ก่อนอื่นขอฝากรีวิวเก่าๆ ก่อนครับ ฮ่าๆ
++ งบ 2000 บาท ก็เที่ยวเกาะสมุย เกาะแตน เกาะพะงันได้ 5 วัน 3 คืน
++ เที่ยวเหนือหน้าหนาว (ชมพระธาตุที่ลำพูน+กางเต้นท์นอนห้วยน้ำดังที่เชียงใหม่+เที่ยวปายที่แม่ฮ่องสอน)
++ นั่งรถไฟฟรีไปเที่ยวมาเลเซีย (เกาะลังกาวี) 5 วัน 4 คืน
++ งบ 5000 บาท ก็เดินทางไปเที่ยวเวียดนามกลาง(เว้+ดานัง+ฮอยอัน)ได้ 9 วัน 8 คืน
เนื่องด้วยทริปนี้ผมมีเวลาว่างหลังจากการเรียน 5 วัน ตั้งแต่ 31 ม.ค-4 ก.พ 58
ผมเลยคิดทริปขึ้นมา ความจริงอยากไปแค่ดูทะเลบัวแดงที่ จ.อุดรธานีอย่างเดียวเขาว่ากันว่าเป็นบึงที่แปลกเป็นอันดับ 2 ของโลกเลยจัดมาครับ ไปๆมาๆ เนื่องด้วยผมเคยไปวังเวียงที่ลาวมาแล้วครั้งนึง ติดใจที่นี่ เลยขอเลยไปหาให้หายคิดถึงอีกสักครั้ง
วันที่ 1
ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม ครับ พอเรียน เสร็จประมาณเที่ยง ก็กลับมาเก็บกระเป๋า ออกจากหอประมาณบ่าย 3 โมง ตอนแรกตั้งใจจะไปรถทัวร์แหล่ะครับ คิดไปคิดมาอยากนั่งรถไฟเล่น ขากลับค่อยนั่งรถทัวร์ เลยตัดสินใจไปลงที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ต่อรถมล์สาย 40 ไปหัวลำโพง กว่าจะถึงก็ 6 โมงเย็นพอดี ก็รีบไปจองตั๋วรถไฟซึ่งมีรถไฟฟรีกรุงเทพ-หนองคาย ตอน 20.45 น.
ปล.จริงๆ แล้วถ้าจะไปวังเวียงสามารถนั่งรถจากกรุงเทพ-อุดร แล้วต่อรถจากอุดรไปได้เลยครับครั้งก่อนผมก็ไปลงที่อุดรครับ ผมแค่อยากลองเส้นทางใหม่ๆ ดู ฮ่าๆ
20.45 รถไฟออกตรงเวลา
วันที่ 2
ประมาณ 10 โมงเช้า รถไฟก็มาหยุดที่สถานีหนองคาย
ผมก็จัดการทำภารกิจส่วนตัวล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย จ้างสามล้อไปที่ด่านหนองคาย คิด 100 บาท
พอถึงด่านก็จัดการปั๊มตราผ่านด่านไป (ด่านไทยไม่เสียเงินครับ)
จากนั้นก็หารถเมล์จากฝั่งไทยนั่งไปด่านฝั่งลาวครับ ค่ารถ 20 บาท
พอจัดการผ่านด่านลาว (เสียไป 45 บาท) + แลกเงินเป็นเงินกีบแล้วก็หารถเมล์สีเขียว เข้าไปตลาดเช้าของลาว 24 บาท
(ทุกที่ของลาวส่วนมากก็รับเงินไทยนะครับแต่ต้องเป็นแบงค์ แต่ผมว่าแลกเงินลาวไปดีกว่าเพราะว่าถ้าคิดออกมาแล้วใช้เงินลาวจ่ายคุ้มกว่าครับ)
12.00 น. ก็มาถึงตลาดเช้า เนื้อหอมทันทีครับ มีพี่ๆคนลาวมาถามว่าจะไปไหน ผมก็บอกไปวังเวียง มีพี่แกแนะนำให้นั่งรถตู้ไปจะเร็วกว่ารถอื่นๆ ผมก็โอเคกับราคา 300 บาท พี่แกบอก 3 ชม.
รถออกบ่ายโมงครึ่งออกจริงๆ บ่าย 2 ไปถึงจริงๆ ก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้วครับ ก็จัดการหาที่พัก ซึ่งผมเลือกที่พักที่เก่าที่เคยมาครั้งก่อน ราคา 300 วิวดี บรรยากาศมองเห็นภูเขา ครับ
วิวจากที่พักผมครับ
วันที่ 3
ตื่นแต่เช้า 6 โมง ผมก็อาบน้ำอาบท่า ออกมาสัมผัสอากาศหนาวประมาณ 13-14 องศาแล้วก็เดินเล่นในตัวเมือง ก็จะมีตลาดตอนเช้า ส่วนมากยังไม่มีนักท่องเที่ยวเลยครับเขาคงยังไม่ตื่นกันฮ่าๆ
ผมก็ซื้อปาท่องโก๋มากิน แล้วก็หาร้านนั่ง ตอนแรกไปร้านนี้ครับบรรยากาศดี แต่ร้านยังไม่เสร็จเลยออกมาก่อน 555
พอออกมาจากร้านผมก็อออกมาเดินเล่นถ่ายรูปก่อนที่ริมแม่น้ำซอง
จากนั้นผมก็แวะอีกร้านนึงเพื่อซื้อโอวัลตินร้อนกินกับปาท่องโก๋ อยู่ตรงทางขึ้นจากแม่น้ำซอง แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา
เสร็จแล้วก็มาร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ ผมเช่าแค่ครึ่งวัน เขาคิด 200 บาท พร้อมยึดพาสสปอตไว้ พร้อมขับรถไปเติมน้ำมันนอกเมือง แล้วผมก็กลับมาจองตั๋วรถกลับไปเวียงจันทน์ตอน บ่ายโมงครึ่ง ราคา 65000 กีบครับ เอา 250 หารเป็นเงินไทยครับ ประมาณ 250 บาท ครับ
ร้านที่ผมไปเช่ารถครับ
พอจัดการเสร็จเรียบร้อย ก็ขี่รถไป Blue lagoon
บรรยากาศระหว่างทางครับ ไป Blue lagoon ก็ประมาณ 7 กิโลเมตร แต่เป็น 7 กิโลที่นานเหลือเกินครับ ทางยังเป็นรุกรัง แถมมีรถเอทีวี ขับแซง ฝนตลบเลยครับ
มาถึง Blue lagoon
ตรงนี้จะมีถ้ำให้ขึ้นไปดูได้ครับค่าเข้า 10000 กีบ ก็ 40 บาท เขาก็จะมีไฟฉายให้
ไปข้างบนมีผมกับฝรั่งอีก 2 คน ไม่ได้รูปในถ้ำมาครับ มันมืดๆ
ลงมาก็มาตรง Blue lagoon ตอนเช้ายังไม่มีคนเล่นครับ เลยได้วิวมาแบบนี้ เนื่องจากอากาศหนาวเลยไม่อยากลงน้ำ ครั้งก่อนผมก็เล่นมาแล้ว ครั้งนี้เลยไม่เสียดายที่ไม่ได้เล่น
ขากลับพอจะให้ถึงตัวเมืองก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย
จนก่อน 11 โมงต้องมา เชคเอ้าที่ โรงแรม เสร็จแล้วก็ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วก็มานั่งเล่นริมน้ำซอง ชิวๆ บรรยากาศดีมากครับ
นั่งไปเรื่อยๆ จนถึง เกือบบ่ายโมงก็มาหาอาหารรับประทาน เสร็จแล้วก็มานั่งรอรถมารับจากโรงแรม กว่ารถจะมาก็บ่าย 2 กว่าๆ แล้วครับ
กว่าจะมาถึงเวียงจันทน์ก็ เกือบ 1 ทุ่มแล้วครับ
เสร็จแล้วก็จ้างรถสามล้อ ไปที่ด่านลาวครับ ราคา 420 บาท ไกลเหมือนกันประมาณ 20 กิโลหาคนหารไปกัน 3 คนครับ
เสียค่าผ่านด่านไปอีก 45 บาท
แล้วก็หารถไปด่านฝั่งไทยครับ ค่ารถฟรีครับ ฮ่าๆ เพราะว่าตอนผมไปถึงรถรถมันกำลังออกวิ่งตามไปขึ้น พอถึงด่านไทยพี่เขาคิดว่าผมจ่ายเงินมาก่อนแล้วก็เลยฟรีไปเลยครับ
จากนั้นถึงด่านผมก็หาคนหาร มีลุงคนนึงแกเป็นคนหนองคาย เขามีรถกระบะ บอกจะไปอุดร ผมก็หาเพื่อนหารได้ 6 คนครับในราคาคนละ 150 บาท วิ่งไปอุดรก็ 1 ชั่วโมงครับ
มาถึงอุดรก็ 3 ทุ่มกว่าแล้ว ก็จองโรงแรมใกล้ๆ บขส. อุดร ราคา 400 บาทครับ ชื่อโรงแรม ศรีตระการ
เสร็จสับก็เก็บของที่โรงแรมก็เดินเล่นแถวๆ นั้น สักพักก็กลับที่พักครับ
วันที่ 4
ตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่งอาบน้ำ จะจ้างรถสามล้อไปทะเลบัวแดงครับ ลุงแกคิด 900 บาท 1 วันเลย แกบอกจะพาไปทะเลบัวแดง หมู่บ้านมรดกโลกบ้านเชียง แล้วก็ในตัวเมืองอุดรธานีครับ
ผมก็หาเพื่อนหารได้ 3 คน ลุงแกขับรถช้ามากๆ ออก 6 โมงเช้ากว่าจะไปถึงก็ 8.30 น. ระยะทาง ประมาณ 50-60 กิโล
พอถึงบึงบัวแดงผมก็ไปหาเรือที่จะให้พาไปดูครับ ไปหาคนหารเพิ่ม พอดีไปเจอพี่คนนึงเขาเป็นสัตว์แพทย์ครับเขามากับครอบครัว 3 คน พี่เขาซื้อตั๋วเรือเรียบร้อยแล้ว พี่เขาเลยชวนไปด้วยกัน ไม่คิดเงิน ผมเลยสบายไป ฮ่าๆ
นั่งเรือก็ประมาณชั่วโมงครึ่งครับ จะพาชมทะเลบัวแดง
ประมาณ 10 โมงครึ่งก็ออกจากทะเลบัวแดงไปพิพิธภัณฑ์บ้านเชียงครับ ไม่ได้ถ่ายรูปมา เสียค่าเข้า 30 บาท อยู่ที่บ้านเชียงประมาณครึ่งชั่วโมงก็กลับครับ
กว่าลุงแกจะพาเชคเอ้าที่โรงแรมก็บ่ายโมงครึ่งแล้วครับ
พอมาถึงโรงแรมก็จัดการเก็บกระเป๋า ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้วก็มาทาน ไข่กระทะ ผมจะไป 5 ฟองเลยครับฮ่าๆ อร่อยมาก
แล้วก็จัดการจองตั๋วรถของแอร์อุดร ราคา 420 บาท รอบ 21.00 น.
บ่าย 2 นิดๆ ลุงก็พามาไหว้ศาลหลักเมือง จ.อุดรธานีครับ
ที่ต่อไปก็เป็นหนองประจักษ์
ประมาณ 4 โมงเย็นก็เที่ยวหมด แล้วก็ให้ลุงแกไปส่งผมที่เซ็นทรัลอุดรแล้วก็แยกกับลุวง ผมก็ไปเดินเล่น หาของรับประทาน จน 5 โมงครึ่ง รูปเล่นที่ สถานีรถไฟอุดรธานี
แล้วก็เดินเล่นแถวสถานีรถไฟ จะมีของขายมากมาย เขาเรียนว่าย่าน UD TOWN ที่นี่มีทุกอย่างเลยครับ อารมณ์ประมาณเอเชียทีค+เจเจกรีน เดินเล่นจนใกล้ถึงเวลาก็กลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรมพร้อมขึ้นรถครับ
วันที่ 5
ถึงกรุงเทพตอนประมาณ ตี 5 จากนั้นก็นั่งรถกลับนครปฐมครับถึงหมาย
[CR] แบกเป้ 1 ใบ ไปชมทะเลบัวแดงที่อุดรธานี-ไปนอนสัมผัสอากาศหนาวที่วังเวียง
ผมเลยคิดทริปขึ้นมา ความจริงอยากไปแค่ดูทะเลบัวแดงที่ จ.อุดรธานีอย่างเดียวเขาว่ากันว่าเป็นบึงที่แปลกเป็นอันดับ 2 ของโลกเลยจัดมาครับ ไปๆมาๆ เนื่องด้วยผมเคยไปวังเวียงที่ลาวมาแล้วครั้งนึง ติดใจที่นี่ เลยขอเลยไปหาให้หายคิดถึงอีกสักครั้ง
ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม ครับ พอเรียน เสร็จประมาณเที่ยง ก็กลับมาเก็บกระเป๋า ออกจากหอประมาณบ่าย 3 โมง ตอนแรกตั้งใจจะไปรถทัวร์แหล่ะครับ คิดไปคิดมาอยากนั่งรถไฟเล่น ขากลับค่อยนั่งรถทัวร์ เลยตัดสินใจไปลงที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ต่อรถมล์สาย 40 ไปหัวลำโพง กว่าจะถึงก็ 6 โมงเย็นพอดี ก็รีบไปจองตั๋วรถไฟซึ่งมีรถไฟฟรีกรุงเทพ-หนองคาย ตอน 20.45 น.
ปล.จริงๆ แล้วถ้าจะไปวังเวียงสามารถนั่งรถจากกรุงเทพ-อุดร แล้วต่อรถจากอุดรไปได้เลยครับครั้งก่อนผมก็ไปลงที่อุดรครับ ผมแค่อยากลองเส้นทางใหม่ๆ ดู ฮ่าๆ
พอจัดการผ่านด่านลาว (เสียไป 45 บาท) + แลกเงินเป็นเงินกีบแล้วก็หารถเมล์สีเขียว เข้าไปตลาดเช้าของลาว 24 บาท
(ทุกที่ของลาวส่วนมากก็รับเงินไทยนะครับแต่ต้องเป็นแบงค์ แต่ผมว่าแลกเงินลาวไปดีกว่าเพราะว่าถ้าคิดออกมาแล้วใช้เงินลาวจ่ายคุ้มกว่าครับ)
12.00 น. ก็มาถึงตลาดเช้า เนื้อหอมทันทีครับ มีพี่ๆคนลาวมาถามว่าจะไปไหน ผมก็บอกไปวังเวียง มีพี่แกแนะนำให้นั่งรถตู้ไปจะเร็วกว่ารถอื่นๆ ผมก็โอเคกับราคา 300 บาท พี่แกบอก 3 ชม.
รถออกบ่ายโมงครึ่งออกจริงๆ บ่าย 2 ไปถึงจริงๆ ก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้วครับ ก็จัดการหาที่พัก ซึ่งผมเลือกที่พักที่เก่าที่เคยมาครั้งก่อน ราคา 300 วิวดี บรรยากาศมองเห็นภูเขา ครับ
ตื่นแต่เช้า 6 โมง ผมก็อาบน้ำอาบท่า ออกมาสัมผัสอากาศหนาวประมาณ 13-14 องศาแล้วก็เดินเล่นในตัวเมือง ก็จะมีตลาดตอนเช้า ส่วนมากยังไม่มีนักท่องเที่ยวเลยครับเขาคงยังไม่ตื่นกันฮ่าๆ
ผมก็ซื้อปาท่องโก๋มากิน แล้วก็หาร้านนั่ง ตอนแรกไปร้านนี้ครับบรรยากาศดี แต่ร้านยังไม่เสร็จเลยออกมาก่อน 555
จากนั้นผมก็แวะอีกร้านนึงเพื่อซื้อโอวัลตินร้อนกินกับปาท่องโก๋ อยู่ตรงทางขึ้นจากแม่น้ำซอง แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา
เสร็จแล้วก็มาร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ ผมเช่าแค่ครึ่งวัน เขาคิด 200 บาท พร้อมยึดพาสสปอตไว้ พร้อมขับรถไปเติมน้ำมันนอกเมือง แล้วผมก็กลับมาจองตั๋วรถกลับไปเวียงจันทน์ตอน บ่ายโมงครึ่ง ราคา 65000 กีบครับ เอา 250 หารเป็นเงินไทยครับ ประมาณ 250 บาท ครับ
พอจัดการเสร็จเรียบร้อย ก็ขี่รถไป Blue lagoon
ตรงนี้จะมีถ้ำให้ขึ้นไปดูได้ครับค่าเข้า 10000 กีบ ก็ 40 บาท เขาก็จะมีไฟฉายให้
ไปข้างบนมีผมกับฝรั่งอีก 2 คน ไม่ได้รูปในถ้ำมาครับ มันมืดๆ
ลงมาก็มาตรง Blue lagoon ตอนเช้ายังไม่มีคนเล่นครับ เลยได้วิวมาแบบนี้ เนื่องจากอากาศหนาวเลยไม่อยากลงน้ำ ครั้งก่อนผมก็เล่นมาแล้ว ครั้งนี้เลยไม่เสียดายที่ไม่ได้เล่น
ขากลับพอจะให้ถึงตัวเมืองก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย
จนก่อน 11 โมงต้องมา เชคเอ้าที่ โรงแรม เสร็จแล้วก็ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วก็มานั่งเล่นริมน้ำซอง ชิวๆ บรรยากาศดีมากครับ
นั่งไปเรื่อยๆ จนถึง เกือบบ่ายโมงก็มาหาอาหารรับประทาน เสร็จแล้วก็มานั่งรอรถมารับจากโรงแรม กว่ารถจะมาก็บ่าย 2 กว่าๆ แล้วครับ
กว่าจะมาถึงเวียงจันทน์ก็ เกือบ 1 ทุ่มแล้วครับ
เสร็จแล้วก็จ้างรถสามล้อ ไปที่ด่านลาวครับ ราคา 420 บาท ไกลเหมือนกันประมาณ 20 กิโลหาคนหารไปกัน 3 คนครับ
เสียค่าผ่านด่านไปอีก 45 บาท
แล้วก็หารถไปด่านฝั่งไทยครับ ค่ารถฟรีครับ ฮ่าๆ เพราะว่าตอนผมไปถึงรถรถมันกำลังออกวิ่งตามไปขึ้น พอถึงด่านไทยพี่เขาคิดว่าผมจ่ายเงินมาก่อนแล้วก็เลยฟรีไปเลยครับ
จากนั้นถึงด่านผมก็หาคนหาร มีลุงคนนึงแกเป็นคนหนองคาย เขามีรถกระบะ บอกจะไปอุดร ผมก็หาเพื่อนหารได้ 6 คนครับในราคาคนละ 150 บาท วิ่งไปอุดรก็ 1 ชั่วโมงครับ
มาถึงอุดรก็ 3 ทุ่มกว่าแล้ว ก็จองโรงแรมใกล้ๆ บขส. อุดร ราคา 400 บาทครับ ชื่อโรงแรม ศรีตระการ
เสร็จสับก็เก็บของที่โรงแรมก็เดินเล่นแถวๆ นั้น สักพักก็กลับที่พักครับ
ตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่งอาบน้ำ จะจ้างรถสามล้อไปทะเลบัวแดงครับ ลุงแกคิด 900 บาท 1 วันเลย แกบอกจะพาไปทะเลบัวแดง หมู่บ้านมรดกโลกบ้านเชียง แล้วก็ในตัวเมืองอุดรธานีครับ
ผมก็หาเพื่อนหารได้ 3 คน ลุงแกขับรถช้ามากๆ ออก 6 โมงเช้ากว่าจะไปถึงก็ 8.30 น. ระยะทาง ประมาณ 50-60 กิโล
พอถึงบึงบัวแดงผมก็ไปหาเรือที่จะให้พาไปดูครับ ไปหาคนหารเพิ่ม พอดีไปเจอพี่คนนึงเขาเป็นสัตว์แพทย์ครับเขามากับครอบครัว 3 คน พี่เขาซื้อตั๋วเรือเรียบร้อยแล้ว พี่เขาเลยชวนไปด้วยกัน ไม่คิดเงิน ผมเลยสบายไป ฮ่าๆ
นั่งเรือก็ประมาณชั่วโมงครึ่งครับ จะพาชมทะเลบัวแดง
ประมาณ 10 โมงครึ่งก็ออกจากทะเลบัวแดงไปพิพิธภัณฑ์บ้านเชียงครับ ไม่ได้ถ่ายรูปมา เสียค่าเข้า 30 บาท อยู่ที่บ้านเชียงประมาณครึ่งชั่วโมงก็กลับครับ
กว่าลุงแกจะพาเชคเอ้าที่โรงแรมก็บ่ายโมงครึ่งแล้วครับ
พอมาถึงโรงแรมก็จัดการเก็บกระเป๋า ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้วก็มาทาน ไข่กระทะ ผมจะไป 5 ฟองเลยครับฮ่าๆ อร่อยมาก
แล้วก็จัดการจองตั๋วรถของแอร์อุดร ราคา 420 บาท รอบ 21.00 น.
บ่าย 2 นิดๆ ลุงก็พามาไหว้ศาลหลักเมือง จ.อุดรธานีครับ
ประมาณ 4 โมงเย็นก็เที่ยวหมด แล้วก็ให้ลุงแกไปส่งผมที่เซ็นทรัลอุดรแล้วก็แยกกับลุวง ผมก็ไปเดินเล่น หาของรับประทาน จน 5 โมงครึ่ง รูปเล่นที่ สถานีรถไฟอุดรธานี
แล้วก็เดินเล่นแถวสถานีรถไฟ จะมีของขายมากมาย เขาเรียนว่าย่าน UD TOWN ที่นี่มีทุกอย่างเลยครับ อารมณ์ประมาณเอเชียทีค+เจเจกรีน เดินเล่นจนใกล้ถึงเวลาก็กลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรมพร้อมขึ้นรถครับ
ถึงกรุงเทพตอนประมาณ ตี 5 จากนั้นก็นั่งรถกลับนครปฐมครับถึงหมาย