เรื่องเล่า ของคนนอกใจแฟน [ช/ช]

สวัสดีครับ ผมยืมแอคเค้าเพื่อนเข้ามาเล่านครับ

ก่อนอื่นผมมีเรื่องจะมาเล่าครับ เป็นเรื่องที่ผมเก็บเอาไว้ในใจมานานมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองครับ อยากจะให้ไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครหลายๆคนที่คิดจะนอกใจแฟนครับ
เริ่มกันเลยนะครับ ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่า ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นี้ผมมีแฟนอยู่แล้ว แฟนผมชื่อว่าเอสครับ (นามสมมติ) ส่วนผมขอแทนตัวเองว่าปิงนะครับ
ผมกับปิงคบกันมา 6 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยด้วยกัน พอเรียนจบ เอสก็กลับไปอยู่บ้าน ส่วนผมก็อยู่หอที่ไกลกัน ต่างคนก็ต่างทำงานครับ เอสทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนผมทำงานที่ช่องทีวีแห่งหนึ่งในส่วนของรายการข่าว เรื่องมันเริ่มที่ด้วยงานของผม ต้องประสานงานกับแผนกต่าง ๆ แล้วก็ต้องเดินไปเดินมาในออฟฟิต ซึ่งก็จะมีบรรดานักข่าว บก.ข่าว ผู้ประกาศข่าวมากหน้าหลายตา และทุกวันผมต้องเดินผ่านโต๊ะฝ่ายข่าวบันเทิง ซึ่งก็มีบรรดาเก้งกวางนั่งอยู่ พี่ๆเขาคงดูออกว่าผมเป็นเกย์ เขาก็เลยแซวผมบ้าง หยอกบ้างแล้ววันหนึ่ง  พี่ที่โต๊ะบันเทิงเขาก็รั้งผมไว้ และถามว่าผมชื่ออะไร ผมก็บอกไปว่าชื่อปิงครับ พี่เขาชื่อเค้ก แล้วเค้าก็สะกิดเพื่อนเขาด้านหลังให้หันมามอง ว่านี่น้องปิงนะ ส่วนพี่คัพก็แนะนำให้ผมรู้จักกับพี่เนสครับ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมรู้จักพี่เนส พี่เนสเป็นเกย์ที่เปิดเผยครับ เขาเป็นผู้ประกาศข่าวบันเทิง มีรายการของตัวเอง แต่บางครั้งก็ต้องออกไปทำข่าวนอกสถานที่บ้างบางครั้ง ผมก็เห็นเขาบ่อย เพราะเขาเป็นคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ครับ ออกแนวหุ่นยักษ์ แต่ไม่ได้อ้วนนะครับ ล่ำๆ มากกว่า สำหรับผมหน้าตาก็งั้นๆ ไม่ได้หล่อมาก แต่ด้วยหุ่นที่ล่ำ มักทำให้ผมชอบมองบ่อยๆ แต่ในตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะผมก็แค่ทีมงานข่าวคนนึง ไม่ได้โดดเด่นมากครับ

มาเล่าต่อในส่วนของโต๊ะบันเทิง ผมมีเพื่อนที่ชื่อแนนอยู่โต๊ะข่าวบันเทิงที่สนิทกัน เพราะแนนชอบเดินมาถ่ายเอกสารตรงโต๊ะที่ผมนั่งบ่อยๆ เลยแซวๆและสนิทกัน แล้ววันนึง พี่ในทีมผมซื้อถั่วต้มมา ก็นั่งกินกัน ผมก็เห็นแนนนั่งทำงานอยู่ เลยเดินเอาถั่วต้มไปให้ ในช่วงนั้นยังฮิตประโยคที่ว่า “มีถั่วไหม” ผมก็เลยเดินไปแซวว่า “มีถั่วนะ เอามาให้” พี่เนส จากที่ไม่เคยคุยกันมาก่อน ไม่เคยมองหน้า ไม่เคยสนทนา จู่ๆก็ถามผมว่า “แล้วของผมล่ะ” ผมก็อึ้งๆไปพักนึง แล้วก็เลยไปหยิบถั่วให้พี่เนส และนั่นคือจุดเริ่มต้นในการคุยกันครั้งแรกของเราครับ

ปกติในช่วงบ่ายๆ ผมมักชวนแนนลงไปซื้อชาไข่มุกที่ใต้ตึกครับ ตามประสาคนทำงานออฟฟิต แล้ววันที่ผมเอาถั่วไปให้พี่เนส ผมก็ชวนแนนไปซื้อชาไข่มุกเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ พี่เนสขอไปด้วย ผมก็ งงๆ แต่ก็ไปครับ ก็แอบเกร็งๆที่พี่เขาไปด้วย คุยกับแนนไม่สะดวกสักเท่าไหร่ เพราะผมไม่รู้จักพี่เนส ไม่เคยคุยกับพี่เนสนี่ครับ แนนกับพี่เนสก็คุยกันเรื่องงานทั่วไป ส่วนผมก็ได้แต่ยืนนิ่งๆไม่กล้าคุยอะไร
ด้วยความที่ยุคนี้เป็นยุคโซเชียล ไลน์กลุ่มในที่ทำงานจึงมีเป็นปกติ ผมกับพี่เนสอยู่ในไลน์กลุ่มทำงานด้วยกัน เพราะรายการที่ผมทำ มีช่วงข่าวบันเทิง พี่เนสก็เป็นผู้ประกาศของช่วงนั้น ในไลนกลุ่มพี่เนสก็เลยอยู่ด้วยครับ แล้วจู่ๆวันนึงตอนผมกำลังกลับบ้าน ผมก็เปิดดูไลนเห็นว่าพี่เนสแอดผม ผมก็ตกใจว่าเขาแอดผมมาทำไม ไม่ทันไรครับ พี่เนสก็ส่งสติ๊กเกอร์มาหาผม ผมก็ยังคงอึ้งอยู่ ว่าพี่เนสทักผมมา เพราะจะจีบผมหรอ หรือว่ามีธุระอะไร หรือว่าชวนผมคุยเล่น ผมก็งงๆ แต่ก็แอบดีใจครับ ผู้ประกาศข่าวมาชอบเรา ถือว่าไม่เบานะเนี่ย (แอบหลงตัวเองนิดนึงครับ) พอผมไม่ตอบ พี่เนสก็ส่งสติ๊กเกอร์มาอีก ทั้งกอด ทั้งยิ้ม ส่งมาหมดครับ ผมก็ส่งหน้ายิ้มไป พี่เนสก็เริ่มบทสนทนาครับ



ในช่วงแรกก็คุยกันทั่วไปตามประสาหมาหยอกไก่ คุยบ้าง อ่านบ้าง ตอบบ้าง เพราะยังต้องเจอกันที่ทำงานเลยไม่ได้โจ่งแจ้งมาก แล้วก็มาถึงวันหยุด แต่ยังมีครึ่งทีมผมทำงาน พี่ๆที่ทำงานเขาคุยกันแล้วส่งรูปกันผมก็พิมพ์ไปว่า “น่ารักจัง” เป็นรูปพี่ที่ทำงานครับ ผู้หญิง สักพัก พี่เนสก็ทักส่วนตัวผมมาว่า “น่ารักจัง” ผมก็ถาม อะไรครับ พี่เนสก็บอกว่า “ปิงน่ะ น่ารักจัง” ผมนี่เขินตัวบิดเลย แหะๆ แล้วก็คุยกันเรื่อยเปื่อยตามประสาครับ ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเขาเริ่มจีบผม แล้วจู่ๆเขาก็ถามครับว่า “วันหยุดไม่ได้ไปไหนกับแฟนหรอ” ผมก็ไม่ได้ปิดบังครับว่าผมมีแฟน ก็เลยบอกไปว่า “แฟนทำงานครับ” เขาก็ไม่ได้อะไร แล้วเราก็คุยกันต่อ เอาเป็นว่า เขารู้ว่าผมมีแฟน สักพักคงเลิกคุยแหละมั้ง แต่มันไม่ใช่น่ะสิครับ
คุยกันนานวันเข้า พี่เนสก็มักจะซื้อน้ำปั่นมาให้ผมเสมอ พี่เนสรู้ครับว่าผมชอบดื่มกล้วยนมปั่น ก็จะแวะซื้อก่อนเข้าออฟฟิตมาให้ผมเสมอ พี่ๆทีมเดียวกันก็เริ่มเห็นว่าจู่ๆผมก็มีน้ำปั่นปริศนามา แต่ก็ไม่รู้ว่าผมเสกมาจากไหน พี่หน่อย พี่ที่สนิทกับผมก็เริ่มแซว ผมก็ปรึกษากับพี่หน่อยนี่แหละครับ เพราะพี่หน่อยรู้จักพี่เนส (เพื่อนสนิทพี่หน่อยเป็นเพื่อนสนิทพี่เนสครับ พี่หน่อยก็เอาเรื่องนี้ไปเม้ากับเพื่อน เพื่อนพี่หน่อยก็เม้าพี่เนสให้พี่หน่อยฟัง พี่หน่อยก็เอามาเล่าให้ผมฟังต่อ แหะๆ) พี่หน่อยบอกว่า พี่เนสเป็นคนที่สุดทุกอย่าง เที่ยวสุด ดื่มสุด และก็รักสุด แต่พี่เนสเจ้าชู้นะ ดูจากหน้าและสายตาก็รู้ สายตาเจ้าชู้ชัดๆ ผมก็ขำ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คือเราก็รู้สึกดีที่มีคนมาชอบเรา แต่ตอนนั้นผมยังคงท่องเอาไว้ว่าผมมีแฟนแล้ว ผมมีแฟนแล้ว

น้ำหยดลงหินทุกวันมันกล่อนครับ วันนึงผมไปทานข้าวกับพี่ๆทีมงาน ผมก็ทักพี่เนสไปเป็นครั้งแรก ด้วยการส่งรูปอาหารไปว่า มากินข้าวกับทีมงาน พี่เนสก็บอก อยากไปด้วย ไว้วันหลังไปกินข้าวดูหนังกันนะ ผมก็ตอบตกลงไปครับ ในตอนนั้นผมก็มานั่งเสียใจทีหลังที่ตกลงไป แต่สุดท้ายก็ไปครับ เรื่องแรกที่เราดูคือ สไปร์เดอร์แมน ผมชวนพี่หน่อยไปด้วยครับ เพราะผมไม่สะดวกใจจะไปสองต่อสอง พี่หน่อยเป็นพี่ที่น่ารัก ก็ไปเป็นเพื่อนผมครับ หลังจากดูหนังจบ พี่เนสก็ขับรถไปส่งพี่หน่อย แล้วคราวนี้ถึงเวลาที่อยู่สองต่อสอง พี่เนสขอจับมือผมไว้ตอนขับรถไปส่ง ตอนนั้นผมนี่เขินไม่กล้ามองหน้าเลย เขาเอามือผมไปกุมไว้ที่ต้นขาครับ แล้วก็จับเอาไว้ตลอดจนถึงหอผม ก่อนลงผมก็ขอบคุณเขา เขาก็เอื้อมมา ขอบคุณผมเหมือนกันที่ไปกับเขาครับ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่เริ่มสานความสัมพันธ์ของเราครับ



การสนทนาของเราก็ดำเนินไปเรื่อยๆโดยไม่มีคนรู้นอกจากพี่หน่อย พี่เนสเริ่มชวนผมคุย 18+ ซึ่งผมก็พยายามบ่ายเบี่ยง เพราะผมกลัวว่าเขาจะมาหลอกฟันผมครับ แล้ววันนึง พี่เนสก็บอกว่า หิวไหม จะซื้อกล้วยนมปั่นไปฝาก ตอนแรกก็บ่ายเบี่ยง แต่ทนแรงตื้อไม่ไหว ก็เลยใจง่ายครับ 555 แต่ให้เขาสัญญาว่า จะไม่ทำอะไรเกินเลยกับผมเด็ดขาด เขาก็รับปากครับ สักพักพี่เนสก็มาถึงหน้าหอผมพร้อมกล้วยนมปั่น ผมก็ลงไปรับแบบเขินๆ เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่เนสสภาพไม่แต่งหน้า ไม่ทำผม เป็นสภาพบ้านๆเลยครับ แล้วผมก็พาผู้ชายขึ้นห้อง !!! แอบรู้สึกผิดกับแฟนนิดนึง แต่ตอนนั้นมันรู้สึกตื่นเต้น ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พี่เนสก็มานั่งๆคุยกับผม สักพักก็กลับ โดยไม่แตะต้องตัวผมสักนิดเลยครับ ทำให้ผมปลื้มมาก
วันต่อมาพี่เนสก็ขับรถไปส่งผมที่หอ และเราก็เริ่มไปดูหนังกันโดยไม่มีพี่หน่อย ไปกินมื้อค่ำกันสองคน แล้วก็มาส่งผม มานั่งคุยบ้าง ผมเริ่มชอบเขาครับ เริ่มนอนตัก ให้เขาลูบหัว พี่เขาก็แอบหอมแก้ม จูบเหม่งผมเบาๆครับ แต่ตอนนั้นยังไม่มีอะไรเกินเลยครับ เราก็คุยกันหลายเรื่อง เรื่องแฟนผม เรื่องแฟนเขา ใช่ครับ ผมก็เพิ่งรู้ ผมตกใจมากที่รู้ว่าเขามีแฟน แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะผมก็มีแฟน เอาเป็นว่าตอนนี้ เราทั้งคู่ต่างมีแฟนกันแล้ว และมาคุยกัน
แล้ววันนึง พี่เนสก็ขอนอนที่ห้องผมครับ คืนนั้นผมก็เสียจูบแรก เป็นจูบที่ดูดดื่มมากครับ เป็นจูบที่มาจากความชอบ แต่ไม่ใช่ความรัก เพราะตอนนั้นผมเริ่มชอบพี่เนสแล้วครับ คืนนั้นเรานอนกอดกัน มีความสุขมากครับ
มีคืนที่ 1 ก็มีคืนที่ 2 พี่เนสมานอนอีก คราวนี้เราจูบกันดูดดื่มมากครับ และพี่เนสก็เริ่มจะถอดเสื้อผ้าผมออก เราทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยครับ แต่ผมก็หยุดเอาไว้ครับ เพราะผมไม่พร้อมครับ แต่อารมณ์มันก็มาแล้ว ทำให้เราต่างคนต่างช่วยกันจนเสร็จครับ
คืนที่ 3 เราก็ทำแบบเดิมครับ แล้วก็นอนกอดกันจนเช้า พี่เนสก็ไปส่งผมทำงาน ส่วนพี่เนสก็กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า บางครั้งก็ไปเล่นฟิตเนสก่อนค่อยไปทำงาน เหมือนใช้ชีวิตด้วยกันอ่ะครับ เช้ามาส่งผมทำงานทุกวัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีความสุขมาก ผมชอบนอนตรงไหล่เขา แล้วก็นอนดูทีวีด้วยกันทุกวัน ต่างคนต่างแฮปปี้มีความสุขดีครับ
คืนที่ 4 ผมมีอะไรกับพี่เขาครับ เราต่างเป็นของกันและกัน ผมไม่ถือว่าเขาผิดสัญญาเพราะเป็นผมเองต่างหากที่ต้องการ แต่เราก็คุยเรื่องนี้กันตลอด เซ็กของเราเร่าร้อนครับ ผมยอมรับเลยจริงๆ แล้วก็มีคืนต่อๆๆมาหลายคืนครับ ตอนนั้นผมยอมรับเลยครับว่าผมชอบเขาหัวปักหัวปำ ชอบมากก็เริ่มหึงหวงครับ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมสงสัยครับ ปกติพี่เนสจะไม่ตั้งเตือนไลนเลย แล้วนอนอยู่ข้างๆผม ผมก็สงสัยครับว่าเขาคุยกับใครนักหนา สายตาผมไวครับ รหัสปลดล็อกไม่ใช่เรื่องยากถ้าจะแอบดู พอพี่เนสอาบน้ำผมก็เปิดอ่านครับ เท่านั้นแหละ ผมก็เห็นว่าเขาคุยกับใครบ้าง ก็เลือกๆดู พวกหน้าตาที่ดร็อบกว่าผม ผมไม่สนใจ แต่ก็มีบางคนที่ดูดีครับ ผมก็แอบแซะๆถามพี่เนสว่าใคร เขาก็เล่าหมดครับ เพราะผมบอกถ้าบริสุทใจก็เล่าเถอะ ผมไม่โกรธ
แล้ววันนึง ปัญหาก็เกิดครับ พี่เนสไปฟิตเนส แล้วก็เจอแฟนตัวเองมาเซอร์ไพร์ที่ฟิตเนส (ปกติแฟนพี่เนสอยู่ไกลมาก) เพราะพี่เนสเปลี่ยนไป ทะเลาะกับแฟนบ่อยขึ้น ผมคิดว่า แฟนพี่เนสคงจะจับพิรุตได้ว่าพี่เนสเปลี่ยนไป เลยตามมาดูที่ฟิตเนส วันนั้นพี่เนสก็เลยไม่ได้ตอบไลน์ผม แต่คืนนั้นพี่เนสตั้งใจจะมานอนหอผมครับ แต่เขามาดึกหน่อย พอพี่เนสมาถึงสักพัก เรากำลังจะนอน แฟนพี่เนสก็โทรมาครับ ถามว่าอยู่ไหน พี่เนสก็บอกอยู่บ้านกำลังจะนอน แฟนพี่เนส (ชื่อพี่กมล) ก็ถามย้ำครับ พี่เนสก็เริ่มหงุดหงิด บอกว่าอยู่บ้านๆทำไมไม่เชื่อ สักพัก พี่กมลก็ร้องไห้ แล้วบอกว่าตอนนี้อยู่ที่หอ.....ซึ่งเป็นหอผมครับ แล้วพี่กมลก็บอกให้พี่เนสลงไปเคลียร์ข้างล่าง พอพี่เนสวางโทรศัพท์ผมก็รู้เลยครับ คืนนี้ไม่ได้นอนแน่ๆ พี่เนสบอกว่าต้องลงไปเคลียร์กับพี่กมล (พี่กมลแก่กว่าพี่เนสครับ) ผมก็ยิ้มแล้วไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้เขาไปคุยกันครับ เพราะเรื่องถึงขั้นนี้แล้ว แฟนเขาจับได้แล้ว ผมเป็นมือที่สามต้องหลบครับ แต่ก็มายืนรอดูที่ระเบียง ว่าพี่กมลกับพี่เนสเดินไปคุยกันที่ไหน พี่เขาขึ้นไปคุยที่รถพี่กมลครับ นานเลยทีเดียว พี่กมลโทรมาประมาณ 3 ทุ่ม พี่เนสลงไปคุยถึงตี 2 สักพักพี่เนสขึ้นมา ผมไปเปิดประตูครับ พี่เนสก็เข้ามากอดพร้อมกับร้องไห้หนักมา แล้วก็กอดผมบอกผมว่า “ผมขอโทษๆๆๆ” พูดย้ำไปย้ำมา ผมก็ได้แต่กอดเค้าไว้ครับ แล้วก็ตบหลัง ใจในก็ร้องไห้ แต่ต่อหน้าผมจะไม่อ่อนแอครับ ผมก็ตบหลังเขาบอกเขาว่า “ไม่เป็นไร ปิงเข้าใจๆๆ” เขาก็บอกว่าพี่กมลรออยู่หน้าลิฟ คืนนี้ต้องไปนอนบ้านพี่กมล เขาขึ้นมาเก็บเสื้อผ้า ผมก็อึ้งๆ แต่ก็มองเขาเก็บเสื้อผ้าครับ ตลอดเวลาพี่เนสขอโทษผมเป็นพันครั้ง ทั้งร้องไห้ สลับกับมากอดผมครับ จนพี่กมลออกไป ผมกรีดร้องดังลั่นห้องเลยครับ ลงไปนอนกับพื้น ร้องไห้ กรีดร้องจนสุดเสียง นอนชักดิ้นชักงอ และคืนนั้นผมก็ไม่ได้นอนครับ


เดี๋ยวมาต่อครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่