สักวาจองใจ บทที่ 1.1

บทที่ ๑  พลาดท่า



    สักวาเจ้าเอ๋ย...คุณเคยตกหลุมรักใครคนหนึ่งเพียงแค่พบสบดวงตาสุกสกาวราวลูกกวางน้อยหรือเปล่า

    คุณเคยรักใครสักคนประหนึ่งแก้วตาดวงใจหรือไม่

    คุณเคยร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังเพียงเพราะคิดถึงใครคนนั้นบ้างไหม

        หากคุณตอบว่าใช่...ใครคนนั้นของคุณไม่มีทางน่ารักเท่า “นางฟ้าตัวน้อย” ของผมหรอก

        แต่หากคุณตอบว่าไม่...ผมของแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง...ชะเอิงเอย

นายแพทย์ชารบ  ธนาพฤกษ์  เคยกล่าวไว้...




    ณ คฤหาสน์ส่วนตัวย่าน Toluca Lake ใจกลางเมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ค่ำคืนเดือนหงายฝนตกปรอยๆ  อาจเป็นคืนที่ใครหลายคนเลือกที่จะนอนหลับซุกตัวอยู่ในผ้าห่มหนา แต่ไม่ใช่สำหรับพวกเขา...


    ‘ห้าขุนพลพิทักษ์นางฟ้าตัวน้อย’


    “โอ้เหล้าจ๋าไหนลองหันมายิ้มหน่อยซิ  ยิ้มซิๆ...เอิ๊ก...ที่ร๊ากยิ้มนานๆ~♪...โฮๆๆ” คุณหมอชารบกระดกวิสกี้ราคาแพงย้อมใจพร้อมกับร้องเพลงครวญครางด้วยความเจ็บช้ำ  จะทำอย่างไรรบก็ทำใจไม่ได้จริงๆ  “ฮึก...เอิ๊กก...”


    “พวกแกเลิกบ้าสักทีได้ไหมวะ”  นนท์นทีโคลงศีรษะมองคุณหมอขี้เมาและอีกสามขุนพลขี้เหล้าอย่างอดสู


    “ใช่ซี๊...” ชารบโงนเงนแกว่งนิ้วชี้ใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนรักอย่างอาฆาต “ฉันมันบ้า...เอิ๊กก...บ้ารักซินจ๋า...โฮๆๆ”


    “พวกแกจะหวงซินก็ให้มันมีลิมิตหน่อยเถอะ  อย่าเวอร์ให้มันมากนัก”  นนท์นทีแงะแก้วน้ำสีอำพันออกจากมือของจารัญซึ่งหนีไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้ว  พลางหันไปเอาหมอนยัดใต้ลำคอให้เขตต์ที่นอนคอหักอยู่บนพื้น  และใช้ปลายเท้าเขี่ยผ้าห่มคลุมร่างให้ปกรณ์อย่างทุลักทุเล


    “หรือแกจะให้ซินแต่งงานกับไอ้แรคคูนล่ะ”  สัตว์ขนฟูที่นนท์นทีกล่าวถึงคือคุณชายหลี่เหลาฟาง  ศัตรูคู่อาฆาตที่มีคดีความกับพวกเขายาวเป็นหางว่าวนั่นเอง


    “กับใครฉันก็ไม่ให้ทั้งน๊านน...”  ชารบหมุนคอตามแกนโลก “โอย...ทำไมโลกหมุนเร็วงี้วะ!”


    “แกก็หยุดหมุนคอสิวะยิ้มน!”  นนท์นทีตะคอกอย่างหัวเสีย  “ฉันไปนอนก่อนนะ  ใกล้จะได้เวลาซินตื่นมาเข้าห้องน้ำแล้วด้วย”


    ชารบกระโดดลอยตัวเป็นซุปเปอร์แมนขี่หลังนนท์นทีจนหน้าคะมำจูบพื้นพรมโดยไม่ทันตั้งตัว  จากนั้นคุณหมอขี้เมาก็ใช้ขาทั้งสองข้างคีบเอวชายหนุ่มไว้แน่นเหมือนตะพาบน้ำก็ไม่ปาน


    “ม่ายห้ายปาย...เอิ๊ก...” ขี้เหล้าหลวงเป่าลมปากเรอกลิ่นเหล้าใส่หน้าของนนท์นที “หั๊วเด็ดตีนขาดอย่างไร  ฉ๊านก็ไม่ให้แกตีเมืองน้องน้อยแตกหรอกโว้ย...ฟู่...ห่า...จงเมากลิ่นเหล้าแล้วหลับซะ”  


    “ไอ่รบ  ลงไปจากหลังฉัน...”  จิ้งจกนนท์นทีซึ่งนอนแบบราบอยู่บนพื้นพยายามควบคุมอารมณ์ไล่ตัวตะพาบน้ำอย่างใจเย็นที่สุด  “พรุ่งนี้ซินมีนัดคุณหมอแต่เช้า  แกจำไม่ได้เหรอ”


    “โห่ห่าา...จำด๊ายสิวะ  แต่พรุ่งนี้ศาสตราจารย์จะมาหาที่บ้าน  ซินจ๋าไม่ได้ไปโรงพยาบาลสักหน่อย ไม่งั้นฉันไม่กล้ากินเหล้าย้อมใจแบบนี้หรอก  พูดแล้วรบเจ็บหัวไต...โฮๆๆๆ...ฟรื้ดด...”  คุณหมอรบพูดพร่ำเสร็จก็ร้องไห้กระซิบๆป้ายขี้มูกฟื้ดฟ๊าดใส่หัวท่านขุนพลใหญ่ยกใหญ่


    “หัวไตพ่องซิ!  หัวใจโว้ยย!”  นนท์นทีเริ่มตะคอกด้วยความเหลืออด “ไอ้เวรรบ  ลุกเดี๋ยวนี้!”  


    “ไม่!”  ยิ่งตะคอกชารบก็ยิ่งกอดหลังแนบแน่นเป็นตีนตะพาบพร้อมกับกระซิบกระซาบชวนสยิว  “ให้รบบี้นอนกับนนท์นี่นะ  เขาอยากนอนกอดซินจ๋าด้วย”    


    “ไอ้รบ!”  ความอดทนของนนท์นทีขาดผึงถึงขีดสุด ชายหนุ่มตะแคงข้างกลิ้งหลุนๆไปเกาะโซฟาพลางเหยียบตูดงอนของเขตต์ที่นอนขวางที่ขวางทางแล้วดันตัวลุกขึ้นยืนโดยที่ไอ้ตะพาบขี้เมาก็ยังคงเกาะหลังหนึบหนับไม่ปล่อย


    “แกต๊ายย...”  พูดจบท่านขุนพลใหญ่ก็วิ่งถอยหลังชนกำแพงวอเปเปอร์สวยดังปึ๊กๆๆพร้อมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือของตะพาบยักษ์ที่โหยหวนลั่นห้องนั่งเล่น


    “โอ้ยๆๆ...ใครก็ได้ช่วยรบด้วย  ซินจ๋าๆๆ...ไอ้นนท์จะฆ่าพี่!”  เสียงแปดหลอดของชารบไม่ได้นำพาให้ไอ้หนุ่มสามขุนพลขี้เมาตื่นขึ้นมาช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย  


    จารัญผงกหัวมองเล็กน้อยแล้วก็ทำหน้ายุ่งตะแคงข้างกอดแจกันหลับอุตุฝันถึงน้องแพนเค้กต่อ  ปกรณ์ขยี้ตาสางผมแล้วนอนฟุบกระดกตูดงอนสองสามครั้งก็ตามจารัญไปติดๆ  จะมีก็แต่เขตต์ที่ส่งเสียงทักอย่างคนเมาแอ้แป้ด้วยความเป็นห่วง...แค่น้องน้อย


    “จุ๊ๆๆ...พวกแกอย่าเล่นกันเสียงดังสิวะ  เดี๋ยวน้องน้อยก็ตื่นหรอก”  ขุนพลเขตต์เอ็ดเหมือนคนละเมอเบาๆ


    “ปั๊กๆๆ” นนท์นทีดันหลังกระแทกกำแพงไม่ยั้งพร้อมกับแยกเขี้ยวขู่ตะพาบยักษ์  “ไอ้เห็บหมา  แกจะปล่อยดีๆหรือจะให้ช้ำในตายห๊ะ”


    “ฉันเป็นเห็บแกก็เป็นหมาล่ะวะ”  เห็บตัวเขื่องรั้งท่อนขาคีบเอวสอบหมาตัวใหญ่แน่นหนึบ  “ต่อให้ช้ำในตายฉันก็ไม่ปล่อยโว้ย  โอ้ยๆ...ฉันต้องรักษาความบริสุทธิ์ของน้องน้อยไม่ให้แกย่ำยีเด็ดขาด!...ฟู่ๆ...ห่าๆ...โอ้ย!”


    การหยอกเย้าของสองเพื่อนสนิทยามค่ำคืนคงจะเอ็ดตะโรมากไปหน่อย  จึงทำให้เพ่ยอิงอิง...พี่เลี้ยงสาวของคุณหนูเล็กแห่งตระกูลซางหรือนางฟ้าตัวน้อยของห้าขุนพลอดที่จะเดินเข้าไปตักเตือนไม่ได้  แล้วเธอก็ต้องถอนหายใจให้กับสภาพห้องนั่งเล่นที่เละยิ่งกว่าเจอพายุไซโคลนเป็นไหนๆ  ยิ่งเห็นคุณชายบุญธรรมแห่งตระกูลซางทั้งสองเอาตัวกระแทกกำแพงหยอกเย้ากันสนุกสนานก็ยิ่งอ่อนใจ


    “คุณนนท์  คุณรบคะ  เลิกเล่นเสียงดังเถอะค่ะ”


    นนท์นทีวิ่งหันหลังชนกำแพงปึกๆ  “ผมไม่ได้เล่น  ผมเอาจริง!”  


    “อาอิงช่วยผมด้วย เอิ๊กก...อ๊วกก...” คุณหมอรบพูดป้อแป้ไม่ทันขาดคำก็อาเจียนโอ๊กอ๊ากเต็มท้ายทอยนนท์นทีด้วยความตั้งใจ


    นนท์นทีสะบัดตัวทิ้งเพื่อนรักก้นจ้ำเบ้าพลางเอามือเช็ดท้ายทอยลวกๆ “ไอ้เวรรบ!”


    ขี้มูกคลุกเคล้าหน่อไม้ฝรั่ง  แครอท หมูผัดกระเทียมพริกไทย มะม่วง กะปิหวาน ผสมวิสกี้กลิ่นหึ่งลอยฉุนเต็มศีรษะท่านขุนพลใหญ่ประจำแก๊งห้าขุนพล  


    นนท์นทีหอมอาหารมื้อเย็นของชารบถึงขนาดโก่งคอแทบจะอาเจียนตาม


    “อาอิงผมฝากพวกมันด้วยนะ”  พูดจบชนิดที่ไม่ต้องรอให้พี่เลี้ยงสาวรับคำ  นนท์นทีก็วิ่งเร็วปรู๊ดเพื่อไปสระผมล้างตัวเป็นการด่วน


    “ไอ้หมานนท์โว้ยย  กลับมาก๊อนน  อย่าทิ้งเห็บผู้น่าสงสาร...เอิ๊กก...”  ชารบนั่งจุมปุกหมุนเอวเมาอ๋อแอ๋


    เพ่ยอิงอิงนั่งชันเข่ามองหน้าพี่ชายสุดสวาทของเจ้านายตัวน้อยอย่างละเหี่ยใจ  “คุณรบคะ”


    “อ๋า...อาอิงเหรอ  ช่วยหาน้ำหวานให้ผมดื่มหน่อยสิ”  ปากพูดอย่างมือทำอย่าง  ชารบนั่งอ้าแขนรอให้คุณพี่เลี้ยงคนสวยช่วยประคองด้วยแววตาออดอ้อนน่าเอ็นดู


    “ตกลงคุณรบจะให้พี่หาน้ำหวานเอามาให้ดื่ม  หรือจะลุกไปหาน้ำหวานเองคะ”


    คนขี้เหล้าผงกหัวที...ส่ายหัวอีกสองที...แล้วฉีกยิ้มแฉ่งอวดฟันสวย “อาอิงอุ้มผมหน่อยสิ”  


    เพ่ยอิงอิงถอนหายใจพร้อมทั้งช่วยพยุงคนตัวโตลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล “ไปห้องครัวกันนะคะ”


    ชารบเป็นชายหนุ่มรูปร่างสมาร์ทสูงหล่อดูดีมีชาติตระกูลครบเครื่องอยู่ในตัว  เขาเป็นนายแพทย์ศัลยกรรมฝีมือดีอันดับต้นๆของเมืองไทย  เป็นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศที่มีสาขาทั่วมุมโลก เป็นพี่ชายสุดรักสุดหวงของคุณหนูมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลอันดับ ๑๑ ของโลก เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมเป็นนายชารบ ธนาพฤกษ์  เกือบสมบูรณ์ไร้ที่ติอยู่แล้วเชียว...  


    ยามสวมเครื่องแบบนายแพทย์...เขาคือคุณหมอผ่าตัดศัลยกรรมผู้สุขุมเอาจริงเอาจังกับงานเป็นที่รักของคนไข้  ยามสวมหัวโขนผู้อำนวยการโรงพยาบาล...เขาคือหัวหน้าผู้บริหารมือฉกาจเป็นที่รักน่านับถือของลูกน้อง  


    เขาเป็นชายในอุดมคติของนางพยาบาลชุดขาวและคนไข้สาวแก่แม่ม่าย...นั่นคือภาพลักษณ์ในด้านอาชีพการงาน  แล้วยามถอดเครื่องแบบหัวโขนแสนหนักอึ้งล่ะ  เขามีนิสัยเช่นไร...น้อยคนนักที่จะล่วงรู้ความลับระดับชาติว่าแท้จริงแล้วคุณหมอชารบ...


    ‘เกรียนเรียกพี่...ติ่งเรียกน้อง...ติ๊งต๊องเรียกเพื่อน...’


    เพ่ยอิงอิงรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของคนส่วนน้อยดีว่าเป็นเช่นไร  หญิงสาวประคองคุณชายบุญธรรมแห่งตระกูลซางเดินไปตามทางในสภาพเซไปทางซ้ายที...เบี้ยวไปทางขวาที...


    แม้เธอจะสูงถึง ๑๗๔ เซนติเมตร  แต่ยังต่ำกว่าเขาที่สูงถึง ๑๘๖ เซนติเมตร จึงทำให้การประคองตุปัดตุเป๋อย่างที่เห็น


    “อาอิงเดินเบี้ยว”  ชารบทำหน้าตั้งคอแข็งแต่กลับหมุนเอวเดินบิดขาไขว้ “ผมเวียนหัวไปหมดแล้ว  โอย...”    


    “คุณรบก็อย่าหมุนเอวสิคะ”  คุณพี่เลี้ยงสาวสุดสวยตัดความรำคาญด้วยการแบกคนตัวโตขึ้นหลังแล้วเดินลิ่วไปที่ห้องครัวมันเสียเลย


    เพ่ยอิงอิงคือหนึ่งใน ๑๒ พี่เลี้ยงของคุณหนูเล็กแห่งตระกูลซาง  ตระกูลมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเอเชีย  งานหลักของเธอคือคอยดูแลคุณหนูเล็ก  งานรองคือควบคุมงานในสายธุรกิจของคุณหนูเล็ก  งานอดิเรกคือนักฆ่าเดนตาย


    ส่วนเขา...หนุ่มขี้เมาอ๋อแอ๋บนหลังเธอ  เขาคือหนึ่งในแก๊งห้าขุนพลพิทักษ์นางฟ้าตัวน้อย  แก๊งผู้ชายแสนธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นนอกจากตูดงามงอน  ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคุณหนูเล็กเลยแม้เพียงเสี้ยว  แต่กลับเป็นแก๊งพี่ชายที่เป็นดั่งหัวใจของคุณหนูเล็กแห่งตระกูลซางซะอย่างนั้น


    แล้วใครเล่าจะกล้าหือกับพวกเขา...


++++++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีค่ะ  เนื่องจากเราเคยลงตัวอย่างนิยายเรื่องหนึ่ง  แต่กระทู้ถูกลบเนื่องจากมีเนื้อหาเข้าข่ายโฆษณา  เราจึงต้องขอโทษในความไม่รู้มาด้วยค่ะ  และคิดว่าเราเลือกลงนิยายที่กำลังแต่งล่าสุดจะดีกว่า

อย่างไรแล้ว  สำหรับนักเขียนมือใหม่ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนในถนนนักเขียนพันทิปด้วยนะคะ

@เกล็ดถวา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่