ทำไมสาวๆเมาแล้วขับ ถึงต่อรองเจรจากับตำรวจ เก่งกว่าผู้ชายเมาแล้วขับ

กระทู้คำถาม
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 12:29 น.  ข่าวสดออนไลน์    
  


โดนแล้วรายแรก!!สาวไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ กลิ่นละมุดหึ่ง ตร.ลากรถไปสน. เจอหลายข้อหาตามพรบ.ใหม่

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 11 ก.พ. ร.ต.ท.รัฐกร โอษฐ์เจษฎา รอง สว.จร.สน.บางโพงพาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกำลังตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อยู่บริเวณ ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ ใกล้กับปากซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 24 แขวงช่องนนทรี เขตยานาวา พบหญิงรายหนึ่งขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า บริโอ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กอ-2123 กทม. เลี้ยวเข้าซอยดังกล่าวเพื่อเลี่ยงด่านตรวจ พร้อมทั้งพยายามจะขับผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังตรวจรถคันอื่นอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตามไปเคาะกระจกรถ จนหญิงคนดังกล่าวยอมจอดรถข้างทาง แต่ก็ไม่ยอมลงจากรถแต่อย่างใด



จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจใบอนุญาตขับขี่บัตรประชาชนพร้อมทั้งนำเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์มาให้หญิงคนดังกล่าวเป่าแต่หญิงดังกล่าวไม่ยอมเป่าแต่อย่างใดได้แต่แง้มกระจกรถต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีมารยาทที่ไปเคาะรถก่อนนำใบอนุญาตขับขี่รถจยย.มาให้เจ้าหน้าที่ดู ทราบชื่อน.ส.ชุติมา กันทาง อายุ 28 ปี อยู่ ต.โพนบก อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่เลิกตั้งด่านตรวจจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ น.ส.ชุติมา ลงมาจากรถ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมลงจากรถแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้รถยกลากรถคันดังกล่าวมาไว้ที่ สน.บางโพงพาง

จนกระทั่งเวลา 06.30 น. น.ส.ชุติมา จึงยอมลงจากรถเข้าไปพบพนักงานสอบสวน และให้การว่า ทำอาชีพขายของ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เพิ่งไปดื่มกับเพื่อนมา แต่คิดว่ายังสามารถขับรถได้ สาเหตุที่ไม่ยอมลงจากรถเนื่องจากแต่งตัวไม่เรียบร้อย และเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ส่วนใบขับขี่รถยนต์กับบัตรประชาชนนั้นไม่ได้เอามาเนื่องจากเปลี่ยนกระเป๋า



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถยนต์ขณะมึนเมาสุราหรือเมาอย่างอื่น,ขับรถขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ,ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์, ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ และไม่แสดงบัตรประจำตัวประชาชน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านร.ต.ท.รัฐกร กล่าวว่า ช่วงที่ น.ส.ชุติมา จอดรถอยู่ในซอยดังกล่าว และยอมเปิดกระจกรถคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากเจ้าตัว จึงขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ พร้อมทั้งขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ น.ส.ชุติมา ก็แสดงใบขับขี่รถจยย. และแง้มกระจกรถคุยกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น เกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่ยอมเป่าหรือลงจากรถแต่อย่างใด

แต่ตามกฎหมายพ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับใหม่ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้นั้นได้ปรับเพิ่มความเข้มงวดในการเอาผิดทางกฎหมายกรณีไม่ยินยอมให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ให้สันนิษฐานว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าเมาไว้ก่อนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้นทำให้เมื่อเลิกด่าน จึงต้องใช้รถมายกรถของ น.ส.ชุติมา มาที่สน.บางโพงพาง พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา เมาแล้วขับ และข้อหาอื่นๆ ได้ทันที ซึ่งกรณีถือเป็นครั้งแรกที่ไม่ยอมเป่าแล้วสามารถแจ้งข้อหาได้ทันที หลัง พ.ร.บ.ใหม่มีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ผู้ต้องหาสามารถไปสืบพยานหักล้างในศาลได้ภายหลัง
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU16WXpNalkzTXc9PQ==&subcatid=
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่