หลวงพ่อเล่าเรื่อง...นางมาคันทิยา(เราไม่สามารถห้ามใครไม่ให้ตกนรกได้)กฏของกรรม

พระนางมาคันทิยา อยู่ในแคว้นกุรุ มีพ่อชื่อ มาคันทิยาพราหมณ์ มีแม่ชื่อ มาคันทิยพราหมณี
ตัวเธอเองก็ชื่อ มาคันทิยา เหมือนกัน และก็มีอาชื่อ มาคันทิยพราหมณ์ เหมือนกัน


ปรากฏว่า มาคันทิยานี้เป็นคนสวยมาก ( ตามบาลีท่านบอกว่า สวยมาก ) จะสวยขนาดไหนก็ไม่ทราบ
มีคนเขามาขอเรื่อยๆ แต่ว่าพ่อไม่ตกลง ว่า ลูกสาวของเราสวย ศักดิ์ศรีของคนที่มาขอไม่ดีพอ
จะรอคนที่มีศักดิ์ศรีดี สมกับความสวยของลูกสาว



ต่อมาวันหนึ่ง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรวจดูอุปนิสัยของสัตว์ ก็เห็นพราหมณี สองคนนี้จะมีวาสนาบารมี
บำเพ็ญบารมีเดิมดีแล้ว เมื่อฟังเทศน์จบย่อๆ จบเดียว เธอจะได้เป็นไพระอนาคามี
หลังจากนั้น บวชในสำนักขององค์สมเด็จพระชินสีห์พ่อกับแม่ คือคันทิยพราหมณ์ กับมาคันทิยาหมณี ก็จะได้เป็นพระอรหันต์

ฉะนั้น ในตอนเช้า องค์สมเด็จพระภควันต์ จึงเสด็จไปยืนอยู่แถวหลังบ้าน ใกล้ทางที่พราหมณ์จะออกไป
วันนั้นพอดีพราหมณ์ มีธุระออกนอกบ้าน ไปเจอะองค์สมเด็จพระพิชิตมารมีรูปร่างน่าตาสวย จึงคิดว่า
ชายคนนี้ควรที่จะเป็นลูกเขยของเรา สวยพอดิบพอดีกับลูกสาวของเราถ้าเป็นสามีของลูกสาวเรา
สวยพอดิบพอดีกับลูกสาวของเรา ถ้าเป็นสามีของลูกสาวเรา จะมีศักดิ์ศรีมาก
จึงเข้าไปหาองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาค (เขาไม่รู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้า ) ว่า

โภปุริสะ บุรุษผู้เจริญ เธอสวยงามสง่าจริงๆ ฉันมีลูกหญิงอยู่คนหนึ่ง สวยมาก ไม่คู่ควรกับคนอื่น
แต่ถ้ากับเธอคู่ควรกันจริงๆ รออยู่ตรงนี้นะ ฉันจะนำลูกหญิงมาเป็นภรรยาของเธอ

เมื่อฟังตรงนี้แล้ว บรรดาภิกษุหนุ่มทั้งหลาย และสามเณรและญาติโยมที่เป็นหนุ่ม
คิดแล้วเสียวใจนิดหนึ่งว่า ถ้าเราโดนกันแบบนั้นจะทำอย่างไร
สำหรับเณรทั้งหลาย น่ากลัวจีวรหายหมด ผลที่สุดก็จะถูกควายเขาอ่อนขวิดพังไป
ทีนี้บังเอิญเป็นองค์สมเด็จพระสมพระจอมไตร ซึ่งหมดกิเลสแล้ว

องค์สมเด็จพระประทีปแก้วฟังแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ก็นิ่งเฉยไว้ หลังจากนั้นพราหมณ์ก็เข้าบ้าน
บอกว่านางพราหมณีว่า นี่ยาย แต่งตัวลูกสาวเร็วๆ นะ ฉันไปเจอะลูกเขยรูปหล่อแล้วมันสวยจริงๆ
สมกับลูกสาวของเรา เมื่อพราหมณณ์เดินกลับเข้ามา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ทรงแสดง
รอยพระบาท ที่เขาเรียกว่ากันว่า เจดีย์ ซึ่งมีกงจัก รูปสิงห์ รูปอะไรเป็นต้น ให้ปรากฏรอยอยู่แล้ว
สมเด็จพระบรมครูก็หลีกไปอยู่ใกล้ๆ และบันดาลให้พราหมณ์ไม่เห็นตัว



เมื่อพราหมณีแต่งตัวลูกสาวแล้ว จะไปมอบให้หนุ่ม ออกมาแล้วท่านตาไม่เห็นหนุ่ม หาท่าไรๆ ก็มองไม่เห็น
พระพุทธเจ้าทรงอธิษฐานไม่ให้เห็นองค์ท่าน ในตอนนั้น นางพราหมณีมองดูรอยเท้า ดูแล้วพิจารณาเห็นว่า
เป็นรอยเท้าของคนที่ไม่มีกิเลส ไม่คู่ควรกับการครองเรือน จึงบอกกับท่านตาว่า ตา รอยเท้าคนนี้ไม่มีการครองเรืองแล้ว
คือว่า คนที่มีราคะจริต หนักในราคะ หนักในความรัก เขาจะมีอุ้งรอยเท้าด้านเส้นลึกลง หรือรอยเท้าของคนนี้ท้าโบ๋ขึ้น
ถ้าหนักในโทสะ จะมีรอยเท้าด้านส้นลึกลง หรือหนักในทางส้นเท้า คนที่มีโมหะจะหนักในด้านปลายเท้า
แต่รอยเท้าของคนนี้ เรียบเสมอกันหมด แสดงว่า เป็นคนไม่มีกิเลส

เมื่อองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์เห็นว่า นางพราหมณีรู้เท่าทันอย่างนั้น ก็แสดงพระองค์ให้ปรากฏ
ตาพราหมณ์ก็บอกว่านี่อย่างไรล่ะ ๆ คนนี้อย่างไร ทีฉันบอกว่าจะเป็นลูกเขย
เขาจึงได้จูงมือของนางมาคันทิยา ลูกสาว จะมามอบให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเข้าบอกว่า
บุรุษผู้เจริญ ลูกสาวของฉันคนนี้ มันสวยแสนสวย พระราชา อำมาตย์ข้าราชบริพารเศรษฐี มหาเศรษฐี
ต่างคนต่างมาขอกันทุกคน แต่ว่าฉันไม่ให้ใคร เพราะมันมีศักดิ์ศรีสู้ลูกสาวฉันไม่ได้
แต่ในตอนนี้ เธอเป็นคนสวยจริงๆ ดูแล้วตั้งแต่เท้าถึงหัว ตั้งแต่หัวถึงเท้า ส่วนสัดดีมาก ผิวพรรณก็สวยงามผุดผ่อง
สมที่จะเป็นสามีของลูกสาวเรา ท่านจงรับลูกสาวของเรา ไปเป็นภรรยาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา มีความปรารถนาจะสงเคราะห์พราหมณ์สองคนผัวเมีย จึงได้ตรัสกับพราหมณ์ว่า
พราหมณ์ ตถาคตเมื่ออกสู่ภิเนษกรมณ์ วันที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาโพธิณาญ ลูกสาวของพระยามาราธิราชที่มีนามว่า
นางตัณหา นางราคา นางอรดี ซึ่งเป็นนางฟ้าสวรรค์ชั้นที่ ๖ มีความงามกว่าลูกสาวท่านมาก เรายังไม่มีความต้องการ
ก็ลูกสาวของท่านนี้ แม้จะงามในฐานะมนุษย์ ก็จริงแลแต่ทว่าความงามไม่ทนนาน อายุมากไปเท่าไร
ความแก่เฒ่าก็จะเข้าครอบงำเข้าไปมากเท่านั้น ความเศร้ามากก็จะปรากฏภายนอก ในที่สุดผิวพรรณที่ผ่องใสก็จะกลายเป็นผิวพรรณหม่นหมอง ร่างกายที่มีความสวยสดงดงาม ก็จะโทรมไปทีละน้อย ๆ ถึงวัยกลางคนความงามก็จะสลายไป เหลือมาเล็กน้อยถึงวัยแก่หนังก็จะย่น ความงามก็ไม่ปรากฏ ความที่เป็นคนสวยงดงามก็จะสลายตัวไป และยิ่งกว่านั้น

ร่างกายลูกสาวของท่านเธอเต็มไปด้วย มูตร และ กรีส ( มูตร คือ ปัสสาวะ กรีส คืออุจาระ )ฉะนั้น ในเมื่อร่างกายลูกสาวของเธอแตกต่างกับนางตัณหา นางราคา นางอรดี เพราะนางตัณหา นางราคา นางอรดี นั้น ร่างกายเต็มไปความสวยสดงดงาม เพราะเป็นนามธรรม ไม่มีเหงื่อ ไม่มีไคล ไม่มีน้ำเหลือ น้ำเหลือง น้ำหนอง ไม่มีอุจจาระ ไม่มีปัสสาวะในกาย ตถาคตยังไม่ต้องการ แล้วจะต้องการอะไรกับลูกสาวท่าน ที่ร่างกายเต็มไปด้วยอุจจาระ ปัสสาวะ ความจริงอย่าว่าแต่ให้ตถาคตเอามาประดับประคองเป็นภรรยาเลย เวลานี้ แม้แต่เท้าของตถาคตก็ยังไม่อยากจะแตะร่างกายลูกสาวของท่านเลย

พอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเพียงเท่านี้ มาคันทิยามีความมีศักดิ์ศรีใหญ่ ถ้ามีสามีศักดิ์ศรี มีอำนาจวาสนาจะได้รู้จักว่า
วาจาที่ท่านกล่าวมันจะเป็นภัยกับท่านเพียงใด นางสร้างความเจ็บใจไว้ภายใน
แต่ทว่า เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสอย่างนั้น ท่านพราหมณ์ คือ พราหมณ์ผัวก็ดี พราหมณ์เมียก็ดี ฟังวาทะขององค์สมเด็จพระชินสีห์ตรัสแต่เพียงโดยย่อ จิตก็นึก วิปฏิสาร หรือว่ามีความสลดใจว่า โอหนอ เรามีความหลงผิดอยู่มาก ที่ติดในสรีระกาย
คิดว่าร่างกายของเราก็ดีคิดว่าร่างกายของบุคคลอื่นก็ดี การที่จะแต่งงานกันนี้ ก็เพราะอาศัยรูปกายภายในสมัยก่อนมีความสง่าผ่าเผย
มีความสวยสดงดงาม แต่ทว่าเวลานี้ เราทั้งสองกลายเป็นคนแก่ หูก็ฝ้า ตาก็ฟางหนังก็ย่น ฟันก็ทนจะไม่ไหว มันจะหักหมด ผมก็หงอก ร่างกายหรุดโทรม มองดูตรงไหนก็หาความดีไม่ได้ หาความสวยงดงามแม้แต่น้อยหนึ่งก็ไม่ได้

ตาคิดว่า ยายพราหมณีคนนี้ เมื่อเป็นสาว เรานั่ง ฝัน เรานอนฝันคิดถึงเธอเสมอ จึงได้แต่งงานกัน เพราะมีความคิดว่าเธอสวยสดงดงาม เป็นที่น่ารัก แต่เวลานี้ความสวยสดงดงามของยายไม่มีแล้ว ตรงตามที่องค์สมเด็จพระประทีปแก้วตรัสทุกประการ สำหรับยายก็เช่นเดี่ยวกัน คิดว่า ตาของเรานี้ สมัยหนุ่มๆ ร่างกายร่างกายสมาร์ท สวยงดงาม สง่าผ่าเผย เป็นคนมีความฉลาดเฉลียว เป็นที่ต้องตาของเรานี้เหมือนกับผีดิบเดินได้

แล้วทั้งสองก็คิดว่า ภายในร่างกาย ในเมื่อภายนอกมันเหี่ยวห่ออย่างนี้ หมดความดี ไม่น่าชม ความนิยมภายนอกไม่เหลือ มองเข้าไปดูภายใน นึกถึงตามถ้อยคำที่องค์พระจอมไตรตรัส ก็เห็นผลว่า ร่างกายของเราก็ดี ของเขาก็ดีภายในเต็มไปด้วยน้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง เต็มไปด้วยอุจจาระ และปัสสาวะ ความจริงสิ่งทั้งหลายเหล่านี้หลั่งไหลออกมาให้เราเห็นเป็นปกติ แต่เราไม่เคยคิดมัน อาหารที่เราจะกินเข้าไปนั้น เราเลือกแล้วเลือกอีกว่าเป็นของดีแต่ว่า เวลาอาหารถูกถ่ายออกมานี้ ที่เราเรียกว่า อุจจาระ และน้ำที่ถ่ายออกมานี้ เรียกว่า ปัสสาวะ เป็นน้ำที่เราเลือกแล้ว ว่าจะกิน เป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ พอถ่ายออกมา เราเองก็มีความรังเกียจ อุจจาระออกมา เราก็มีความรังเกียจ

ความจริงเราเข้าใจผิดมานาน เวลานี้องค์สมเด็จพระพิชิตมาบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแนะนำให้เราเข้าใจ เหมือนกับองค์หงายของที่คว่ำขึ้นมารับน้ำค้างง ให้มีความชุ่มชื่นฉันใด เมื่อคิดอย่างนี้ กำลังของพราหมณ์ทั้งสอง คือ มาคันทิยพราหมณ์ กับมาคันทิยาพราหมณ์ ก็ได้บรรลุพระอนาคามีในขณะนั้น

แล้วภายหลัง เมื่อองค์สมเด็จพระภควันต์เสด็จกลับไปแล้ว เขาทั้งสองมีความปรารถนาจะติดตามองค์สมเด็จพระประทีปแก้วเพื่อไปบวช แต่ว่าก่อนจะไป ก็ยังห่วงลุกสาวอยู่นิดหน่อย เพราะเธอต้องอยู่คนเดียว จึงไปมอบไว้ให้กับ น้องชายของมาคันทิยพราหมณ์ ก็ชื่อ มาคันทิยพราหมณ์ เหมือนกัน หรือตาม บาลีเรียกให้จำง่ายๆ ว่า จูฬมาคันทิยพราหมณ์ ผู้เป็นอา ก็บอกว่า ฉันทั้งสองจะไปบวชในสำนักขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ขอเธอมาคันมายาพราหมณ์ผู้เป็นน้องชาย จงปกครองหลานสาวไว้ให้ดี สมบัติทั้งหลายที่มี ก็ขอมอบให้ทั้งหมดเนื้อแท้จริงๆ มาคันทิยพราหมณ์ผู้เป็นน้อง หรืออาของพระนางมาคันทิยา เธอไม่มีภรรยา และเธอก็ไม่มีบุตร ก็รับภาระในการเลี้ยงดูหลานสาว ทั้งสองท่านตายาย คือ มาคันทิยพราหมณ์ กับมาคันทิยาพราหมณี ก็ไปเฝ้าองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาที่เมืองโกสัมพี

หลังจากนั้น เมื่อองค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงเทศน์จบ ทั้งสองท่านก็บรรลุอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคลสูงสุดในพุทธศาสนา และขออุปสมบทบรรพชา สมเด็จพระบรมศาสดาก็ตรัสว่า เอหิ ภิกขุ ซึ่งแปลว่า เจ้าจงมาเป็นภิกษุมาเถิด เพียงเท่านั้นในพระพุทธศาสนา จีวรสำเร็จด้วยฤทธิ์ก็ลอยมาสวมร่างกายสำหรับพราหมณ์จบเกมส์กันแค่นี้ แต่ลูกสาวไม่จบ

เป็นอันว่า พ่อกับแม่ สองคน อย่างไร ๆ ก็ไปนิพพานแน่แต่ว่าลูกสาว อาศัยที่มีจิตใจโกรธองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผูกอาฆาตไว้ใจ วันนั้นเธอไม่พูด แต่ใจคิด ติดใจไว้เสมอว่าบุรุษนี้มีนามว่าพระสมณโคดม เป็นศัตรูร้ายสำหรับเรา เมื่อไรถ้าเรามีโอกาส เมื่อนั้นจะสั่งพิฆาตเข่นฆ่าให้อาสัญ เพราะวาจาที่กล่าวปรามาสเรา





ที่มา กฎของกรรมเล่มที ๑ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

credit :http://board.palungjit.org/f23/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-%E0%B8%81%E0%B8%8F%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-127206.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่