้อยคนนักที่จะล่วงรู้ความลับระดับชาติว่าแท้จริงแล้วคุณหมอชารบ...
‘เกรียนเรียกพี่...ติ่งเรียกน้อง...ติ๊งต๊องเรียกเพื่อน...’
เพ่ยอิงอิงรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของคนส่วนน้อยดีว่าเป็นเช่นไร หญิงสาวประคองคุณชายบุญธรรมแห่งตระกูลซางเดินไปตามทางในสภาพเซไปทางซ้ายที...เบี้ยวไปทางขวาที...
แม้เธอจะสูงถึง ๑๗๔ เซนติเมตร แต่ยังต่ำกว่าเขาที่สูงถึง ๑๘๖ เซนติเมตร จึงทำให้การประคองตุปัดตุเป๋อย่างที่เห็น
“อาอิงเดินเบี้ยว” ชารบทำหน้าตั้งคอแข็งแต่กลับหมุนเอวเดินบิดขาไขว้ “ผมเวียนหัวไปหมดแล้ว โอย...”
“คุณรบก็อย่าหมุนเอวสิคะ” คุณพี่เลี้ยงสาวสุดสวยตัดความรำคาญด้วยการแบกคนตัวโตขึ้นหลังแล้วเดินลิ่วไปที่ห้องครัวมันเสียเลย
เพ่ยอิงอิงคือหนึ่งใน ๑๒ พี่เลี้ยงของคุณหนูเล็กแห่งตระกูลซาง ตระกูลมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเอเชีย งานหลักของเธอคือคอยดูแลคุณหนูเล็ก งานรองคือควบคุมงานในสายธุรกิจของคุณหนูเล็ก งานอดิเรกคือนักฆ่าเดนตาย
ส่วนเขา...หนุ่มขี้เมาอ๋อแอ๋บนหลังเธอ เขาคือหนึ่งในแก๊งห้าขุนพลพิทักษ์นางฟ้าตัวน้อย แก๊งผู้ชายแสนธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นนอกจากตูดงามงอน ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคุณหนูเล็กเลยแม้เพียงเสี้ยว แต่กลับเป็นแก๊งพี่ชายที่เป็นดั่งหัวใจของคุณหนูเล็กแห่งตระกูลซางซะอย่างนั้น
แล้วใครเล่าจะกล้าหือกับพวกเขา...
++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ เนื่องจากเราเคยลงตัวอย่างนิยายเรื่องหนึ่ง แต่กระทู้ถูกลบเนื่องจากมีเนื้อหาเข้าข่ายโฆษณา เราจึงต้องขอโทษในความไม่รู้มาด้วยค่ะ และคิดว่าเราเลือกลงนิยายที่กำลังแต่งล่าสุดจะดีกว่า
อย่างไรแล้ว สำหรับนักเขียนมือใหม่ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนในถนนนักเขียนพันทิปด้วยนะคะ
@เกล็ดถวา