ครั้งแรกกับการเขียน review ทริปนี้เป็น เชียงคาน ไปช่วงวันเสาร์ที่ 29 พ.ย.57 2 วัน 1 คืน เป็นเชียงคานครั้งที่ 2 ในชีวิตเรา

ออกเดินทางจากกรุงเทพด้วย รถ ของ 999 บขส VIP ราคาประมาณ 756 บาท ได้นั่งตรงหลังสุด ประตูฉุกเฉิน ที่นั่งกว้างดี

ออกจาก กรุงเทพ 21.15 น.

ถึงเชียงคาน ประมาณ 6 โมงเช้าได้ อากาศเย็นๆ


ใช้บริการสามล้อไปส่งที่พักที่จองไว้ เนื่องจากช่วงที่ไปคนเยอะมาก จองที่ไหนก็เต็มเลยได้จองของ ธิดารัตน์ โฮมสเตย์ อยู่ ซ.16 ป้าเจ้าของใจดี อยู่ติดริมน้ำโขง แต่ห้องที่เราพักที่ฝั่งถนนคนเดิน เข้าไปในห้องมีเตียง แอร์ ทีวี แต่ห้องน้ำรวม คุยกับป้าเจ้าของที่พักเรื่องไปภูทอกว่าไปยังไง ป้าบอกว่าเดวป้าพาไป คนละ 300 บาท และก็ตักบาตรที่หน้าที่พัก ป้าจัดของไว้ให้ ชุดละ 40 บาท ก็เลยตกลงโอเค จ่ายเงินไป แล้วเก็บของในห้องพักแล้วออกไปหาอะไรกิน มาเชียงคานสิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ ข้าวเปียก ไข่กระทะ เราไปกินที่ร้านอิ่มอร่อย อยู่ไม่ไกลจากที่พัก


คนเดียวฟาดเรียบทั้งไข่กระทะและข้าวเปียก อร่อยจริงจัง
อิ่มแล้วเดินถ่ายรูปเล่นสักหน่อย


เอ่า บังเอิญเจอเพื่อนเก่านอนอยู่



เดินเล่นเสร็จเลยกลับไปนอนพักเอาแรงก่อน
ตื่นมาบ่ายสาม ออกไปหาไรกินสักนิด
ตามรีวิวใน pantip แนะนำให้ไปกินปาทองโก๋รานนี้ ร้านนี้ขายทั้งปาทองโก๋และส้มตำ
ถ่ายแต่ป้ายร้านมาละกัน ลืมถ่ายตอนกิน อิอิ รสชาติทั้งปาทองโก๋และส้มตำอร่อยทีเดียว มีน้ำดื่มเป็นขวดให้กินฟรีอีกต่างหาก ลุงใจดี
และซื้ออันนี้เด็ดเลย กุ้งเสียบไม้ อร่อยดี เค็มหน่อยๆ และก็ซื้อเมี่ยงคำมากิน
กินเสร็จกลับไปนอนต่อ เพราะอากาศข้างนอกค่อนข้างร้อน
เย็นแล้วเดินออกไปหลังที่พักถ่ายรูปสักหน่อย


แล้วมาเดินเอาบรรยากาศที่ถนนคนเดินต่อ

อันนี้รูปหน้าโฮมสเตย์ที่พัก

เหงื่อไหลเลยตอนเดิน แบบว่าคนเยอะมาก เดินเบียดกันเลย

สิ่งที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่คือ นี่เลย
เด็กพวกนี้เก่งมาก ตัวเล็กตัวน้อยเล่นดนตรีได้หมด ใครอยากให้ตังค์กี่บาทก็ใส่ไว้ที่กระเป๋าหน้าวงเค้าเลย เราให้ไป 20 อิอิ ยืนดู ยืนถ่ายรูปอยู่นานมากตรงจุดนี้ คนก็อื่นก็มามุงดูกันเต็ม

เดินไปอีกหน่อยเจอเจ้าตัวนี้
เจ้าของวางไว้อยู่บนรถให้คนถ่ายรูปให้ตังค์ มันยืนนิ่งมากไปกระโดดไปไหนเลย

มีของที่ระลึก ของกิน ขายเต็มทาง



หิวแล้ววววว..................เลยไปซื้ออะไรไปกินที่พักซะหน่อย ตอนแรกจะกินที่ร้าน แต่คนเยอะมาก คงต้องรอจนไส้กิ่วเลยตัดสินใจซื้อไปกินห้องพักดีกว่า
นี่เลย ร้านนี้คนต่อแถวยาวมาก ร้านนี้อยู่หน้าวงดนตรีที่เด็กๆ เล่น ไม่รู้ชื่อร้านอะไร มีตำทุกอย่าง เราเลยสั่งตำมะม่วงไป 1 ถุง

เดินมาหน่อยซื้อเบค่อนพันเห็ด อร่อยทีเดียว
อากาศไม่ค่อยหนาวมากเลยจัดสตอเบอรี่ปั่นสักหน่อย

ซื้อปลาหมึกด้วย

จริงๆซื้ออีกหลายอย่างแต่ลืมถ่ายรูปไว้ เหอะๆ กลับกินที่ห้องพัก นอนพัก


เช้าแล้ว ตื่นมาตี 5 อาบน้ำอาบท่า ที่นี่มีน้ำอุ่นเลยไม่ค่อยซีเรียสเรื่องอาบน้ำ ไม่งั้นแข็งแน่
ลงมาข้างล่างรอพระหยิบชุดทำบุญออกมา ในชุดก็จะมี บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวเหนียว น้ำดื่มเป็นแก้ว แล้วก็เวเฟอร์ เราเลยซื้อดอกไม้เพิ่มจะมีคนขี่รถมาขาย เดินออกไปคนทยอยมานั่งกัน คนนั่งก็นั่งไป รถสามล้อก็จะขับผ่าน เสียวขาเลยเรา


พระมาแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะมีพระน้อย พระเยอะมาก เห็นว่ามาจากหลายวัด เค้าจะแบ่งเป็นสายมาเดิน มีทั้งซ้ายทั้งขวา
พระท่านให้พรยาวดี

อ้า สดชื่นใส่บาตรเสร็จแล้ว ต่อไป ไปภูทอก
ป้าเจ้าของที่พักพาไปด้วยรถยนต์ของป้าเอง อ่อ ลืมบอกไปถ้าจำไม่ผิดป้าเจ้าของ เป็น ผอ.ที่ปลดเกษียณแล้วนะ
ระหว่างทางไม่ได้ถ่ายรูปนะ ไม่ไหวป้าแกขับรถแบบเราเมารถ เกือบอ้วก 555 ไปถึงตีนภูทอก ป้าก็จะให้เราขึ้นไปเองเดวป้ารออยู่ข้างล่างถ้าลงมาแล้วค่อยโทรหา พอไปตรงซื้อตั๋ว โหววววว คนต่อคิวเยอะมากกก  เช้าแล้วหิวเลยซื้อข้าวเหนียวหมูไปไว้กินข้างบนซักหน่อย รอต่อคิวสักพักก็ได้ไป ขึ้นรถกระบะไม่มีหลังคา เย็นดีจุง

พอขึ้นไปแล้ว จะมีพระพุทธรูปอยู่ 1 องค์ก็ไปไหว้ก่อน  

หมอกยังไม่มา เลยกินข้าวเหนียวรอทะเลหมอก 555


กินเสร็จ ทะเลหมอกมาแล้วววววววววววววว



ดูเสร็จพระอาทิตย์ขึ้นเลยต่อแถวรอรถกลับลงไปข้างล่าง
พอลงมาข้างล่างก็เดินมาเรื่อยๆ เจอป้าซื้อของอยู่พอดี เสร็จแล้วป้าก็พาไปแก่งคุดคู้ โอ้โหมันเปลี่ยนไปมากเดวนี้ร้านขายของเยอะมาก

บรรยากาศริมน้ำ


บรรยากาศของขายด้านบน

เป็นโรคจิตถ้าเค้าห้ามก็ต้องถ่าย 555

ซื้ออะไรสักหน่อย มะพร้าวแก้วแบบอ่อน อร่อยดี




ซื้อไปกินอีก

กลับที่พักละ