คือ..เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ เราไปดูรถมาแล้วถูกใจรถคันนึง เราเพิ่งขายคันเก่าด้วยตอนนี้เลยไม่มีรถใช้ คราวนี้ก็วางเงินมัดจำค่ะจำนวณเงิน35000 ตกลงกันโดยเค้าให้เราแฟกซ์ เอกสารไปให้ หลังจากนั้นประมาณ2วัน เค้าติดต่อมาให้เราไปที่เต๊นรถนั้นแล้วรอจนมีพนักงานแนนซ์มา..  จากนั้นเค้าก็ถามที่ทำงานเรา ถามทั่วๆไปนั่นแหละค่ะ มีสลิฟเงินเดือนมั้ย แต่ขอบอกก่อนเลยนะค่ะ เราเปิดร้านขายของชำ ไม่มีสลิฟเงินเดือนค่ะ เงินก็ไม่ได้เข้าธนาคารต้องหมุนเวียนสินค้า เราก็บอกทางแนนซ์ไปตามจริงอ่ะค่ะ  เค้าเลยขอดูเลขพวกจดทะเบียนพวกบุหรี่เหล้าที่ค้าขาย เราก็ไม่มีเพราะเราอายุไม่ถึงจดทะเบียนพวกนี้ไม่ได้ ที่หนูขายอยู่เป็นชื่อแฟน (หนูอายุ22ค่ะ พูดง่ายๆ หลักฐาน หนูมันอ่อนแอมาก วันนั้นเจ๊คนขายรถเหมือนเตี๊ยมกับทางเต๊นอ่ะค่ะ พอพนักงานเต๊นเดินออก ใยเจ๊เดินเข้า เตรียมสคริปให้เราพูดเลยว่างั้น เอางี้เล่าคร่าวๆๆพอ😥😥 จนเมื่อวานวันที่9วันจันทร์ กุมภา เค้าโทรมาเร่งให้รีบมารับรถมาภายในวันสองวันยิ่งดี หนูบอกหนูไม่ว่าง ทำไมต้องรีบ เค้าบอกว่า กฎหมายกำลังจะออกไม่ให้อะไรสักอย่างนี่แหละคะแกพูด จนหนูงงก็เลยอือออบอกไปวันพรุ่งนี้แล้วกันจากที่เล่าไป  จนวันนี้วันอังคารที่10กุมภา หนูไปถึงเต๊น11โมงเช้า คุยกันนู่นนี่ เค้าพยายามพูดชักจูงแล้วถามเข้าใจมั้ย รัยเงี้ยค่ะ หนูงงๆเบลอ พอดีเอาแฟนไปด้วย สรุปเริ่มเถียงกันค่ะ เค้าพูดงงมาก หนูสรุปย่อๆหั้ยฟังคือ.ราคาเต็มรถคันนี้335000 หนูมัดจำไว้35000 แล้วเค้าให้จ่ายเพิ่มอีก65000  แถมประกันชั้น2ฟรี รวมทั้งหมดที่จ่ายไปเป็นเงิน10000(1แสนบาท) แต่เค้าบอกยอดดาวหนูเท่ากับ8หมื่นบาท หนูถามว่า แล้วอีก2หมื่น หายไปไหน..ค่าอะไร คือ..คำตอบที่ได้..พูดวกวนมาก ค่าพ.รบ ค่าตอนโอนอีก5ปีข้างหน้า ค่าไส่ซอง หนูถามว่า.ซองอะไร เค้าบอกหนูอ่อนแอมาก ต้องยัดซอง เรื่องจะได้จบ ทำเสียงกระซิบกระซาบว่า อย่าพูดไป..เค้าจะเสียหาย ต่างๆๆนาๆ จนเค้าพูดหว่านล้อมหนูสำเร็จ หนูเลยจ่ายไปเสร็จสวรรพ กลับมาบ้าน นอนไม่หลับ ยังนึกไม่ออก ค่ารัยว่ะ ตั้ง2หมื่น หรือหนูคิดมาก งง   (อย่าว่าหนูโง่เลยนะคะ หนูยังไม่เคยมีประสบการณ์ ยังทำอะไรยังใจร้อนเกินไป ขอวิธีแก้ไข และชี้แนะหน่อยค่ะ 😭😭ส่วนใครถ้างง ขออภัยด้วยค่ะ ง่วงแต่นอนไม่หลับ😢😢 ส่วนถ้ามันถูกต้องแล้วแสดงว่าหนูคิดมากเอง😧😧)